1. ขนมชั้นใบเตย
ส่วนผสม ขนมชั้นใบเตย
- น้ำตาลทราย 2+1/2 ถ้วย
- น้ำกะทิ 4 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
- แป้งเท้ายายม่อม 1+1/2 ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
- น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
- ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)
วิธีทำขนมชั้นใบเตย
1. ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
2. นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้
3. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งเท้ายายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง
4. แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิ คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
5. ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้าย ให้นึ่งประมาณ 7 นาที ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง)
6. นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
2. สังขยาใบเตย

ส่วนผสม สังขยาใบเตย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 2 ช้อนชา
- น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- นมข้นจืด 1/4 ถ้วย
วิธีทำสังขยาใบเตย
1. ตีผสมไข่ไก่กับกะทิ น้ำตาลทราย น้ำใบเตย และน้ำหอมกลิ่นวานิลลาพอเข้ากันดี กรองส่วนผสมผ่านตะแกรง
2. ใส่ส่วนผสมลงในหม้อสำหรับตุ๋น กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียว และข้น ค่อย ๆ เทนมข้นจืด กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียว และข้นอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้สักครู่ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับขนมปังตามชอบ
3. น้ำใบเตย

ส่วนผสม น้ำใบเตย
- ใบเตยหอม
- เกลือ เล็กน้อย
- น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ
- น้ำเปล่า
วิธีทำน้ำใบเตย
1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นท่อน
2. ตั้งน้ำจนเดือด ใส่ใบเตยลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี ตักเอาใบเตยออก ปิดเตา
3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปนิดหน่อย คนจนน้ำตาลละลาย ตักใส่แก้วน้ำแข็ง จัดเสิร์ฟ
4. ขนมครกใบเตย
ส่วนผสม ขนมครกใบเตย (สำหรับ 18-20 ชิ้น)
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งมัน 1/4 ถ้วย
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/3 ถ้วย
- กะทิ 1/4 ถ้วย
- น้ำมันพืชสำหรับทาพิมพ์
อุปกรณ์
- เตาขนมครกสิงคโปร์ (หรือใช้พิมพ์รูปอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปดอกไม้)
- ผ้าสำหรับชุบน้ำมันไว้ทาเตา
วิธีทำขนมครกใบเตย
1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน และผงฟูเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนผสมเข้าด้วยกัน
2. ใส่ไข่ไก่ลงไปตีผสมให้เข้ากัน
3. เทกะทิลงไปตีผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำใบเตย คนผสมให้เข้ากันอีกครั้งจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด พักแป้งไว้ 10 นาที
