1. คุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด
คุกกี้เนยสดแม้จะหอมอร่อยแต่แคลอรีสูงปรี๊ด สำหรับคนรักสุขภาพอยากให้ลองทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ใส่ข้าวโอ๊ตผสมกับแป้งนิดหน่อย เติมลูกเกดลงไปเน้น ๆ กินแบบนิ่มหรือแบบกรอบตามชอบ
ส่วนผสม คุกกี้ข้าวโอ๊ต
• ลูกเกด 100 กรัม
• น้ำร้อน (สำหรับแช่ลูกเกด)
• ข้าวโอ๊ต 250 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
• เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้เนยจืดใส่เกลือ 1/2 ช้อนชา)
• เนยเค็ม (อุณหภูมิห้อง) 150 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 125 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• ผงอบเชย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำคุกกี้ข้าวโอ๊ต
1. แช่ลูกเกดในน้ำร้อนประมาณ 10 นาที
2. ผสมแป้งที่ร่อนพร้อมเบกกิ้งโซดา เกลือป่น และผงอบเชยลงไปในข้าวโอ๊ต พักไว้
3. ตีเนยกับน้ำตาลไอซิ่งจนเป็นครีม หลังจากนั้นใส่ไข่ไก่กับกลิ่นวานิลลา ตีจนเข้ากันเป็นครีม ใส่ของแห้งที่ผสมพักไว้ลงไปในโถเนย แบ่งใส่สัก 2-3 รอบ ตีพอเข้ากัน
4. นำลูกเกดไปกรองน้ำออก ใส่ลูกเกดลงไป คลุกให้เข้ากัน ตักคุกกี้ใส่ถาดอบ ขนาดตามชอบ อบที่อุณหภูมิ 170-175 องศาเซลเซียส ประมาณ 18-20 นาที ถ้าชอบกรอบ ๆ ลดอุณหภูมิลงเหลือ 160 องศาเซลเซียส แล้วอบต่ออีก 5-10 นาที พออบเสร็จแล้วก็นำคุกกี้มาพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด สูตรทำคุกกี้ธัญพืชกรอบนุ่มรับวันพิเศษ
++++++++++++++++++
2. ขนมงาตัด
จากที่เคยกินขนมงากระจกที่ขายทั่วไปรู้สึกรสชาติหวานแสบคอ ถ้าทำเองคงถูกปากแน่นอน พบกับขนมงาตัด หรือขนมงากระจก สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ใส่งาขาวคั่วเคี่ยวกับน้ำเชื่อมจนเหนียวแล้วเอามาเกลี่ยเป็นแผ่นบาง เสร็จแล้วตัดเป็นชิ้น
ส่วนผสม ขนมงาตัด
• งาขาว 125 กรัม
• น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 45 กรัม
• น้ำผึ้ง 40 กรัม
• น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
• มะนาว 1 ซีก
วิธีทำขนมงาตัด
1. นำงาขาวไปอบหรือคั่วจนมีกลิ่นหอม อบที่อุณหภูมิประมาณ 170 องศาฟาเรนไฮต์ เป็นเวลา 5-10 นาที หรือจนมีกลิ่นหอม
2. ใส่น้ำตาลและน้ำลงไปในหม้อหรือกระทะ ต้มไฟอ่อนประมาณ 3-5 นาที หรือจนเดือดและคาราเมลมีความเหนียวขึ้น ใส่น้ำผึ้งลงไป รอจนเดือดทั่วกระทะ หลังจากนั้นใส่น้ำมะนาว ดับเตาแล้วใส่งาอบหรือคั่วลงไป คนหรือผัดให้ทั่ว
3. เสร็จแล้วเทใส่กระดาษไข รีดให้ได้ขนาดและความหนาตามชอบ พอเซตตัวบ้างก็ตัดให้ได้ขนาดตามต้องการ พักให้เซตตัวประมาณ 10-15 นาทีก่อนกิน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมงาตัด ขนมไทยกรอบหอมมันสูตรหวานน้อยจากของเหลือ ๆ
++++++++++++++++++
จู่ ๆ อยากกินขนมธัญพืชที่คุ้นปากตั้งแต่เด็กนั่นคือ ขนมงาทอด สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้จับแป้งปั้นเป็นก้อนกลมห่อไส้ถั่วรสออกเค็ม สุดท้ายคลุกกับงาขาวแล้วนำไปทอดจนแป้งสุกกรอบ
ส่วนผสม ขนมงาทอด
