x close

16 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพง่าย ๆ อร่อยดีมีประโยชน์เต็มมื้อ

          อะไรดีใส่ไป กับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพง่าย ๆ สูตรอาหารเพื่อสุขภาพมีทั้งอาหารจานเดียวและเมนูกับข้าว จะกินเมนูไหนก็มีประโยชน์หมดเลย
          อย่างที่รู้กันดีว่าเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ขายตามตลาดนัดออฟฟิศหรือร้านอาหารคลีนเดลิเวอรี่ แม้จะมีประโยชน์แต่ราคาสูงไปหน่อย สำหรับคนชอบเข้าครัวลองมาทำกินเองดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำอาหารเพื่อสุขภาพง่าย ๆ เช่น แกงเลียง ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด ยำตะไคร้เห็ด อกไก่อัลมอนด์ ข้าวต้มปลาเก๋า เป็นต้น ทำกินวนไปได้ทั้งสามมื้อเลยค่ะ

1. ปลากะพงย่างซอสมิโซะ

          ใครชอบกินเมนูปลาอยากให้ลองทำเมนูปลากะพงย่างซอสมิโซะ จับปลากะพงไปย่างแล้วทาซอสมิโซะ เสิร์ฟกับข้าวสวยญี่ปุ่น เพิ่มเติมผักลวก

ส่วนผสม ปลากะพงย่างซอสมิโซะ

  • เนื้อปลากะพง (แล่เป็นชิ้น) 300 กรัม
  • มิโซะ 80 กรัม
  • มิริน (เหล้าหวานญี่ปุ่น) 1 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 1 ฟอง
  • น้ำมันพืช (สำหรับทาตะแกรง)
  • หัวไช้เท้าขูด
  • ข้าวสวยญี่ปุ่น

วิธีทำปลากะพงย่างซอสมิโซะ

     1. นำมิโซะและมิริน เทใส่กระทะ ตั้งไฟอ่อน กวนผสมจนเข้ากัน ใส่ไข่แดงลงไป คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
     2. ตั้งไฟสำหรับย่าง ทาน้ำมันพืชให้ทั่วตะแกรง ทาซอสมิโซะ (ในข้อ 1) ให้ทั่วเนื้อปลากะพง นำไปย่างด้วยไฟอ่อนจนสุก จัดเสิร์ฟพร้อมกับหัวไช้เท้าขูด และข้าวสวยญี่ปุ่น

ดูวิธีทำ ปลากะพงย่างซอสมิโซะ เพิ่มเติมคลิก

2. ปลาแซลมอนย่างซอสเทอริยากิ

ปลาแซลมอนย่างซอสเทอริยากิ

          ต้นเดือนแล้วจัดเมนูปลาแซลมอนย่างซอสเทอริยากิสักมื้อ มาพร้อมวิธีทำซอสเทอริยากิ พอย่างจนสุกก็ราดซอสเทอริยากิลงไป กินกับข้าวสวยร้อน ๆ

ส่วนผสม ปลาแซลมอนย่างซอสเทอริยากิ

  • เนื้อปลาแซลมอนติดหนัง (น้ำหนักประมาณ 150-200 กรัม) จำนวน 1 ชิ้น
  • ซีอิ๊วญี่ปุ่น 3 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าสาเก 3 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้ามิริน 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักลวกตามชอบ (เช่น แครอต บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น)

วิธีทำปลาแซลมอนย่างซอสเทอริยากิ

     1. ใส่ซีอิ๊วญี่ปุ่น เหล้าสาเก เหล้ามิริน และน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้
     2. หมักเนื้อปลาแซลมอนกับส่วนผสมซอสเทอริยากิ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที พอครบเวลาให้ซับเนื้อปลาให้แห้ง เตรียมไว้
     3. นำซอสที่เหลือจากการหมักปลาใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำตาลทรายประมาณ 2 ช้อนชา เคี่ยวจนเดือด ยกลงจากเตา เตรียมไว้
     4. นำกระทะสำหรับย่างขึ้นตั้งไฟ วางเนื้อปลาลงบนกระทะ ทาด้วยซอสเทอริยากิที่เตรียมไว้ให้ทั่วจนสุกทั้งสองด้าน ตักใส่จาน ราดด้วยซอสเทอริยากิที่เหลือ แต่งด้วยผักลวกตามชอบ