4. นำเตาขนมครกวางบนเตาแก๊ส ใช้ไฟอ่อนที่สุด แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันทาเตาบาง ๆ จากนั้นตักแป้งหยอดลงในเตาไม่ต้องเต็ม (เพราะเดี๋ยวขนมจะฟูขึ้นมาเอง) ปิดฝา (เพื่อให้ขนมสุกเร็วขึ้น)
5. เมื่อขนมสุกแล้วใช้ไม้ปลายแหลมหรือไม้จิ้มฟันแซะขึ้นมาจากพิมพ์ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
5. ขนมถ้วยใบเตย
ส่วนผสม ตัวขนมถ้วย (ใบเตย)
- แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
- แป้งเท้ายายม่อม 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบแบบเหนียวน้อยหน่อยก็ใส่ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วเพิ่มแป้งข้าวเจ้าประมาณ 10 กรัม หรือถ้ามีแป้งถั่วเขียวก็ใส่เพิ่มไป 1 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลมะพร้าว 220 กรัม (ถ้าชอบหวานน้อยลงมาหน่อยก็ใส่สัก 200 กรัม)
- หางกะทิ 1 ถ้วยตวง (ในสูตรใส่หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง ถ้าจะให้เป็นหางก็เพิ่มน้ำอีก 1/2 ถ้วยตวง ซึ่งในสูตรใส่เพิ่มไปในน้ำใบเตยแทนแล้ว จากน้ำใบเตย 1/2 ถ้วยตวง ก็ใส่ 1 ถ้วยตวง)
- น้ำใบเตย 1/2 ถ้วยตวง
- สีผสมอาหารสีเขียว
ส่วนผสม หน้าขนมถ้วย (กะทิ)
- หัวกะทิ 1+1/2 ถ้วยตวง
- แป้งข้าวเจ้า 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำขนมถ้วยใบเตย
1. ทำตัวขนม โดยผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งเท้ายายม่อมลงไปในอ่างผสม เติมน้ำใบเตยลงไปบางส่วน (แต่ไม่ต้องมากนะคะ จะได้คนเข้ากันง่าย ๆ) ใช้มือนวดจนแป้งละลายหมด ไม่เป็นเม็ด ๆ หลังจากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงไป นวดจนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วเติมน้ำใบเตยส่วนที่เหลือ และหางกะทิ คนให้เข้ากัน ใส่สีเขียวลงไปเล็กน้อย นำไปกรอง
2. ทำหน้าขนมถ้วย โดยเทหัวกะทิบางส่วน ใส่แป้งข้าวเจ้า และเกลือ คนผสมจนเข้ากัน แล้วใส่หัวกะทิส่วนที่เหลือลงไป คนผสมจนเข้ากัน นำไปกรอง
3. นำถ้วยตะไลไปนึ่งก่อนประมาณ 7-8 นาที พอนึ่งเสร็จแล้วลดไฟลง เริ่มหยอดตัวขนมลงไปก่อน ประมาณ 3/4 ของถ้วย ปิดฝา เปิดไฟแรง ถ้าทำถ้วยเล็กนึ่งด้วยไฟแรง ประมาณ 7 นาที ส่วนถ้วยใหญ่ ประมาณ 10 นาที พอสุกได้ที่แล้วก็หรี่ไฟ หยอดหน้ากะทิลงไป นึ่งต่ออีกประมาณ 5-7 นาที พักให้เย็นสนิทก่อนเสิร์ฟ
6. ฝอยทองใบเตย (ฝอยทองหยก)
ส่วนผสม ฝอยทองใบเตย
- ไข่แดง (ไข่เป็ด) 8 ฟอง
- ไข่ไก่ 15 ฟอง (ถ้าอยากให้ฝอยทองสีเขียวสวย แนะนำให้ใช้ไข่ไก่ทั้งหมด ประมาณ 25-28 ฟอง ไข่แดงของไข่เป็ดค่อนข้างแดงจัด สีมันจะเขียวขี้ม้า ในสูตรเลยต้องผสมสีเขียวลงไป)
- ไข่น้ำค้าง 50 กรัม (ไข่น้ำค้างจะช่วยทำให้ฝอยทองไหลออกมาเป็นเส้นสวยงามไม่ขาด มีความเงาสวยงามค่ะ)
- ใบเตย ประมาณ 5-6 ใบ
- สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล ประมาณ 10-15 หยด (ถ้าใช้ไข่ไก่ที่สีไปทางเหลืองอ่อน ปั่นผสมกับใบเตยก็อาจจะได้สีเขียวงาม ๆ เลยโดยไม่ต้องใส่สีเพิ่ม)
ส่วนผสม น้ำเชื่อม
