เซอร์ไพรส์วันเกิดคนพิเศษด้วยเค้กปอนด์ หรือ เค้กก้อนกลม ๆ หลากไอเดียทำขนมแทนใจ ทำเองง่าย ๆ แต่ได้ใจเต็ม ๆ ความสุขกำลังเกิดขึ้นแล้ว
วันเกิดคนพิเศษปีนี้ตั้งใจจะทำเค้กวันเกิดแทนเค้กสำเร็จรูปที่เคยสั่งซื้อ แต่อยากได้เค้กหน้าตาฟรุ้งฟริ้งต่างจากทั่วไปจะหาสูตรได้จากไหนเอ่ย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 15 วิธีทำเค้กปอนด์ เค้กก้อน แต่ละเมนูแปลกล้ำไม่จำเจ คนรับต้องซึ้งน้ำตาท่วมแน่นอน
หากกำลังมองหารูปเค้กวันเกิดสวยๆ เพื่อเซอร์ไพรส์คนพิเศษ เข้ามา ดาวน์โหลดรูปเค้กวันเกิดที่หลากหลายและน่ารักสุดๆ ให้กับทุกโอกาส! เรามีคอลเลกชันภาพที่คุณสามารถเลือกใช้ได้ฟรี เหมาะสำหรับทำการ์ดหรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย หยิบภาพที่คุณชื่นชอบไปใช้กันเลย รับรองว่าจะทำให้วันพิเศษของคุณหรือคนที่คุณรักน่าจดจำยิ่งขึ้น!
รวมวิธีทำเค้กปอนด์ เค้กก้อน และเค้กวันเกิด
1. เค้กช็อกโกแลตฟองดอง
เห็นภาพเค้กปอนด์ช็อกโกแลตฟองดองแค่ภายนอกก็เหมือนเค้กทั่วไป แต่พอผ่าออกมาก็อ้าปากค้าง เพราะด้านในซ่อนช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาล สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จะทำเป็นเค้กวันเกิดแด่คนพิเศษก็เก๋ หรือจะทำเซอร์ไพรส์ลูก ๆ ก็ได้นะคะ
ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลตฟองดอง
• ช็อกโกแลต
• ช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาล
• ฟองดองไอซิ่ง
• เกล็ดน้ำตาลตามชอบ
วิธีทำเค้กช็อกโกแลตฟองดอง
1. หั่นช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็กเพื่อให้ละลายได้เร็วขึ้น ในสูตรใช้ไอน้ำในการละลายช็อกโกแลต โดยใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟจนเดือด จากนั้นก็ลดไฟให้เบาลง วางภาชนะที่ใส่ช็อกโกแลตบนหม้อ คนเบา ๆ จนช็อกโกแลตละลายเป็นเนื้อเนียน เทช็อกโกแลตลงในพิมพ์เค้กสปริงฟอร์ม แล้วค่อย ๆ ตะแคงพิมพ์สปริงฟอร์มเพื่อให้ช็อกโกแลตไหลไปเคลือบให้ทั่วแล้วนำไปแช่เย็น
2. เทช็อกโกแลตลงไปเคลือบซ้ำประมาณ 2-3 รอบ เนื้อเค้กจะได้หนาขึ้น แล้วนำไปแช่เย็น พอช็อกโกแลตเซตตัวก็แกะออกจากพิมพ์สปริงฟอร์ม
3. เทช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาลหลากสีลงไป ใช้จานปิดด้านบนตัวเค้กแล้วคว่ำไว้บนจาน ตกแต่งหน้าด้วยฟองดองแต่งหน้าเค้กด้วยบัตเตอร์ครีมและเกล็ดน้ำตาลสีสันตามชอบ จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กช็อกโกแลตฟองดอง เค้กวันเกิดที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
2. เค้กชิฟฟ่อนกาแฟ
ใช่เลย ! คนพิเศษชอบกินกาแฟทุกเช้า เหมาะเหม็งที่จะทำเค้กชิฟฟ่อนกาแฟ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ทำเป็นเค้กก้อนมอบให้กินอย่างจุใจไปเลยค่ะ
ส่วนผสม เค้กชิฟฟ่อนกาแฟ
• แป้งเค้ก 110 กรัม
• ผงฟู 2 ช้อนชา
• เนสกาแฟ 3 in 1 จำนวน 2 ซอง
• น้ำตาลทราย 150 กรัม
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• นมสด 50 มิลลิลิตร (หรือน้ำเปล่า)
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• กลิ่นกาแฟ 1 ช้อนชา
• เนยละลาย 50 มิลลิลิตร
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
• พิมพ์เค้กขนาด 3 ปอนด์ (รองกระดาษ)
• อัลมอนด์สไลซ์
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนกาแฟ
1. ผสมแป้งเค้กกับผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นเทผงกาแฟลงไป (หรือน้ำกาแฟ) เตรียมไว้
2. แยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกัน
3. ใส่น้ำตาลทรายครึ่งหนึ่งลงไปในชามไข่แดง คนผสมพอเข้ากัน เทนมสดลงไปคนผสมให้เข้ากัน
4. ใส่กลิ่นวานิลลาและกลิ่นกาแฟลงไป ตามด้วยเนยละลาย ตีผสมให้เข้ากัน
5. ร่อนส่วนผสมแป้งลงไป คนผสมแค่พอเข้ากัน เตรียมไว้
6. ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงในไข่ขาว เปิดเครื่องตีแป้ง ตามด้วยน้ำตาลทรายอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ ตีจนไข่ขาวตั้งยอด
7. แบ่งส่วนผสมไข่ขาวเป็น 2 ส่วน ตักใส่ส่วนผสมแป้งแล้วคนผสมเบา ๆ ให้เข้ากัน เทใส่ลงในพิมพ์ โรยด้วยอัลมอนด์สไลซ์แล้วหมุนพิมพ์ประมาณ 3-4 รอบ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ประมาณ 32 นาที
8. นำขนมออกจากเตาอบ ใช้มีดแซะข้าง ๆ พิมพ์แล้วคว่ำขนมออกจากพิมพ์ ลอกกระดาษออก วางพักไว้บนตะแกรง ตัดเค้กเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กชิฟฟ่อนกาแฟ 3 in 1 ขนมเค้กเนื้อฟูนุ่มหอมกรุ่นกลิ่นกาแฟ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
