วันนี้อารมณ์ดี๊ดีแต่ไม่ใช่เพราะถูกหวยหรอกนะคะ (ถูกกินล่ะสิไม่ว่า) มาเข้าเรื่องกันดีกว่า สาเหตุที่มีความสุขมากมายขนาดนี้เพราะคุณแม่จะมาจากเชียงใหม่มาเยี่ยม นานทีคุณแม่จะลงมาหาที่เมืองกรุงแบบนี้ต้องทำอาหารเหนือให้กินแล้วล่ะสิ แค่คิดก็สนุกแล้วแต่เริ่มจากอะไรก่อนดีล่ะเนี่ย ไม่ได้จับอาหารเหนือมานานมากเลยต้องรื้อฟื้นเสียหน่อย กระปุกดอทคอมขออาสาช่วยด้วยการนำเสนอวิธีทำ 12 สูตรอาหารเหนือ แต่ละสูตรบอกได้เลยว่าลำขนาดเจ้า พร้อมลุยกันหรือยังคะ มาเริ่มบรรเลงตะหลิว ครก และสากกันได้เลยจ้า
1. ไส้อั่ว
เมื่อก่อนไปภาคเหนือเมื่อไรต้องไปกินไส้อั่วทุกครั้ง และก็ต้องซื้อเป็นของฝากญาติมิตรเสมอ แต่พักหลังไม่ค่อยว่าง วันนี้อยากย้อนรำลึกความหลังด้วยการทำอาหารเหนือสักหน่อย ขอเลือกทำไส้อั่วสูตรจากคุณเนินน้ำ กระซิบว่าไม่ต้องไปล้างไส้หมูเองนะคะ เพราะใช้ชุดทำไส้อั่วแบบสำเร็จที่ในซองมีไส้แบบสำเร็จรูปที่ทำมาจากคอลลาเจน อุ๊ตะ ! ง้ายง่ายเนอะ คราวนี้ก็ได้เวลาไปหาซื้อส่วนผสมกันแล้ว
ส่วนผสมไส้อั่ว
ชุดทำไส้อั่วแบบสำเร็จ 1 ซอง
น้ำอุ่น
หมูสับติดมัน (ควรใช้หมูติดมันนิดหน่อยนะคะ ถ้าเนื้อแดงล้วน ๆ จะแข็งไม่อร่อยค่ะ)
วิธีทำไส้อั่ว
1. ผสมเครื่องปรุงไส้อั่วกับน้ำอุ่นให้เข้ากัน
2. ใส่เนื้อหมูสับลงไปนวดให้เข้ากัน (แต่เพื่อความเข้มข้นเราใส่เครื่องปรุงหมดเลยแต่ใส่หมูแค่ค่อนส่วน)
3. ยัดส่วนผสมไส้ใส่ลงในไส้หมู (ใครจะใช้กรวยเล็ก ๆ ก็ได้ แต่เราใช้ฝาขวดกับปลายช้อนค่ะ) ระหว่างนั้นก็ใช้ไม้จิ้มฟันเจาะไส้เพื่อไล่อากาศออก (เราทำครึ่งส่วน ออกมาได้หน้าตาแบบนี้ค่ะ)
4. นำไส้อั่วไปย่าง (ใครจะเลือกใช้วิธีอบหรือการย่างก็ได้ค่ะ เราเลือกการย่าง) ในระหว่างย่างให้ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มไปด้วยเพื่อระบายอากาศไม่ให้ไส้แตก และให้น้ำมันหยดออกมา (ย่างแล้วจะได้แห้งหน่อยเพราะเราชอบอย่างนั้น) ยกลงจากเตา หั่นเป็นชิ้น จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำไส้อั่ว แบบง่าย ๆ ใครก็ทำได้ไม่น่าเชื่อ
2. ไส้อั่วตับ
ถ้าหากไม่อยากกินไส้อั่วใส่แต่เนื้อหมูต้องเจอกับวิธีทำไส้อั่วตับสูตรจากคุณ Shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้เพิ่มตับเข้ามาด้วยทำให้มีความหอมและนุ่มมากขึ้น อีกทั้งเครื่องเทศก็โขลกเองตำเอง ไส้หมูก็ต้องล้างเอง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าสะอาด ปราศจากสารกันบูด เพราะทำเองทุกขั้นตอนจ้า
ส่วนผสม ไส้อั่วตับ
เนื้อหมูบด (เกรด A ที่มีมันปนน้อย) 1 กิโลกรับ
เนื้อหมูบด (เกรด B ที่มีมันปนมาก) 2 กิโลกรัม
ตับหมู 2 กิโลกรัม
ไส้หมู
ตะไคร้
ใบมะกรูด
รากผักชี
กระเทียม
หอมแดง
ข่า
น้ำพริกแกง (น้ำพริกแกงเมืองครับ ซื้อมาจากตลาดครับแล้วมาปรุงเพิ่ม)