ดูวิธีทำ ปลาแซลมอนย่างซอสเทอริยากิ เพิ่มเติมคลิก

3. แกงเลียง

          เมนูแกงเลียงหาอร่อยถูกปากยาก ถ้าทำกินเองรับรองฟินกว่าค่ะ ใส่ผักสารพัดเพื่อสุขภาพ มาพร้อมวิธีทำน้ำพริกแกงเลียง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ใบแมงลัก

ส่วนผสม แกงเลียง

  • พริกไทยดำ 1+1/2 ช้อนชา
  • กระชาย 1-2 แง่ง
  • หอมแดง 3-4 หัว
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • กุ้งแห้งป่นละเอียด 1/3 ถ้วย
  • น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย
  • บวบ หั่นเป็นชิ้นพอคำ 150 กรัม
  • ฟักทอง หั่นเป็นชิ้นพอคำ 200 กรัม
  • ซูกินี หั่นเป็นชิ้นพอคำ 150 กรัม
  • ข้าวโพดอ่อน หั่นสไลซ์ 150 กรัม
  • เห็ดกระดุม 150 กรัม
  • กุ้งสด 200 กรัม
  • ใบแมงลัก 80 กรัม
  • น้ำปลา (ปรุงรส)

วิธีทำแกงเลียง

     1. เตรียมเครื่องแกงก่อน โดยโขลกพริกไทยกับกระชายแล้วใส่หอมแดงลงไปโขลกให้ละเอียด ตามด้วยกะปิ โขลกรวมกัน จากนั้นจึงใส่กุ้งแห้งป่นลงไปโขลกรวมกันอีกครั้งให้ละเอียดเป็นอันเรียบร้อย
     2. ใส่น้ำซุปไก่ลงในหม้อ ต้มให้เดือดแล้วใส่เครื่องแกงลงไป
     3. พอน้ำแกงเดือดก็ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน ต้มพอเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักที่เหลืออื่น ๆ ลงไป (จริง ๆ ขึ้นอยู่กับการหั่นด้วย อย่างฟักทองหั่นชิ้นเล็กก็จะสุกไว) พอน้ำเดือดปุ๊บก็ใส่บวบ ฟักทองอ่อน ซูกินี และเห็ดลงไป
     4. พอน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ใส่กุ้งสดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาตามชอบ ชิมรส
     5. พอส่วนผสมเดือดอีกครั้งก็ใส่เสน่ห์ของแกงเลียงลงไป คือ ใบแมงลักนั่นเอง ตักเสิร์ฟร้อน ๆ ซดน้ำให้ชุ่มคอชื่นใจ หวัดหายสบายดี

4. ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด

          พร้อมแซ่บกับเมนูต้มยำอกไก่ใส่เห็ด ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกกับน้ำปลา ใส่พริกขี้หนูพอมีรสเผ็ด โรยผักชีฝรั่งเพิ่มความหอม

ส่วนผสม ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด

  • เครื่องต้มยำ ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
  • หอมแดง (แกะเปลือก) 4-5 หัว
  • พริกขี้หนู (ทุบพอบุบ)
  • เห็ดฟาง
  • มะเขือเทศสีดา
  • มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว
  • อกไก่หั่นชิ้นบาง ๆ
  • ผักชีฝรั่ง

วิธีทำต้มยำอกไก่ใส่เห็ด

     1. ตั้งน้ำให้เดือด ปริมาณน้ำก็ดูตามความเหมาะสมนะ ถ้ากินคนเดียว ใส่พอให้ได้ชามเล็ก ๆ ก็พอ
     2. ใส่เครื่องต้มยำ ข่าก็ทุบ ๆ ใส่ลงไปสักสองชิ้น อย่าใส่เยอะนะเดี๋ยวจะมีรสฝาด ตะไคร้ก็ทุบ ๆ เหมือนกัน แล้วก็หั่นสักหน่อยเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงไปให้พอหอม ตามด้วยหอมแดงจะช่วยให้น้ำต้มยำหวานอร่อย และมะเขือเทศสีดา ใส่ให้ช่วยเพิ่มรสเปรี้ยว
     3. พอทุกอย่างเดือดเข้าที่ ให้ใส่อกไก่หั่นชิ้นลงไป รอจนสุก ใส่เห็ด
     4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา ยกหม้อต้มยำลงจากเตาได้
     5. จากนั้นก็ฉีกใบมะกรูดโรยหน้า ใส่พริกขี้หนูทุบเพิ่มความเผ็ด และโรยผักชีฝรั่ง ถ้ายังเปรี้ยวไม่สะใจบีบมะนาวเพิ่มนะคะ หรืออ่อนรสใดไปก็ค่อย ๆ เติมจนได้รสที่ถูกปากนะ แต่อย่ารสชาติสุดโต่งเกินไป ไม่เค็มมาก ไม่เปรี้ยวมาก สงสารกระเพาะนะ