3. เค้กโยเกิร์ต
ส่วนผสม ไข่แดง
• แป้งข้าวโพด 20 กรัม
• แป้งเค้ก 30 กรัม
• ไข่แดง (เบอร์ 2) 3 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• โยเกิร์ต 130 กรัม
• น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไข่ขาว
• ไข่ขาว (เบอร์ 2) 3 ฟอง
• น้ำตาลทราย 60 กรัม
• น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำเค้กโยเกิร์ต
• เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส / เตรียมพิมพ์โดยใช้พิมพ์ถอดก้น ดังนั้นให้นำกระดาษฟอยล์ห่อพิมพ์ให้เรียบร้อยไม่ให้น้ำซึมผ่านเข้าไปได้ เนื่องจากเราจะอบแบบรองน้ำ
• ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดรวมกัน และพักไว้
• นำไข่แดงใส่ชามผสม ตีจนขึ้นฟูและสีนวล หลังจากนั้นใส่กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน
• ใส่เกลือ ใส่โยเกิร์ต และน้ำมัน คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตะล่อมแป้งและส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้ากัน ให้แป้งละลายกับของเหลวให้หมด ไม่ให้เห็นเป็นเม็ดสีขาว ๆ หลังจากนั้นพักไว้
• นำไข่ขาวและน้ำมะนาวใส่ลงในโถตี ตีด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟองละเอียด หลังจากนั้นทยอยใส่น้ำตาลทรายจนหมด ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน หลังจากนั้นทยอยตักไข่ขาวใส่ลงในส่วนผสมของไข่แดงที่พักไว้ และตะล่อมให้เข้ากัน โดยจะแบ่งตักไข่ขาว 3 ครั้ง
• เมื่อตะล่อมส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้เทใส่พิมพ์ 1 ปอนด์ กรุกระดาษไข และห่อฟอยล์ให้เรียบร้อย
• นำเข้าอบ อบรองน้ำที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 50 นาที หรือจนกว่าจะสุก
• เมื่ออบเสร็จแล้ว นำมาพักไว้ให้อุ่น จึงนำออกจากพิมพ์ โรยไอซิ่งและตัดเสิร์ฟพร้อมชา-กาแฟได้เลยค่ะ ทานขนมแล้วอย่าลืมออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กโยเกิร์ตสูตรเนื้อเด้งฟูนุ่มละมุน ทำง่ายไม่ใส่สารเสริม
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
4. เค้กวันเกิด
ส่วนผสม เค้กวันเกิด
• ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย 80 กรัม
• แป้งเค้ก 90 กรัม
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• นมสดรสจืด 50 กรัม
• น้ำมันดอกทานตะวัน 40 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสม ครีมสำหรับแต่ง
• วิปปิ้งครีม 150 กรัม
• สีผสมอาหารสีเหลืองไข่
• ท็อปปิ้งตามชอบ
วิธีทำเค้กวันเกิด
• นำไข่และน้ำตาลทรายใส่ลงในโถตี ตีให้ข้นฟู ใช้เวลาประมาณ 5-8 นาที
• ผสมส่วนผสมของแห้งโดยใส่แป้ง ผงฟู และเกลือ คนให้เข้ากัน พักไว้ และผสมส่วนผสมของเหลวโดยใส่น้ำมัน นมสด และกลิ่นวานิลลา คน
• ให้เข้ากัน พักไว้ เสร็จแล้วทยอยร่อนแป้งใส่ลงในโถตีไข่ 2 รอบ สลับกับการตะล่อมให้เข้ากัน
• เมื่อตะล่อมเข้ากันดีแล้วให้ตักแบทเทอร์เล็กน้อยใส่ลงในถ้วยของเหลว แล้วคนให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันแล้วให้เทกลับลงในโถแบทเทอร์อีกครั้ง
• ตะล่อมเบามือให้ส่วนผสมทั้งหมดเนียนเข้ากันดี แต่อย่าตะล่อมนาน เพราะจะทำให้เค้กเหนียว หลังจากเข้ากันดีแล้วให้เทลงพิมพ์กรุกระดาษไข ใช้พิมพ์ 1 ปอนด์ แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 25-30 นาที เมื่ออบสุกแล้วให้นำออกจากพิมพ์ พักให้เย็น
• ทำส่วนผสมสำหรับแต่งโดยตีวิปปิ้งครีมด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู หลังจากนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใส่ถุงบีบ ส่วนที่สองใส่สีผสมอาหารสีเหลืองไข่ไก่ แล้วตีผสมให้เข้ากัน
• นำครีมสีเหลืองบีบให้ทั่วเค้ก แล้วปาดให้เรียบ หลังจากนั้นใช้ครีมสีขาวบีบตกแต่งด้านบน
• โรยด้วยท็อปปิ้งตามชอบ หรือตกแต่งตามชอบค่ะ
• ทำเป็นเค้กวันเกิด ของฝาก ของขวัญ ได้เลยค่ะ ช่วงนี้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กวันเกิด สไตล์เกาหลีสีหวานไม่ใส่สารเสริม
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
5. เค้กชิฟฟ่อนแอปเปิล
ปอกแอปเปิลรอเลย ! ชวนทำเค้กชิฟฟ่อนแอปเปิล รูปดอกกุหลาบสุดโรแมนติก ทำกินหรือทำให้คนพิเศษในวันสำคัญก็เหมาะ
ส่วนผสม ไข่แดง
• ไข่แดง (เบอร์ 2) 6 ฟอง
• น้ำตาลทราย 40 กรัม
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา (ถ้าไม่ชอบออกเค็มก็ปรับเหลือ 1/4 ช้อนชา)
