ขิงทำอะไรได้บ้าง ? นี่ไง ! ชวนทำเมนูขิง จัดเต็มทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม มีประโยชน์จากสมุนไพรและช่วยลดความอ้วน ตามมาส่องความเผ็ดกัน
1. หมูผัดพริกขิง
เมนูขิงอันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึงนั่นคือ หมูผัดพริกขิง สูตรจาก คุณน้องซาแมนต้า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับหมูผัดกับขิง หอมใหญ่ และพริกสด ใครจะเปลี่ยนเป็นเนื้อไก่หรือเนื้อปลาก็ตามชอบเลยจ้า
ส่วนผสม หมูผัดพริกขิง
• เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ
• พริกขี้หนูสด ผ่าครึ่ง
• หอมใหญ่ หั่นบาง
• ขิง หั่นเป็นชิ้นยาวเล็ก ๆ
• เครื่องปรุง มีน้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ และผงปรุงรสนิดหน่อย
• น้ำมันพืช สำหรับผัด
• กระเทียมทุบและสับหยาบ
วิธีทำหมูผัดพริกขิง
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอกระทะร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม
2. ใส่เนื้อหมูที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากันจนกระทั่งเนื้อหมูสุก
3. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ และผัดให้เข้ากัน
4. ใส่ขิง หอมหัวใหญ่ และพริกสด ตามลงไปผัดให้เข้ากันเพียง 1 นาที ตักใส่จาน เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ
เคล็ดลับ : สาเหตุที่ใส่ขิง หอมหัวใหญ่ และพริกสดทีหลังและใช้เวลาผัดแค่ 1 นาทีนั้นเพื่อไม่ให้ขิง หอมใหญ่ และพริกสดสุกเกินไป หมูผัดขิงที่ได้ก็จะดูดีและรสชาติอร่อยค่ะ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูผัดพริกขิง อาหารไทยเผ็ดร้อนหอมอร่อย
+++++++++++++++++++
2. หมูผัดขิง
ถ้าเบื่อหมูผัดขิงสไตล์ไทยก็มาทำหมูผัดขิงสไตล์ญี่ปุ่น สูตรจาก อาหารง่ายๆ สไตล์ Rita จับขิงและเครื่องปรุงหมักกับเนื้อหมู เสร็จแล้วเอาไปผัดกับหอมใหญ่ จัดใส่กล่องพกไปกินเที่ยงนี้เลย
ส่วนผสม หมูผัดขิง
• หมูสไลซ์ 250 กรัม
• ขิงฝน 30 กรัม
• มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
• สาเก 1 ช้อนโต๊ะ
• โชยุ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
• แป้งมันสำปะหลัง 1+1/2 ช้อนชา
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมหัวใหญ่ 1/2 - 1 หัว
• ผักสดตามชอบ เช่น กะหล่ำปลี แครอต บรอกโคลี
วิธีทำหมูผัดขิง
1. ผสมขิงฝน มิริน สาเก โชยุ น้ำตาลทราย และน้ำมันงาให้เข้ากัน แล้วนำเนื้อหมูสไลซ์ลงไปหมักประมาณ 15 นาที
2. ก่อนผัดให้ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไปคลุกให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำหอมหัวใหญ่ลงไปผัดจนสุกใส
4. จากนั้นก็ใส่หมูที่หมักลงไปผัดไฟกลาง ผัดเร็ว ๆ ระวังไหม้ พอหมูสุกก็เป็นอันเสร็จ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูผัดขิงแบบญี่ปุ่น สูตรเบนโตะเนื้อนุ่มชุ่มลิ้นฟินเว่อร์
+++++++++++++++++++
3. ซุปขิง
มื้อเช้ามาทำอาหารเบา ๆ ท้องอย่างซุปขิง สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine เนื้อซุปเนียนละเอียด โปะอาหารทะเลลวกลงไป แค่ถ้วยเดียวก็อิ่มท้อง แถมยังขับเหงื่อและช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้นอีก
ส่วนผสม ซุปขิง
• ขิงอ่อนปอกเปลือกซอยบาง 3 ถ้วย