- น้ำ 5 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 6 ถ้วยตวง (ถ้าไม่ชอบหวานสามารถลดให้เหลือ 4-5 ถ้วยตวง)
- ใบเตย
วิธีทำฝอยทองใบเตย
1. ตอกไข่เป็ดกับไข่ไก่ใส่ในชามผสม จะมีไข่น้ำค้างอยู่ที่เปลือกไข่ เราจะเก็บไว้ผสมกับไข่แดงค่ะ นำไข่น้ำค้างเทใส่ถ้วยเตรียมไว้ผสมกับไข่แดง ในส่วนของไข่เป็ดก็จะเก็บไข่น้ำค้างไว้เช่นกัน แยกไข่แดงโดยเอาไข่ขาวออกจนหมดหรือให้เหลือน้อยที่สุด ตีไข่แดงให้เข้ากัน
2. ปั่นใบเตยกับไข่แดง (แบ่งไข่แดงมาครึ่งหนึ่ง+ใบเตยประมาณ 2-3 ใบ) เทใส่ผ้าขาวบางแล้วนำมากรอง กรองลงชามผสมไข่แดงที่เหลือ คนให้เข้ากัน สีออกส้มไป สามารถใส่สีเขียวลงไป หรือใช้ไข่ไก่แทน ใส่ไข่น้ำค้างลงไป ตีให้เข้ากัน แล้วนำมากรองอีกรอบ
3. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำกับน้ำตาลทรายลงไปในหม้อหรือกระทะ ต้มไฟอ่อนถึงปานกลางจนน้ำตาลทรายละลาย ใส่ใบเตยลงไปเพื่อเพิ่มความหอม พอน้ำตาลละลายหมดก็เอาใบเตยออก
เพิ่มเติม:
- ถ้าชอบกลิ่นมะลิก็สามารถใส่เพิ่มลงไปในน้ำเชื่อมได้เล็กน้อย
- ต้มน้ำเชื่อมจนน้ำตาลทรายละลาย ถ้าชอบหวานจะให้น้ำเชื่อมงวดลงเล็กน้อยก็ได้ค่ะ ใช้ไฟกลางจนเดือดเป็นน้ำพุก็โรยไข่แดงลงไปได้
4. ตักไข่ใส่กรวย เอานิ้วรองรูไว้จะได้ไม่หยดเลอะเทอะ วนไข่รอบน้ำพุตรงกลาง วนสัก 40-50 รอบ แล้วแต่ชอบแพเล็กหรือแพใหญ่เลย รอให้สุกสักประมาณ 10-15 วินาที จากนั้นลดไฟลง ใช้ไม้ดันช้อนฝอยทองขึ้นมา แล้วสะบัดฝอยทองในน้ำเชื่อม เพื่อล้างฟองออกสัก 4-5 รอบ
เคล็ดลับ : การสะบัดน้ำเชื่อมจะทำให้เส้นฝอยทองเรียงตัวกันสวยด้วย
5. พักให้สะเด็ดน้ำเชื่อมบนตะแกรง
7. เค้กฝอยทองใบเตยลาวา
ส่วนผสม ไข่แดง
- ไข่แดง 4 ฟอง (ไข่ไก่เบอร์ 2)
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
- น้ำหรือน้ำใบเตยคั้น 80 กรัม
- น้ำมันพืช 50 กรัม
- กลิ่นใบเตย 1/2 ช้อนชา
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่นเล็กน้อย
ส่วนผสม ไข่ขาว
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
ส่วนผสม ซอสมะพร้าวอ่อน (สำหรับเค้ก 2-3 ก้อนค่ะ)
- น้ำมะพร้าว 325 กรัม
- กะทิ 250 กรัม
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- แป้งกวนไส้หรือแป้งข้าวโพด 35-40 กรัม
- เนยสดเค็ม 35 กรัม
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 175-200 กรัม
ส่วนผสม วิปปิ้งครีม
- วิปปิ้งครีม 250 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 35 กรัม
ส่วนผสม สำหรับแต่งเค้ก
- ฝอยทองใบเตยหรือฝอยทองหยก 300 กรัม
วิธีทำเค้กฝอยทองลาวา
1. ทำส่วนผสมไข่แดง โดยตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายจนน้ำตาลทรายละลาย พอเข้ากันแล้วใส่น้ำใบเตยคั้น น้ำมันพืช และกลิ่นใบเตยลงไป ตีจนเข้ากันดี ใส่แป้งที่ร่อนพร้อมผงฟูกับเกลือป่น (ร่อนสัก 2 รอบ เพื่อความนุ่มฟู) ตะล่อมจนเข้ากัน