• น้ำมันรำข้าว 50 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• น้ำมะนาวหรือน้ำเลมอน 2 ช้อนชา
• นมจืด 120 กรัม
• เนื้อแอปเปิลสับ 60 กรัม
• แป้งเค้ก 120 กรัม
ส่วนผสม ไข่ขาว
• ไข่ขาว (เบอร์ 2) 6 ฟอง
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 60 กรัม
• แอปเปิล สำหรับแต่ง
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนแอปเปิล
• ทำส่วนผสมไข่แดงโดยตีไข่แดง น้ำตาลทราย และเกลือป่น ตีจนน้ำตาลทรายละลาย
• ใส่น้ำมันรำข้าว กลิ่นวานิลลา น้ำมะนาว และนม คนให้เข้ากัน
• ใส่แอปเปิลสับหยาบ และร่อนแป้งเค้กลงไปในชามผสม ตะล่อมให้เข้ากัน พักไว้
• ตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป (แบ่งใส่สัก 3 รอบค่ะ) ตีจนตั้งยอด
• ตักเมอแรงค์ไข่ขาวมาบางส่วน (ประมาณ 1/3 ส่วน) ใส่ลงในส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมจนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่เมอแรงค์ไข่ขาวส่วนที่เหลือลงไป ตะล่อมจนเข้ากัน
• เทใส่พิมพ์เค้ก 3 ปอนด์ วางแอปเปิลหั่นบาง ๆ ลงไป
• นำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม เป็นเวลาประมาณ 60-70 นาที
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
6. เค้กชิฟฟ่อนส้มหน้านิ่ม
ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อยสดชื่นกับเค้กชิฟฟ่อนส้มหน้านิ่ม สูตรจากคุณ sujitrar สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อนุ่มละมุนลิ้น มาพร้อมซอสส้มสีสวย รับรองกินเพลินจนลืมอ้วนไปเลย
ส่วนผสม ไข่แดง
• ไข่แดง (เบอร์ 2) 3 ฟอง
• น้ำตาลทราย 40 กรัม (3 ช้อนโต๊ะ)
• นมสดรสจืด 40 มิลลิลิตร
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• น้ำส้มเข้มข้น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันดอกทานตะวัน 40 กรัม (4 ช้อนโต๊ะ)
• แป้งเค้ก 100 กรัม (14 ช้อนโต๊ะ)
• ผงฟู 1 ช้อนชา
ส่วนผสม ไข่ขาว
• ไข่ขาว 3 ฟอง
• น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 70 กรัม (5 ช้อนโต๊ะ)
ส่วนผสม ซอสส้ม (หน้านิ่มส้ม)
• น้ำส้มเข้มข้น 135 กรัม (11 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำเปล่า 560 มิลลิลิตร
• ผงวุ้น 1/2 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีส้ม
• น้ำตาลทราย 135 กรัม (9 ช้อนโต๊ะ)
• แป้งกวนไส้ 45 กรัม (8 ช้อนโต๊ะ)
• เนยสดรสจืด 30 กรัม
ส่วนผสม สำหรับตกแต่ง
• วิปปิ้งครีม 50 กรัม
• สตรอว์เบอร์รี หรือท็อปปิ้งตามชอบ
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนส้มหน้านิ่ม
• นำไข่แดงกับน้ำตาลทรายใส่ลงชามผสม ตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นเติมนมสดรสจืด คนให้เข้ากัน
• เติมเกลือกับน้ำส้มเข้มข้น คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นเติมน้ำมัน คนให้เข้ากัน
• ร่อนแป้งและผงฟูลงไป หลังจากนั้นตะล่อมคนให้เข้ากัน หลังจากตะล่อมเข้ากันดีแล้วให้พักไว้
• เทไข่ขาวลงในโถตี ตีด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟองหยาบ
• หลังจากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไป ตีต่อด้วยความเร็วปานกลาง เมื่อขึ้นฟองหยาบให้ทยอยใส่น้ำตาลทรายจนหมด ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน
• ตักไข่ขาว 1 ส่วนใส่ลงในส่วนผสมไข่แดงที่พักไว้ หลังจากนั้นตะล่อมให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดีแล้วให้เทกลับลงไปในส่วนผสมไข่ขาวที่เหลือ
• หลังจากตะล่อมส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้เทลงพิมพ์ขนาด 2-3 ปอนด์
• เคาะพิมพ์ประมาณ 2 ครั้ง หลังจากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที (ขึ้นอยู่กับเตาของแต่ละบ้านค่ะ) หลังจากอบเสร็จพักให้เย็น นำออกจากพิมพ์แล้วตัดแบ่ง
• ทำซอสส้มโดยใส่น้ำส้มเข้มข้น น้ำเปล่า ผงวุ้น สีผสมอาหารสีส้ม และน้ำตาลทราย (ชิมรสตามชอบ) หลังจากนั้นใส่แป้งกวนไส้ คนให้เข้ากัน
• พอคนให้ละลายเข้ากันดีแล้ว นำขึ้นตั้งไฟปานกลางคนจนซอสข้นหนืด ปิดไฟ ใส่เนย คนให้เข้ากัน
• คนให้ซอสอุ่นสักครู่ หลังจากนั้นนำมาราดบนตัวเค้ก ถ้าต้องการให้ซอสอยู่ตัวเป็นรูปทรงสวยให้นำพลาสติกห่อเค้ก หรือถ้าไม่มีให้นำถุงขนมแข็ง ๆ มาคลุมรอบตัวเค้กค่ะ หลังจากนั้นก็ราดซอสได้ตามชอบ พอเสร็จแล้วให้นำเข้าตู้เย็นประมาณ 4-5 ชั่วโมง หรือข้ามคืนจนซอสเซตตัว