ขมิ้น
น้ำตาลทราย
ผงชูรส
เกลือป่น
ซีอิ๊วขาว
น้ำปลา
วิธีทำไส้อั่วตับ
1. เตรียมเนื้อหมูบดทั้ง 2 ชนิดใส่ลงในอ่างผสม
2. สับตับหมูเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
3. ล้างไส้หมูให้สะอาด กลับด้านในออกมาแล้วเอาเมือกออกให้หมด แช่น้ำไว้
4. ซอยตะไคร้และใบมะกรูด และเตรียมเครื่องปรุงให้พร้อม
5. โขลกรากผักชี หอมแดง กระเทียม และข่ารวมกัน เตรียมไว้
6. โขลกตะไคร้หั่นฝอยให้ละเอียด
7. ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงในส่วนผสมเนื้อหมู ตามด้วยน้ำพริกแกง ใบมะกรูดซอย น้ำตาลทราย ผงชูรส และเกลือป่น
8. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำปลาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
9. ใส่ตับที่สับแล้วลงไปแล้วคลุกให้เข้ากัน
10. นำไส้หมูมาสวมด้วยกรวยกรอกน้ำ ผูกปลายไส้หมูอีกด้านแล้วกลัดด้วยไม้จิ้มฟัน จากนั้นนำส่วนผสมยัดเข้าไปในไส้
11. พอใส่ส่วนผสมไปจนเต็มแล้วผูกปลายด้านบนให้เรียบร้อย
12. นำไปย่างบนเตาถ่าน ย่างด้วยไฟเบา ๆ อย่าให้ไฟร้อนเกินไป เพราะไส้จะแตก พอสุกแล้วตัดเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ไส้อั่วตับ อาหารเหนือทำเองได้ สูตรใส่ตับนุ่ม ๆ
3. น้ำพริกหนุ่ม
ทำอาหารเหนือทั้งทีนอกจากไส้อั่วแล้วต้องมีน้ำพริกหนุ่มมาเพิ่มความสำราญสักหน่อย แม้จะพอหาซื้อได้ในเมืองกรุงแต่ถ้าทำเองก็ไม่ยากเกินไป วันนี้ขอยกตัวอย่างน้ำพริกหนุ่มสูตรจากเฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน เป็นสูตรทำง่ายไม่ต้องใส่ถั่วเน่า หรือปลาร้า จับส่วนผสมทุกอย่างมาโขลกเข้าด้วยกัน ปรุงรสออกเผ็ดและเค็มหน่อยแล้วเอาแคบหมูมาจิ้มกิน โอ้ว... สุขเกินบรรยาย
ส่วนผสมน้ำพริกหนุ่ม
พริกหนุ่ม (ถ้าไม่ชอบเผ็ด อย่าใส่พริกเยอะค่ะ)
หอมแดง
กระเทียม
เกลือป่นเล็กน้อย
ผักชีซอย
ต้นหอมซอย
ผักสดตามชอบ
แคบหมู
วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม
1. ย่างพริกหนุ่ม กระเทียม และหอมแดง จากนั้นแกะเปลือกออก
2. โขลกพริกหนุ่ม กระเทียม และหอมแดงที่ย่างแล้วกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ชิมรส ตามชอบ (ให้ออกเผ็ด-เค็ม แต่ไม่ต้องเค็มมาก)
3. ตักน้ำพริกหนุ่มใส่ถ้วย โรยด้วยผักชีและต้นหอม เสิร์ฟคู่กับผักสดและแคบหมู
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ น้ำพริกหนุ่ม สูตรทำง่ายแบบโฮมเมด
4. ข้าวซอยไก่
ทั้งไส้อั่วและน้ำพริกหนุ่มก็ทำง่ายและกินอร่อย แต่เริ่มเบื่อแล้วล่ะสิอยากทำอาหารจานเดียวอย่างข้าวซอยไก่ดูบ้าง สูตรข้าวซอยไก่ที่เรายกมาเสนอในวันนี้เป็นสูตรจากคุณเนินน้ำ เนื้อไก่นุ่มหอมกลิ่นเครื่องแกง เส้นบะหมี่ก็ลื่นคอ แถมยังโรยหน้าด้วยบะหมี่ทอดกรอบอีก มาพร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลาย เหมาะทำกินในวันหยุดนี้จริง ๆ