2. ทำส่วนผสมไข่ขาว โดยตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ตีพอเข้ากัน ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอด ตักไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามไข่แดงที่ผสมไว้ ตะล่อมเบา ๆ จนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะไล่ฟองอากาศ นำเข้าอบอุณหภูมิ 150 -160 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 45-50 นาที พออบเสร็จแล้วให้คว่ำพิมพ์ พักจนเย็นสนิทแล้วค่อยนำเค้กออกจากพิมพ์
3. ทำส่วนผสมซอสมะพร้าวอ่อน โดยเทน้ำมะพร้าว กะทิ เกลือป่น น้ำตาลทราย แป้งข้าวโพดหรือแป้งกวนไส้ลงไปในหม้อ คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน เปิดเตากวนด้วยไฟอ่อนจนซอสเริ่มข้น จากนั้นเทเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป กวนต่ออีก 1 นาทีแล้วก็ดับเตาได้ค่ะ ใส่เนยลงไป คนจนเข้ากัน แล้วเทใส่ชามปิดฝาหรือแรปพลาสติก พักให้เย็นสนิท
4. พอเค้กเย็นแล้ว ตีวิปปิ้งครีมกับไอซิ่งจนตั้งยอดแข็ง สามารถเพิ่มความหอมด้วยกลิ่นมะพร้าวน้ำหอมได้อีก ปาดวิปครีมให้ทั่วเค้ก วางฝอยทองรอบตัวเค้ก ตกแต่งให้รูปทรงสวยงาม เทซอสมะพร้าวอ่อนลงไปในรูตรงกลาง
8. ขนมเปียกปูนใบเตยกะทิสด
ส่วนผสม ขนมเปียกปูนกะทิสด
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
- แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำปูนใส 1 ถ้วยตวง
- น้ำใบเตย 2 ถ้วยตวง
- เกลือ เล็กน้อย
- น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม
ส่วนผสม กะทิสำหรับราดหน้าขนม
- กะทิ 500 กรัม
- เกลือแค่หยิบมือ
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ที่ใส่เพื่อให้น้ำกะทิข้น)
- งาขาวคั่ว
วิธีทำขนมเปียกปูนกะทิสด
1. ทำขนมเปียกปูน โดยนำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำปูนใส และน้ำใบเตยผสมกันและนวดจนเข้ากันดี
2. ใส่เกลือ น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลปี๊บ นวดต่อจนเข้ากันดี กรองส่วนผสมแป้งด้วยตะแกรง 1 รอบ
3. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี สังเกตจากการเอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้ว
4. ตักขนมเปียกปูนใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบแต่งหน้าเค้ก บีบใส่ถ้วย
5. ทำกะทิราดหน้าขนม โดยใส่หัวกะทิลงในหม้อ ตามด้วยเกลือ ใส่แป้งข้าวเจ้า คนผสมจนเดือด เสร็จแล้วตักกะทิราดหน้าขนมเปียกปูน และโรยงาขาวคั่ว
9. มะพร้าวแก้วใบเตย
ส่วนผสม มะพร้าวแก้วใบเตย
- มะพร้าวทึนทึก (ขูดเป็นเส้น) 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1/4 ช้อนชา (หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำมะพร้าวแก้วใบเตย
1. ขูดมะพร้าวทึนทึกมาขูดเป็นเส้น ๆ (ได้มะพร้าวที่ขูดเรียบร้อยแล้ว พยายามขูดไม่ต้องถึงกะลา เอาแต่เนื้อสีขาว ๆ)
2. เตรียมน้ำใบเตยเข้มข้น (ได้มาจากใบเตยปั่นกับน้ำเปล่า)
3. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย น้ำใบเตย และเกลือลงในกระทะ เปิดไฟกลาง ๆ หมั่นคนไปเรื่อย ๆ จนน้ำงวดแล้วปิดไฟ
4. ใช้ช้อนกับส้อมตักมะพร้าวแก้วมาพอดีคำ วางลงในภาชนะแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง หรืออบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส หรือจนแห้ง
10. หยกมณีใบเตย