• ถั่วเหลืองซีก
• กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 160 กรัม
• แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• งาขาว
วิธีทำขนมงาทอด
1. นำถั่วซีกไปแช่น้ำข้ามคืน ล้างให้สะอาดจนน้ำใส ประมาณ 5 ครั้ง และนึ่งประมาณ 30 นาที พอถั่วซีกสุกก็ใส่ภาชนะผึ่งให้แห้ง
2. ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน เทถั่วซีกนึ่งลงในกระทะ ตามด้วยกระเทียม เกลือ และน้ำตาลทราย 80 กรัม ค่อย ๆ คนให้เข้ากัน เคี่ยวไฟอ่อนจนถั่วซีกเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ รอเลย
3. แบ่งแป้งข้าวเหนียวออกมา 3 ช้อนโต๊ะ นวดแป้งกับน้ำจนเนื้อเนียนเข้ากัน นำไปต้มให้สุก ผ่านน้ำเย็น และนำแป้งที่เหลือผสมน้ำตาลทรายที่เหลือ กับผงฟู ใส่แป้งสุกลงไปนวดให้เข้ากัน ถ้าแป้งแห้งไปก็ใส่น้ำลงไปหน่อย นวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน คลึงแป้งให้เป็นท่อนยาว แล้วตัดแบ่งแป้งตามชอบ เพื่อจะมาห่อไส้
4. คลึงแป้งให้เป็นก้อนกลม แผ่แป้งให้แบน ใส่ไส้ลงไปตรงกลาง ห่อไส้ให้เรียบร้อย จากนั้นคลึงให้เป็นก้อนกลมอีกครั้ง นำไปคลุกบนงาขาวให้ทั่ว
5. ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่น้ำมันลงไป ใส่ขนมงาลงไปทอด หมั่นคนตลอด จะได้สุกสีสวยสม่ำเสมอกัน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมงาทอด ไส้ถั่วเหลืองกรอบนอกนุ่มในชวนย้อนวัยอร่อยจัง
++++++++++++++++++
4. กราโนลาทาร์ต
เอาใจคนอยากทำขนมธัญพืชสไตล์ฝรั่งกันบ้าง พบกับวิธีทำกราโนลาทาร์ต สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine แป้งพายกรอบหอมใส่ครีมเนยถั่วและตักกราโนลาใส่ลงไปจนพูน แค่นี้ก็เรียบร้อยจ้า
ส่วนผสม แป้งพาย (สำหรับ 8 ชิ้น) **ถ้าต้องการกินเป็นอาหารคลีนก็ไม่ต้องทำในส่วนนี้**
• แป้งเค้ก 170 กรัม
• เนยสดชนิดเค็ม หั่นเต๋าเล็ก แช่เย็น 100 กรัม
• น้ำตาลทราย 22 กรัม
• เกลือป่น 0.5 กรัม
• นมข้นจืด 36 กรัม
ส่วนผสม ครีมเนยถั่ว
• ครีมชีส 126 กรัม
• เนยจืด 26 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 78 กรัม
• น้ำมะนาว 38 กรัม
• เนยถั่ว 116 กรัม
ส่วนผสม กราโนลา
• มูสลี่ 134 กรัม
• กล้วยน้ำว้าตากแห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก 84 กรัม
• เมล็ดฟักทอง กะเทาะเปลือกอบ 50 กรัม
• แครนเบอร์รีอบแห้ง 50 กรัม
• น้ำผึ้ง 50 กรัม
• เนยเค็ม 34 กรัม
วิธีทำกราโนลาทาร์ต
1. ผสมนมข้นจืด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟให้ละลาย พักให้เย็น
2. ผสมแป้งกับเนยให้เข้ากันจนมีลักษณะคล้ายเม็ดทราย จากนั้นเทส่วนผสมในข้อ 1 ลงไปแล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ 10 นาที กรุใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที
3. ทำครีมเนยถั่ว โดยใช้หัวตีใบไม้ตีครีมชีส และเนยให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลไอซิ่ง น้ำมะนาว และเนยถั่ว ตีต่อให้เข้ากันดี พักไว้
4. ทำกราโนลา โดยละลายเนยแล้วเติมน้ำผึ้งลงไป คนผสมให้เข้ากัน พักให้เย็น ใส่มูสลี่ กล้วยน้ำว้าตากแห้ง เมล็ดฟักทอง และแครนเบอร์รีอบแห้ง คนผสมให้เข้ากัน