ส่วนผสม น้ำพริกแกงข้าวซอย
พริกแห้งเม็ดใหญ่คั่ว 7 เม็ด
เกลือป่น 1 ช้อนชา
รากผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงซอยคั่ว 1/4 ถ้วย
ขมิ้นซอยคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงคั่ว 3/4 ถ้วย
ชะโกแกะเปลือก (คั่วเมล็ดให้หอมแล้วนำไปป่น) 1 เม็ด
ส่วนผสม ข้าวซอยไก่
น่องไก่ 3-4 น่อง
หางกะทิ 3 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
หัวกะทิ 1 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
บะหมี่เหลือง 5 ก้อน (แบ่งออกมาสำหรับทอด 1 ก้อน)
เครื่องเคียง ได้แก่ ผักกาดดองซอย มะนาวหั่นเป็นชิ้น พริกป่นผัดน้ำมัน หอมแดงหั่นชิ้น
ผักชี (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำข้าวซอยไก่
1. ล้างน่องไก่ให้สะอาด พักทิ้งไว้ในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2. ทำน้ำพริกแกง โดยโขลกพริกแห้งกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด จากนั้นใส่รากผักชี ขิงซอย ขมิ้นซอย และหอมแดง โขลกรวมกันจนละเอียดเข้ากันดี ใส่ชะโกลงไปโขลกต่อจนเข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้ (แต่สูตรนี้เราใช้พริกแกงสำเร็จรูปนะคะ)
3. ใส่หางกะทิลงในหม้อ ใส่เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ ยกขึ้นตั้งไฟกลางจนร้อนใส่ไก่ลงไป พอกะทิเดือดลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวให้ไก่สุกนุ่ม และกะทิแตกมันเล็กน้อย เตรียมไว้
4. นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่หัวกะทิ 1/2 ถ้วย ผัดเคี่ยวให้แตกมันเล็กน้อย ใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้เข้ากันทั่วและมีกลิ่นหอม
5. จากนั้นตักใส่ในหม้อกะทิที่ใส่ไก่ไว้แล้วคนผสมให้เข้ากัน
6. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอี๊วดำ น้ำตาลทราย และหัวกะทิที่เหลือคนผสมพอทั่ว พอเดือดอีกครั้งปิดไฟ ยกลงจากเตา เตรียมไว้
7. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนร้อน แบ่งบะหมี่ลงทอดทีละน้อยให้กรอบเหลือง (ประมาณ 1 ก้อน) จากนั้นตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิท
8. วิธีจัดเสิร์ฟ ให้ลวกบะหมี่ใส่ชาม ตักน่องไก่พร้อมน้ำแกงราดลงไปประมาณ 1 ถ้วย โรยหน้าด้วยบะหมี่ทอดกรอบ วางเครื่องเคียงลงไป ตกแต่งด้วยใบผักชี พร้อมเสิร์ฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวซอยไก่ อาหารเหนือสุดอร่อยทำกินเองง่าย ๆ
5. ข้าวซอยเนื้อ