ส่วนผสม ขนมหยกมณี
- สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วยตวง
- ใบเตยหั่น 5-6 ใบ
- น้ำเปล่า หรือน้ำลอยดอกมะลิ (สำหรับปั่นน้ำใบเตย) 2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า (สำหรับต้มสาคู) 1+1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำขนมหยกมณี
1. ล้างสาคูโดยเทสาคูลงไปบนตะแกรง ใส่น้ำเปล่าลงไป ใช้มือคนเล็กน้อย เทน้ำทิ้ง ทำซ้ำ 2 รอบ พักสาคูไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำประมาณ 15-20 นาที
2. ระหว่างรอสาคูก็มาคั้นน้ำใบเตยโดยหั่นใบเตยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่โถปั่น ใส่น้ำเปล่า หรือน้ำลอยดอกมะลิลงไป ปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง หรือถุงกาแฟ เตรียมไว้
3. พอพักสาคูไว้จนครบ 15 นาทีแล้ว เทน้ำเปล่าใส่กระทะหรือหม้อ เปิดไฟแรงสูง พอน้ำเดือดพล่านให้ปรับเป็นไฟกลาง จากนั้นใส่สาคูลงไปคนอย่างเร็ว (เพราะสาคูจะจับเป็นก้อน) คนจนสาคูเริ่มจับตัวเป็นก้อน มีลักษณะเป็นตากบคือ มีสีขุ่นตรงกลางและภายนอกสีใส
4. ใส่น้ำใบเตยลงไปคนให้เข้ากัน กวนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ ถ้าชอบสาคูเป็นแบบตากบก็ใส่น้ำตาลทรายลงไปได้เลย หรือถ้าชอบสาคูสุกมากก็กวนจนน้ำแห้งแล้วค่อยใส่น้ำตาลทรายลงไป (ชอบแบบไหนก็ใส่น้ำตาลลงไปตอนนั้น)
5. พอใส่น้ำตาลทรายเสร็จแล้วก็กวนส่วนผสมต่อไปอีกประมาณ 5 นาที หรือจนขนมค่อนข้างหนืดตัวและข้นแต่ไม่แห้ง เทขนมใส่ถาด เกลี่ยให้เท่า ๆ กัน (ห้ามจุ่มมือลงไปเพราะขนมร้อนมาก ๆ) ผึ่งขนมไว้จนเย็น
6. ระหว่างรอขนมเย็นให้นึ่งมะพร้าวขูดในชุดนึ่งใช้ไฟแรงประมาณ 15 นาที จากนั้นนำมะพร้าวใส่จาน โรยเกลือป่น คลุกเคล้าให้ทั่ว นำช้อนกินข้าวไปจุ่มน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำมาตักขนมหยกมณีเป็นคำ ๆ วางขนมหยกมณีลงบนมะพร้าว คลุกเคล้าขนมหยกมณีกับมะพร้าวให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
11. ขนมฝักบัวใบเตย

ส่วนผสม ขนมฝักบัว
- แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
- กล้วยหอมสุก 1 ลูก (บดละเอียด)
- ใบเตย 20 ใบ
- สีผสมอาหารสีเขียว 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
วิธีทำขนมฝักบัว
1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วม ปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองและคั้นเอาแต่น้ำ เตรียมไว้
2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และกล้วยหอม ค่อย ๆ เทน้ำใบเตยลงไปนวดให้เข้ากัน ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไป
3. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปนวดกับแป้งให้ละลายจนมีลักษณะข้นเหนียว (เหมือนนมข้นหวาน) พักแป้งทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที
4. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะขนาดเล็กสูงประมาณ 1/2 ของกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ พอน้ำมันร้อน กวนแป้งให้เข้ากันแล้วตักหยอดลงตรงกลางกระทะ (ระวังอย่าให้แป้งใต้กระบวยหยดลงในกระทะ) ขนมจะค่อย ๆ พองจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในจนปิดสนิท รอจนขนมเหลืองและลอยขึ้นจากน้ำมันแล้วพลิกกลับด้าน จากนั้นตักน้ำมันราดตรงกลางของขนมเพื่อให้ตรงกลางขนมปูดขึ้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
12. วุ้นกะทิใบเตย

ส่วนผสม วุ้นใบเตย
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้าต้องการความหอมให้ผสมกลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา)
- ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย ถึง 1 ถ้วย
ส่วนผสม วุ้นกะทิ
- กะทิ 2+1/2 ถ้วย
- ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
- เกลือป่น ปลายช้อนชา
วิธีทำวุ้นกะทิใบเตย
1. ทำวุ้นใบเตย โดยใส่น้ำและผงวุ้นลงในหม้อ คนให้ผงวุ้นกระจายทั่ว ๆ และไม่เป็นก้อน พักทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟกลางอ่อน คนผสมเรื่อย ๆ จนเริ่มเดือดและผงวุ้นละลายหมด จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลทรายละลาย
2. ใส่น้ำใบเตยคั้นลงไปคนผสมให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วนำส่วนผสมไปกรอง พักไว้จนเริ่มอุ่น
3. เทส่วนผสมวุ้นใบเตยใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ประมาณครึ่งพิมพ์ จากนั้นนำไปแช่เย็นจนเซตตัว
4. ทำวุ้นกะทิ โดยใส่กะทิลงในหม้อ ตามด้วยผงวุ้น จากนั้นคนให้ผงวุ้นกระจายทั่ว ๆ นำขึ้นตั้งไฟกลางอ่อน คนจนผงวุ้นละลาย และกะทิเริ่มเดือด (แต่ไม่ต้องแตกมัน) จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลทรายละลาย ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้จนเริ่มอุ่น
5. ตักส่วนผสมวุ้นกะทิหยอดลงในพิมพ์ทับวุ้นใบเตยจนเต็มพิมพ์ (ต้องแน่ใจว่าวุ้นใบเตยด้านล่างเซตตัวดีแล้ว) นำวุ้นไปแช่เย็นจนเซตตัว นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
13. เค้กฝอยทองใบเตย
ส่วนผสม สปันจ์เค้กใบเตย (สำหรับพิมพ์ขนาด 1 ปอนด์)
- แป้งเค้ก 50 กรัม
- ไข่ไก่ เบอร์ 2 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
- กลิ่นใบเตย 1/2 ช้อนชา
- น้ำใบเตยคั้น 40 กรัม
- สารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี (SP) หรือโอวาเล็ต (Ovalet) 1 ช้อนชา
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เนยเค็มละลาย 40 กรัม
- สีผสมอาหาร สีเขียว ประมาณ 15-20 หยด
- ฝอยทอง 150 กรัม
วิธีทำเค้กใบเตยฝอยทอง
1. ใส่ฝอยทองลงไปในพิมพ์ อัดให้แน่น
2. ตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย และสารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี หรือโอวาเล็ต จนขึ้นฟูหรือสีไข่ดูอ่อนลง ใส่น้ำใบเตย กลิ่นใบเตย และสีเขียวแอปเปิลลงไป ตีประมาณ 5-10 นาที หรือจนส่วนผสมฟูขึ้น 2-3 เท่า สังเกตจากเวลายกตะกร้อแล้วส่วนผสมที่หยดลงมาไม่จมลงโถ จะลอยอยู่เหนือผิวหน้าด้านบน ใส่แป้งที่ร่อนกับผงฟูลงไป แนะนำให้ร่อนสัก 2 รอบ เค้กจะได้เบานุ่มยิ่งขึ้น เอาตะกร้อตะล่อมเบา ๆ ก่อนเปิดเครื่อง แป้งจะได้ไม่ฟุ้ง ตีประมาณ 3 นาที หลังจากนั้นก็ตีด้วยความเร็วต่ำจนเข้ากันดี ลองเช็กดูก้นโถว่ามีแป้งนอนก้นหรือเปล่า ถ้าไม่มีให้ทำขั้นตอนต่อไป คือ ค่อย ๆ ใส่เนยละลายลงไป อย่าใส่ทีเดียวหมดนะคะ ระวังเค้กจะเป็นไต หลังจากใส่เนยหมดก็ตีต่ออีก 3-5 นาที
