10 วิธีทำไอศกรีมผลไม้ เมนูคลายร้อนเพิ่มความสดชื่น



          ร้อนนักต้องมาดูวิธีทำไอศกรีมผลไม้ทั้ง 10 แบบ สูตรขนมหวานเหมาะทำเป็นเมนูคลายร้อน โอม... ความสดชื่นจงมาเยือนบัดเดี๋ยวนี้ !

          อากาศเริ่มจะร้อนแล้ว จะให้กินแต่น้ำเปล่าใส่น้ำแข็ง หรือน้ำชงอย่างกาแฟเย็น โกโก้เย็น หรือชาเย็นทุกวันเบาหวานคงถามหา ลองสลับมากินไอศกรีมบ้างดีกว่า แต่เนื่องจากช่วงนี้กำลังไดเอตไม่อยากกินไอศกรีมกะทิ ไอศกรีมช็อกโกแลต หรือไอศกรีมโอรีโอ้ที่เขาขายทั่วไป ปัญหาเยอะขนาดนี้สงสัยต้องทำไอศกรีมโฮมเมดกินเองแล้วล่ะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 10 สูตรไอศกรีมผลไม้คลายร้อน พบกับวิธีทำไอศกรีมง่าย ๆ มีทั้งสูตรใช้เครื่องและไม่ใช้เครื่อง รวมถึงมีทั้งไอศกรีมแบบตักและไอศกรีมแท่ง เหงื่อแตกพลั่กขนาดนี้รับไอศกรีมสักเมนูไหมคะ



1. ไอศกรีมอะโวคาโด

          อะโวคาโด ผลไม้เจ้าปัญหาที่เมื่อไรซื้อมาเยอะแยะกลัวกินไม่ทันมักจะเสียของ สำหรับใครที่อยากเก็บไว้กินนาน ๆ ก็มาทำเมนูไอศกรีมอะโวคาโดสูตรจากคุณ Rita_Bunny สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้จับอะโวคาโดสุกปั่นรวมกับกล้วยไข่ เพิ่มน้ำมะนาวกับน้ำผึ้งลงไปนิด เสร็จแล้วก็แช่ช่องแช่แข็งรอจนเซตตัว เชื่อเถอะว่าอร่อยล้ำสมหน้าตา

ส่วนผสม ไอศกรีมอะโวคาโด

          • อะโวคาโดสุก 3 ลูก
          • กล้วยไข่สุกงอม 5 ลูก
          • มะนาว 2 ลูก
          • น้ำผึ้ง 150 กรัม (หรือ 1/2 ถ้วยตวง)

วิธีทำไอศกรีมอะโวคาโด

          • 1. นำทุกอย่างใส่โถปั่นน้ำผลไม้แล้วก็ปั่นให้เข้ากันจนเนียน

          • 2. เทใส่กล่องพลาสติกแล้วนำเข้าแช่ช่องฟรีซประมาณ 12 ชั่วโมง พอไอศกรีมเซตตัวแล้วก็กินได้ค่ะ

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมอะโวคาโด ไม่ใช้เครื่อง เพราะชีวิตขาดหวานไม่ได้แต่จะไม่ยอมอ้วน

++++++++++++++++++



2. กรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส

          เชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องเคยกินน้ำฟักข้าวเพื่อสุขภาพกันมาแล้วเนอะ แต่ถ้าหากเหลือฟักข้าวอีกหลายลูกแต่ไม่รู้จะเอามาทำเมนูคลายร้อนอะไรดี ขอแนะนำกรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรสสูตรจากคุณ Rock Barista สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หวานเย็นสไตล์อิตาเลียน สูตรนี้ใส่เนื้อฟักข้าวผสมกับน้ำเสาวรส จับแช่แข็งจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ตักมากินคำโต ๆ เลยค่ะ เย็นเจี๊ยบชื่นใจ

ส่วนผสม กรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส

          • ฟักข้าวสุก
          • น้ำเสาวรส
          • น้ำตาลทรายป่น

วิธีทำกรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส

          • 1. เริ่มจากการแยกเม็ดกับเนื้อฟักข้าวออกจากกัน ใช้ช้อนตักแล้วคว้านออกได้ทั้งหมด

          • 2. เทรวมกันแล้วนำไปปั่นเลย ใช้เครื่องปั่นอะไรก็ได้ เพราะเนื้อฟักข้าวจากผลสุกค่อนข้างเละอยู่แล้ว เราอาจจะนวดก่อนที่จะคว้านก็ได้ครับ จากนั้นก็นำไปต้มให้เดือด 1 ครั้ง