ดูวิธีทำ ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด เพิ่มเติมคลิก

5. ข้าวอบธัญพืชกับกุ้งหมักน้ำผึ้งกระเทียม

          แค่จานเดียวก็อิ่มแล้วกับเมนูข้าวอบธัญพืชกับกุ้งหมักน้ำผึ้งกระเทียม จับกุ้งหมักกับน้ำผึ้งและกระเทียมแล้วเอาไปผัดจนสุก สุดท้ายราดบนข้าวธัญพืช

ส่วนผสม กุ้งซอสน้ำผึ้งกระเทียม

  • กุ้งสด (ตามชอบ) 8 ตัว
  • น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาว 1/4 ถ้วย
  • กระเทียมสับ 2-3 กลีบ
  • ข้าวสารผสมธัญพืช 2 ถ้วย
  • น้ำซุป หรือน้ำสต๊อก 3 ถ้วย
  • ผักลวกตามชอบ (สำหรับเสิร์ฟ)
  • ไข่ออนเซ็น (สำหรับเสิร์ฟ)      

วิธีทำกุ้งซอสน้ำผึ้งกระเทียม

     1. ผสมน้ำผึ้ง ซีอิ๊วขาว และกระเทียมให้เข้ากัน ใส่กุ้งลงไปหมักอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
     2. หุงข้าวโดยใส่ข้าวสารผสมธัญพืชและน้ำซุปลงในหม้อหุงข้าว คนให้เข้ากัน แล้วหุงตามปกติ
     3. ตั้งกระทะใช้ความร้อนปานกลาง ใส่กุ้งลงไปเรียงให้เต็ม ใส่น้ำหมักลงไปครึ่งหนึ่ง รอจนกุ้งสุกตักขึ้น เทน้ำหมักที่เหลือลงไปเคี่ยวจนงวดสำหรับเป็นน้ำซอสราด
     4. เสิร์ฟกุ้งพร้อมข้าว ผักลวก และไข่ออนเซ็น

ดูวิธีทำ ข้าวอบธัญพืชกับกุ้งหมักน้ำผึ้งกระเทียม เพิ่มเติมคลิก

6. เมนูอกไก่ซอสครีมนมอัลมอนด์

ข้าวต้มปลาเก๋า

          สายโปรตีนถูกใจสิ่งนี้ ! เมนูอกไก่อบซอสครีม แต่ใช้นมอัลมอนด์ Blue Diamond Almond Breeze รส Unsweetened Original สูตรไม่เติมน้ำตาล ปราศจากแลคโตส และคอเลสเตอรอล ให้พลังงานเพียง 25 กิโลแคลอรี ใช้แทนนมวัวและครีม แคลอรีต่ำกว่าเดิม เพิ่มเติมคือความหอมมัน กินเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นก็ฟิน ๆ อร่อยเต็มปากเต็มคำได้แบบไม่ทำร้ายหุ่น แถมได้โปรตีนจากเนื้ออกไก่เน้น ๆ เลย

ส่วนผสม อกไก่ซอสครีมนมอัลมอนด์

  • อกไก่ 200 กรัม (หรือชิ้นส่วนไก่อื่น ๆ ตามชอบ)
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • นมอัลมอนด์ Blue Diamond Almond Breeze Almond Milk รส Unsweetened Original 480 มิลลิลิตร
  • กระเทียมปอกเปลือก 5-10 กลีบ
  • อบเชยแท่ง 1 แท่ง
  • ใบกระวาน 4 ใบ
  • เกลือป่น ตามชอบ
  • พริกไทยป่น ตามชอบ
  • พาร์สลีย์ 1 กำมือ
  • น้ำเลมอน 1/2 ลูก หรือน้ำมะนาว 1 ลูก
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำอกไก่ซอสครีมนมอัลมอนด์

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
     2. ซับเนื้อไก่ให้แห้ง ใส่ลงในถาดหรือกระทะสำหรับอบ ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันมะกอกลงไปจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลสวยงาม
     3. เติมนมอัลมอนด์ Almond Breeze รส Unsweetened Original กระเทียม อบเชยแท่ง ใบเบย์ และพาร์สลีย์ ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น รอจนเดือด หรือนำไปเข้าเตาอบประมาณ 25-30 นาที
     4. นำอบเชยแท่ง พาร์สลีย์ ใบเบย์ และไก่ออกจากกระทะ
     5. ผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำเลมอนหรือน้ำมะนาว ตีผสมเข้ากันเร็ว ๆ จนไม่จับตัวเป็นก้อน
     6. เทใส่ลงในส่วนผสมซอส นำขึ้นตั้งไฟจนเดือดประมาณ 1-2 นาที เคี่ยวจนเหนียว ปรุงรสตามชอบ ตักราดลงบนไก่ แต่งด้วยโรสแมรี่ พร้อมเสิร์ฟ

7. ข้าวต้มข้าวมันปูหน้าธัญพืช

          หน้าตาดีไม่ใช่น้อยกับเมนูข้าวต้มข้าวมันปูหน้าธัญพืช พอต้มข้าวมันปูเรียบร้อยก็ท็อปด้วยแซลมอนรมควัน โรยงาขาว-งาดำคั่ว อัลมอนด์ และเมล็ดบักวีต ถ้าชอบกินรสเผ็ดก็ใส่พริกขี้หนูลงไปด้วยนะคะ

ส่วนผสม ข้าวต้มข้าวมันปูหน้าธัญพืช

  • ข้าวมันปู
  • แซลมอนรมควัน
  • งาขาว-งาดำคั่ว
  • อัลมอนด์อบสุก
  • เมล็ดบักวีต
  • พริกขี้หนูซอย

วิธีทำข้าวต้มข้าวมันปูหน้าธัญพืช

     1. ต้มข้าวมันปูให้นิ่มในระดับที่ต้องการ
     2. ตักใส่ชาม โรยด้วยแซลมอนรมควัน งาขาว-งาดำคั่ว อัลมอนด์ และเมล็ดบักวีต สุดท้ายโรยพริกขี้หนูซอยเล็กน้อย

ดูวิธีทำ ข้าวต้มข้าวมันปูหน้าธัญพืช เพิ่มเติมคลิก

8. ข้าวไรซ์เบอร์รีผัดปลานิล

          มาต่อกันที่เมนูข้าวผัดเพื่อสุขภาพกับเมนูข้าวไรซ์เบอร์รีผัดปลานิล จับปลานิลหั่นชิ้นไปทอดจนสุก แล้วเอามาผัดกับข้าวไรซ์เบอร์รี แครอต บรอกโคลี และฟักทอง โรยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์และเมล็ดทานตะวัน

ส่วนผสม ข้าวไรซ์เบอร์รีผัดปลานิล

  • ปลานิล (หั่นเต๋า) 100 กรัม
  • เกลือป่นหยาบ เล็กน้อย
  • พริกไทยป่น เล็กน้อย
  • แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป
  • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
  • น้ำมันมะกอก 1+1/2 ช้อนชา
  • แครอต (หั่นเต๋า) 1 ช้อนโต๊ะ
  • บรอกโคลี (หั่นเต๋า) 1 ช้อนโต๊ะ
  • ฟักทอง (หั่นเต๋า) 1 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวไรซ์เบอร์รีหุงสุก 3/4 ถ้วยตวง
  • ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา
  • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 6-7 เม็ด
  • เมล็ดทานตะวันอบกรอบ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลาผสมน้ำมะนาวและพริกขี้หนู

วิธีทำข้าวไรซ์เบอร์รีผัดปลานิล

     1. โรยเกลือป่นและพริกไทยป่นบนเนื้อปลานิลแล้วคลุกลงในแป้งทอดกรอบพอทั่ว ใส่ลงทอดในน้ำมันพืชใช้ไฟปานกลาง ทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
     2. เจียวกระเทียมกับน้ำมันมะกอกพอเหลืองหอม ใส่แครอต บรอกโคลี ฟักทอง และข้าวไรซ์เบอร์รีลงไปผัดเบา ๆ ให้เข้ากัน
     3. ปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย เกลือป่นและพริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน
     4. ใส่ปลาทอดลงไปตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน ตักใส่จานสำหรับเสิร์ฟ โรยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์และเมล็ดทานตะวัน เสิร์ฟพร้อมน้ำปลาผสมน้ำมะนาวและพริกขี้หนู