5. บีบครีมเนยถั่วลงไปให้ได้ครึ่งหนึ่งของทาร์ตแล้วตักส่วนผสมกราโนลาทับจนเต็ม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กราโนลาทาร์ต เมนูธัญพืชกรุบกรอบหอมหวานมีประโยชน์
++++++++++++++++++
5. คอร์นเฟล็กคาราเมล
ใครมีคอร์นเฟล็กเหลือ ๆ ลองแบ่งมาทำเมนูคอร์นเฟล็กคาราเมล สูตรจาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับคอร์นเฟล็กกับธัญพืชอื่น ๆ คลุกเคล้ากับคาราเมลจนทั่ว เสร็จแล้วก็เอาไปอบจนครบเวลาและพักไว้จนเย็น จากนั้นค่อยเก็บใส่ภาชนะ
ส่วนผสม คอร์นเฟล็กคาราเมล
• คอร์นเฟล็ก 300 กรัม (ยี่ห้อไหนแบบไหนก็ได้)
• เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
• น้ำตาลทรายสีทอง หรือแบบธรรมชาติ 120 กรัม
• นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
• นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเชื่อมกลิ่นคาราเมล 30 กรัม (หรือน้ำผึ้งก็ได้ ตามสะดวกและความชอบ)
• เกลือป่นประมาณหยิบมือ หรือ 1 กรัม
• ฝักวานิลลา 1 ฝัก (หรือกลิ่นสังเคราะห์ก็ได้)
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก 200 กรัม
• อัลมอนด์อบสุก 100 กรัม
• เมล็ดฟักทองกะเทาะเปลือก 30 กรัม
• งาขาว 10 กรัม
• ลูกเกด 100 กรัม
วิธีทำคาราเมลคอร์นเฟล็ก
1. ใส่เนย น้ำตาลทราย นมข้นหวาน นมสด แป้งสาลีฯ น้ำเชื่อม เกลือป่น และฝักวานิลลาผ่าขูดเอาเมล็ดใส่ลงไปในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมเข้าด้วยกัน เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนเดือด และเหนียวข้น สังเกตว่า หากฟองที่เดือดพองโต แสดงว่า น้ำยังไม่ระเหยมาก ให้คนต่อไปอีกสักพัก จนลักษณะฟองเป็นตาเล็ก ๆ พอเริ่มข้นเป็นใช้ได้ เพราะจะได้ไม่แฉะ และไม่ต้องใช้เวลาในการอบนานมาก
2. เทคอร์นเฟล็กใส่ลงในอ่างผสม (กะละมังหรือหม้อ) ตามด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ เมล็ดฟักทองกะเทาะเปลือก งาขาว และลูกเกด
3. ค่อย ๆ ตักคาราเมลที่ร้อน ๆ ราดลงไปในอ่างคอร์นเฟล็ก กะประมาณสักครึ่งหนึ่งให้ทั่ว คนผสมคลุกเคล้าให้ทั่วด้วยพายยาง แล้วค่อย ๆ ตักคาราเมลราดลงไปตรงที่ยังไม่ทั่ว ราดให้ทั่วถึงแล้วคนไปเรื่อย ๆ จนเข้ากัน ประมาณ 5 นาที จะเริ่มรู้สึกว่าคาราเมลที่ราดเริ่มแห้ง (แผ่นคอร์นเฟล็กไม่ติดกันเป็นก้อน ๆ)
4. จากนั้นแบ่งใส่ถาด รองด้วยกระดาษไข นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 130 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง และพัดลม อบประมาณ 10 นาที แล้วนำออกจากเตาอบแล้วเทผึ่งไว้ หากต้องการให้เย็นไวก็ใช้กระดาษช่วยพัดก็ได้เพื่อให้คลายความร้อนไว พอคลายร้อนแล้วก็เก็บใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิท
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คอร์นเฟล็กคาราเมล เมนูธัญพืชกรอบ ๆ ทำกินเองก็ได้ ทำขายก็เริด
++++++++++++++++++
6. ข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป
คอร์นเฟล็กคาราเมลทำบ่อยก็เบื่อ ลองเติมออปชั่นอย่างข้าวโอ๊ตลงไปดีไหม พบกับข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป สูตรจาก คุณน้องซาแมนต้า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ทั้งข้าวโอ๊ตกับคอร์นเฟล็กผสมกับธัญพืชอื่น ๆ เคล้ากับเมเปิลไซรัปแล้วนำไปอบจนกรอบ
ส่วนผสม ข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป
• ถั่วลิสงอบหรือคั่ว 1 ถ้วย (หรือจะใช้เป็นถั่ววอลนัท อัลมอนด์ หรือพืชตระกูลถั่วอื่น ๆ ตามชอบ)
• ข้าวโอ๊ต 3 ถ้วย
• มะพร้าวขูดอบแห้ง 1 ถ้วย
• คอร์นเฟล็ก 1 ถ้วย
• น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• เนยจืดละลาย (เกือบ ๆ) 1/2 ถ้วย
• เมเปิลไซรัป 1/2 ถ้วย
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ถ้วย
• น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง (น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำร้อน (เกือบ) 1/2 ถ้วย)
วิธีทำข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในอ่างผสม คนผสมเข้าด้วยกัน
2. นำใส่ถาดสำหรับอบ เกลี่ยให้ทั่ว
3. ยกถาดเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 300 องศาฟาเรนไฮต์ อบนานประมาณ 30 นาที ปิดไฟแล้วพักไว้ในเตาอบต่ออีก 10 นาที นำออกจากเตาอบ พร้อมรับประทาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวโอ๊ตอบเมเปิลไซรัป ธัญพืชอบอร่อยยิ่งกว่าคาราเมลคอร์นเฟลก
++++++++++++++++++
7. ซีเรียลบาร์ผลไม้อบแห้ง
ส่วนผสม ซีเรียลบาร์ผลไม้อบแห้ง
• คอร์นเฟล็ก 3 ถ้วย
• ข้าวพอง 2 ถ้วย
• เนยถั่ว 1 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
• ผลไม้อบแห้ง 3/4 ถ้วย
• สเปรย์น้ำมันมะกอก
วิธีทำซีเรียลบาร์ผลไม้อบแห้ง
1. ผสมคอร์นเฟล็กกับข้าวพอง และผลไม้อบแห้ง 1/2 ถ้วยเข้าด้วยกัน
2. ใส่น้ำผึ้งลงในภาชนะทนความร้อน นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที นำออกมาคนผสมกับเนยถั่วจนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. เทส่วนผสมน้ำผึ้งเนยถั่วลงไปคลุกเคล้ากับซีเรียลจนทั่ว เทใส่ในถาดอบที่ฉีดสเปรย์น้ำมันมะกอกจนทั่ว โรยผลไม้อบแห้งที่เหลือลงไปให้ทั่ว นำไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าเซตตัว ตัดเป็นชิ้นก่อนเสิร์ฟ
++++++++++++++++++
8. กราโนลาบาร์ธัญพืช
ส่วนผสม กราโนลาบาร์ธัญพืช
• เนยถั่ว 1 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 3/4 ถ้วย
• กราโนลาตามชอบ
• ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
• ดาร์กช็อกโกแลตชิพ 3/4 ถ้วย
วิธีทำกราโนลาบาร์ธัญพืช
1. ปูกระดาษรองอบที่ถาดอบขนาด 9x13 นิ้ว ฉีดสเปรย์น้ำมันมะกอกลงไป เตรียมไว้
2. ตีผสมเนยถั่วและน้ำผึ้งด้วยเครื่องตีไฟฟ้า ใส่กราโนลาลงไปตีผสมให้เข้ากัน ตามด้วยดาร์กช็อกโกแลตชิพลงไปประมาณ 1/2 ถ้วย ตีผสมให้เข้ากัน
3. เทส่วนผสมกราโนลาลงในถาดอบ เกลี่ยให้ทั่ว โรยช็อกโกแลตชิพที่เหลือลงไป นำเข้าแช่เย็นประมาณ 30 นาที ตัดเป็นชิ้นก่อนเสิร์ฟ
++++++++++++++++++
9. ซีเรียลบาร์แครนเบอร์รีอัลมอนด์
ส่วนผสม ซีเรียลบาร์แครนเบอร์รีอัลมอนด์