          • 3. หลังจากต้มเสร็จแล้ว เติมน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อยแล้วก็เติมน้ำเสาวรสลงไป (ใช้อัตราส่วน ฟักข้าว 1 ลูก ต่อ น้ำเสาวรส 1 ลิตร สำหรับท่านที่ชอบทานเปรี้ยวไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายก็ได้ แต่ผมว่าเติมเล็กน้อยจะได้รสที่กลมกล่อมกว่าครับ) เมื่อเติมน้ำเสาวรสแล้วก็นำใส่ภาชนะที่จะแช่เย็น

          • 4. นำไปแช่เย็นจนเริ่มเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แต่ยังไม่ต้องแข็งมากแล้วนำออกมาคน (ยิ่งนำออกมาคนบ่อย เนื้อจะยิ่งเนียน ของผมคน 2 รอบ ก็พอได้อยู่ครับ เคยเห็นกระทู้ของพี่ ๆ เอาออกมาเข้าเครื่องปั่นอีกรอบถ้าทำอย่างนั้นน่าจะดีเลยครับ)

          • 5. พอได้ที่แล้วก็ถึงเวลาของความอร่อยชื่นใจรับลมร้อนแล้วครับ ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส หวานเย็นคลายร้อน ชื่นใจได้ประโยชน์

++++++++++++++++++



3. แคนตาลูปเชอร์เบท

          แคนตาลูปสีเขียวเหลืออีกหลายชิ้นสงสัยกินไม่ทันแน่นอนเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นจับมาดัดแปลงเป็นเมนูแคนตาลูปเชอร์เบทสูตรจากคุณอ้อมกอดของความเหงา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เมนูไอศกรีมผลไม้คลายร้อน ไม่ต้องใช้เครื่อง ได้รสชาติผลไม้เต็ม ๆ ทั้งนี้สามารถใช้ผลไม้อย่างอื่นก็ได้ เช่น มะม่วง สตรอว์เบอร์รี แตงโม ลองทำกันดูนะคะ

ส่วนผสม แคนตาลูปเชอร์เบท

          • เนื้อแคนตาลูปเขียว ประมาณ 4 ถ้วย
          • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
          • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
          • น้ำเลมอน 1 ลูก (เราใช้มะนาวเขียว 2 ลูก)
          • เกลือป่น
          • วิปปิ้งครีม ประมาณ 1/2 ถ้วย (**ถ้าใครจะทำแบบซอร์เบทไม่ต้องใส่วิปปิ้งครีม)

วิธีทำแคนตาลูปเชอร์เบท

          • 1. ทำน้ำเชื่อมโดยการต้มน้ำเปล่ากับน้ำตาลทรายให้ละลาย ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็นก่อนแล้วค่อยเอาไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด ๆ (เราแช่ในช่องฟรีซให้เป็นเกล็ดน้ำแข็ง)

          • 2. ปอกเปลือกแคนตาลูป หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วน้ำไปแช่เย็นไว้ให้เย็นจัด ๆ หรือเอาเข้าช่องฟรีซก็ได้

          • 3. หลังจากแช่เย็นทั้งน้ำเชื่อมและแคนตาลูปได้ที่แล้วก็เอาออกมาปั่นให้ละเอียด ใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เติมน้ำมะนาว เกลือป่น วิปปิ้งครีมลงไปปั่นจนเนียน

          • 4. เทใส่กล่องปิดฝาหรือปิดหน้าด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำเข้าแช่ในช่องฟรีซให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วก็เอาออกมาปั่นอีกรอบ (ทั้งหมดปั่นอยู่ประมาณ 2-3 รอบ) ก็จะได้เนื้อเชอร์เบทที่เนียนสวย ๆ แบบนี้แล้วค่ะ ก่อนแช่ฟรีซชิมรสชาติดูได้ค่ะว่าขาดอะไรก็เติมไปตามใจโลด สำหรับเรารสชาติที่ออกมาถูกใจมาก หวาน เปรี้ยว กลมกล่อม ได้รสแคนตาลูปเต็ม ๆ

          • 5. ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำไอศกรีมเชอร์เบทแคนตาลูป เนื้อเนียนละเอียดเนี้ยบ แค่ใช้เครื่องปั่นน้ำธรรมดา

