13 สูตรขนมคลีน ทำเป็นของขวัญปีใหม่ใส่ใจสุขภาพคนพิเศษ

     1. บดฟักทองนึ่งพอละเอียด ใส่ไข่ไก่ลงไปทั้งฟอง ตามด้วยกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน เติมความหวานโดยใช้น้ำผึ้งหรือน้ำตาลหญ้าหวาน เติมผงโกโก้ลงไปผสม แอนใช้เป็นผงโกโก้สีเข้ม คนให้เข้ากัน ตามด้วยเกล็ดข้าวโอ๊ต ตามด้วยผงฟูกับเบกกิ้งโซดา คนให้เข้ากัน
     2. ตักใส่พิมพ์สำหรับนึ่งและสำหรับอบ โรยหน้าด้วยธัญพืชอบตามชอบ ถ้านำไปอบให้นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 15 นาที ถ้านำไปนึ่งใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 15 นาที หรือจนขนมสุก
 

     1. นำกล้วยหอมมาบดให้ละเอียด ใส่เนยถั่วลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไป กรณีที่กล้วยงอมมากปรับลดความหวานได้ตามชอบ ร่อนผงโกโก้ลงไป คนให้เข้ากันจนเนียน ตักใส่พิมพ์ โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลซ์
     2. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 10 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดพิมพ์
 

     1. ปอกเปลือกกล้วย และหั่นกล้วยให้เป็นแนวยาว แบ่งเป็น 4 ส่วน วางกระดาษรองอบในถาด จากนั้นนำกล้วยมาวางเรียงกัน โรยงาขาว
     2. นำเข้าเตาอบโดยใช้ไฟอ่อนที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบเป็นเวลา 70-90 นาที
 

     1. ตัวฐานปั่นอัลมอนด์ วอลนัท และอินทผาลัม จากนั้นอัดให้เป็นฐาน แช่เย็นให้เซตตัว
     2. ตัวเนื้อเค้กชั้นแรกใช้มันหวานบดกับน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก เติมกลิ่นวานิลลา ถ้าใครชอบหวานเพิ่มก็ใส่เมเปิลไซรัปลงไปแทนน้ำตาล
     3. ตัวเนื้อเค้กชั้นที่สองบดถั่วแดงกับส่วนผสมเดียวกัน
     4. ตัวเนื้อเค้กบนสุดคือ ฟักทองญี่ปุ่น
 

     1. ตัวฐานปั่นอัลมอนด์ วอลนัท และอินทผาลัม จากนั้นอัดให้เป็นฐาน แช่เย็นให้เซตตัว
     2. ตัวเนื้อเค้กชั้นแรกใช้มันหวานบดกับน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก เติมกลิ่นวานิลลา ถ้าใครชอบหวานเพิ่มก็ใส่เมเปิลไซรัปลงไปแทนน้ำตาล
     3. ตัวเนื้อเค้กชั้นบนสุดคือ ฟักทองญี่ปุ่น
 

• บดอะโวคาโดผสมกับผงโกโก้ และเมเปิลไซรัป ใส่น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิกลงไปนิดหน่อย กลบกลิ่นด้วยวานิลลา โรยด้วยอัลมอนด์สไลซ์
   

     1. ตีแป้งข้าวโอ๊ต กล้วย ไข่ไก่ ไข่ขาว และวานิลลา เข้าด้วยกัน
     2. ปั่นเสร็จแบ่ง 2 ส่วน ส่วนแรกปล่อยไว้ อีกส่วนใส่ผงโกโก้ เทแต่ละสีลงกระทะทำทาโกะยากิ สักพักใส่กราโนล่าไว้ตรงกลาง แล้วก็พลิกไปมาเหมือนทำทาโกะยากิ ตกแต่งอีกนิดหน่อย
 