• หลังจากซอสเซตตัวดีแล้วให้แกะพลาสติกออก บีบวิปปิ้งครีมแล้วตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด หรือตกแต่งตามชอบ ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อยชื่นใจค่ะ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
7. เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม
และแล้วก็มาถึงสูตรเค้กก้อนที่ใฝ่ฝันว่าอยากทำมานานแสนนาน นั่นคือเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม สูตรจาก คุณ CRAZALYNA สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรทำง่ายด้วยหม้อหุงข้าว ใส่กล่องสวย ๆ มอบเป็นเค้กวันเกิดกัน
ส่วนผสม เมอแรงค์ไข่ขาว
• ไข่ขาว 2 ฟอง
• ครีมออฟทาร์ทาร์ (Cream of Tartar) 1/3 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลต
• แป้งเค้ก 1 ถ้วย (ตักออก 2 ช้อนโต๊ะ)
• ผงฟู 1/3 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/3 ช้อนชา
• ผงโกโก้ 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทรายป่น 3/4 ถ้วย (ตักออก 1 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำเปล่า 70 มิลลิลิตร
• นมข้นจืดหรือนมสดพร่องมันเนย 7 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
• น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ
• ไข่แดง 2 ฟอง (ถ้าเป็นไข่ไก่ฟองเล็กใช้ 3 ฟอง)
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสม ช็อกโกแลตฟัดจ์ (หน้านิ่ม)
• ผงวุ้น 1 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
• นมข้นจืด 200 มิลลิลิตร + 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• ผงโกโก้ 7 ช้อนโต๊ะ
• แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนชา
• นมข้นจืด 11 ช้อนโต๊ะ
• เนยสด 75 กรัม
วิธีทำเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มหม้อหุงข้าว
1. ทำเมอแรงค์ไข่ขาว โดยใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงในไข่ขาวแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น ส่วนน้ำตาลทรายเตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนการตีไข่ขาว
2. ทำเค้กช็อกโกแลต โดยร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือป่น ผงโกโก้ และน้ำตาลทรายป่นเข้าด้วยกัน ประมาณ 2 รอบ แล้วทำหลุมตรงกลางแป้ง
3. ตีผสมน้ำเปล่ากับนมข้นจืด น้ำมะนาว น้ำมันพืช ไข่แดง และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน เทส่วนผสมของเหลวลงในหลุมแป้งแล้วคนผสมให้เข้ากันเร็ว ๆ
4. นำไข่ขาวที่ผสมกับครีมออฟทาร์ทาร์ออกจากตู้เย็น จากนั้นตีด้วยความเร็วสูงจนเป็นฟอง ใส่น้ำตาลทรายที่ตวงไว้ลงไป
5. ตีต่อด้วยความเร็วสูงให้ขึ้นฟูจนได้ยอดอ่อน (ในสูตรใช้ตะกร้อ) จากนั้นก็นำใส่ผสมกับแป้งเค้กแล้วค่อย ๆ คนผสมจนเข้ากัน
6. นำกระดาษไขปูรอบหม้อหุงข้าวไว้ แล้วเทส่วนผสมใส่ลงในหม้อหุงข้าว กดปุ่ม "อบเค้ก" ใช้เวลาอบประมาณ 1 ชั่วโมง (ในสูตรอบประมาณ 75 นาที และเช็กความสุกด้วยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มไปที่เนื้อเค้ก ถ้าไม่มีของเหลวติดมาที่ไม้แสดงว่าสุกแล้ว) เมื่ออบเสร็จแล้วให้คว่ำออกจากหม้อหุงข้าว พักทิ้งไว้จนเย็น
7. พอเค้กเย็น ใช้ด้ายเย็บผ้าแบ่งเค้ก (หรือใช้มีดฟันเลื่อย) ใช้พลาสติกพันรอบเค้กชั้นล่าง
8. ทำช็อกโกแลตฟัดจ์ (หน้านิ่ม) โดยนำผงวุ้น น้ำเปล่า นมข้นจืด น้ำตาลทราย และผงโกโก้ใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลางคนผสมเรื่อย ๆ จนเดือด ใส่แป้งข้าวโพดและนมข้นจืดลงไปคนผสมเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้น ปิดไฟ ใส่เนยสดคนผสมต่อจนส่วนผสมเริ่มอุ่น นำไปราดลงบนเค้ก วางเค้กทิ้งไว้ให้เซตตัว นำเข้าตู้เย็น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 วิธีทำเค้กหม้อหุงข้าว สูตรขนมทำง่าย ขายเตาอบทิ้งเลย
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
8. เค้กกล้วยหอม
ส่วนผสม เค้กกล้วยหอม
• ไข่ขาว 4 ฟอง
• น้ำตาลทรายป่น 100 กรัม
• ไข่แดง 4 ฟอง
• กล้วยสุกบด 2 ลูก
• เนยละลาย 100 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
วิธีทำเค้กกล้วยหอม
1. ใช้เครื่องตีมือถือตีผสมไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน ระหว่างตีผสมก็แบ่งน้ำตาลใส่ลงไปประมาณ 3 ครั้ง
2. ใส่ไข่แดงลงไปตีผสมให้เข้ากัน ตามด้วยกล้วยบดตีจนเนียน ใส่เนยละลายและกลิ่นวานิลลาลงไปตีผสมให้เข้ากัน
3. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือป่นลงไปคนผสมด้วยพายให้เข้ากัน