• หอมหัวใหญ่สับ 1/2 ต้น
• น้ำมันมะกอกสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
• มันฝรั่งหั่นเต๋า 3 ถ้วย
• ต้นหอมฝรั่งซอย 1 ถ้วย
• พริกไทยดำป่นเล็กน้อย
• ไวน์ขาว 1/4 ถ้วย
• วิปปิ้งครีมสด 1/2 ถ้วย
• น้ำสต๊อกไก่ 6 ถ้วย
• เกลือ 1+1/2 ช้อนชา
• อาหารทะเล ได้แก่ หอยเชลล์สด กุ้งทะเลสด และเนื้อปลาทะเลสด หั่นเป็นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย
• ผักชีสำหรับตกแต่งเล็กน้อย
วิธีทำซุปขิง
1. อุ่นน้ำสต๊อกไก่ให้เดือดแล้วใส่อาหารทะเลลงลวกจนสุก ตักขึ้นพักไว้
2. ผัดหอมใหญ่สับกับน้ำมันมะกอกด้วยไฟอ่อนจนสุกใส ใส่ขิง ต้นหอม พริกไทย และมันฝรั่งลงผัดสักครู่ เติมไวน์ขาว เร่งไฟขึ้น ผัดต่ออีกประมาณ 1 นาที เติมน้ำสต๊อกที่ได้จากข้อ 1 ลงไป เติมเกลือ ลดไฟลงเป็นไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ต้มจนมันฝรั่งนิ่ม ปิดไฟ พักให้เย็น
3. ใส่ลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนได้ซุปเนื้อละเอียดเนียนดี เทกรองผ่านกระชอน ใช้ทัพพียีส่วนผสมซุปให้ผ่านกระชอนลงไปมากที่สุด เทซุปที่ได้กลับใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง ต้มให้ร้อนอีกครั้ง ปิดไฟ เติมครีมสด คนพอเข้ากัน ตักซุปใส่ถ้วย แล้วใส่เครื่องทะเลที่ลวกไว้ลงไป โรยด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Ginger Soup ล้างพิษด้วยซุปขิงเผ็ดร้อน
+++++++++++++++++++
4. ขิงดอง
ใครไม่ชอบฤทธิ์เผ็ดร้อนของขิงแก่ก็เปลี่ยนมาทำขิงอ่อนก็ได้ค่ะ ขอนำเสนอขิงดอง มาพร้อมวิธีทำให้ขิงเป็นสีชมพู กินแกล้มกับไข่เยี่ยวม้าหรือเป็ดย่างอร่อยเหาะ
ส่วนผสม ขิงดอง
• ขิงอ่อน 1 กิโลกรัม
• น้ำเปล่าผสมเกลือ (สำหรับแช่ขิงและล้างความเผ็ดออกจากขิง)
• น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 400 กรัม (เพิ่ม-ลดได้ตามชอบ)
• เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
• มะนาว 1 ลูก
วิธีทำขิงดอง
1. ปอกเปลือกขิงออกแล้วซอยเป็นแว่นบาง ๆ นำไปแช่ในน้ำเกลือ พักทิ้งไว้ (เคล็ดลับคือ ถ้าเป็นขิงแก่ต้องคั้นและบีบกับน้ำเกลือหลาย ๆ ครั้งจนขิงหายเผ็ด)
2. เคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่าเข้าด้วยกันจนเดือดและน้ำตาลทรายละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนอุ่น
3. บีบน้ำเกลือจากขิงออกให้หมดแล้วใส่ลงไปในส่วนผสมน้ำดองขิง คนให้เข้ากัน บีบน้ำมะนาวลงไป 1 ลูก (ขั้นตอนนี้ขิงจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ๆ) คนให้เข้ากัน เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด (ถ้าเป็นขิงอ่อนสามารถกินได้เลยทันที หรือจะแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเพื่อความอร่อยมากยิ่งขึ้น)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขิงดองสีชมพู เคล็ดลับเด็ดหวานอร่อยได้สีสวยแบบธรรมชาติ
+++++++++++++++++++
5. แคบหมูผัดพริกขิง
ใครไม่กลัวอ้วนอยากให้ลองทำแคบหมูผัดพริกขิง สูตรจาก คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับขิงโขลกกับน้ำพริกแกง ผัดกับแคบหมูจนเข้ากัน ใครจะเพิ่มถั่วฝักยาวลงไปผัดด้วยก็จัดไป อ้อ... ถ้าโรยไข่เค็มจะยิ่งฟินนะบอกเลย
ส่วนผสม แคบหมูผัดพริกขิง
• น้ำพริกแกงเผ็ด
• ขิง