เมื่อวานทำข้าวซอยน่องไก่แต่เหลือบะหมี่อยู่อีกหลายก้อน วันนี้เลยอยากเปลี่ยนมาทำข้าวซอยเนื้อดูบ้าง เรามีสูตรเด็ดจากคุณสล่าปู่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมเคล็ดลับวิธีตุ๋นเนื้อเปื่อย การทำน้ำซุป และกรอบข้าวซอย แม้ว่าจะมีหลายขั้นตอนแต่คุ้มค่ากับการรอคอยนะคะ
ส่วนผสม เนื้อตุ๋น
เนื้อ 2 กิโลกรัม
ตะไคร้
ข่า
หางกะทิ
วิธีทำเนื้อตุ๋น
ต้มเนื้อกับตะไคร้และข่าเพื่อดับกลิ่น ต้มแค่พอเนื้อหดตัวเพื่อความสะดวกในการกะขนาดตอนหั่นมันจะไม่หดตัวทีหลังจากนั้นนำเนื้อไปต้มกับหางกะทิ ตุ๋นด้วยไฟอ่อน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จนเนื้อเปื่อยนุ่ม พักไว้
ส่วนผสม น้ำพริกข้าวซอย
พริกแห้งเม็ดใหญ่ (แช่น้ำจนนุ่ม)
หอมแดง (เยอะหน่อย)
กระเทียม
ขิงแก่
กะปิ
ขมิ้นผง
วิธีทำน้ำพริกข้าวซอย
เตรียมน้ำพริกข้าวซอย สล่าปู่ใช้แค่พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำจนนุ่ม หอมแดง กระทียม ขิงแก่ กะปิ และขมิ้นผง นำไปปั่นให้ละเอียด **ยิ่งละเอียดเท่าใดเหมือนว่าจะช่วยให้น้ำแกงเนียนสวย**
ส่วนผสม น้ำแกงข้าวซอย
พริกแห้งเม็ดใหญ่ (แช่น้ำจนนุ่ม)
หอมแดง (เยอะหน่อย)
กระเทียม
ขิงแก่
กะปิ
ขมิ้นผง
หัวกะทิ
น้ำพริกข้าวซอย
นมสด
น้ำตาลปี๊บ
ผงมะสล่า 2 ซอง
วิธีทำน้ำแกงข้าวซอย
1. นำพริกแห้งเม็ดใหญ่ หอมแดง กระเทียม ขิงแก่ กะปิ และขมิ้นผงไปปั่นจนละเอียดพักไว้
2. แบ่งหัวกะทิไปเคี่ยวในกระทะจนแตกมัน แล้วเอาส่วนผสมน้ำพริกลงไปผัดจนหอม ใส่ผงมะสล่าลงไปผัดด้วย 1 ซอง เสร็จแล้วนำไปเทลงในหม้อแกงที่ตุ๋นเนื้อ
3. เคี่ยวต่อจนน้ำขลุกขลิก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บให้มีความหวาน-เค็ม ใส่หัวกะทิที่เหลือและนมสดลงไป
4. ปิดท้ายด้วยใส่มะสล่าลงไปอีก 1 ซอง เตรียมไว้
ส่วนผสม กรอบข้าวซอย
แป้งสาลีอเนกประสงค์
ไข่ไก่
น้ำมันพืช
เกลือป่น
น้ำเปล่า
วิธีทำกรอบข้าวซอย
ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ไข่ไก่ น้ำมันพืช เกลือป่น และน้ำเปล่านวดให้เข้ากันแล้วรีดเป็นแผ่นบาง ๆ ซอยเป็นเส้น ๆ จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนใช้ไฟกลาง
ส่วนผสม พริกเผา
พริกขี้หนู
น้ำมันพืช
วิธีทำพริกเผา
1. นำพริกขี้หนูไปคั่วเกือบดำแล้วนำไปป่นพอหยาบ
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะให้ร้อนแล้วนำมาเทใส่ลงไปในพริกป่น
ส่วนผสม ข้าวซอยเนื้อ
เส้นข้าวซอย
น้ำเปล่า
น้ำเย็น
น้ำมันพืช
เครื่องเคียง ได้แก่ กรอบข้าวซอย ผักกาดดอง (ก้าน) หอมแดงซอย
ต้นหอม (สำหรับโรย)
ผักชี (สำหรับโรย)
เครื่องปรุงรส ได้แก่ ซีอิ๊วดำหวาน พริกป่น พริกเผา น้ำตาลทราย และมะนาว
วิธีทำข้าวซอยเนื้อ
1. นำเส้นข้าวซอยไปลวกในน้ำร้อนจนนิ่ม
2. เทลงกระชอนราดน้ำเย็นลงไป
3. นำไปคลุกด้วยน้ำมัน เพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นกระจุก
4. จัดเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียง และเครื่องปรุง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวซอยเนื้อ เมนูเหนือความอร่อยที่ทำเองได้
6. แกงอ่อมหมู
เอาใจคนชอบกินเผ็ดด้วยแกงอ่อมหมูสูตรจากคุณสล่าปู่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ส่วนผสมรวมเอาสารพัดชิ้นส่วนหมู ทั้งขั้วตับหมู เครื่องในหมู เลือดหมู และหมูสามชั้นเคี่ยวกับพริกแกงอ่อมจนเปื่อย กินกับขนมจีนก็เข้ากัน หรือข้าวสวยก็ได้ค่ะ
ส่วนผสม แกงอ่อมหมู
ขั้วตับหมูหั่นชิ้น 1 กิโลกรัม
เครื่องในหมูหั่นชิ้น 1/2 กิโลกรัม (ตับเหล็ก ไส้อ่อน และหัวกระเพาะ)
หมูสามชั้นหั่นชิ้น
ข่าซอย
ตะไคร้ซอย
ใบมะกรูดซอย
น้ำพริกแกงอ่อม (ประกอบด้วย กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ พริกแห้ง และกะปิเอาไปปั่นละเอียด)
น้ำเปล่า
เลือดหมูสด
ใบมะกรูด
พริกลูกโดด
ต้นหอมซอย
ขนมจีนหรือข้าวสวย
วิธีทำแกงอ่อมหมู
1. ใส่ขั้วตับหมู เครื่องในหมู หมูสามชั้น ข่าซอย ตะไคร้ซอย และใบมะกรูดซอยลงหม้อแกง ตามด้วยน้ำพริกแกงอ่อม
2. เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยคลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน รอจนหมูหดตัวและน้ำแกงหอมเข้าที่
3. นำเลือดหมูไปต้มสุกใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำเปล่าลงไปอีกเล็กน้อย เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้หมูเปื่อยได้ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
4. หลังจากเปื่อยได้ที่ใส่ใบมะกรูดและพริกลูกโดดลงไปด้วย โรยต้นหอม
5. พร้อมเสิร์ฟกับขนมจีน หรือข้าวสวย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แกงอ่อมหมู แกงไทยดี ๆ ทำกี่ทีก็โดนใจ
7. ตำขนุน
แกงอ่อมหมูก็ว่าเด็ดแล้วถ้าได้มาเจอเมนูตำขนุนก็เด็ดไม่แพ้กัน เราขอนำเสนอสูตรตำขนุนจากคุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ทำง่าย ๆ จับเอาขนุนดิบไปต้มเสร็จแล้วเอาไปโขลกกับเครื่องแกงรสเผ็ด ยังไม่เสร็จนะคะต้องไปเอาผัดกับหมูสามชั้นด้วยค่ะ ใครที่ไม่เคยกินอยากให้ลองค่ะแล้วจะติดใจ
ส่วนผสม ตำขนุน
พริกแห้ง
กระเทียม
ข่า
ตะไคร้ซอย
รากผักชี (ถ้ามี)
หอมแดง
ปลาร้าสับละเอียด
ขนุนดิบต้ม (พักไว้จนเย็น)
มะเขือเทศ
น้ำมันพืช
หมูสามชั้น
ใบมะกรูดหั่นฝอย
วิธีทำตำขนุน
1. โขลกพริกแห้ง กระเทียม ข่า ตะไคร้ รากผักชี และหอมแดงเข้าด้วยกันแล้วใส่ปลาร้าสับละเอียดลงไป โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ตักเครื่องพริกแกงออกจากครกก่อนแล้วค่อยใส่ขนุนดิบต้มลงไปโขลก โดยตักเครื่องพริกแกงที่แบ่งไว้ใส่ลงไปสัก 1 ช้อน โขลกให้เข้ากัน
3. ใส่มะเขือเทศลงไปในครก ค่อย ๆ บด อย่าตำนะครับ เพราะน้ำจากมะเขือเทศจะกระเด็น พักไว้