ดูวิธีทำ ข้าวไรซ์เบอร์รีผัดปลานิล เพิ่มเติมคลิก

9. ยำตะไคร้เห็ดออรินจิ

          มาต่อกันที่เมนูยำตะไคร้เห็ดออรินจิ เริ่มจากลวกเห็ดแล้วใส่ตะไคร้และสมุนไพรอื่น ๆ เติมน้ำยำลงไปเคล้าจนเข้ากัน ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยใบสะระแหน่

ส่วนผสม ยำตะไคร้เห็ดออรินจิ

  • เห็ดออรินจิหั่นชิ้น 200 กรัม
  • ตะไคร้ซอย 5 ต้น
  • หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสวนซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบสะระแหน่ สำหรับโรย

วิธีทำยำตะไคร้เห็ดออรินจิ

     1. ผสมน้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากัน
     2. ลวกเห็ดออรินจิในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำ นำไปใส่ในส่วนผสมข้อที่ 1 ใส่พริกขี้หนู ตะไคร้ หอมแดง ผักชี และผักชีฝรั่ง คนให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยด้วยใบสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ

     เคล็ดลับ : ลวกเห็ดแค่พอสุกและนำไปแช่น้ำเย็นทันทีหลังจากลวก เพื่อให้เห็ดมีรสสัมผัสเหนียวหนึบและเด้ง

ดูวิธีทำ ยำตะไคร้เห็ดออรินจิ เพิ่มเติมคลิก

10. ผัดพริกหวานเห็ดหอมและอกไก่

           เตรียมกระทะสำหรับทำเมนูผัดพริกหวานเห็ดหอมและอกไก่กันเถอะ สูตรนี้ใส่เห็ดหอมเพิ่มความหอม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซอสปรุงรส และน้ำตาลทราย

ส่วนผสม ผัดพริกหวานเห็ดหอมและอกไก่

  • อกไก่ (หั่นเป็นชิ้น)
  • พริกหวาน (หั่นเป็นชิ้น)
  • เห็ดหอม (หั่นเป็นชิ้น)
  • น้ำมันหอย
  • ซอสปรุงรส
  • น้ำตาลทราย

วิธีทำผัดพริกหวานเห็ดหอมและอกไก่

     1. ใส่อกไก่ลงในกระทะผัดจนสุก ตามด้วยพริกหวานกับเห็ดหอม ผัดให้เข้ากัน
     2. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซอสปรุงรส และน้ำตาลทรายนิดหน่อย ถ้าไม่ชอบผัดแบบแห้ง ๆ ให้เติมน้ำเปล่าสะอาดลงไปสักเล็กน้อย

ดูวิธีทำ ผัดพริกหวานเห็ดหอมและอกไก่ เพิ่มเติมคลิก

11. อกไก่อัลมอนด์

          หน้าตาดูอินเตอร์สำหรับเมนูอกไก่อัลมอนด์ จับไก่หมักกับเกลือและพริกไทย ก่อนเอาไปย่างทาน้ำผึ้งและโรยอัลมอนด์อบลงไป เสร็จแล้วนำไปอบจนไก่สุก

ส่วนผสม อกไก่อัลมอนด์

  • เนื้ออกไก่ผ่าครึ่ง (จะได้สุกง่าย)
  • เกลือ
  • พริกไทยดำ
  • น้ำผึ้ง
  • อัลมอนด์อบสุก
  • พาร์สลีย์สับ
  • น้ำมะนาว

วิธีทำอกไก่อัลมอนด์

     1. หมักอกไก่กับเกลือและพริกไทย พักทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นนำไปย่างในกระทะจนเกือบสุก ประมาณ 90%
     2. ทาน้ำผึ้งบาง ๆ ที่ผิวไก่ จากนั้นโรยอัลมอนด์ลงไป และทาน้ำผึ้งบาง ๆ ทับอีกครั้ง
     3. นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 5 นาที หรืออบจนอัลมอนด์เหลืองสวย
     4. นำออกจากเตาอบ โรยพาร์สลีย์สับ บีบมะนาวลงไปตามชอบ

ดูวิธีทำ อกไก่อัลมอนด์ เพิ่มเติมคลิก

12. ผักกาดขาวลุยสวน

          อิ่มสบายท้องรับมื้อเย็นกับเมนูผักกาดขาวลุยสวน จับใบผักกาดขาวไปลวกจนนิ่มแล้วเอามาห่อไส้หมูสับวุ้นเส้นให้สวยงาม มาพร้อมวิธีทำน้ำจิ้มลุยสวน

