จ๊ะเอ๋คุณพี่ ! ขอจำแลงร่างเป็นแม่การะเกดสักวัน เพราะอยากทำเมนูจากละครบุพเพสันนิวาส สูตรอาหารทั้งอาหารคาวและขนมหวาน ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีเจ้าคะคุณพี่


เปิดประเดิมเมนูแรกด้วยมะม่วงน้ำปลาหวานชวนน้ำลายสอกันก่อนเลย แม่การะเกดชวนแม่หญิงจันทร์วาดโชว์ฝีมือจนพี่หมื่นและใคร ๆ ที่ได้ชิมก็ต้องเอ่ยปากชม ก็แหม... มะม่วงเปรี้ยว ๆ ตัดกับน้ำปลาหวาน ๆ เค็ม ๆ จิ้มกินตอนไหนก็อร่อยฟินแน่นอน
ส่วนผสม น้ำปลาหวาน
• น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
• กะปิอย่างดี 1 ช้อนชา
• น้ำปลาอย่างดี 4 ช้อนโต๊ะ
• กุ้งแห้งตำพอหยาบ 1/4 ถ้วยตวง
• หอมแดงซอยบาง 5 หัว
• พริกขี้หนูสวนซอยปริมาณตามชอบ
วิธีทำน้ำปลาหวาน
1. ใส่น้ำตาลปี๊บ กะปิ และน้ำปลาลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางเคี่ยวจนน้ำตาลปี๊บละลาย
2. ใส่กุ้งแห้ง หอมแดงซอย และพริกขี้หนูซอย เคี่ยวจนน้ำปลาหวานมีลักษณะใสขึ้น ปิดไฟ ยกลง ทิ้งไว้สักพักให้ฟองหายไป
3. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยหอมแดงซอย และพริกขี้หนูซอยเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำปลาหวาน เพื่อนคู่ใจผลไม้รสเปรี้ยว
++++++++++++++++++

2. กุ้งเผา
ต่อเนื่องกันด้วยเมนูกุ้งเผาที่แม่การะเกดแสนซนจับกุ้งแม่น้ำมาเผาให้คุณหญิงป้า เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ จนชาวโซเซียลต่างแซวว่า นี่คือที่มาของ "กุ้งเผ่าอยุธยา" ของจริง ซึ่งกุ้งเผาสูตรจาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีเอาขี้กุ้งออกและผ่ากุ้งให้เห็นมันกุ้งเยิ้ม ๆ เอาไปเผาแค่พอสุกเนื้อจะได้เด้งหวานอร่อย เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ
สิ่งที่ต้องเตรียม
• กุ้งก้ามกราม
• กรรไกร
วิธีทำกุ้งเผา
1. ล้างกุ้งก้ามกรามให้สะอาด ตัดหนวดให้สวยงาม
2. ใช้กรรไกรตัดเปลือกกุ้ง เริ่มจากตัวกุ้ง โดยจับหัวกุ้งหันเข้าหาตัว ใช้กรรไกรตัดเลาะเฉพาะเปลือกกุ้งตั้งแต่บริเวณกลางลำตัวเลาะเป็นแนวตรงไปจนถึงส่วนหางของกุ้ง พอมาถึงส่วนหัวให้หันส่วนหางกุ้งเข้าหาตัวจากนั้นใช้กรรไกรตัดเลาะเปลือกส่วนหัวของกุ้งบริเวณกึ่งกลาง ตัดเลาะยาวเป็นแนวตรงไปจนสุดหัวของกุ้ง
3. ใช้มีดคม ๆ ผ่าเนื้อกุ้งตามแนวกรรไกรที่เราตัดเปลือกกุ้งเอาไว้ แล้วดึงเส้นดำกลางลำตัวออก
4. ในส่วนหัวกุ้ง เมื่อใช้กรรไกรตัดเปลือกแล้ว ให้แงะดูจะเห็นเยื้อหุ้มมันกุ้งและขี้กุ้ง ให้ใช้กรรไกรตัดเยื่อหุ้มนั้นออก เพื่อให้เห็นขี้กุ้งชัดเจน และดึงส่วนขี้กุ้งออก (ลักษณะขี้กุ้ง จะเป็นถุงดำ ๆ หรือน้ำตาลเข้ม จับดูจะสาก ๆ) ให้ดึงออกมาทิ้ง ในกรณีที่ดึงขี้กุ้งออกมาแล้ว เกิดถุงแตก ไม่ต้องตกใจ ให้เอาขี้กุ้งส่วนใหญ่ทิ้งไปก่อน จากนั้นที่เหลือติดกับมันกุ้ง ให้นำไปเปิดน้ำไหลผ่านส่วนนั้นเบา ๆ ให้ขี้กุ้งหลุดออกไป โดยมันกุ้งจะไม่เสียหายเลย เสร็จแล้วก็จะได้กุ้งที่สวยงาม
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด
• น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย
• กระเทียมสับ 1/3 ถ้วย
• รากผักชีสับ 1/4 ถ้วย
• พริกขี้หนูเขียวแดง 3 ช้อนโต๊ะ
• โหระพาซอย 1/4 ถ้วย
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด
1. ทำน้ำเชื่อมโดยนำน้ำและน้ำตาลทราย ตั้งไฟคนให้ละลายจนเหนียวนิด ๆ
2. นำกระเทียม รากผักชี พริกขี้หนู โหระพา และน้ำเชื่อม ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด
3. นำส่วนผสมที่ปั่นออกมาใส่ถ้วย เติมน้ำปลาและน้ำมะนาว พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีผ่ากุ้งเผา มันเยิ้ม ๆ ให้เหมือนร้าน ง่ายนิดเดียว ใครก็ทำได้
++++++++++++++++++