• อัลมอนด์อบ 2 ถ้วย
• ข้าวพอง 2/3 ถ้วย
• แครนเบอร์รีอบแห้ง 2/3 ถ้วย
• มะพร้าวขูด 1/2 ถ้วย
• ไซรัปข้าว (Brown Rice Syrup) 1/3 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
วิธีทำซีเรียลบาร์แครนเบอร์รีอัลมอนด์
1. ปูกระดาษรองอบที่ถาดอบขนาด 8x8 นิ้ว เตรียมไว้
2. ผสมอัลมอนด์ ข้าวพอง แครนเบอร์รี และมะพร้าวขูดให้เข้ากัน เตรียมไว้
3. ผสมไซรัปข้าว น้ำผึ้ง และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟปานกลางรอจนเดือดประมาณ 4-5 นาที เทลงไปผสมกับส่วนผสมอัลมอนด์ที่เตรียมไว้
4. เทซีเรียลลงในถาดอบ เกลี่ยให้สวยงาม พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือเซตตัว ตัดเป็นชิ้นก่อนเสิร์ฟ
++++++++++++++++++
และแล้วก็ถึงเมนูขนมธัญพืชที่รอคอยนั่นคือ เมล็ดเจียเนยถั่วบอล ใส่เมล็ดเจียบดกับเนยถั่ว เพิ่มผงโปรตีนและความหวานจากอินผาลัม เอาไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
ส่วนผสม เมล็ดเจียเนยถั่วบอล
• อินทผาลัมอบแห้ง 6 ลูก
• ผงโปรตีน 25 กรัม
• เนยถั่ว 4 ช้อนโต๊ะ
• เมล็ดเจียบด 2 ช้อนชา
วิธีทำเมล็ดเจียเนยถั่วบอล
1. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องผสมอาหาร บดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2. นำส่วนผสมที่บดเข้าด้วยกันแล้วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ใส่ภาชนะมิดชิดแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นก่อนรับประทาน
++++++++++++++++++
11. คุกกี้อัลมอนด์ไร้แป้ง
ในที่สุดก็เจอสูตรทำคุกกี้ไร้แป้งสักที พบกับคุกกี้อัลมอนด์ไร้แป้ง (Gluten-Free Cookies) สูตรจาก คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่กากอัลมอนด์กับกล้วยหอมและผงโกโก้ เติมธัญพืชเช่นถั่ว หยอดแป้งเป็นทรงกลมชิ้นเล็กหรือใหญ่ตามชอบเลยจ้า
ส่วนผสม คุกกี้อัลมอนด์ไร้แป้ง (สูตรนี้ทำได้ 14 ชิ้น)
• กล้วยหอมสุกงอมลูกใหญ่ 1 ลูก
• ไข่ไก่ (เบอร์ 0) จำนวน 1 ฟอง
• น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงโกโก้ 2 ช้อนชา
• กากอัลมอนด์ 1 ถ้วยตวง
• ผงฟู 1/4 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
• อัลมอนด์สไลซ์ หรือถั่วอื่น ๆ ตามชอบ (โรยหน้า)
วิธีทำคุกกี้อัลมอนด์ไร้แป้ง
1. เปิดเตาอบใช้ไฟบน-ล่าง ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
2. บดกล้วยหอมด้วยส้อมให้เละ ใส่ไข่ลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากันจนไม่เห็นไข่เป็นลิ่ม ๆ
3. ใส่น้ำมันมะพร้าว เกลือป่น น้ำตาลทรายแดง ผงโกโก้ กากอัลมอนด์ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน
4. นำช้อนกินข้าวตักส่วนผสมหยอดลงบนแผ่นรองอบ ทิ้งระยะให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว โรยอัลมอนด์สไลซ์หรือถั่วชนิดอื่นตามใจชอบ
5. นำเข้าอบเป็นเวลา 20-25 นาที นำออกมาพักนอกเตา ตักคุกกี้เรียงบนตะแกรง พักให้เย็น เก็บใส่กล่องได้นาน 1 สัปดาห์
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 เมนูของหวานคลีน ๆ สำหรับคนรักสุขภาพ ทำง่ายกินง่ายสุขภาพดี