4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป ใส่พริกแกงที่แบ่งไว้ลงไปผัดให้หอม
6. สุดท้ายโรยใบมะกรูดหั่นฝอยลงไปคนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ตำขนุนกับหมูสามชั้นคั่วเค็ม อาหารพื้นบ้านล้านนารสเด็ด
8. ขนมจีนน้ำเงี้ยว
เสน่ห์ของอาหารเหนือมีทั้งไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม และข้าวซอย แต่สำหรับคนชอบทานอาหารเส้นห้ามพลาดเมนูขนมจีนน้ำเงี้ยว ในเมืองกรุงหากินยากเหลือเกิน ในเมื่อหายากมากนักมาทำกินเองดีกว่าเนอะ ลองเข้าครัวทำตามสูตรได้เลยค่ะ
ส่วนผสม น้ำพริกแกงน้ำเงี้ยว
พริกชี้ฟ้าแห้ง (แช่น้ำจนนิ่ม) 5-10 เม็ด
หอมแดง 1 หัว
กระเทียม 1-2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าแก่ 4-5 แว่น
รากผักชี 1 ต้น
ขมิ้นชันสด 1 ชิ้น
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ถั่วเน่าย่างไฟ หรือกะปิเผา 1 ช้อนชา
ส่วนผสม ขนมจีนน้ำเงี้ยว
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อหมูสับ 200 กรัม
ซี่โครงอ่อนหมู สับเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
เต้าเจี้ยวบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ลิตร
ดอกงิ้ว 3-4 ดอก
มะเขือเทศ 300 กรัม
เลือดหมูหั่นชิ้น 1 ก้อน
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ขนมจีน
กระเทียมเจียว สำหรับโรยหน้า
ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า
ผักชีซอย สำหรับโรยหน้า
เครื่องเคียง เช่น กะหล่ำปลีซอย ใบกระถิน ผักกาดดองซอย พริกแห้งทอดกรอบ และถั่วงอกดิบ
วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว
1. เริ่มจากทำน้ำพริกแกง โดยโขลกพริกชี้ฟ้าแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ซอย ข่าแก่ รากผักชี ขมิ้นชันสด เกลือป่น ถั่วเน่าย่างไฟ หรือกะปิเผาให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดจนหอม จากนั้นใส่หมูสับลงผัดจนสุก ตามด้วยซี่โครงอ่อนหมู และเต้าเจี้ยว ผัดจนเข้ากันดีและเนื้อหมูสุก
3. ใส่น้ำเปล่าลงไป ลดไฟอ่อน เคี่ยวจนเดือดและมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่ดอกงิ้ว และมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยเกลือป่น ชิมรสตามชอบ ต้มต่อจนเดือดทั่วดีและซี่โครงหมูเริ่มเปื่อย ใส่เลือดหมูลงต้มจนสุก ปิดไฟ เตรียมไว้
4. ใส่ขนมจีนลงในชาม ตักน้ำเงี้ยวใส่ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอมซอย และผักชีซอย รับประทานคู่กับเครื่องเคียง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว อาหารเหนือทรงเสน่ห์ รสชาติติดปาก
9. ลาบหลน