3. น้ำจิ้มซีฟู้ด
มีกุ้งเผาก็ต้องมีน้ำจิ้มซีฟู้ดสิคะ ! เมนูนี้ต้องยกเครดิตให้พี่แย้มคนสตรองที่ไปตบตีกับแม่ครัวเพื่อหามะนาวมาให้แม่นายการะเกดได้ปรุงน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ ไว้เสิร์ฟคู่กับกุ้งเผามันเยิ้ม อูย...
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด
• น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
• เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำร้อน 3 1/2 ถ้วย
• น้ำมะนาว 4 ถ้วย
• พริกขี้หนู 200 กรัม
• กระเทียมไทย 200 กรัม
• ผักชี 200 กรัม
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด
1. ใส่น้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสม ตามด้วยเกลือและน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนให้น้ำตาลปี๊บละลายเป็นน้ำ จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน
2. เทส่วนผสมน้ำที่ผสมไว้ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยพริกขี้หนู กระเทียม และผักชี ปั่นให้เข้ากันตามความละเอียดที่ต้องการ ตักใส่ขวดโหลแก้ว หรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ด รวมความแซ่บจัดจ้านที่ใคร ๆ ก็ทำกินได้
++++++++++++++++++

4. หลนเต้าเจี้ยว
มาถึงอีกหนึ่งเมนูยั่วน้ำลายอย่างหลนเต้าเจี้ยว หรือ เต้าเจี้ยวหลน เมนูแรก ๆ ที่คุณหญิงป้าสอนแม่การะเกดทำอาหารไทยโบราณ สูตรจาก คุณเนรัญชลา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่เต้าเจี้ยวหอม ๆ ผสมกับหมูสับและกุ้ง ปรุงรสให้เปรี้ยวเค็มและหอมมันจากกะทิ แกล้มกับผักสดตามชอบเลยจ้า
ส่วนผสม หลนเต้าเจี้ยว
• เต้าเจี้ยวขาว 300 กรัม
• หมูสับ 200 กรัม
• กุ้งสับ 100 กรัม
• หอมแดง 250 กรัม
• พริกชี้ฟ้าเขียว-แดง 120 กรัม
• หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
• หางกะทิ 3 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่หรือไข่เป็ด 1 ฟอง
• น้ำตาลปี๊บ
• มะขามเปียก
• เกลือป่น
วิธีทำเต้าเจี้ยวหลน
1. นำเต้าเจี้ยวไปล้างน้ำทำความสะอาด 2 ครั้ง เสร็จแล้วกรองด้วยกระชอนให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นจึงนำไปโขลกจนละเอียด
2. ปอกเปลือกหอมแดงแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นจึงซอยหยาบ ๆ ส่วนพริกชี้ฟ้าล้างน้ำแล้วหั่นให้เป็นท่อน และคั้นน้ำมะขามเปียกให้ข้น ๆ กรองด้วยกระชอน พักไว้
3. นำหางกะทิใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ พอเดือดจึงเอาเต้าเจี้ยวโขลกลงละลาย พอเดือดจึงใส่หมูสับและกุ้งสับลงไป ตามด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นท่อน และหอมแดงซอย
4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่น ชิมรสให้ออกเค็มหวานพอดี มีรสเปรี้ยวตัดเล็กน้อย (บางสูตรอาจจะไม่ใส่ส้มมะขาม) ตีไข่ไก่พอแตก แล้วเทลงไปในหม้อ คนเร็ว ๆ พอเดือด จากนั้นจึงใส่หัวกะทิส่วนที่เหลือลงไป รอเดือดอีกครั้งก็ใช้ได้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าเจี้ยวหลน อาหารไทยโบราณรสกลมกล่อม
++++++++++++++++++