4. เทส่วนผสมแป้งลงไปในหม้อหุงข้าวรอจนสุก เปิดฝาหม้อขึ้นมา ใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มลงไปในเนื้อเค้ก ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดไม้ขึ้นมาก็แสดงว่าสุกแล้ว
5. คว่ำเนื้อเค้กออกจากหม้อ หั่นเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 วิธีทำเค้กหม้อหุงข้าว สูตรขนมทำง่าย ขายเตาอบทิ้งเลย
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
9. ชีสเค้กเรดเวลเวท
ส่วนผสม ชีสเค้ก
• ครีมชีส 1 ถ้วย
• น้ำตาลทรายป่น 2/3 ถ้วย
• เกลือป่น
• ไข่ไก่ 2 ฟองใหญ่
• ซาวร์ครีม 1/3 ถ้วย
• เฮฟวี่วิปปิ้งครีม 1/3 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสม เนื้อเค้กเรดเวลเวท
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2+1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทรายป่น 1+1/2 ถ้วย
• ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ
• เบกกิ้งโซดา 1+1/2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ไข่ไก่ 2 ฟองใหญ่
• น้ำมันพืช หรือน้ำมันดอกคาโนลา 1+1/2 ถ้วย
• บัตเตอร์มิลค์ 1 ถ้วย
• สีผสมอาหารสีแดง 1/4 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
• น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา
ส่วนผสม ครีมชีสฟรอสติ้ง
• น้ำตาลทรายป่น 2+1/2 ถ้วย
• ครีมชีส 1 ถ้วย
• เนยจืด 1/2 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำชีสเค้ก
1. ตีครีมชีสจนเนื้อเนียน ใส่น้ำตาลทรายป่นและเกลือป่นลงไปตีประมาณ 2 นาที
2. ตอกไข่ไก่ลงไปตีให้เข้ากัน ใส่ซาวร์ครีม เฮฟวี่วิปปิ้งครีม และกลิ่นวานิลลาลงไปตีให้เข้ากันจนเนียน เสร็จแล้วเทลงในภาชนะทนความร้อน
3. เทน้ำร้อนลงไปในถาดความสูงประมาณ 1 นิ้ว วางอ่างผสมชีสเค้กลงไป นำเข้าเตาอบประมาณ 45 นาที หรือจนเนื้อข้นเหนียว
4. พอครบเวลานำชีสเค้กออกมาพักไว้จนเย็นบนตะแกรงประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำเข้าแช่เย็นจนเซตตัว หรือข้ามคืน
วิธีทำเนื้อเค้กเรดเวลเวท
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ฉีดสเปรย์น้ำมันมะกอกลงในพิมพ์เค้กขนาด 9 นิ้ว จำนวน 2 พิมพ์ เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทรายป่น ผงโกโก้ เบกกิ้งโซดา และเกลือป่นให้เข้ากัน
3. ใส่ไข่ไก่ น้ำมันพืช บัตเตอร์มิลค์ สีผสมอาหารสีแดง กลิ่นวานิลลา และน้ำส้มสายชูลงไปตีให้เข้ากัน ใช้ความเร็วต่ำประมาณ 1 นาทีจนเนื้อเนียน จากนั้นตีต่อด้วยความเร็วสูงประมาณ 2 นาที
4. เทส่วนผสมเค้กลงในพิมพ์ทั้ง 2 พิมพ์ นำเข้าเตาอบประมาณ 30-35 นาที หรือจนสุก นำออกมาพักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที จากนั้นค่อย ๆ ใช้มีดแซะเนื้อเค้กออกมาวางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
วิธีทำครีมชีสฟรอสติ้ง
• ใช้เครื่องตีมือถือความเร็วปานกลางค่อนข้างสูงตีผสมน้ำตาลทรายป่น ครีมชีส เนยจืด และกลิ่นวานิลลาจนข้นเป็นครีม เตรียมไว้
วิธีประกอบร่างเค้กเรดเวลเวท
1. นำเค้กเรดเวลเวทชั้นล่างมาวางเตรียมไว้ แบ่งชีสเค้กลงไปปาดตามชอบ เสร็จแล้ววางเค้กเรดเวลเวทอีกชิ้นลงไปประกบด้านบน ปาดชีสเค้กลงไปจนหมด ปาดจนเรียบสวย
2. แบ่งครีมชีสฟรอสติ้งปาดลงไปรอบตัวเค้ก นำเข้าแช่เย็นประมาณ 30 นาที หรือจนเซตตัว นำเค้กออกมาปาดครีมชีสฟรอสติ้งส่วนที่เหลือ ปาดให้สวยงาม ตกแต่งด้วยไวท์ช็อกโกแลตขูด นำเข้าแช่เย็นจนเซตตัว พร้อมเสิร์ฟ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
10. เค้กแตงโม
ส่วนผสม แป้งเค้กแตงโม
• แป้งเค้กสำเร็จรูป 1 กล่อง
• ผงวุ้นสำเร็จรูปกลิ่นแตงโม 1 กล่อง (แบ่งไว้สำหรับทำครีมชีสแตงโม 2 ช้อนชา)
• เนื้อแตงโมบดละเอียด 1/2 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
• น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• ช็อกโกแลตชิพเม็ดเล็ก 1/2 ถ้วย (นำไปเขย่าในถุงซิปล็อกกับแป้งเค้กเล็กน้อยเพื่อให้แป้งเคลือบทั่วช็อกโกแลต)
• สีผสมอาหารสีแดง
ส่วนผสม ครีมชีสแตงโม
• ครีมชีส 8 ออนซ์ (วางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องจนนิ่ม)
• เนยสดชนิดจืด 1/2 ถ้วย (วางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องจนนิ่ม)
• น้ำตาลไอซิ่ง 5 ถ้วย
• เนื้อแตงโมบดละเอียด 2 ช้อนชา
• ผงวุ้นสำเร็จรูปกลิ่นแตงโม 2 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีแดงและสีเขียว
วิธีทำเค้กแตงโม