3. เทเค้กในไปในพิมพ์ (ก่อนนำฝอยทองใส่ลงไป ให้ทาไขมันลงไปในพิมพ์ก่อน) อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม อบบนถาดน้ำร้อนนะคะ รองด้วยถาดน้ำร้อนฝอยทองจะได้ไม่ไหม้ ใช้เวลาอบ 40-45 นาที พออบเสร็จแล้ว ใช้มีดปลายแหลมแซะด้านข้าง แล้วให้คว่ำพิมพ์บนตะแกรง พักจนเย็นสนิท
14. เค้กใบเตยหน้านิ่ม
เค้กชิฟฟ่อนใบเตย สำหรับพิมพ์ขนาด 3 ปอนด์
ส่วนผสม ไข่แดง
- ไข่แดง (เบอร์ 2) 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
- น้ำมันพืช 45 กรัม
- น้ำใบเตย 80 กรัม
- กลิ่นใบเตย 1/2 ช้อนชา
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล ประมาณ 10 หยด (ไม่ใส่ก็ได้)
ส่วนผสม ไข่ขาว
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
ส่วนผสม หน้านิ่มใบเตย
- ผงวุ้น 1 ช้อนชา
- น้ำ 350 กรัม
- กะทิ 120 กรัม
- แป้งข้าวโพด 35 กรัม
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- น้ำใบเตยคั้น 80 กรัม
- เนยสดเค็ม 40 กรัม
- กลิ่นใบเตย 1 ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนใบเตย
2. ทำส่วนผสมไข่ขาว โดยตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ตีพอเข้ากัน แล้วค่อยทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอด ตักไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมเบา ๆ จนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ส่วนผสมไข่ขาวที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน แล้วเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ใช้ไพ่หรือไม้พายปาดให้เสมอกัน แล้วเคาะพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศสัก 1-2 ครั้ง ถ้ายังมีฟองอยู่ก็เอาไม้จิ้มฟันเจาะฟองออก
3. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 40-45 นาที เปิดไฟบน-ล่าง พออบเสร็จก็เคาะพิมพ์ 1 ครั้งเพื่อไม่ให้เค้กยุบตัวมาก หลังจากนั้นก็นำไปพักบนตะแกรงจนเย็น
วิธีทำหน้านิ่มใบเตย
2. นำหม้อที่ผสมน้ำกับผงวุ้นพักไว้ตั้งไฟกลาง ๆ ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำใบเตยคั้น ต้มจนเดือดและผงวุ้นละลาย หลังจากนั้นนำกะทิที่ผสมเมื่อสักครู่เทลงไป คนจนข้นขึ้น พอข้นแล้วก็ดับเตาแล้วเติมเนยลงไป คนให้เข้ากัน นำออกมาคนต่อข้างนอก ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปประมาณ 10-15 หยด (ไม่ชอบไม่ใส่ก็ได้) คนให้เข้ากัน
วิธีประกอบตัวเค้กชิฟฟ่อนใบเตยหน้านิ่ม
- นำเค้กแบ่งเป็น 3 ชั้น วางเค้กลงไปในพิมพ์ถอดก้นได้ หลังจากนั้นราดหน้านิ่มลงไปให้ทั่ว ทำให้ครบ 3 ชั้น แล้วเคาะไล่ฟองอากาศ พักให้หน้านิ่มเซตตัวประมาณ 20 นาที หรือพักให้อุ่นลงแล้วนำไปแช่ตู้เย็นสัก 10 นาทีก็ได้ พอหน้านิ่มเซตตัวแล้วก็เอาเค้กออกมาจากพิมพ์ ตัดด้านข้างออก แบ่งเป็นชิ้นเล็กหรือขนาดตามชอบ
15. โดนัทใบเตย