++++++++++++++++++
12. พายธัญพืช
ส่วนผสม พายธัญพืช
• อัลมอนด์
• วอลนัท
• อินทผาลัม
• มันหวานบด
• น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก
• เมเปิลไซรัป
• ถั่วแดงบด
วิธีทำพายธัญพืช
1. ทำฐานพาย โดยปั่นอัลมอนด์ วอลนัท และอินทผลัม จากนั้นนำไปกรุในพิมพ์ให้แน่นเพื่อเป็นฐาน แล้วนำไปแช่เย็นให้เซตตัว
2. ทำส่วนผสมชั้นแรก โดยผสมมันหวานบด น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา และเมเปิลไซรัป คนผสมให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์
3. ทำส่วนผสมชั้นที่สอง โดยผสมถั่วแดงบด น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา และเมเปิลไซรัป คนผสมให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์
4. ทำส่วนผสมชั้นบนสุด โดยใช้ฟักทองญี่ปุ่นบด น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา และเมเปิลไซรัป คนผสมให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 23 เมนูอาหารคลีนสุดแนว ปรับสูตรตามใจ กินง่ายเพรียวได้ใน 1 เดือน
++++++++++++++++++
13. บาร์กราโนลาช็อกโกแลต
กราโนลาใส่โยเกิร์ตดูเชยไปหน่อย ลองจับมาทำบาร์กราโนลาช็อกโกแลต สูตรจาก คุณส้มสีสุก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ถั่วหลากชนิดกับผลไม้อบแห้ง เคล้ากับดาร์กช็อกโกแลต เสร็จแล้วก็หั่นแท่ง
ส่วนผสม บาร์กราโนล่าช็อกโกแลต
• กราโนลา
• อัลมอนด์
• วอลนัท
• ผลไม้อบแห้งต่าง ๆ ตามชอบ เช่น บลูเบอร์รี แครนเบอร์รี และราสป์เบอร์รี
• อินทผาลัม
• น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก
• กลิ่นวานิลลา
• ดาร์กช็อกโกแลตละลาย
วิธีทำบาร์กราโนลาช็อกโกแลต
ปั่นกราโนลา อัลมอนด์ วอลนัท ผลไม้อบแห้ง และอินทผาลัมจนละเอียด เติมน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก กลิ่นวานิลลา และดาร์กช็อกโกแลตละลาย ปั่นผสมจนเข้ากัน จากนั้นอัดใส่ในพิมพ์ ตัดเป็นชิ้น เก็บใส่ขวดโหล
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 23 เมนูอาหารคลีนสุดแนว ปรับสูตรตามใจ กินง่ายเพรียวได้ใน 1 เดือน
++++++++++++++++++
14. ถั่วกรอบแก้ว
เคี้ยวเพลินดีจริงกับเมนูถั่วกรอบแก้ว สูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#Rinscookbook) จับถั่วผสมผงโกโก้เคี่ยวกับน้ำเชื่อมจนงวด เสร็จแล้วโรยงาคั่ว พักให้เย็นก่อนเสิร์ฟ
ส่วนผสม ถั่วกรอบแก้ว
• ถั่วลิสงดิบ 3+1/2 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 2+1/2 ถ้วยตวง
• ผงโกโก้ 2-3 ช้อนโต๊ะ (หรือผงโอวัลติน)
• ผงกาแฟเล็กน้อย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• น้ำเปล่า 1+1/2 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• งาขาวคั่ว 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำถั่วกรอบแก้ว
1. ล้างถั่วลิสงในน้ำสะอาด ใช้มือคนไป-มาแล้วคัดถั่วเม็ดที่เสียออกไป เทใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