ใครที่ชอบกินลาบปลาดุกแบบอีสานต้องมาลองลาบหลนสูตรจากคุณสล่าปู่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อออกไปทางเหลวหน่อย แต่ก็หอมอร่อยกลมกล่อมนะคะ ถ้าหากชอบปลาดุกอยู่แล้วมากินไม่ผิดหวังแน่นอน
ส่วนผสม ลาบหลน
ปลาดุก
มะเขือเปราะ
พริกลาบเมือง
ผักไผ่
ใบสะระแหน่
วิธีทำลาบหลน
1. นำปลาดุก 1 ตัวไปล้างเมือกให้สะอาด บั้งข้างแล้วนำเข้าหม้ออบลมร้อน ตามด้วยมะเขือเปราะ 5-6 ผล ฝากเข้าไปอบไปด้วย อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส อบนานประมาณ 25 นาที
2. พอครบเวลาพักทิ้งไว้เย็นแล้วค่อยแกะเอาแต่เนื้อ ส่วนมะเขือเปราะก็ลอกเปลือกทิ้งไป
3. นำเนื้อปลาดุกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งสับรวมกับมะเขือเผา และอีกส่วนหนึ่งสับเฉพาะเนื้อปลาอย่างเดียว พักไว้
4. ส่วนหนังปลาดุกและครีบบน-ครีบล่างเก็บไว้ไม่ทิ้งนะครับ เก็บไว้ทอด
5. นำเนื้อปลาดุกที่สับรวมกับมะเขือมาผสมกับพริกลาบเมือง ผักไผ่ และใบสะระแหน่คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำไปผัดกับน้ำมันในกระทะเล็กน้อย พอสุกตักใส่จาน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำลาบหลน ลาบหมี่ 2 เมนูอาหารเหนือจากปลาดุกแค่ตัวเดียว
10. ลาบหมี่
ถัดจากเมนูลาบหลนลองมาชิมลาบหมี่กันดีกว่า เราขอนำเสนอลาบหมี่สูตรจากคุณสล่าปู่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อปลาดุกสับคลุกเคล้ากับเครื่่องปรุงจนเข้ากัน เสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียว แกล้มกับผักสด แค่นี้ก็ฟินแล้วจ้า
ส่วนผสม ลาบหมี่
เนื้อปลาดุกสับ
พริกลาบ
เครื่องกรอบ ได้แก่ หอมแดงซอย ขิงแก่ซอย ใบมะกรูด หนังปลา มันหมูแข็งเจียวเป็นกากหมู
วิธีทำลาบหมี่
1. นำเนื้อปลาที่สับแล้วผสมกับพริกลาบคลุกให้เข้ากัน ใส่เครื่องกรอบที่เตรียมไว้แบ่งลงไปคลุกครึ่งหนึ่ง
2. โรยหน้าด้วยเครื่องกรอบที่เหลือ จัดเสิร์ฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำลาบหลน ลาบหมี่ 2 เมนูอาหารเหนือจากปลาดุกแค่ตัวเดียว
11. ลาบปลา
ทั้งลาบหลนและลาบหมี่ก็ทำจากปลาแต่ถ้ายังไม่จุใจเราก็ขอจัดอาหารเหนือจากเนื้อปลาอีกสักเมนูนั่นคือ ลาบปลาสูตรจากคุณส้มตำปลาร้า สูตรนี้ใช้ปลานิลไปย่างเกลือจนหอม แกะเอาเนื้อมาโขลกกับส่วนผสมต่าง ๆ จนเข้ากัน อยากกระซิบว่าอร่อยมากด้วย
ส่วนผสม ลาบปลา
ปลานิล
เกลือป่น
กระเทียม
หอมแดง
มะเขือเทศ
มะเขือแจ้
พริกลาบสำเร็จรูป
ผักไผ่ซอย
ผักชีซอย
น้ำปลาร้า
วิธีทำลาบปลา
1. นำปลาที่ทำความสะอาดแล้วมาทาเกลือ จากนั้นเอาไปย่างไฟ พร้อมกับกระเทียม หอมแดง มะเขือแจ้ และมะเขือเทศ
2. เมื่อปลาสุกแล้วก็ลอกหนังออก แกะเอาแต่เนื้อปลา
3. กระเทียม หอมแดง มะเขือเทศ และมะเขือแจ้ก็ลอกเปลือกรอเอาไว้
4. นำน้ำพริกลาบสำเร็จรูปมาผสมกับกระเทียมและหอมแดง