และแล้วก็มาถึงเมนูสุดพีคอย่างหมูสร่ง ที่นอกจากจะเป็นเมนูที่พี่หมื่นชอบแล้ว ต้องบอกเลยว่า หน้าตาหมูสร่งคือชวนหิวจริง ๆ หมูสร่งสูตรจาก Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับหมูสับหมักกับเครื่องปรุงแล้วเอาหมี่ซั่วพันให้สวยงาม พอทอดเสร็จก็เสิร์ฟกับน้ำจิ้มตามชอบ ใครจะดัดแปลงเป็นไก่สร่ง กุ้งสร่ง หรือปลาหมึกสร่งก็ตามชอบจ้า
ส่วนผสม หมูสร่ง
• หมูสับ 500 กรัม
• หมี่ซั่ว 250 กรัม
• รากผักชี 10 กรัม
• พริกไทยเม็ด 10 กรัม
• กระเทียม 30 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำหมูสร่ง
1. เริ่มจากโขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยให้ละเอียด นำเครื่องโขลกหมักกับหมูสับ ใส่ไข่ น้ำปลา และซอสปรุงรส คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 30 นาที
2. นำหมี่ซั่วแช่น้ำ ให้พอเส้นนุ่มแล้ว เทน้ำออกผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
3. เริ่มจากปั้นหมูสับให้เป็นก้อนพอดีคำ แล้วใช้เส้นหมี่ 4 เส้นค่อย ๆ พันให้รอบหมู เก็บปลายเส้นโดยหาช่องว่างแล้วกดปลายเส้นยัดเข้าไปเลย เมื่อพันเสร็จจะได้หน้าตาแบบนี้ แล้วจึงนำไปทอด
4. ตั้งน้ำมันใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อนนำลงทอด ใช้น้ำมันท่วม ๆ ทอดจนหมูสุกเป็นสีเหลืองทอง ตักเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูสร่ง อาหารว่างเอาใจพี่หมื่น พร้อมวิธีพันเส้นหมี่ให้ติดแน่นสวยงาม
++++++++++++++++++

6. ทองหยิบ
หลังจากกินอาหารคาวมาเยอะแล้ว อยากชวนมาล้างปากด้วยขนมหวานอย่างเมนูทองหยิบ ที่โด่งดังเพราะแม่มะลิ หรือท้าวทองกีบม้าเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา ขนมหวานที่ใช่ไข่แดงของไข่เป็ดเอามาตีจนฟูแล้วตักหยอดเป็นแผ่นลงในน้ำเชื่อม พอสุกก็เอาขึ้นมาจับจีบให้สวยงาม
ส่วนผสม ทองหยิบ
• ไข่แดงของไข่เป็ด 4 ฟอง
• น้ำเปล่า 3 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย
วิธีทำทองหยิบ
1. เติมน้ำและน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งไฟอ่อน คนจนละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนเย็นแล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
2. เทน้ำเชื่อมลงในกระทะทองเหลือง ใช้ไฟกลางพอน้ำเชื่อมร้อน แต่ไม่ให้เดือดพล่าน
3. ตีผสมไข่แดงจนขึ้นฟู ตักหยอดลงในน้ำเชื่อม พอสุกทั้งสองด้านตักขึ้น พักไว้ให้เย็นแล้วจับจีบให้สวยงาม วางใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำทองหยิบ ขนมไทยเนื้อนิ่มหวานฉ่ำเป็นมันเงาจับจีบสวย ๆ
++++++++++++++++++