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
2. รองกระดาษไขลงในพิมพ์ ฉีดสเปรย์กันติดให้ทั่วพิมพ์ เตรียมไว้
3. วิธีทำแป้งเค้กแตงโม ใส่แป้งเค้กกับผงวุ้นลงในอ่างผสม ตีผสมเข้าด้วยกัน เติมน้ำ และน้ำมันพืชลงไป ตีผสมด้วยความเร็วปานกลาง เติมไข่ไก่ ตีผสมพอเข้ากัน ใส่เนื้อแตงโมบดละเอียดลงไป ตีผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว เติมสีผสมอาหารสีแดงลงไปเล็กน้อย (ให้เนื้อเค้กมีสีแดงตามชอบ) เติมช็อกโกแลตชิพที่คลุกแป้งแล้วลงไป ใช้พายยางคนผสมให้กระจายทั่วแป้ง จากนั้นเทลงพิมพ์กลม
4. นำเข้าอบประมาณ 30-35 นาที จากนั้นนำออกจากพิมพ์ สไลซ์เค้กเป็น 2 แผ่น เตรียมไว้
5. ตีผสมครีมชีสกับเนยเข้าด้วยกัน เติมเนื้อแตงโม น้ำตาลไอซิ่ง และผงวุ้น ตีผสมให้เข้ากันจนเนียน จากนั้นแบ่งครีมชีสเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกปริมาณ 1/3 ถ้วย ผสมกับสีผสมอาหารเขียว และส่วนที่ 2 ปริมาณ 2/3 ถ้วย ผสมสีผสมอาหารสีแดง (ให้มีสีที่ใกล้เคียงกับสีเค้ก) คนผสมให้เข้ากัน
6. ปาดครีมชีสสีชมพูลงบนเค้กแผ่นที่ 1 วางทับด้วยเค้กอีกแผ่น ปาดครีมชีสสีชมพูทับด้านบนอีกครั้ง จากนั้นปาดครีมชีสสีเขียวด้านข้างให้ทั่ว โรยช็อกโกแลตชิพด้านบนให้คล้ายเม็ดแตงโม นำเข้าแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
11. ซูเฟล่ชีสเค้ก
มาต่อกันที่เค้กปอนด์สไตล์ญี่ปุ่นเรียบง่ายแต่หรูหรา นี่ไงซูเฟล่ชีสเค้ก สูตรจาก คุณ AdrenalineRush สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อเค้กนุ่มฟูเบา มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ใครได้ลองต้องติดใจ
ส่วนผสม ซูเฟล่ชีสเค้ก (สูตรสำหรับเค้ก 2 ปอนด์ ปรับสูตรนิดหน่อย)
• แป้งเค้ก 50 กรัม
• แป้งข้าวโพด 15 กรัม
• นมสด 80 กรัม
• ครีมชีส 140 กรัม
• เนยสด 40 กรัม
• ไข่แดง 75 กรัม
• ไข่ขาว 180 กรัม
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 120 กรัม
• เนยขาวสำหรับทาพิมพ์
วิธีทำซูเฟล่ชีสเค้ก
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่างอย่างเดียว เตรียมไว้ และทาไขมันที่พิมพ์ รองกระดาษไขที่ก้นพิมพ์และรอบ ๆ พิมพ์
• 2. ร่อนแป้งเค้กและแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน 1 ครั้ง เตรียมไว้
• 3. นำนมสดใส่ถ้วย นำเข้าไมโครเวฟ 1.30 นาที (หรือนำไปต้มจนเดือด) จากนั้นใส่ครีมชีสและเนยสดลงไป คนผสมแรง ๆ จนส่วนผสมเข้ากัน ใส่ไข่แดงและน้ำมะนาวลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันแล้วนำไปกรองผ่านกระชอน 2 รอบ เพื่อให้ได้ส่วนผสมเนื้อเนียน
• 4. ใส่ส่วนผสมแป้งลงไป ใช้ตะกร้อมือตะล่อมหรือคนจนส่วนผสมเข้ากัน พักไว้
• 5. ตีไข่ขาวจนฟองอากาศเนียนละเอียด ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน แบ่งส่วนผสมไข่ขาวลงไปผสมกับส่วนผสมไข่แดง 3 ส่วน แต่ละครั้งตะล่อมให้เข้ากัน กระแทกอ่างผสมเบา ๆ 2-3 ครั้งให้ฟองอากาศลอยขึ้นมา
• 6. ค่อย ๆ เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบแบบเทน้ำร้อนใส่ลงในถาด (Water Bath) อบนานประมาณ 1–1.15 ชั่วโมง ถ้าอบปอนด์เดียวประมาณ 45-50 นาที ก่อนครบเวลาประมาณ 5 นาที เปิดไฟบนด้วยถ้าชอบให้หน้าด้านบนมีสีเข้ม นำขนมออกจากเตาแล้วนำออกจากพิมพ์ทันที
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 วิธีทำเค้กวันเกิด เนรมิตของขวัญแทนใจ ทำง่ายสูตรเป๊ะ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
12. เค้กชาเขียว
ผงชาเขียวที่เหลือ ๆ แบ่งมาทำเค้กก้อนชาเขียวดีไหม สูตรจาก เฟซบุ๊ก Baking Glory เนื้อเค้กสีเขียวสบายตา กัดไปได้กลิ่นชาเขียวหอม ๆ เสิร์ฟกับเครื่องดื่มชาเขียวสักแก้วก็เข้าท่า
ส่วนผสม ของแห้ง
• แป้งเค้ก (ที่ร่อนแล้ว) 1/2 ถ้วย
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) 1/4 ถ้วย
ส่วนผสม ไข่แดง
• ไข่แดง 2 ฟอง
• น้ำมันเมล็ดชา 2 ช้อนโต๊ะ (หรือใช้น้ำมันพืชแทนได้)
• น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไข่ขาว
• ไข่ขาว 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 1/3 ถ้วย
• สีผสมอาหารสีเขียว เล็กน้อย (เพื่อเพิ่มสีสัน แต่ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไร)
• ครีมสด (สำหรับแต่งหน้าเค้ก) สามารถเข้าไปดูเคล็ดลับวิธีตีครีมสดได้ที่ เฟซบุ๊ก Baking Glory
วิธีทำเค้กชาเขียว
• 1. แบ่งส่วนผสมเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของแห้ง ส่วนไข่แดง และส่วนไข่ขาว