• น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
• น้ำตาลปี๊บ
• แคบหมู (เลือกแบบที่มีมันติด ถ้าเป็นชิ้นใหญ่ก็เอามาหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ)
• ปลาแห้งป่น
• น้ำปลา
• ใบมะกรูดซอยฝอย
วิธีทำแคบหมูผัดพริกขิง
1. โขลกน้ำพริกแกงกับขิงเข้าด้วยกัน ใส่ลงในกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟอ่อน ๆ ผัดให้พอหอม
2. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ผัดจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดีกับน้ำพริกแกง ใส่แคบหมูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ใส่ปลาแห้งป่นลงไป เติมน้ำปลาแล้วผัดผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย โรยใบมะกรูดซอยฝอย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แคบหมูผัดพริกขิง เมนูอร่อยเอาใจคนเมืองที่ไม่กลัวอ้วน
+++++++++++++++++++
6. กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม
เริ่มเบื่อแคบหมูผัดพริกขิงเพราะทำบ่อยมาก ขอเปลี่ยนเป็นกากหมูผัดพริกขิง สูตรจาก คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ทอดมันหมูจนกรอบเสร็จแล้วจับผัดกับน้ำพริกขิงและไข่เค็ม ขอข้าวสวยสักจาน
ส่วนผสม กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม
• มันหมูหั่นชิ้นเล็ก 1.3 กิโลกรัม
• น้ำสะอาด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำพริกแกงเผ็ด
• ขิงซอยโขลกละเอียด (5 บาท)
• ปลาแห้งป่น
• ไข่เค็มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ฟอง
• ใบมะกรูดหั่นฝอย 6 ใบ
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำปลาอย่างดี
วิธีทำกากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม
1. ตั้งกระทะ ใส่มันหมูลงไป เติมน้ำสะอาดพอให้น้ำท่วมมันหมู
2. เปิดไฟแรงพอเดือด ใส่เกลือป่นลงไป แล้วเบาไฟลงอ่อน ๆ เพื่อรีดน้ำมันหมูออกมา หมั่นคนไม่ให้ติดกัน ขั้นตอนนี้น้ำก็จะระเหยออกไป ส่วนน้ำมันหมูก็จะเริ่มเข้ามา หมั่นคนต่อไปเรื่อย ๆ ทอดจนมันหมูเหลือง ตักขึ้นกรองเอาน้ำมันออกให้หมด คนอย่าให้มันหมูติดกัน ตักใส่ถ้วย พักไว้
3. โขลกขิงให้ละเอียด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปโขลกให้เข้ากัน เตรียมไว้
4. ละลายน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาเข้าด้วยกัน
5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันหมูประมาณ 1 ทัพพีลงไป ใช้ไฟเบา จากนั้นใส่น้ำพริกลงไปผัดให้หอม เติมส่วนน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บลงไป ใส่ปลาแห้งป่น ผัดให้เข้ากัน ชิมรส
6. ใส่กากหมูลงไปผัดแล้วปิดไฟ ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยกับไข่เค็ม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยใบมะกรูดซอย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม เมนูเลอค่าแบบไม่แคร์หุ่น
+++++++++++++++++++
7. ปลาดอรี่ทอดขิง
อยากทำเมนูขิงเป็นอาหารว่างสำหรับปาร์ตี้ ขอนำเสนอปลาดอรี่ทอดขิง สูตรจาก นิตยสาร Mother&Care จับเนื้อปลาหมักกับขิงและเครื่องปรุง พอทอดเสร็จแล้วก็โรยขิงทอดลงไปเพิ่มความงาม
ส่วนผสม ปลาดอรี่ทอดขิง
• ปลาดอรี่ (หั่นให้ได้ชิ้นพอดีคำ) 1 ชิ้นใหญ่
• ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