7. ทองหยอด
อีกหนึ่งเมนูที่ท้าวทองกีบม้าท่านเป็นคนคิดค้นขึ้น หลังจากทำทองหยิบก็มาทำเมนูทองหยอดกันต่อ สูตรนี้ใส่แป้งทองหยอดสำเร็จรูป ตีผสมกับไข่แดงของไข่เป็ด เสร็จแล้วเอาไปหยอดในน้ำเชื่อมเป็นลูกกลมสวยงาม
ส่วนผสม ทองหยอด
• ไข่แดงของไข่เป็ด 9 ฟอง
• แป้งทองหยอด 1/2 ถ้วย (หรือแป้งข้าวเจ้า)
• น้ำตาลทราย 2+1/2 ถ้วย
• น้ำลอยดอกมะลิ 2+1/2 ถ้วย (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำทองหยอด
1. เทน้ำลอยดอกมะลิกับน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งไฟแรงจนเดือดปุด ๆ และเคี่ยวต่ออีกประมาณ 10-15 นาทีหรือจนน้ำเชื่อมข้น ตักส่วนหนึ่งออกมาสำหรับแช่ทองหยอดที่สุกแล้ว อีกส่วนหนึ่งตั้งไฟไว้
2. นำไข่แดงไปกรองด้วยผ้าขาวบาง ตีจนขึ้นฟู ใส่แป้งลงไป คนผสมจนเข้ากัน เสร็จแล้วนำไปหยอดในน้ำเชื่อมเดือด วิธีหยอดทำโดยใช้ปลายช้อนแกงตักส่วนผสมขึ้นมาแล้วใช้ปลายนิ้วโป้งดันลงไปในกระทะ หรือใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางหยิบส่วนผสมขึ้นมาเป็นลูกพอเหมาะ แล้วสะบัดลงในน้ำเชื่อม พอสุกจะลอยขึ้นแล้วใช้กระชอนตักขึ้นมาพักไว้ในชามน้ำเชื่อม จัดใส่ภาชนะเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ทองหยอด วิธีทำขนมไทยโบราณสีสวย สูตรหวานน้อยอร่อยเพลิน
++++++++++++++++++

8. ฝอยทอง
ปิดท้ายด้วยเมนูฝอยทอง สูตรนี้น้ำเชื่อมใส่น้ำลอยดอกมะลิ และไข่น้ำค้าง ถ้าชอบฝอยทองเส้นเล็กให้ยกกรวยสูง ๆ ถ้าชอบฝอยทองเส้นใหญ่ให้ถือกรวยต่ำ ๆ ทำเป็นแพเล็กหรือแพใหญ่ตามชอบ หรือใครจะเอามาทำไส้ขนมปัง ไส้ขนมเปี๊ยะ หรือไส้ขนมเบื้องก็ได้นะคะ
ส่วนผสม ฝอยทอง
• ไข่เป็ด 6 ฟอง
• ไข่ไก่ 3 ฟอง
• น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม
• น้ำลอยดอกมะลิ 1,000 มิลลิลิตร (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
• ใบเตย (มัดรวมกัน) 4 ใบ
อุปกรณ์
• กระทะทองเหลือง
• กรวยใบตองหรือกรวยโลหะ
• ไม้แหลม ยาวประมาณ 1 ฟุต
• ตะแกรง
• ถาดรองน้ำเชื่อม
วิธีทำฝอยทอง
1. แยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกันและรีดไข่น้ำค้าง (ไข่ขาวที่เป็นน้ำใส ๆ เหมือนน้ำค้างติดอยู่ภายในเปลือกไข่) ลงไปในไข่แดง (ไข่น้ำค้างทำให้เส้นฝอยทองเหนียวนุ่ม ไม่ขาดง่าย) ตีผสมไข่แดงให้พอเป็นเนื้อเดียวกัน (ไม่ต้องตีให้ขึ้นฟู เพราะจะทำให้เส้นขาดเวลาโรยลงในกระทะ) จากนั้นนำไปกรองในผ้าขาวบาง เตรียมไว้
2. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำลอยดอกมะลิ น้ำตาลทราย และใบเตยลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลางรอจนน้ำตาลละลาย จากนั้นนำไปกรองแล้วเทใส่ลงกระทะทองเหลือง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนอีกครั้งจนเป็นเหนียวข้น
3. ตักส่วนผสมไข่แดงลงในกรวยแล้วค่อย ๆ โรยไข่แดงลงไปในน้ำเชื่อมที่เดือด (ใช้ไฟกลาง) วนให้รอบกระทะทองเหลืองประมาณ 20-30 รอบต่อชิ้น จากนั้นยกกรวยขึ้น
เคล็ดลับ : ถ้าต้องการฝอยทองเส้นเล็กให้ยกกรวยสูงจากน้ำเชื่อม แต่ถ้าต้องการฝอยทองเส้นใหญ่ ก็ให้ถือกรวยต่ำ ๆ
4. พอไข่แดงสุกให้ใช้ไม้ปลายแหลมพับครึ่งเส้นฝอยทองแล้วเอามาพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำเชื่อม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ฝอยทอง สีสวยเงาวับพร้อมเทคนิคโรยฝอยทองเส้นยาวไม่ขาด
ใครอยากทำเมนูละครบุพเพสันนิวาสตามรอยแม่หญิงการะเกดหรือแม่มะลิเข้ามาจดสูตรเลยค่ะ จะทำกินเอง ทำขาย หรือทำแจกก็ทำง่าย ๆ พร้อมลุยกันหรือยังคะ