ส่วนผสม โดนัทใบเตย (ประมาณ 12-15 ชิ้น)
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ยีสต์ 7 กรัม
- ไข่ขาวเบอร์ 2 1 ฟอง
- น้ำใบเตยคั้น 225 กรัม
- สีผสมอาหารสีเขียว
- เนยสด 60 กรัม
วิธีทำโดนัทใบเตย
1. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ที่ร่อนไว้แล้ว) น้ำตาลทราย เกลือป่น และยีสต์ แล้วตีหรือผสมพอเข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ขาว น้ำใบเตยคั้น และสีผสมอาหารสีเขียวเล็กน้อย ตีพอแป้งจับตัวกันเป็นก้อน ใส่เนยสดลงไป แล้วตีประมาณ 15-20 นาทีหรือจนแป้งเนียนขึงเป็นฟิล์มบาง ๆ ได้ รวบแป้งให้หน้าตึงแล้วพักแป้งไว้ให้ฟูขึ้น 2 เท่า ประมาณ 1 ชั่วโมง (ใช้พลาสติกคลุมไว้ หรือเป็นผ้าหมาดก็ได้)
2. พอแป้งขึ้นฟูแล้วก็ชกไล่ลม จากนั้นแบ่งแป้งชั่งน้ำหนักให้ได้ก้อนละ 50 กรัม ขึงเป็นลูกกลม ๆ แล้วพักไว้ 10-15 นาที
3. พอแป้งคลายตัวแล้วก็นำมารีดเป็นแผ่นกลม ๆ หนาประมาณ 1/2 เซนติเมตร จากนั้นกดให้ได้รูปกลม ๆ ถ้ารีดกลมแล้วก็ไม่ต้องเอาพิมพ์มากดให้กลมก็ได้ค่ะ จากนั้นเจาะรูตรงกลาง จัดทรงให้กลมสวยงาม พักแป้งให้ฟูขึ้นประมาณ 50-80% พักทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที หรือพอกดแป้งแล้วเด้งกลับคืนแสดงว่าใช้ได้แล้ว นำไปทอดได้
4. นำมาทอดด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อน เอาด้านสวยคว่ำลงไปก่อน ทอดด้านละประมาณ 1 นาที จากนั้นก็พลิกอีกด้านขึ้น พอสุกก็ตักขึ้น ร่อนน้ำตาลไอซิ่งโรยเพิ่มความอร่อยและสวยงาม
16. น้ำตะไคร้ใบเตย

ส่วนผสม น้ำตะไคร้ใบเตย
- น้ำ 1 ลิตร
- ใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก 5 ใบ
- ตะไคร้ทุบ 3 ต้น
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- น้ำมะนาว ปริมาณตามชอบ
- น้ำแข็ง
วิธีทำน้ำตะไคร้ใบเตย
1. ใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยใบเตย และตะไคร้ ต้มจนเดือด และน้ำเปลี่ยนสี ยกลงกรองเอากากออก
2. เทน้ำตะไคร้ใบเตยกลับใส่หม้อต้มอีกครั้ง ใส่น้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
3. ตักน้ำตะไคร้ใบเตยลงในแก้ว ตามด้วยน้ำมะนาวตามชอบ ใส่น้ำแข็ง พร้อมดื่ม
17. ข้าวเหนียวใบเตย
ส่วนผสม ข้าวเหนียวใบเตย
- ข้าวเหนียว 100 กรัม
- น้ำใบเตยผสมสีเขียวแอปเปิล สำหรับแช่ข้าวเหนียว
- น้ำเปล่า สำหรับแช่ข้าวเหนียวและพรมข้าวเหนียว
วิธีทำข้าวเหนียวใบเตย
- แช่ข้าวเหนียวในน้ำใบเตยประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซาวให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ เทข้าวเหนียวนึ่งในลังถึงโดยใช้ผ้าขาวบางรอง ใส่ใบเตยมัดเป็นปมลงไปตอนนึ่งด้วยเพื่อความหอม ปิดฝานำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที พอนึ่งครบ 15 นาที ให้พลิกข้าวเหนียวด้านล่างขึ้นด้านบนแล้วพรมน้ำเปล่าให้ทั่ว ปิดฝานึ่งต่ออีก 5 นาที หรือจนสุก
หลังจากเห็นเมนูใบเตยไม่ว่าจะเป็นขนมชั้น ขนมเปียกปูนใบเตย ขนมฝักบัว หรือน้ำใบเตยก็รู้สึกอยากลองทำบ้าง แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าไม่มีใบเตยนี่สิ ขอตัวไปซื้อใบเตยก่อนนะคะ ชะแวบ !