• 2. ร่อนแป้งเค้ก (ที่ร่อนแล้ว) กับผงฟู ผงชาเขียว และเกลือป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ลงไป เตรียมไว้
• 3. ผสมไข่แดง น้ำมันเมล็ดชา และน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
• 4. ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) เข้าด้วยกันจนตั้งยอดแข็ง เตรียมไว้
• 5. นำส่วนผสมไข่แดง ในข้อ 3 ผสมกับแป้งที่ร่อนไว้ ในข้อ 2 คนผสมให้เข้ากันจนเนียน และชาเขียวไม่เป็นเม็ด ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปผสมกับไข่ขาวที่ตีไว้ ในข้อ 4 คนผสมพอเข้ากัน
• 6. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นานประมาณ 30 นาที (ถ้าใช้พิมพ์ถ้วยก็ประมาณ 20 นาที ลองเช็กความสุกด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าเนื้อไม่ติดไม้ก็โอเค อย่าอบนานไปเพราะเนื้อจะแห้ง) นำเค้กที่อบเสร็จแล้วมาผ่าครึ่งแล้วทาด้วยวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ตามชอบ ก่อนเสิร์ฟโรยผงชาเขียวด้านบนเพิ่มความสวยงาม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 วิธีทำเค้กวันเกิด เนรมิตของขวัญแทนใจ ทำง่ายสูตรเป๊ะ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
13. เค้กแอปเปิล
อะไรนะ ? แอปเปิลผลไม้ที่คุ้นเคยเอามาทำเค้กก้อนได้ด้วย เอาล่ะ… ใครอยากลองทำเป็นเค้กวันเกิดจัดเลย พบกับเค้กแอปเปิล สูตรจาก คุณ 13 Destinations สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแอปเปิลสอดไส้อยู่ตรงกลางเนื้อเค้ก คนรับเห็นแล้วเลิฟเลย
ส่วนผสม เค้กแอปเปิล
• แอปเปิลเขียว 3 ลูก
• ผงอบเชย (ซินนามอน) 2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผสมแอปเปิล)
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• น้ำตาลทราย 225 กรัม (สำหรับผสมแป้ง)
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 240 กรัม
• ผงฟู 2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันพืช 180 กรัม
• พิมพ์วงกลมขนาดกลาง (รองกระดาษไข)
วิธีทำเค้กแอปเปิล
• 1. ปอกเปลือกแอปเปิลออกแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในอ่างผสม จากนั้นใส่ผงซินนามอนและน้ำตาลทรายลงไป เคล้าผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
• 2. ตีไข่ไก่พอแตกเป็นฟอง ค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายลงไปตีให้เข้ากันจนขึ้นฟูและเนียน
• 3. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงฟู และเกลือป่นให้เข้ากัน จากนั้นร่อนผ่านตะแกรงใส่ลงในส่วนผสมไข่ไก่ที่ตีไว้ เติมน้ำมันพืชลงไป ใช้ไม้พายค่อย ๆ คนผสมเข้าด้วยกันเบา ๆ จนแป้งไม่เป็นเม็ดและเนื้อเนียน
• 4. เทส่วนผสมแป้งเค้กลงในพิมพ์ประมาณ 1/2 พิมพ์ จากนั้นวางเรียงแอปเปิลซินนามอนทั้งหมดทับบนแป้ง สุดท้ายเทส่วนผสมแป้งที่เหลือลงไปจนหมด เกลี่ยหน้าเค้กให้เรียบ
• 5. โรยผงซินนามอนและน้ำตาลทรายด้านบนให้ทั่ว (เพื่อให้สีสวย) แล้วเคาะพิมพ์ 2 ครั้ง จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส นานประมาณ 40-45 นาที นำออกจาเตา พักทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำออกจากพิมพ์ ตัดเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กแอปเปิล สูตรทำง่ายได้เค้กหอมอร่อยเนื้อฟูนุ่ม
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
14. แอปเปิลครัมเบิ้ลเค้ก
วันเกิดปีที่แล้วเพิ่งทำเค้กแอปเปิลให้คนพิเศษ ปีนี้ขอเปลี่ยนเป็นแอปเปิลครัมเบิ้ลเค้ก สูตรจาก คุณ AdrenalineRush สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อเค้กนุ่มสอดไส้แอปเปิล ด้านบนกรุบกรอบ ราดซอสวานิลลา ทำง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เครื่อง
ส่วนผสม ไส้แอปเปิล
• แอปเปิลเขียว (Grand Smith Apples) 3 ลูก
• น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
• อบเชยป่น 1 ช้อนชา
• น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
หมายเหตุ : ถ้าใช้ผลไม้ชนิดอื่นให้เปลี่ยนน้ำตาลทรายแดงเป็นน้ำตาลทรายและไม่ต้องใส่ผงอบเชย
ส่วนผสม ครัมเบิ้ล
• น้ำตาลทราย 50 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 80 กรัม
• อัลมอนด์ป่น 30 กรัม
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• เนยสดเย็น 60 กรัม
ส่วนผสม เค้ก
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 135 กรัม