++++++++++++++++++



4. แตงโมไส

          แตงโมแช่เย็นฉ่ำ ๆ ก็ว่าฟินเหมาะกับอากาศร้อนแล้วนะ แต่ถ้าเจอเมนูแตงโมไสคงต้องชิดซ้าย ขอแนะนำสูตรจากคุณ rabira bira bila สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้เนื้อแตงโมล้วน ๆ เอาไปปั่นจนเนื้อเนียน  ราดนมข้นหวานอีกนิด ตกแต่งท็อปปิ้งตามชอบอีกหน่อย มองเผิน ๆ นึกว่าน้ำแข็งไส จัดไปอย่าให้เสีย

ส่วนผสม แตงโมไส

          • แตงโม
          • นมข้นหวาน
          • เยลลี่เม็ด (สำหรับตกแต่ง) หรือท็อปปิ้งอื่น ตามชอบ

วิธีทำแตงโมไส

          • 1. หั่นเฉพาะเนื้อแตงโมเป็นชิ้น ๆ นำเม็ดออกให้หมด จากนั้นนำเข้าช่องแช่แข็งให้แตงโมเป็นก้อนน้ำแข็งประมาณ 1 คืน

          • 2. นำแตงโมที่แข็งแล้วไปปั่นในเครื่อง ปั่นจนละเอียดตามชอบ

          • 3. ตักใส่ถ้วย ราดด้วยนมข้น แต่งด้วยเจลลี่ให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แตงโมไส ไอศกรีมเกล็ดหิมะ เมนูคลายร้อนเย็นฉ่ำชื่นใจจากไอเดียล้วน ๆ

++++++++++++++++++



5. ราสป์เบอร์รีซอร์เบท

          หลังจากทำเบเกอรี่ครั้งก่อนก็เก็บราสป์เบอร์รีแช่แข็งไว้จนลืม วันนี้มาเคลียร์ตู้เย็นเลยเจอ โชคดีที่ยังไม่เสีย อากาศร้อนอบอ้าวขนาดนี้ต้องจับมาทำเมนูราสป์เบอร์รีซอร์เบทสูตรจากคุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรใช้เครื่องทำไอศกรีม เนื้อไอศกรีมราสป์เบอร์รีเนียนละเอียดละลายในปาก ไร้ไขมัน ไร้นม ทำกินดับร้อนกันดีกว่า

ส่วนผสม ราสป์เบอร์รีซอร์เบท

          • ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง
          • น้ำตาลทราย
          • น้ำเปล่า
          • เกลือป่น

วิธีทำราสป์เบอร์รีซอร์เบท

          • 1. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายกับน้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อม ปิดไฟ พักไว้ เคล็ดลับ : น้ำหนักน้ำตาลทรายเท่าไรก็ตาม ปริมาณน้ำเปล่าก็ให้หนักเท่านั้นก็จะออกมาเป็นน้ำเชื่อมระดับมาตรฐานนั่นเอง

          • 2. นำราสป์เบอร์รีไปปั่นจนละเอียด (ใครไม่มีเครื่องบดอาหาร หรือ Food Processor ก็ใช้เครื่องปั่นเอาก็ได้ กะเอาปริมาณตามต้องการได้เลย คงไม่ต้องมากเพราะราสป์เบอร์รีมีรสเปรี้ยวมาก)

          • 3. เทส่วนผสมราสป์เบอร์รีปั่นลงในน้ำเชื่อม เติมเกลือลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน เคล็ดลับ : หากหวานมากไปก็เติมน้ำเปล่าได้ วิธีชิมรส ไม่ว่าจะอาหารคาวหรือหวาน ควรตักขึ้นมาเป่าให้เย็นก่อนจะเจอรสที่แท้จริง หากมันร้อน เวลาชิมแล้วปรุง ลิ้นเราอาจจะเพี้ยนได้

          • 4. นำส่วนผสมมากรองเอาเม็ดออก เคล็ดลับ : ไม่รู้เหมือนกันนะว่า เป็นเมล็ดหรือว่าตาของราสป์เบอร์รี แต่รู้ว่ามันแข็งเกินไปที่จะเอามาเป็นของหวานชนิดนี้ หากเอามาทำแยมก็คงไม่มีปัญหา เพราะแยมใช้ความร้อนนาน ตามันจะนิ่มไปเอง
          • 5. นำน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รีไปบ่มพักไว้ในตู้เย็นในช่องปกติ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน (ยิ่งดี)