5. ใส่ปลาที่แกะแล้ว มะเขือแจ้ และมะเขือเทศลงไปตำให้เข้ากัน
6. ใส่ข้าวคั่วลงไป
7. ตามด้วยน้ำปลาร้าต้ม วิธีการคือ ใช้ปลาร้าประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต้มในน้ำสักครู่ให้สุก จะใส่ไปกับลาบปลาก่อนก็ได้ หรือว่าจะใช้ล้างครกแล้วก็เติมลงไปในลาบปลาก็ได้ จะทำให้ลาบปลามีรสชาติและขลุกขลิกนิดหน่อย
8. ใส่ผักไผ่และผักชีลงไปตำให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ลิ้มรส ลาบปลา อีกหนึ่งเมนูอาหารเมืองเหนือ
12. แคบหมูผัดพริกขิง
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า เมนูเด็ดในวันนี้ที่เรานำมาฝากไม่เหมาะกับคนรักสุขภาพหรือคนที่ลดความอ้วนนะคะ ! เพราะเราจะขอเสิร์ฟ แคบหมูผัดพริกขิง หรือที่เจ้าของสูตร คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เรียกว่า "แคบหมูหน้อยผัดพริกขิงปลาแห้ง" ซึ่งสูตรต้นตำรับจาก กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม เมนูเลอค่าแบบไม่แคร์หุ่น จะใช้กากหมูที่เจียวเอง แต่สูตรนี้จะเอาใจคนเมืองที่ไม่มีเวลาเจียวกากหมูให้มาใช้แคบหมูแทน เป็นสูตรรวบรัดความอร่อยแบบง่าย ๆ มาให้ลองทำกัน รับรองว่าเด็ดโดนใจแน่นอน
ส่วนผสม แคบหมูผัดพริกขิง
น้ำพริกแกงเผ็ด
ขิง
น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
น้ำตาลปี๊บ
แคบหมู (เลือกแบบที่มีมันติดนะครับ ถ้าเป็นชิ้นใหญ่ก็เอามาหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ)
ปลาแห้งป่น
น้ำปลา
ใบมะกรูดซอยฝอย
วิธีทำแคบหมูผัดพริกขิง
1. โขลกน้ำพริกแกงกับขิงเข้าด้วยกัน (สำหรับคนที่ชอบกลิ่นขิง)
2. ใส่น้ำมันพืชลงไปในกระทะ ใส่น้ำพริกแกงลงไป เปิดไฟอ่อน ๆ ผัดให้พอหอม
3. พอน้ำพริกแกงมีกลิ่นหอมแล้วใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ผัดจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดีกับน้ำพริกแกง
4. ใส่แคบหมูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. ใส่ปลาแห้งป่นลงไป เติมน้ำปลาแล้วผัดผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ให้รสชาติเผ็ดนำ หวานตาม เค็มนิด ถ้าได้ที่แล้วก็ปิดเตาได้เลยครับ)
6. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยใบมะกรูดซอยฝอย พร้อมเสิร์ฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แคบหมูผัดพริกขิง เมนูอร่อยเอาใจคนเมืองที่ไม่กลัวอ้วน
สำหรับคนเมืองกรุงอย่างเราถ้าอยากหาอาหารเหนือกินก็ลำบากเหมือนกันนะ บ่อยครั้งที่เดินทางไปกินตามคำบอกเล่าที่เขาว่ากันว่าอร่อย… แต่ไม่โดนเท่าไร มาคราวนี้ได้สูตรอาหารเหนือถึง 12 เมนู จด ๆ ไว้มาลองทำเองที่บ้านก็ดูเข้าที แต่ตอนนี้ขอตัวไปซื้อแคบหมูมาเตรียมไว้ก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