• ขิงหั่นฝอย 1 ถ้วยตวง
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำตาลทราย
• พริกไทยบดละเอียด 1/2 ช้อนชา
• แป้งชุบทอด
• น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำปลาดอรี่ทอดขิง
1. หมักปลาดอรี่ด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยบด และขิงสับ เทแป้งชุบทอดเคล้าให้ติดเนื้อปลาบาง ๆ พักไว้
2. ทอดขิงหั่นฝอยให้เหลืองกรอบ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. นำเนื้อปลาหมักมาทอดจนได้ที่ ตักขึ้นใส่จาน โรยหน้าด้วยขิงฝอยทอด เสิร์ฟคู่กับซอสพริก ซอสมะเขือเทศ หรือน้ำจิ้มบ๊วย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เมนูปลาดอรี่ทอดขิง
+++++++++++++++++++
8. แซลมอนซอสขิง
ถ้าเคยกินแต่แซลมอนย่างรสชาติจืดชืดลองเปลี่ยนแนวมากินแซลมอนซอสขิงรสเผ็ดร้อนสักมื้อกันดีไหม จับแซลมอนไปย่างจนสุก ราดน้ำซอสขิงรสเผ็ด กินกับผักต้ม
ส่วนผสม แซลมอนซอสขิง
• เนื้อปลาแซลมอน 200 กรัม
• แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
• ขิงแก่หั่นเป็นเส้น 1 ช้อนโต๊ะ
• วิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะ
• เกรวี่ หรือน้ำสต๊อกปลา 6 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืชสำหรับทอด 6 ช้อนโต๊ะ
• ไวน์ขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• ผักต้ม ได้แก่ บล็อกโคลี แครอต มันฝรั่ง ข้าวโพด
วิธีทำแซลมอนซอสขิง
1. นำเนื้อปลาแซลมอนโรยเกลือกับพริกไทยป่น และคลุกแป้ง นำไปย่างจนสุก จัดใส่จาน พักไว้
2. ตั้งกระทะใช้ไฟแรง เติมไวน์ขาว จากนั้นลดไฟ เทน้ำเกรวี่ลงไป ตามด้วยขิง ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทย ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน
3. เสิร์ฟปลาแซลมอน ราดซอสขิง เคียงด้วยผักต้ม แต่งด้วยขิงแก่หั่นเป็นเส้น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แซลมอนซอสขิง เค็มเผ็ดหวานครบรส
+++++++++++++++++++
9. น้ำจิ้มข้าวมันไก่
ติดใจข้าวมันไก่หน้าปากซอย แต่มีปัญหาที่รสชาติน้ำจิ้มข้าวมันไก่ไม่ถูกปาก เพื่อตัดปัญหาเลยทำน้ำจิ้มเองดีกว่า สูตรจาก คุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม รสชาติน้ำจิ้มหอมกลิ่นขิง เพิ่มความเผ็ดจากพริกตำ และใส่กลิ่นจากมะนาว อูย... กลมกล่อมอย่าบอกใครเชียว
ส่วนผสม น้ำจิ้มข้าวมันไก่
• เต้าเจี้ยว 6 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
• ขิงแก่ (สับละเอียด) 3 ช้อนโต๊ะ
• ขิงแก่ (ตำแหลก) 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูสดเขียว-แดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำส้มพริกดองแบบปั่น 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วหวาน (สูตร 1) 1 ช้อนโต๊ะ
• มะนาว 1 ซีก
• น้ำซุป 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำจิ้มข้าวมันไก่
1. ใส่เต้าเจี้ยวลงในถ้วย เติมน้ำตาลทรายแดง ใส่ขิงแก่ตำแหลกและขิงแก่สับละเอียด
เคล็ดลับ : ขิงแก่ตำแหลกนี่สำคัญ ตำให้แหลกเลย นำน้ำขิงในครกใส่ไปด้วย เวลาผสมกันเป็นน้ำจิ้มแล้วจะได้มีรสและกลิ่นขิงแทรกอยู่อย่างทั่วถึง
2. ใส่พริกขี้หนูเขียว-แดงซอย (ถ้าชอบเผ็ดก็เอาส่วนหนึ่งไปปั่นหรือตำให้แหลกก่อนเลยแล้วค่อยเอามาใส่)