• ผงฟู 3/4 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 85 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• เนยสด 87 กรัม (วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องจนนิ่ม)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
ส่วนผสม ซอสวานิลลา
• ไข่แดง 2 ฟอง
• ฝักวานิลลา 1/2-1 ฝัก
• น้ำตาลไอซิ่ง 3-4 ช้อนโต๊ะ
• วิปปิ้งครีม 200 มิลลิลิตร
วิธีทำแอปเปิลครัมเบิ้ลเค้ก
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส และเตรียมพิมพ์ (ในสูตรรอบแรกใช้พิมพ์ถอดก้นได้ขนาด 7 นิ้ว แต่เล็กไปหน่อย ควรใช้พิมพ์ขนาด 8 นิ้วกำลังดี ถ้าไม่มีใช้พิมพ์สี่เหลี่ยมก็ได้ ถ้าไม่มีแบบถอดก้นได้ก็ไม่เป็นไร)
2. ทำไส้แอปเปิล โดยปอกเปลือกแอปเปิลแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในอ่างผสม ใส่น้ำตาลทรายแดง อบเชยป่น และน้ำมะนาวลงไป ผสมให้เข้ากัน พักไว้
3. ทำครัมเบิ้ล โดยผสมน้ำตาลทราย แป้งสาลีอเนกประสงค์ อัลมอนด์ป่น ผงฟู และเนยสดเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปแช่เย็นก่อนนำมาใช้
4. ทำเค้ก โดยผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงฟู น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา เนยสด และไข่ไก่ให้เข้ากัน นำแป้งไปกรุลงในพิมพ์ ตักไส้แอปเปิลใส่ แล้วโรยครัมเบิล นำไปอบประมาณ 25-30 นาที
5. ทำซอสวานิลลา โดยตีไข่แดงกับน้ำตาลไอซิ่ง และวานิลลาจนขึ้นฟู พักไว้ จากนั้นตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอดอ่อน นำมาผสมกับส่วนผสมไข่แดง นำไปแช่เย็น เตรียมไว้
6. นำขนมออกจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ตัดเป็นชิ้น ราดด้วยซอสวานิลลา พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แอปเปิลครัมเบิ้ลเค้ก กรุบกรอบ ทำง่ายไม่ต้องใช้เครื่อง
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
15. สตรอว์เบอร์รีครัมเบิ้ลชีสเค้ก
อยากทำชีสเค้กเป็นของขวัญวันเกิดก็ต้องพิเศษกันหน่อย ขอยกตัวอย่างสตรอว์เบอร์รีครัมเบิ้ลชีสเค้ก (Strawberry Crumble Cheesecake) สูตรจาก คุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เค้กกรุบกรอบสอดไส้สตรอว์เบอร์รี ตัดเลี่ยนด้วยครีมชีส แช่เย็น ๆ ก่อนมอบให้คนพิเศษกันเลย
ส่วนผสม แป้งพาย
• ขนมปังกรอบ 150 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ขาว 1 ฟอง
• เนยสดชนิดเค็มละลาย 3 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ครัมเบิ้ล
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
• ผงวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 40 กรัม
• เนยสดชนิดจืด 60 กรัม
ส่วนผสม ครัมชีส
• ครีมชีส (พักไว้ให้คลายความเย็น) 450 กรัม
• ผงวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
ส่วนผสม ไส้สตรอว์เบอร์รีกวน
• สตรอว์เบอร์รีกวน 1 ถ้วยตวง
หมายเหตุ : คุณเนินน้ำไม่ได้ทำเต็มสูตรข้างบน เพราะครีมชีสมีไม่พอ
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีครัมเบิ้ลชีสเค้ก
1. ทำแป้งพาย โดยบดขนมปังกรอบพอละเอียด ใส่น้ำตาลไอซิ่ง ไข่ขาว และเนยลงไป เคล้าให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ทำครัมเบิ้ล โดยร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงวานิลลาเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลทรายคนผสมให้เข้ากัน ใส่เนยสดลงไป ใช้เบรนเดอร์หรือส้อมสับส่วนผสมให้เข้ากันจนแป้งมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ นำเข้าแช่ในตู้เย็น เตรียมไว้
3. ทำครีมชีส โดยตีครีมชีสด้วยความเร็วต่ำจนครีมชีสอ่อนตัว เพิ่มความเร็วเป็นปานกลาง ใส่น้ำตาลไอซิ่งและผงวานิลลาตีพอเข้ากัน เติมไข่ไก่ทีละฟองจนหมด ตีจนส่วนผสมเข้ากันจนเป็นเนื้อเนียน
4. กรุแป้งพายลงในพิมพ์เค้กกลมขนาด 3 ปอนด์แบบเจาะก้นที่ทาด้วยเนยขาวจนทั่ว ใส่สตรอว์เบอร์รีกวนลงบนแป้งพาย ปาดให้เรียบเสมอกัน ปาดครีมชีสลงไป โรยหน้าด้วยครัมเบิ้ลจนทั่ว
5. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 50-60 นาที หรือจนสุก นำออกจากเตาอบพักให้เย็นสนิท แซะออกจากพิมพ์ แล้วนำเข้าแช่เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ขนมเซตตัว ตัดเป็นชิ้นจัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Strawberry Crumble Cheesecake กรอบอร่อย
ขอไล่เลียงลำดับวันคล้ายวันเกิดของคนในบ้านก่อนนะคะ จะได้หมุนเวียนทำเค้กปอนด์ทุกสูตรเลย แต่คิดไปคิดมาคงรอทำเป็นเค้กวันเกิดไม่ไหว ขอทำกินเองก่อนแล้วกันเนอะ