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20 นาที เตรียมไว้
     2. ใช้ตะกร้อมือตีไข่ไก่และน้ำตาลให้เข้ากัน พักไว้
     3. หั่นกล้วยหอมเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใช้ส้อมบี้ให้เละ ๆ นำไปใส่ในชามไข่และน้ำตาล ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ใช้ตะกร้อมือคนผสมวน ๆ จนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
     4. ร่อนแป้งโฮลวีต ผงฟู และเบกกิ้งโซดา ลงไปในชามผสม (แป้งโฮลวีตอาจร่อนได้ไม่หมดเพราะเนื้อแป้งจะหยาบ เพราะฉะนั้นแป้งที่เหลือบนที่ร่อนก็ใส่ลงไป)
     5. ตีผสมทุกอย่างให้เข้ากัน (เนื้อจะข้นและหนืดนิด ๆ) เทใส่พิมพ์กระดาษประมาณ 3/4 พิมพ์ เพราะเนื้อเค้กจะฟูขึ้นมา จากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบประมาณ 20-25 นาที ใช้ไฟบน-ไฟล่าง อบจนสุก
 

     1. เริ่มจากสับแอปเปิลไม่ต้องละเอียดมาก เพราะเดี๋ยวจะปั่นต่ออยู่แล้ว
     2. ใส่แอปเปิลลงในเครื่องปั่น ตามด้วยแป้งโฮลวีต มูสลี่ ไข่ไก่ โยเกิร์ต นม ซินนามอน เบกกิ้งโซดา น้ำผึ้ง และสารสกัดจากหญ้าหวาน ปั่นให้เข้ากัน ใส่ช็อกโกแลตชิพลงไปคนผสม เทใส่พิมพ์ โรยด้วยอัลมอนด์
     3. นำเข้าไปอบใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 180 องศาเซลเซียส เวลา 30 นาที
 

     1. บดกล้วย ข้าวโอ๊ต น้ำผึ้ง เนยถั่วช็อกโกแลต และผงโกโก้แท้
     2. เทใส่พิมพ์นำเข้าไปอบอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-18 นาที
     3. รอให้หายร้อนสักพัก ตัดแบ่ง จะจิ้มกับกรีกโยเกิร์ตหรือช็อกโกแลตก็ได้
 

     1. ทำทาร์ตโดยนำมะพร้าวอบแห้ง ไข่ขาว และน้ำผึ้ง มาผสมรวมกันแล้วกรุลงพิมพ์ นำไปอบอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้
     2. ทำครีมโยเกิร์ตช็อกโกแลตโดยนำทุกอย่างผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่ทาร์ต แต่งหน้าตามใจชอบ จะกินเลยหรือแช่ตู้เย็นก่อนก็ได้
 

     1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
     2. นำถั่วดำ ไข่ไก่ ผงโกโก้ สารสกัดจากหญ้าหวาน เกลือป่น ผงฟู เบกกิ้งโซดา น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา ยกเว้นช็อกโกแลตชิพหรือถั่ว ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนียนเทลงในพิมพ์ หรือถาดทนความร้อน โรยช็อกโกแลตชิพลงไปเลย หรือจะผสมลงไปในเนื้อขนมเลยก็ได้ โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลซ์
     3. นำเข้าเตาอบแล้วอบประมาณ 20-25 นาที อยู่ที่ความหนาของขนมและถาดที่ใช้อบ ลองเช็กความสุกด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าไม่มีเนื้อขนมติดไม้ออกมาเป็นอันใช้ได้
 

     1. นำอัลมอนด์แช่น้ำสะอาดทิ้งไว้อย่างต่ำ 8 ชั่วโมง (หรือข้ามคืน)
     2. กรองน้ำที่แช่อัลมอนด์ทิ้งไป เอาแต่เมล็ดอัลมอนด์ (เม็ดอวบอ้วน) ใส่ลงไปในโถปั่น เติมน้ำต้มสุกอุณหภูมิห้องลงไป ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเนียนละเอียด
     3. นำน้ำนมอัลมอนด์มากรองผ่านกระชอนตาถี่ หรือนำผ้าขาวบางมารองก่อนแล้วคั้นน้ำออกจนหมดก็ได้ (ส่วนกากอัลมอนด์ให้เก็บไว้ทำคุกกี้สูตรไร้แป้ง หากทานไม่หมดในครั้งเดียว สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3-4 วัน) นมอัลมอนด์ที่ได้จะมีรสจืด หอม และมัน หากชอบหวานสามารถเติมน้ำผึ้งหรือใส่กลิ่นวานิลลาลงไปเพื่อแต่งกลิ่นได้ตามใจชอบ
     4. ราดนมอัลมอนด์ลงในถ้วยที่มีคอร์นเฟล็ก สตรอว์เบอร์รีอบกรอบ และราดน้ำผึ้งลงไปอีกเล็กน้อย