3. ใส่น้ำส้มพริกดอง บีบน้ำมะนาวใส่ลงไป (เพื่อเอากลิ่น)
4. ใส่ซีอิ๊วหวาน (ถ้าไม่ต้องการให้สีเข้มมากก็ลดเหลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ แนะนำให้ใช้สูตร 1 พวกง่วนเชียงฝาสีครีมก็ดี ไม่ควรใช้น้ำตาลโมลาส หรือซีอิ๊วหวานสูตร 5 ได้สีเข้มก็จริง แต่เดี๋ยวจะทำให้เสียรส เสียกลิ่น) คนผสมให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ไม่ต้องใส่น้ำซุปลงไปให้เจือจาง แต่ถ้าเห็นว่าข้นมากเพราะใส่ขิงมากไปก็เติมน้ำซุปลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะ) เสิร์ฟพร้อมข้าวมันไก่
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวมันไก่ พร้อมสูตรน้ำจิ้ม เคล็ดไม่ลับที่ทำเองได้
+++++++++++++++++++
ของหวาน
10. เต้าฮวยน้ำขิง
หลังจากกินอาหารคาวแล้วมาตบท้ายด้วยของหวานกันเถอะ ขอนำเสนอเต้าฮวยน้ำขิง สูตรนี้น้ำขิงเผ็ดร้อนแน่นอน กินกับเต้าฮวยนุ่มนิ่มทำเองได้
ส่วนผสม เต้าฮวย
• เต้าหู้นิ่ม 1 ถ้วย
• น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
• สารให้ความคงตัว (seg) 2 กรัม
• น้ำตาลเดกซ์โตรส 40 กรัม
• มอลโตเดกซ์ตริน 40 กรัม
• เกลือ 1 กรัม
ส่วนผสม น้ำขิง
• น้ำเปล่า 5 ถ้วย
• ขิงแก่เผาไฟ 3 - 4 ชิ้น
• น้ำตาลอ้อย 1 ถ้วย
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำเต้าฮวยน้ำขิง
1. นำเต้าหู้นิ่ม น้ำตาลทรายแดง สารให้ความคงตัว (seg) เดกซ์โตรส มอลโตเดกซ์ตริน และเกลือใส่อ่างผสมใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน
2. เทน้ำร้อนลงไปคนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้พอควันขึ้นก็ยกลง เพื่อให้สารคงตัวละลาย
3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ขิงลงไป ตามด้วยน้ำตาลอ้อยแล้วปล่อยให้เดือดสัก 5 นาที ยกลง เตรียมไว้
4. ตักเต้าฮวยใส่ถ้วย เทน้ำขิงลงไปตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
+ วิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 7 สูตรเมนูจากร้านน้ำเต้าหู้ ทำเองก็ได้ เปิดร้านเลยไหม
+++++++++++++++++++
11. มันต้มขิง
ขิงแก่ซื้อมาเยอะแยะ แบ่งเอามาทำมันต้มขิงกันสักมื้อดีกว่า ส่วนผสมมีน้อยมาก แค่มีมันเทศ น้ำตาล และขิง ต้มจนมันนิ่มตามชอบ
ส่วนผสม มันต้มขิง
• มันเทศ 500 กรัม
• น้ำ 4-5 ถ้วย
• น้ำตาลกรวด 1 ถ้วย
• ขิงแก่ หั่นเป็นแว่น 5-10 ชิ้น
วิธีทำมันต้มขิง
1. ปอกเปลือกมันเทศ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ แช่น้ำ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลกรวด คนผสมจนน้ำตาลละลายหมด
3. พอน้ำเดือด ใส่มันเทศลงต้มจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ขิงลงต้มจนมันเทศสุก ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มันต้มขิง ขนมไทยทำง่าย ๆ กินแก้หนาว
+++++++++++++++++++
12. บัวลอยงาดำน้ำขิง
น้ำขิงเหลือ ๆ อย่าเพิ่งทิ้งนะคะ แบ่งมาใส่บัวลอยงาดำกันดีกว่า แป้งนุ่มสีขาวใส่ไส้งาดำเนื้อละเอียด ใครจะเพิ่มสีสันในตัวแป้งก็ได้นะคะ หรือเพิ่มออปชั่นอย่างแปะก๊วยหรือเม็ดบัวก็แจ่มเลยค่ะ
ส่วนผสม น้ำขิง
• น้ำ 1+1/2 ลิตร
• ขิงแก่ 4 แง่ง
• น้ำตาลทรายขาว 350 กรัม
• น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
ส่วนผสม บัวลอยงาดำ