          • 6. นำโถปั่นชั้นในที่มีเจลทำความเย็นไปแช่ช่องฟรีซ อย่างน้อย 12 ชั่วโมงก่อนนำมาปั่นไอศกรีม (หากแช่น้อยกว่านั้น จะไม่เกิดเป็นไอศกรีม) เทส่วนผสมน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รีลงไปในเครื่อง เปิดเครื่องปั่นประมาณ 30 นาที หรือจนเป็นเนื้อไอศกรีม ปิดเครื่องดึงใบพัดออกแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซอีก 3 ชั่วโมง

          • 7. ตักไอศกรีมใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ราสป์เบอร์รีซอร์เบท ไอศกรีมผลไม้เน้น ๆ เปรี้ยวปรี๊ดจี๊ดจ๊าด ไร้ไขมัน

++++++++++++++++++



6. แอปเปิลเขียวซอร์เบท

          แอปเปิลเขียว ผลไม้สำหรับลดน้ำหนัก [คลิกอ่าน มหัศจรรย์แห่งแอปเปิลต่างสี ประโยชน์ก็ดีต่างกันนะ] แต่เนื่องจากรสชาติเปรี้ยวปรี๊ดทำให้กินลำบาก ลองแบ่งบางส่วนมาทำเมนูแอปเปิลเขียวซอร์เบทดีกว่าค่ะ เนื้อไอศกรีมสีเขียวรสชาติหวานอมเปรี้ยว ถ้าไม่มีเครื่องทำไอศกรีมก็ไม่เป็นอะไร ทำกินได้เช่นกัน มื้อเที่ยงนี้ลองชิมสักลูกไหมคะ

ส่วนผสม แอปเปิลเขียวซอร์เบท

          • แอปเปิลเขียว หั่นเป็นชิ้น 750 กรัม
          • น้ำมะนาวคั้น 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร
          • น้ำตาลทราย 375 กรัม
          • เหล้าบรั่นดีกลิ่นแอปเปิล 3 ช้อนชา
          • สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล เล็กน้อย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำแอปเปิลเขียวซอร์เบท

          • 1. ใส่แอปเปิลเขียว น้ำมะนาว น้ำเปล่า และน้ำตาลทรายลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนเดือด นานประมาณ 25-30 นาทีจนแอปเปิลเริ่มนิ่ม ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท

          • 2. ใส่ส่วนผสมแอปเปิลที่เย็นสนิทแล้วลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนเข้ากันและเนื้อเนียนดี เทใส่อ่างผสม เติมเหล้าบรั่นดี และสีผสมอาหารเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน นำเข้าแช่แข็งจนส่วนผสมแข็งตัว

          • 3. นำส่วนผสมออกจากตู้เย็น เทใส่เครื่องทำไอศกรีม (จากนั้นทำตามคู่มือ) ปั่นจนได้ไอศกรีมเนื้อเนียน ตักไอศกรีมใส่พิมพ์ นำเข้าแช่เย็นจนแข็งตัว หรืออย่างน้อยประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนรับประทาน

          เทคนิค : หากไม่มีเครื่องทำไอศกรีม ให้เทส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วใส่พิมพ์ นำเข้าแช่เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นนำออกมาปั่นอีกครั้ง เทกลับใส่พิมพ์แล้วนำกลับเข้าแช่เย็น ทำซ้ำแบบเดิม 2-3 ครั้งจนได้ไอศกรีมเนื้อเนียนตามต้องการ เทใส่พิมพ์ แล้วนำเข้าแช่เย็นจนถึงเวลารับประทาน

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แอปเปิลเขียวซอร์เบท เปรี้ยวหวานอร่อยได้รสผลไม้เต็ม ๆ คำ

++++++++++++++++++



7. สับปะรดซอร์เบท

          สับปะรดมีวิตามินซี ช่วยย่อยอาหาร และคุณค่าอีกเพียบ [คลิกอ่าน สับปะรด อัศวินแห่งผลไม้] ถ้าซื้อมาหลายลูกแล้วคิดว่ากินไม่ทันแน่นอน ไม่ต้องกังวลค่ะ จับมาทำเมนูไอศกรีมผลไม้คลายร้อนดีกว่าค่ะ ขอแนะนำสับปะรดซอร์เบท สูตรไม่ใช้เครื่อง ทำง่ายเหลือเชื่อ วันหยุดนี้ไปล้างเครื่องปั่นเตรียมไว้เลยค่ะ

ส่วนผสม สับปะรดซอร์เบท

          • เนื้อสับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก 1 ลูก
          • น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
          • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
          • เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำสับปะรดซอร์เบท

          • 1. ใส่เนื้อสับปะรด น้ำตาลทราย น้ำเปล่า น้ำมะนาว และเกลือป่นลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันดี เทใส่พิมพ์ นำเข้าช่องแช่แข็งนาน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง

          • 2. นำออกจากตู้เย็น ตักใสเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเนียนอีกครั้ง ตักส่วนผสมใส่พิมพ์แล้วนำเข้าแช่แข็งอีกครั้ง นานประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนรับประทาน

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมสับปะรดซอร์เบท สดชื่นชุ่มฉ่ำจากเนื้อผลไม้เต็มคำ

++++++++++++++++++



8. ใบบัวบกซอร์เบท

          หลายคนอาจคุ้นเคยกับน้ำใบบัวบกเป็นอย่างดี นอกจากทำเครื่องดื่มคลายร้อนเพื่อสุขภาพ [คลิกอ่าน สรรพคุณใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า เพื่อความงามและสุขภาพ] ยังสามารถเอามาทำเมนูใบบัวบกซอร์เบทสูตรจากนิตยสาร Food News & Life เนื้อไอศกรีมอัดแน่นด้วยสมุนไพร รสชาติหวานหอม ถ้าได้กินคำแรกแล้วจะวางช้อนไม่ลงเชียว

ส่วนผสม ใบบัวบกซอร์เบท

          • ใบบัวบก (เด็ดเป็นใบ) 100 กรัม
          • น้ำต้มสุก 500 กรัม
          • น้ำตาลทราย 200 กรัม
          • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
          • เจลาตินชนิดผง 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำร้อนสำหรับละลายเจลาติน 50 กรัม
          • ใบบัวบก (สำหรับแต่ง)

วิธีทำใบบัวบกซอร์เบท

          • 1. ล้างใบบัวบกให้สะอาด ใส่ลงไปในโถปั่นน้ำผลไม้พร้อมกับน้ำต้มสุก ปั่นจนกระทั่งละเอียด กรองเอาเฉพาะน้ำมาใช้

          • 2. นำน้ำใบบัวบกใส่ลงในภาชนะ ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่น นำขึ้นตั้งไฟจนกระทั่งน้ำตาลทรายละลายหมด ยกลง เตรียมไว้

          • 3. ละลายเจลาตินกับน้ำร้อนเข้าด้วยกัน เทใส่ลงในน้ำใบบัวบก พักจนกระทั่งส่วนผสมเย็น เทใส่ลงในเครื่องทำไอศกรีม ปั่นประมาณ 40 นาที จนกระทั่งส่วนผสมหนืดเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ปิดเครื่อง ตักส่วนผสมที่ได้ใส่ภาชนะ นำเข้าช่องแช่แข็งจนส่วนผสมทรงตัวดี ใช้ที่ตักไอศกรีมตักใส่แก้ว เสิร์ฟพร้อมตกแต่งด้วยใบบัวบกให้สวยงาม

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมซอร์เบท์ใบบัวบก หวานเย็นชื่นใจได้สุขภาพ

++++++++++++++++++



9. พุชป๊อปซอร์เบท


          เมนูไอศกรีมผลไม้ซอร์เบทแต่ละครั้งที่กินก็มีแค่รสชาติเดียว ลองเพิ่มความเก๋ด้วยการทำหลาย ๆ รสชาติเสิร์ฟในแก้วสุดเก๋กันดีกว่าค่ะ ขอแนะนำเมนูพุชป๊อปซอร์เบทสูตรจากเว็บไซต์ Sweet Color Block Sorbet Push Pops แม้ต้องใช้เวลารอให้แต่ละชั้นเซตตัว แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาแน่นอนค่ะ เป็นอีกไอเดียที่น่าลองทำเสิร์ฟในงานปาร์ตี้เหมือนกันนะคะเนี่ย

ส่วนผสม พุชป๊อปซอร์เบท

          • มะม่วงสุกหั่นเต๋า 1 ถ้วย
          • กีวีสไลซ์บาง 1 ถ้วย
          • ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง 1 ถ้วย
          • แบล็กเบอร์รีแช่แข็ง 1 ถ้วย
          • น้ำเชื่อม 2 ถ้วย (แบ่งเป็น 4 ส่วน)
          • พิมพ์พุชป๊อป

วิธีทำพุชป๊อปซอร์เบท

          • 1. ใส่เนื้อมะม่วงสุกกับน้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยลงไปในโถปั่น ปั่นจนส่วนผสมละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเทใส่ภาชนะ นำเข้าแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