ส่วนผสม ผักกาดขาวลุยสวน

  • ผักกาดขาว 1 หัว (เลือกต้นที่ใบใหญ่)
  • น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมกลีบใหญ่ (สับละเอียด) 3 ช้อนโต๊ะ
  • เนื้อสันในหมูบด 200 กรัม
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
  • วุ้นเส้น (แช่น้ำให้นุ่ม หั่นท่อน) 100 กรัม
  • แครอตสับ 1/2 ถ้วย
  • เห็ดหูหนูดำซอยเส้น 1/2 ถ้วย
  • ใบโหระพา 10 ใบ
  • ใบสะระแหน่ 15 ใบ
  • น้ำเปล่า
  • เกลือป่นเล็กน้อย
  • น้ำเปล่าผสมน้ำแข็ง

ส่วนผสม น้ำจิ้มลุยสวน

  • รากผักชีซอย 2 ราก
  • กระเทียมไทย 10 กลีบ
  • พริกขี้หนูสวนสีเขียว 20 เม็ด
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำผักกาดขาวลุยสวน

     1. เตรียมน้ำจิ้ม โดยโขลกรากผักชีกับกระเทียมให้แหลก ใส่พริกขี้หนูสวนลงไปโขลกให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
     2. ตัดโคนผักกาดขาวและแกะใบผักกาดออกมาทีละใบ และต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่เกลือป่นเล็กน้อย ใส่ใบผักกาดขาวลงลวกจนใบนิ่ม ตักขึ้นแช่น้ำเปล่าผสมน้ำแข็งเพื่อคงสีให้เขียวสด ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
     3. เตรียมผัดไส้ โดยตั้งกระทะใส่น้ำมันรำข้าวพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดพอหอม ใส่เนื้อหมูผัดให้สุก ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน
     4. ใส่วุ้นเส้น แครอต และเห็ดหูหนูดำ ผัดจนส่วนผสมแห้งขึ้นเล็กน้อย ตักใส่ถ้วยพักไว้ให้เย็น
     5. นำใบผักกาดขาวที่สะเด็ดน้ำแล้ววางลงบนเขียงสะอาด ตักไส้ที่ผัดไว้ใส่ตรงกลางใบ ใส่ใบโหระพา ใบสะระแหน่ อย่างละ 2-3 ใบ พับม้วนให้สวยงาม หั่นครึ่ง จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มลุยสวน

ดูวิธีทำ ผักกาดขาวลุยสวน เพิ่มเติมคลิก

13. สเต๊กเต้าหู้

          เติมโปรตีนย่อยง่ายกับเมนูสเต๊กเต้าหู้ จับเต้าหู้ไปทอดจนผิวเหลืองสวย เสร็จแล้วราดซอสเห็ดสุดเข้มข้น กินเปล่า ๆ ไม่ต้องมีข้าวสวยก็อร่อยค่ะ

ส่วนผสม สเต๊กเต้าหู้

  • เต้าหู้โมเมน 1 ชิ้น
  • แครอตกับเห็ด 100 กรัม
  • เนยจากน้ำมันทานตะวัน 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส (เจ) 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำสเต๊กเต้าหู้

     1. นำเนยจากน้ำมันทานตะวันไปละลายในกระทะ ใส่เต้าหู้ลงไปทอดด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อนจนผิวเกรียม แล้วตักขึ้นพักไว้
     2. ใส่เห็ดและแครอตลงไปผัดต่อในกระทะ ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซอสปรุงรส และซอสเห็ดหอม เคี่ยวให้ซอสข้นขึ้นเล็กน้อย แล้วตักราดเต้าหู้ เป็นอันเสร็จ

14. ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน

          เมนูแซ่บ ๆ เพื่อสุขภาพกับเมนูยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน จับปลาสดเคล้ากับน้ำยำหอมสมุนไพรรสแซ่บ ราดบนต้นอ่อนทานตะวัน

ส่วนผสม ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน

  • แซลมอนดิบ
  • พริกขี้หนูซอย
  • กระเทียมหั่น
  • น้ำปลา
  • ผงปรุงรสเล็กน้อย
  • น้ำตาลทราย
  • มะนาว 1 ลูก
  • ต้นหอมซอย
  • หอมแดงซอย
  • ตะไคร้ซอย
  • ใบมะกรูดซอย
  • ใบสะระแหน่
  • ต้นอ่อนทานตะวัน

วิธีทำยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน

     1. ใส่พริกขี้หนูกับกระเทียมลงไปเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส และน้ำตาลทราย บีบมะนาวลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
     2. ใส่ต้นหอม หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบสะระแหน่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
     3. ใส่แซลมอนลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว เทใส่บนต้นอ่อนทานตะวันที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่

ดูวิธีทำ ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน เพิ่มเติมคลิก

15. ข้าวต้มปลาเก๋า

ข้าวต้มปลาเก๋า

          มื้อเช้าอิ่มอุ่นท้องไปกับเมนูข้าวต้มปลาเก๋า สูตรใส่น้ำซุปกระดูกหมู เพิ่มความหอมจากข่าอ่อน พอต้มจนข้าวสุกนุ่มก็ตักใส่ถ้วย โรยกระเทียมเจียวและขึ้นฉ่าย

ส่วนผสม ข้าวต้มปลาเก๋า

  • น้ำซุปกระดูกหมู 1,200 มิลลิลิตร
  • ข่าอ่อนหั่นเป็นแว่นบาง 3 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดหอม (แช่น้ำจนนิ่ม) 100 กรัม
  • ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
  • เนื้อปลาเก๋า (หั่นเป็นชิ้นลวกสุก) 10 ชิ้น
  • ข้าวหอมมะลิหุงสุก 300 กรัม
  • ข่าแก่ตำละเอียด
  • กระเทียมเจียว
  • ใบขึ้นฉ่ายซอย

วิธีทำข้าวต้มปลาเก๋า

     1. ต้มน้ำซุปกระดูกหมูกับข่าอ่อนจนเดือด ใส่เห็ดหอม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น ลดไฟลง ต้มจนน้ำซุปเดือด เตรียมไว้
     2. ตั้งน้ำในหม้ออีกใบจนเดือด ใส่ข้าวหอมมะลิลงต้มในน้ำเดือดจนนุ่ม ตักใส่ถ้วย วางปลาเก๋าลวก ตักน้ำซุปกระดูกหมูใส่ โรยข่าตำละเอียด กระเทียมเจียว และขึ้นฉ่าย กินขณะร้อน ๆ กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

ดูวิธีทำ ข้าวต้มปลาเก๋า เพิ่มเติมคลิก

16. ลาบเต้าหู้เห็ดนางฟ้า

ลาบเต้าหู้เห็ดนางฟ้า

          เตรียมผักแกล้มให้พร้อมจะได้มากินคู่กับเมนูลาบเต้าหู้เห็ดนางฟ้า จับเต้าหู้ต้มยีพอแหลกแล้วเคล้าผสมกับเห็ด ปรุงรสเผ็ดตามชอบ สุดท้ายใส่ผักชีฝรั่งซอย ใบสะระแหน่ และข้าวคั่ว

ส่วนผสม ลาบเต้าหู้เห็ดนางฟ้า

  • เต้าหู้ 1 ก้อน
  • เห็ดนางฟ้า 1 ถ้วย
  • เห็ดหูหนูดำ 1 ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาวเจ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย
  • ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วย
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำลาบเต้าหู้เห็ดนางฟ้า

     1. นำเต้าหู้ก้อนลงไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วใช้ส้อมยีให้พอแหลก
     2. หั่นเห็ดนางฟ้าและเห็ดหูหนูดำเป็นเส้น ๆ นำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม ตักใส่อ่างผสม เตรียมไว้
     3. ใส่เต้าหู้ที่ยีไว้ลงไปผสมกับเห็ด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเจ น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น เคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
     4. ใส่ผักชีฝรั่งซอย ใบสะระแหน่ และข้าวคั่วลงไป เคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ แต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ ลาบเต้าหู้เห็ดนางฟ้า เพิ่มเติมคลิก

          จบไปแล้วสำหรับวิธีทำอาหารเพื่อสุขภาพง่าย ๆ ใครที่อยากกินของอร่อยและมีคุณค่ามาลองทำกันเลยค่ะ เอาล่ะ… ขอเลือกสูตรที่ชอบก่อนนะคะ 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
16 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพง่าย ๆ อร่อยดีมีประโยชน์เต็มมื้อ อัปเดตล่าสุด 9 ธันวาคม 2564 เวลา 10:59:26 342,392 อ่าน
TOP