• งาดำคั่วบดหยาบ 2 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 350 กรัม
• เนยขาว 100 กรัม
• แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
• น้ำ 3/4 ถ้วย
วิธีทำบัวลอยงาดำน้ำขิง
1. ทำน้ำขิง โดยต้มน้ำกับขิงจนเดือด และมีกลิ่นหอม ใส่น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดง คนผสมจนละลาย และเดือดทั่ว เตรียมไว้
2. ทำไส้งาดำ โดยผสมงาดำกับน้ำตาลทราย และเนย คนผสมให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม นำเข้าแช่เย็นจนแข็ง เตรียมไว้
3. ทำแป้งบัวลอย โดยนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจนเข้ากัน แบ่งแป้งเป็นก้อน ๆ ตามจำนวนไส้ที่เตรียมไว้ ปั้นเป็นก้อนกลม แผ่เป็นแผ่นบาง วางไส้งาดำลงไป ห่อแป้งคลุมให้มิด ปั้นเป็นก้อนกลมจนครบ นำเข้าแช่เย็นอีกครั้งจนแข็ง
4. ต้มน้ำในหม้อจนเดือด นำแป้งบัวลอยลงต้มจนสุก และลอยขึ้น ตักใส่ถ้วย ตักน้ำขิงที่ต้มเตรียมไว้ใส่ลงไป เสิร์ฟขณะร้อน ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยงาดำน้ำขิง ขนมหวานแก้อาการแพ้ท้อง
+++++++++++++++++++
13. ไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง
อากาศร้อนตอนเที่ยงต้องจัดไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง สูตรจาก คุณ shiku สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กัดไปคำแรกก็ได้กลิ่นขิงอ่อน ๆ แม้จะดูแปลกไปบ้างแต่อร่อยนะคะ
ส่วนผสม ไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง
• น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
• สารให้ความคงตัว (seg) 2 กรัม
• น้ำตาลเดกซ์โตรส 40 กรัม
• มอลโตเดกซ์ตริน 40 กรัม
• เกลือ 1 กรัม
• น้ำร้อน (ทุบขิง 1 ชิ้นลงไปต้มด้วย) 750 กรัม
• ขิงผงสำเร็จรูป 2 ซอง
• เต้าหู้นิ่ม 1 ถ้วย
วิธีทำไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง
1. นำน้ำตาลทรายแดง สารให้ความคงตัว (seg) น้ำตาลเดกซ์โตรส มอลโตเดกซ์ตริน และเกลือ ใส่อ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน
2. เทน้ำร้อนลงไป คนให้เข้ากัน นำขึ้นไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้พอควันขึ้นก็ยกลง เพื่อให้สารคงตัวละลาย
3. นำเต้าหู้นิ่มใส่โถปั่น ตามด้วยน้ำขิง ปั่นด้วยความเร็วสูงสุด 1 นาที จากนั้นกรองใส่ถุง แล้วนำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา 4 ชั่วโมง
4. เมื่อครบ 4 ชั่วโมงแล้ว ให้นำไปปั่นในเครื่องปั่นไอศกรีม ปั่นประมาณ 30 นาที
5. นำส่วนผสมทั้งหมดตักใส่ภาชนะสเตนเลส นำเข้าช่องฟรีซแช่จนแข็ง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง เมนูแปลงโฉม มิติใหม่ของไอศกรีม
+++++++++++++++++++
เครื่องดื่ม
ภาพจาก howsweeteats.com
14. ม็อกเทลแตงโมขิงโซดา
อยากทำเครื่องดื่มเมนูขิงสำหรับปาร์ตี้ก็ไม่มีปัญหา ขอนำเสนอม็อกเทลแตงโมขิงโซดา น้ำสีแดงจากแตงโม ใส่ขิงเพิ่มกลิ่น เพิ่มความซาบซ่าจากโซดา
ส่วนผสม ม็อกเทลแตงโมขิงโซดา
• เนื้อแตงโมหั่นเต๋า 4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• น้ำ 1 ถ้วย
• ขิงสดฝานเป็นแว่น 1 แง่ง
• ฝักวานิลลา 1 ผัก (ขูดเมล็ดออก)
• แตงกวาไร้เม็ด 1 ลูก (สไลซ์เป็นแว่น)
• โซดา 1 ถ้วย
• น้ำแข็งบด
วิธีทำม็อกเทลแตงโมขิงโซดา