          • 2. ผลไม้อื่น ๆ ที่เหลือให้ทำแบบเดียวกันจนครบทุกชนิด (หลังจากที่ปั่นผลไม้เสร็จแล้วอย่าลืมตักเม็ดแบล็กเบอร์รี และราสป์เบอร์รีออกมาด้วย ยิ่งเม็ดน้อยเท่าไรยิ่งทำให้พุชป๊อปของคุณอร่อยมากขึ้นเท่านั้น)

          • 3. นำพิมพ์พุชป๊อปวางลงบนฐาน หรือสวมลงไปในแก้วทรงสูง เพื่อยึดให้อยู่กับที่

          • 4. ตักผลไม้ปั่นที่แช่เย็นไว้ลงในพิมพ์พลาสติกประมาณ 1/3 ของพิมพ์ (ถ้าไม่อยากให้มีฟองอากาศเกิดขึ้นระหว่างชั้นให้เริ่มต้นด้วยมะม่วง และกีวีปั่นใส่ลงไปก่อน เพราะมีเนื้อเหนียวทำให้เกิดฟองอากาศน้อย)

          • 5. หลังจากที่เติมผลไม้ปั่นชั้นแรกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่แข็งจนผลไม้ปั่นเย็นจนเกือบแข็ง หลังจากนั้นจึงค่อยนำออกมาเติมผลไม้ปั่นชั้นที่ 2 ต่อไป

          • 6. เทผลไม้ปั่นชนิดที่ 2 ลงไปในพิมพ์ แล้วนำกลับไปแช่เย็นอีกครั้ง และทำซ้ำตามขั้นตอนเดิมจนกว่าจะเต็มพิมพ์

          • 7. หลังจากที่ใส่ผลไม้ปั่นชั้นสุดท้ายลงไปในพิมพ์แล้ว ก็ปิดฝาครอบ และนำกลับไปแช่เย็นอีกครั้งอย่างน้อยประมาณ 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน เท่านี้ก็ได้พุชป๊อปสีสวย รสชาติหวานฉ่ำมารับประทานแล้ว

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พุชป๊อปซอร์เบท ไอศกรีมหวานเย็นผลไม้สีสดใสสำหรับสาวกลัวอ้วน

++++++++++++++++++



10. ไอศกรีมแท่งผลไม้

          ผลไม้สดแช่เย็นกินเปล่า ๆ ก็ทำให้ดับร้อนได้เหมือนกันนะคะ แต่ว่าผลไม้เยอะขนาดนี้สงสัยกินไม่ทันแน่นอน ถ้าหากต้องทิ้งไปเสียดายจริง ๆ นะเนี่ย ถ้าอย่างนั้นต้องจับมาแปลงร่างเป็นไอศกรีมแท่งผลไม้ มีส่วนผสมแค่ 2 อย่าง คือ ผลไม้สดกับน้ำผลไม้ ดูเลอค่าน่าหม่ำ กินไม่อ้วนอีกด้วย

ส่วนผสม ไอศกรีมแท่งผลไม้


          • น้ำผลไม้ (ตามชอบ)
          • ผลไม้ตามชอบ เช่น แอปเปิล กีวี สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี
          • พิมพ์สำหรับทำไอศกรีม

วิธีทำไอศกรีมแท่งผลไม้

          • 1. หั่นผลไม้ต่าง ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำแล้วใส่ผลไม้ลงในพิมพ์

          • 2. เทน้ำผลไม้ลงไปแล้วเสียบไม้ไอศกรีม นำไปแช่ช่องแข็งประมาณ 5 ชั่วโมง

          • 3. แกะออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ

          • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมแท่งผลไม้ สูตรไดเอต สีสันสดใสเย็นฉ่ำดับร้อน

          หลังจากออกไปพบลูกค้า หรือกลับมาบ้านหลังเลิกงานเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ อาบน้ำเสร็จแล้วก็พอสดชื่นมาบ้าง แต่ถ้าหากได้กินเมนูไอศกรีมผลไม้คงชื่นใจขึ้นอีกเยอะ เมื่อสักครู่เลื่อนไปดูแต่ละสูตรล้วนน่าลองทำทั้งนั้นเลย ตอนนี้คิดหนักว่าจะจิ้มสูตรไหนทำก่อนดีนะ เพื่อน ๆ ช่วยเลือกหน่อยได้ไหมคะ ขอร้อง !

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 วิธีทำไอศกรีมผลไม้ เมนูคลายร้อนเพิ่มความสดชื่น อัปเดตล่าสุด 6 พฤศจิกายน 2560 เวลา 16:43:59 72,968 อ่าน
TOP
x close