2. ตั้งกระทะโดยยังไม่ต้องเปิดไฟ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยผงโกโก้ คนให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำเปล่าลงไปคนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย ใส่ถั่วลิสงลงไปคนให้เข้ากัน
4. เปิดไฟกลาง คนไปคนมาระยะหนึ่งจนน้ำเชื่อมเดือดพล่าน คนไม่ต้องบ่อยมาก
5. พอน้ำเชื่อมเริ่มเหนียวข้นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มให้คนบ่อยขึ้น คนไปเรื่อย ๆ
6. พอน้ำเชื่อมงวดและเหนียวมากขึ้นให้ปรับเป็นไฟอ่อน คนต่อไปเรื่อย ๆ อีกประมาณ 2-3 นาที สังเกตเห็นว่าน้ำเชื่อมแห้ง น้ำตาลตกทราย ปิดไฟ
7. โรยเกลือป่น เปิดไฟเป็นไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนถั่วทุกเม็ดเริ่มเปียกและมีน้ำตาลเยิ้มออกมา
8. โรยงาขาวคั่ว คนไปเรื่อย ๆ จนงาเคลือบทั่วตัวถั่ว ปิดไฟ
9. เทถั่วกรอบแก้วลงในถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ รองด้วยแผ่นซิลิโคน หรือถาดทาน้ำมัน รีบใช้ไม้พายเกลี่ยถั่วให้กระจายออกจากกัน หรือใช้ช้อนช่วยแยกให้ถั่วกระจายตัวก่อนถั่วจะแข็งตัวติดกันเป็นก้อน เริ่มแรกถั่วจะยังไม่กรอบ แต่พอเย็นตัวจะกรอบขึ้น พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท เก็บใส่ขวดโหลได้นานเป็นเดือน เหมาะให้คนอื่นหรือเป็นของว่างในบ้าน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ถั่วกรอบแก้วเคลือบโกโก้ ของว่างเคี้ยวเพลินกรอบนานวัยไหนก็ชอบ
++++++++++++++++++
15. คุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท
วันเกิดคนพิเศษปีนี้อยากให้คุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท สูตรจาก Easy to Fit Body ใส่แป้งโฮลวีทผสมกับน้ำบีทรูท เติมวอลนัทกับช็อกโกแลตชิพ ตักเป็นชิ้นแล้วเอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม คุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท
• ข้าวโอ๊ต 2 ถ้วย
• กล้วยหอม 2 ลูก
• แป้งโฮลวีท 150 กรัม
• น้ำเชื่อมไซรัป (หรือน้ำผึ้ง) 60 มิลลิลิตร
• นมอัลมอนด์ (นมสด หรือนมถั่วเหลือง) 1/2 ถ้วย
• วอลนัท (หรือถั่วอื่น ๆ) 1 ถ้วย
• ช็อกโกแลตชิพ 1 ถ้วย
• บีทรูท 50 กรัม
วิธีทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส
2. นำกล้วยหอมมาบดด้วยการใช้มือ หรือพายบดก็ได้
3. นำบีทรูทมาสับหรือปั่นแล้วคั้นน้ำออกมาใส่ภาชนะ เตรียมไว้
4. เอากล้วยหอม ข้าวโอ๊ต แป้งโฮลวีท น้ำเชื่อมไซรัป และนมอัลมอนด์ลงไปผสมให้เข้ากัน
5. ใส่ถั่วและช็อกโกแลตชิพลงไปผสมคนให้เข้ากัน
6. ใส่น้ำบีทรูทลงไป นวดให้เข้ากันอีกครั้ง
7. นำที่ตักไอศกรีม หรือช้อนตักส่วนผสมคุกกี้วางลงถาดอบที่ปูกระดาษไข หรือแผ่นซิลิโคนแล้วเรียบร้อย
8. แต่งหน้าด้วยถั่ว หรือช็อกโกแลตชิพ
9. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของคุกกี้ ทำเสร็จพร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คุกกี้ข้าวโอ๊ตบีทรูท ของหวานคลีนฉบับไดเอต ส่งต่อความหวานที่ไม่อ้วน
คุกกี้ข้าวโอ๊ตก็อยากกิน ขนมงาตัดก็อยากโดน แล้วยังมีขนมธัญพืชอื่น ๆ
อีกเยอะแยะ ถ้าทำหมดคราวเดียวคงไม่ไหว
เพื่อตัดปัญหาขอไล่ทำตั้งแต่เมนูแรกเลยดีกว่า