1. ใส่เนื้อแตงโมลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำ
2. เติมน้ำตาลทราย น้ำ ขิง และฝักวานิลลาพร้อมเม็ดลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลายและเป็นน้ำเชื่อม ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
3. ใส่น้ำแข็งบดลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อมขิงเล็กน้อย เทน้ำแตงโมลงไป ใส่แตงกวาลงไป สุดท้ายเติมโซดาลงไปจนเต็มแก้ว (อัตราส่วนตามชอบ) พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ howsweeteats.com
+++++++++++++++++++
15. ค็อกเทลขิงเสาวรส
มาต่อกันที่ค็อกเทลขิงเสาวรส เหมาะเป็นเครื่องดื่มรับปาร์ตี้ สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน จับขิงทำน้ำเชื่อม ผสมกับเนื้อเสาวรส เติมน้ำมะนาว เพิ่มความซ่าจากโซดา เอ้า... ชนแก้ว
ส่วนผสม ค็อกเทลขิงเสาวรส
• น้ำตาลทราย 200 กรัม
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
• ขิงหั่นบาง ๆ 5 กรัม
• เนื้อเสาวรส 1/3 ถ้วยตวง
• น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำโซดา แช่เย็นจัด
• น้ำแข็ง
• ใบสะระแหน่ และมะนาว สำหรับตกแต่ง
วิธีทำค็อกเทลขิงเสาวรส
1. ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้น้ำตาลละลาย จากนั้นใส่ขิงลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาที ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ให้เย็น
2. ผสมน้ำเชื่อมขิงกับเนื้อเสาวรส น้ำมะนาว และเหล้ารัม คนผสมให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำแข็งลงแก้ว รินส่วนผสมลงไปครึ่งหนึ่ง แล้วเติมน้ำโซดาจนเต็มแก้ว ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่และมะนาว จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ค็อกเทลขิงผสมเสาวรส เครื่องดื่มสำหรับวันสบาย ๆ
+++++++++++++++++++
16. สตรอว์เบอร์รีสมูทตี้ใส่ขิง
สำหรับสาว ๆ ที่ชอบดื่มสมูทตี้เป็นชีวิตจิตใจ ขอนำเสนอสตรอว์เบอร์รีสมูทตี้ใส่ขิง สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน จับสตรอว์เบอร์รีกับกล้วยหอม ปั่นกับโยเกิร์ตและนมสด เพิ่มกลิ่นขิงลงไป อยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรมาพิสูจน์กัน
ส่วนผสม สตรอว์เบอร์รีสมูทตี้ใส่ขิง
• กล้วยหอมแช่เย็น 120 กรัม
• สตรอว์เบอร์รีแช่เย็น 180 กรัม
• ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติแช่เย็น 125 กรัม
• ข้าวโอ๊ต 25 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• นมสดรสจืดแช่เย็น 1/4 ถ้วยตวง
• ข้าวโอ๊ตสำหรับตกแต่ง
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีสมูทตี้ใส่ขิง
• นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงในโถปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ละเอียด รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยข้าวโอ๊ต จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สตรอว์เบอร์รีสมูทตี้ใส่ขิง สมูทตี้เผ็ดร้อน ประโยชน์เพียบ
ขอสารภาพว่าเวลาซื้อขิงมาก็จับทำหมูผัดขิงหรือไม่ก็น้ำขิง คราวนี้ได้เมนูขิงเพิ่มมาอีกเยอะแยะ เห็นทีวันหยุดนี้ต้องจัดหนักสัก 3 มื้อ และแต่ละมื้อต้องกินให้ครบทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม