
ใกล้วันเกิดคนพิเศษอยากชวนมาทำสูตรขนมสีหวาน ๆ มอบให้แด่คนพิเศษกัน โดยเฉพาะขนมสีพาสเทลไม่จำเจ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเบเกอรี่สีพาสเทล จับขนมที่คุ้นเคยเติมสีหวาน ๆ น่ารัก เช่น ชีสเค้กพาสเทล เครปเค้กสายรุ้ง เป็นต้น แค่เห็นก็อร่อยแล้ว

ใครจะไปเชื่อว่าเมนูชีสเค้กทำจากหม้อหุงข้าวได้ด้วย พบกับชีสเค้กพาสเทล สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งผสมสีน่ารัก ๆ ตามชอบ เสร็จเรียบร้อยก็เทใส่หม้อหุงข้าวทีละสี กินเพียว ๆ หรือกินกับแยมก็อร่อย
ส่วนผสม ชีสเค้กหม้อหุงข้าว
• ครีมชีส 200 กรัม
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 80 กรัม
• วิปปิ้งครีม 200 มิลลิลิตร
• แป้งเค้ก 40 กรัม
• สีผสมอาหารตามชอบ
วิธีทำชีสเค้กหม้อหุงข้าว
1. เอาครีมชีสมาวางที่อุณหภูมิห้องรอจนอ่อนตัวแล้ว ก็ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ไข่ไก่ น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน ค่อย ๆ ใส่วิปปิ้งครีม และแป้ง คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
2. แบ่งแป้งที่ผสมแล้วออกเป็นสามส่วน ผสมสีตามชอบ
3. กรุกระดาษไขแล้วเทส่วนผสมแต่ละสีลงตรงกลางหม้อ จากนั้นกดปุ่มหุงตามปกติ ถ้าหุงรอบแรกแล้วยังไม่สุกให้รอสักครู่แล้วหุงอีกรอบ เช็กความสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มดู ถ้าไม่มีอะไรติดไม้แสดงว่าสุกแล้ว พักไว้จนเค้กเย็นตัว ถึงคว่ำหม้อแล้วค่อยเอาเค้กออกมา หั่นเป็นชิ้น จะเพิ่มความอร่อยด้วยการกินกับบลูเบอร์รีหรือสตรอว์เบอร์รีก็ได้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กหม้อหุงข้าว สีพาสเทลมุ้งมิ้ง หวานนุ่มเนียนไม่ง้อเตาอบ
++++++++++++++

2. คัพเค้กลาเวนเดอร์
คัพเค้กวานิลลาดูธรรมดาเกินไป นาทีนี้ต้องทำคัพเค้กลาเวนเดอร์ สูตรเบเกอรี่สีพาสเทล ความพิเศษคือ ตัวเค้กใส่ดอกลาเวนเดอร์ลงไปด้วย เติมความสวยด้วยบัตเตอร์ครีมลาเวนเดอร์
ส่วนผสม คัพเค้กลาเวนเดอร์
• นมสด 2/3 ถ้วย
• ดอกลาเวนเดอร์อบแห้ง 2 ช้อนชา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+3/4 ถ้วย
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• ซาวร์ครีม 1/3 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันดอกคาโนลา 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทรายป่น 3/4 ถ้วย
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
ส่วนผสม บัตเตอร์ครีมลาเวนเดอร์
• เนยจืด 2 แท่ง
• น้ำตาลไอซิ่ง 2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• เฮฟวี่ครีม 2 ช้อนโต๊ะ
• สีผสมอาหารสีม่วง 1-2 หยด
• ดอกลาเวนเดอร์อบแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำคัพเค้กลาเวนเดอร์
1. นำนมไปอุ่นในไมโครเวฟพอร้อน เอาออกมาเติมดอกลาเวนเดอร์อบแห้งลงไปแล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำไปกรองเอาแต่นมไว้ และแบ่งนมออกมาประมาณ 3 ช้อนโต๊ะสำหรับใส่บัตเตอร์ครีมลาเวนเดอร์
2. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ และทาไขมันหรือปูกระดาษรองอบที่พิมพ์มัฟฟิน เตรียมไว้
3. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือลงในอ่างผสม คนผสมจนเข้ากัน เตรียมไว้
4. เติมซาวร์ครีมและกลิ่นวานิลลาลงไปในส่วนผสมนมลาเวนเดอร์ คนผสมจนเข้ากัน
5. ตีน้ำมันคาโนลากับน้ำตาลทรายด้วยความเร็วปานกลางค่อนข้างสูง จนเข้ากัน
6. ลดเป็นความเร็วปานกลางต่ำแล้วตอกไข่ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำจนเข้ากัน
7. เติมส่วนผสมแป้งลงไปครึ่งหนึ่ง ตีผสมจนเข้ากัน
8. เติมส่วนผสมซาวร์ครีม และเติมส่วนผสมแป้งที่เหลือ ตีด้วยความเร็วต่ำจนเข้ากันอีกครั้ง
9. หยอดส่วนผสมใส่พิมพ์มัฟฟิน นำไปอบประมาณ 15-18 นาที (สำหรับขนมพิมพ์มัฟฟินไซส์ปกติ) หรืออบประมาณ 8-10 นาที (สำหรับพิมพ์มัฟฟินไซส์เล็ก) พออบจนสุกนำออกมาพักไว้บนตะแกรง รอจนเย็นค่อยนำออกจากพิมพ์
วิธีทำบัตเตอร์ครีมลาเวนเดอร์
1. ตีเนยด้วยความเร็วปานกลางจนเนียน
2. เติมน้ำตาลไอซิ่งลงไปตีต่อด้วยความเร็วต่ำจนเข้ากัน
3. เติมเกลือ กลิ่นวานิลลา เฮฟวี่ครีม และนมลาเวนเดอร์ที่แบ่งเอาไว้ ตีด้วยความเร็วปานกลาง ประมาณ 3 นาที หรือจนขึ้นฟู
4. เติมสีผสมอาหารสีม่วงลงไป ตีผสมจนเข้ากัน นำใส่ถุงบีบ
5. นำครีมไปบีบแต่งบนเค้กลาเวนเดอร์ให้สวยงาม แต่งด้วยดอกลาเวนเดอร์อบแห้ง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Lavender Cupcakes / ohsweetday.com
++++++++++++++

3. ชีสเค้กมิกซ์เบอร์รี
ใครอยากทำชีสเค้กสีพาสเทลเหมือนกันบ้าง นี่เลยลองมาทำชีสเค้กมิกซ์เบอร์รี สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อครีมชีสสีม่วงอ่อนสลับกับสีม่วงเข้ม เข้ากันดีกับฐานพายกรอบ แช่เย็น ๆ กินแล้วฟินหนักมาก
ส่วนผสม ชีสเค้กมิกซ์เบอร์รี
• บิสกิต 150 กรัม
• เนยเค็ม 50 กรัม
• เจลาติน 4 แผ่น
• ครีมชีส 300 กรัม (อุณหภูมิห้อง)
• วิปปิ้งครีม 300 มิลลิลิตร
• สีผสมอาหารสีม่วง
• น้ำเบอร์รี 8 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทรายป่น 50 กรัม
• ผลไม้เบอร์รี (ตกแต่ง)
วิธีทำชีสเค้กมิกซ์เบอร์รี
1. นำบิสกิตใส่ถุงแล้วทุบให้ละเอียด หรือใช้เครื่องปั่นของแห้ง ปั่นจนละเอียด ใส่เนยละลายลงไป คลุกให้เข้ากันดี เทใส่พิมพ์ที่ถอดก้นได้ เกลี่ยให้เท่า ๆ กัน ใช้ก้นแก้วกดให้แน่น แล้วนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 30 นาที
2. นำเจลาตินทั้ง 4 แผ่นมาแช่ในน้ำเย็น ประมาณ 20-30 นาที หรือจนเจลาตินพองตัว
3. ตีครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) สลับกับใส่น้ำตาลทราย ตีให้เนียนดี แล้วพักไว้
4. ตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอดแข็ง ทยอยใส่วิปปิ้งครีมลงในครีมชีส แล้วตะล่อมให้เข้ากัน แบ่งส่วนผสมครีมชีสออกเป็นสองส่วน เพราะจะทำสองสี
5. นำเจลาตินที่แช่ในน้ำเย็นจนพองตัวแล้ว 2 แผ่น มาบีบน้ำออก (อีก 2 แผ่นเอาไว้ใช้กับครีมชีสอีกส่วน) แล้วเอาเข้าไมโครเวฟไฟอ่อน ประมาณ 15 วินาที หรือจนเจลาตินละลาย
6. เอาส่วนผสมครีมชีสส่วนแรกมาใส่สีผสมอาหารตามชอบ ใส่น้ำเบอร์รี 4 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ใส่เจลาตินที่ละลายแล้วลงไปคนให้เข้ากัน เทลงพิมพ์ที่ใส่บิสกิตไว้ก่อนหน้านี้ นำไปแช่ตู้เย็นต่อ 30 นาที
7. นำส่วนผสมครีมชีสส่วนที่สอง มาใส่สีผสมอาหารสีม่วงเพื่อให้สีเข้มกว่าเดิม ใส่น้ำเบอร์รีที่เหลือ 4 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันดีละลายเจลาติน 2 แผ่นที่เหลือแล้วใส่ลงไป คนให้เข้ากันดี เทลงพิมพ์แล้วเกลี่ยให้เรียบ เอาไปแช่ตู้เย็นอย่างต่ำ 6 ชั่วโมง พอครบเวลาแล้วก็เอาออกจากพิมพ์ หั่นเป็นชิ้น แต่งด้วยเบอร์รี
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กมิกซ์เบอร์รี สูตรขนมไม่อบสีหวานชวนหม่ำ
++++++++++++++

4. เครปเค้กชาเขียว
เครปเค้กช็อกโกแลตสีดูไม่ค่อยหวานเท่าไร ลองเปลี่ยนเป็นเครปเค้กชาเขียวกันดีไหม สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แป้งเครปสีเขียวอ่อนสบายตา มาพร้อมครีมชาเขียวหวานน้อย เสียเวลาทอดแผ่นแป้งหน่อย แต่รับรองอร่อยขั้นเทพ
ส่วนผสม แป้งเครปชาเขียว
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2+1/2 ถ้วย
• ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
• นม 400 มิลลิลิตร
• เนยละลาย 1/4 ถ้วย
ส่วนผสม ครีมชาเขียว
• วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร
• ผงชาเขียว 1/3 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
วิธีทำเครปเค้กชาเขียว
1. ทำแป้งเครปชาเขียว โดยตีไข่ให้เข้ากัน และใส่น้ำตาลทรายลงไป คนพอละลาย ไม่ต้องตีให้ขึ้นฟู
2. ทยอยใส่แป้งและผงชาเขียวลงในส่วนผสมไข่ แบ่งใส่ประมาณสี่รอบ อย่าใส่ทีเดียวหมด เพราะจะทำให้เป็นเนื้อเดียวกันลำบาก คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้แป้งหนืด ๆ หน่อย
3. ค่อย ๆ เทนมใส่ลงในแป้ง แบ่งใส่ 3-4 รอบ คนให้เข้ากันจนไม่เหลือเม็ดแป้ง
4. ใส่เนยละลายลงไป คนให้เข้ากัน กรองส่วนผสมทั้งหมด แล้วพักแป้งในตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
5. พอครบเวลาให้คนแป้งก่อนจะนำมาทอด โดยทาเนยที่กระทะเทฟลอน ใช้ไฟอ่อน ในสูตรใช้กระทะเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 6 นิ้ว หยอดส่วนผสมแป้งครั้งละ 1/4 ถ้วยตวง วิธีสังเกตว่าแป้งสุก คือ จะมีฟองอากาศใหญ่ ๆ ดันแผ่นแป้ง ทอดจนแป้งหมด ตามสูตรนี้จะได้ประมาณ 20 แผ่น พักไว้ให้แป้งเย็น
6. ทำครีมชาเขียว โดยตีวิปครีมและน้ำตาลทรายให้ตั้งยอดอ่อน
เคล็ดลับ : ควรเอาชามและตะกร้อที่ใช้ตีวีปครีมไปแช่เย็นก่อน จะได้ตีครีมขึ้นง่าย ๆ
7. ใส่ผงชาเขียวลงไป ตีต่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน
8. ประกอบเครปเค้ก โดยวางแผ่นแป้งชาเขียวสลับกับทาครีมชาเขียวลงไป ทำจนแป้งหมด นำไปแช่ตู้เย็นอย่างต่ำ 4 ชั่วโมง และหาอะไรมาคลุมเครปเค้กหน่อย เดี๋ยวแป้งแผ่นบนจะหด ตกแต่งเค้ก โดยโรยผงชาเขียวลงบนเค้กบาง ๆ ถ้าโรยมากไปเดี๋ยวจะขม หั่นเป็นชิ้นจัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เครปเค้กชาเขียว สีสวยหวานทำง่ายด้วยกระทะเทฟลอน
++++++++++++++

5. ชีสเค้กมะนาวเต้าหู้
สำหรับคนที่มองหาเบเกอรี่พาสเทลสุดแนว ขอนำเสนอชีสเค้กมะนาวเต้าหู้ สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน ทีเด็ดคือ ตัวชีสเค้กใส่เต้าหู้กับนมถั่วเหลืองผสมกับครีมชีสและโยเกิร์ต ท็อปด้วยแยมเลมอน
ส่วนผสม ชีสเค้กมะนาวเต้าหู้
• แครกเกอร์ (บดละเอียด) 100 กรัม
• เนยสดเค็มละลาย 6 ช้อนโต๊ะ
• นมถั่วเหลือง 50 กรัม
• ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ
• ครีมชีส (หั่นชิ้นเล็ก) 250 กรัม
• เต้าหู้ขาวชนิดแข็ง (หั่นชิ้นเล็ก) 100 กรัม
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 150 กรัม
• น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วยตวง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
• เลมอน (หั่นชิ้นสำหรับแต่ง)
ส่วนผสม แยมเลมอน
• เลมอน 3-4 ลูก
• เกลือป่น 50 กรัม
• น้ำตาลทราย 600 กรัม
• น้ำเปล่า
วิธีทำแยมเลมอน
1. ล้างเลมอนให้สะอาด ผ่าออกเป็นสี่ส่วน บีบน้ำออกให้ได้ 120 กรัม เก็บเปลือกเลมอนไว้
2. ใส่น้ำเปล่า 1 ลิตร กับเกลือป่นลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่เปลือกเลมอนลงต้มจนเดือดประมาณ 5 นาที ตักขึ้นล้างน้ำเปล่าให้สะอาด แล้วนำลงต้มในน้ำเดือดอีกครั้ง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นสนิท
3. ใช้มีดเลาะเนื้อเยื่อสีขาวของเลมอนออกให้ได้ 50 กรัม นำไปปั่นรวมกับน้ำเปล่า 50 กรัม จนละเอียด พักไว้
4. นำผิวเลมอนสีเหลืองที่เหลือมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเปล่า 150 กรัม และน้ำตาลทราย 100 กรัม ตั้งไฟเคี่ยวจนส่วนผสมข้น น้ำเชื่อมเกาะผิวเลมอน ยกลงกรองด้วยกระชอน พักไว้
5. ใส่น้ำเปล่า 100 กรัม และน้ำตาลทรายที่เหลือ และส่วนผสมน้ำเนื้อเยื่อเลมอนปั่นลงในหม้อ ตั้งไฟเคี่ยวจนเดือด ใส่ผิวเลมอนที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนส่วนผสมข้น ยกลงพักไว้ให้คลายความร้อน เทใส่ลงในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท นำเข้าแช่เย็น 1 คืน จึงนำไปใช้
วิธีทำชีสเค้กเลมอนเต้าหู้
1. ผสมแครกเกอร์กับเนยสดละลาย คนให้เข้ากัน กรุใส่ภาชนะ เตรียมไว้
2. ผสมนมถั่วเหลืองกับผงเจลาติน คนพอเข้ากัน นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 25 วินาที คนจนเจลาตินละลายเข้ากันดี พักไว้
3. ใส่ครีมชีส เต้าหู้ขาว โยเกิร์ต น้ำผึ้ง กลิ่นวานิลลา น้ำเลมอน และส่วนผสมนมถั่วเหลืองเจลาตินลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด
4. ตักส่วนผสมที่ได้ลงในภาชนะที่กรุแครกเกอร์ไว้ นำเข้าแช่เย็นประมาณ 4 ชั่วโมง หรือจนเซตตัว นำออกจากตู้เย็น ราดแยมเลมอน ตกแต่งด้วยเลมอน จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กมะนาวเต้าหู้ เนื้อนุ่มหอมละมุนอร่อยละลายในปาก
++++++++++++++

6. คุกกี้ช็อกโกแลตชิพมินต์
จากที่เคยทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพมอบให้คนพิเศษ ลองเติมกลิ่นมินต์ให้หอมกันเถอะ ขอนำเสนอคุกกี้ช็อกโกแลตชิพมินต์ ความพิเศษคือ เนื้อคุกกี้สีเขียวแซมช็อกโกแลตชิพ ทั้งกรอบและหอม ลองทำกันเลยเถอะ
ส่วนผสม คุกกี้ช็อกโกแลตชิพมินต์
• เนยสด 1 ถ้วย
• น้ำตาลทรายป่น 1+1/2 ถ้วย
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• ไข่แดง 1 ฟอง
• กลิ่นเปปเปอร์มินต์ 1 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีเขียว 10 หยด
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3+1/4 ถ้วย
• ผงฟู 2 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
• เกลือโคเชอร์ 1/2 ช้อนชา
• ดาร์กช็อกโกแลตชิพ 1+1/2 ถ้วย
วิธีทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพมินต์
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
2. ปูกระดาษรองอบที่ถาดรองอบ เตรียมไว้
3. ตีผสมเนยสดกับน้ำตาลทรายด้วยความเร็วสูงจนเข้ากัน ลดเป็นความเร็วปานกลางตีต่ออีกประมาณ 2 นาที หรือจนตั้งยอดอ่อน
4. ใส่ไข่ไก่ ไข่แดง กลิ่นเปปเปอร์มินต์ และสีผสมอาหารสีเขียวลงไปตีผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
5. คนผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา ครีมออฟทาร์ทาร์ และเกลือเข้าด้วยกัน ใส่ลงไปในส่วนผสมไข่ไก่ ตีผสมจนเนื้อเนียน
6. แบ่งดาร์กช็อกโกแลตลงไปครึ่งหนึ่งคนผสมให้เข้ากัน ส่วนดาร์กช็อกโกแลตที่เหลือเอาไปสับให้ละเอียด หรือไปบดในเครื่องบดอาหารแล้วค่อยใส่ลงไปผสมในส่วนผสมแป้ง คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำเข้าแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
7. ตักส่วนผสมคุกกี้เป็นลูกกลม ๆ ด้วยที่ตักไอศกรีม วางบนกระดาษรองอบ นำเข้าเตาอบประมาณ 8-10 นาที หรือจนสุกกรอบ นำออกมาพักไว้ให้เย็นประมาณ 5 นาที พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Mint Chocolate Chip Cookies / thefoodcharlatan.com
++++++++++++++

7. ทรัฟเฟิลมินต์โอรีโอ้
ใครมีโอรีโอ้ตุนไว้เยอะแยะลองแบ่งออกมาทำทรัฟเฟิลมินต์โอรีโอ้กันเลย จับโอรีโอ้ปั่นผสมกับครีมชีสและกลิ่นมินต์ ปั้นเป็นทรงกลมเหมือนเห็ดทรัฟเฟิล สุดท้ายจุ่มกับช็อกโกแลตชิพสีเขียว
ส่วนผสม ทรัฟเฟิลมินต์โอรีโอ้
• โอรีโอ้สอดไส้ครีมมินต์
• ครีมชีส 1 ถ้วย
• กลิ่นเปปเปอร์มินต์ 1/4 ช้อนชา
• ไวท์ช็อกโกแลตชิพ
• สีผสมอาหารสีเขียว
• เกล็ดน้ำตาลสีทอง
วิธีทำมินต์โอรีโอ้ทรัฟเฟิล
1. ใส่โอรีโอ้ลงไปในเครื่องบดอาหารจนละเอียด ใส่ครีมชีสลงไปปั่นจนเนื้อเนียนเข้ากัน ตามด้วยกลิ่นเปปเปอร์มินต์ปั่นจนเข้ากัน
2. ตักส่วนผสมโอรีโอ้ใส่อ่างผสม คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนเซตตัว
3. นำส่วนผสมออกมาจากตู้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1+1/2 นิ้ว นำเข้าแช่เย็นต่อประมาณ 1-2 ชั่วโมง
4. ระหว่างรอส่วนผสมเซตตัว นำไวท์ช็อกโกแลตชิพไปละลายในหม้อขนาดกลางประมาณ 30 วินาที ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปคนให้เข้ากัน
5. นำโอรีโอ้ทรัฟเฟิลออกมาจากตู้เย็น จุ่มลงไปในส่วนผสมไวท์ช็อกโกแลตให้ทั่วทั้งลูก เสร็จแล้วนำไปวางบนกระดาษรองอบ โรยเกล็ดน้ำตาลสีทองลงไป นำไปแช่เย็นจนเซตตัว พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Mint Oreo Truffles / thegraciouswife.com
++++++++++++++
8. ป๊อปคอร์นมินต์
ป๊อปคอร์นคาราเมลหรือป๊อปคอร์นรสชีสคงต้องหลีกทางให้กับป๊อปคอร์นมินต์ จุดเด่นคือ เติมสีเขียวพาสเทลลงไปเคล้ากับป๊อปคอร์น เพิ่มความกรุบกรอบจากคุกกี้มินต์
ส่วนผสม ป๊อปคอร์นรสมินต์
• เมล็ดข้าวโพดคั่ว 1 ถ้วย
• ไวท์ช็อกโกแลตชิพละลาย 1/2 ถ้วย
• สีผสมอาหารสีเขียว 3-4 หยด
• คุกกี้กลิ่นมินต์หัก 6 ชิ้น
• ไวท์ช็อกโกแลตชิพ 1/2 ถ้วย
วิธีทำป๊อปคอร์นรสมินต์
1. นำเมล็ดข้าวโพดคั่วไปเข้าไมโครเวฟอบจนสุก นำไปคลุกเคล้ากับไวท์ช็อกโกแลตชิพละลาย
2. ใส่สีผสมอาหารลงไป ตามด้วยคุกกี้หักและไวท์ช็อกโกแลตชิพผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ White Chocolate Thin Mint Popcorn / popsugar.com
++++++++++++++

9. บัตเตอร์เค้กรูปหัวใจ
ในที่สุดก็ได้สูตรขนมพาสเทลเป็นของขวัญคุณลูกแล้ว พบกับบัตเตอร์เค้กรูปหัวใจ สูตรจาก โรงเรียนสอนทำเบเกอรี่ Cream Tea Baking Class เนื้อเค้กเนยสดสอดแทรกรูปหัวใจด้านใน แหม... อยากได้สักชิ้นจังเลย
ส่วนผสม บัตเตอร์เค้ก และไส้บัตเตอร์เค้กรูปหัวใจ
• เนยสด 170 กรัม
• น้ำตาลทราย 150 กรัม
• เกลือ 1 ช้อนชา
• แป้งเค้ก 170 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• กลิ่นวานิลลา 3 ช้อนชา
• ไข่ไก่ 3 ฟอง
• นมสดเย็น 90 กรัม
• สีผสมอาหาร (ตามต้องการ)
• ตัวพิมพ์รูปหัวใจ (หรือรูปอื่น ๆ ตามชอบ)
วิธีทำบัตเตอร์เค้กรูปหัวใจ
1. ทำไส้บัตเตอร์เค้กรูปหัวใจ โดยนำเนยสดมาผสมกับเกลือ และน้ำตาลทราย นำใส่เครื่องตีแป้ง ตีจนส่วนผสมเข้ากันและขึ้นฟู
2. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย เติมกลิ่นวานิลลา ตีผสมจนเข้ากัน เทลงในส่วนผสมเนย ตีผสมจนเข้ากัน และร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ ทยอยเทแป้งที่ร่อนไว้ 3-4 ครั้ง ตีผสมจนเข้ากัน ค่อย ๆ เทนมสดเย็นลงไปตีจนส่วนผสมแป้งเริ่มหนืด ใส่สีผสมอาหารลงไปตีจนสีเสมอกัน ปิดเครื่อง
3. นำกระดาษไขรองไว้ก้นพิมพ์แล้วเทเนื้อแป้งเค้กลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ ใช้พายเกลี่ยหน้าให้เท่ากัน นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 40-50 นาที นำออกจากเตา รอจนเค้กเนยเย็นหั่นเป็นชิ้นแล้วกดเป็นรูปต่าง ๆ ตามพิมพ์ พักไว้
4. ทำก้อนบัตเตอร์เค้ก โดยนำเนยสดมาผสมกับเกลือ และน้ำตาลทราย นำใส่เครื่องตีแป้ง ตีจนส่วนผสมเข้ากันและขึ้นฟู
5. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย เติมกลิ่นวานิลลา ตีผสมจนเข้ากัน เทลงในส่วนผสมเนย ตีผสมจนเข้ากัน และร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ ทยอยเทแป้งที่ร่อนไว้ 3-4 ครั้ง ตีผสมจนเข้ากัน ค่อย ๆ เทนมสดเย็นลงไปตีจนส่วนผสมแป้งเริ่มหนืด ใส่สีผสมอาหารลงไปตีจนสีเสมอกัน ปิดเครื่อง
6. ใส่สีผสมอาหารตามที่ต้องการ (คนละสีกับไส้) ลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้งจนมีสีที่เสมอกัน ปิดเครื่อง เทส่วนแป้งเค้กเหลวลงไปรองที่ก้นพิมพ์ ประมาณ 30-40% ของพิมพ์ นำชิ้นเค้กรูปต่าง ๆ ที่กดไว้วางเรียงแถวให้เป็นระเบียบ เทแป้งเค้กเหลวทับอีกครั้งจนเต็มพิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 40-50 นาที พอหายร้อนหั่นเป็นชิ้น จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัตเตอร์เค้กรูปหัวใจ สูตรเค้กเนยสดหอมกรุ่นสำหรับคนพิเศษเท่านั้น
++++++++++++++

10. อะโวคาโดชีสเค้ก
วันหยุดลองจับอะโวคาโดแสนจืดชืดมาทำเบเกอรี่สีพาสเทลกันดีไหม ขอนำเสนออะโวคาโดชีสเค้ก สูตรจาก คุณ taraenjoy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ฐานบิสกิตผสมถั่ววอลนัทและนูเทลล่า เข้ากันดีกับครีมชีสทำจากอะโวคาโด เติมน้ำผึ้งและน้ำมะนาว อร่อยจนต้องยกนิ้วโป้ง
ส่วนผสม ชีสเค้กอะโวคาโด
• ถั่ววอลนัท ทุบละเอียด (หรือถั่วพีแคน) 100 กรัม
• บิสกิต ทุบละเอียด (หรือขนมปังกรอบ) 55 กรัม
• ช็อกโกแลตนูเทลล่า 35 กรัม
• อินทผาลัม หั่นชิ้นเล็ก 50 กรัม
• อะโวคาโด 55 กรัม
• มะนาว 2 ลูก
• น้ำผึ้ง 70 กรัม
• ครีมชีส 1 ก้อน (วางพักไว้ให้นิ่มที่อุณหภูมิห้อง)
วิธีทำชีสเค้กอะโวคาโด
1. นำบิสกิตและถั่ววอลนัทใส่ลงในชามคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ใส่เนื้ออินทผาลัมและช็อกโกแลตนูเทลล่าลงไปผสมให้เข้ากัน
3. นำส่วนผสมไปกรุพื้นของถาดหรือถ้วยที่เตรียมไว้ โดยกดให้รอบพื้นอย่างเบามือจนส่วนผสมเรียบและเสมอกัน (แบ่งส่วนผสมบิสกิตไว้สำหรับโรยตกแต่งหน้าขนมด้วย) เมื่อกดจนสวยงามแล้วก็พักไว้ก่อน โดยการนำไปแช่เย็นเพื่อให้ส่วนผสมแข็งตัว ประมาณ 30 นาที
4. บดเนื้ออะโวคาโดแบบหยาบ ๆ ฝานผิวมะนาวและคั้นน้ำมะนาว เตรียมไว้
5. ปั่นอะโวคาโด น้ำผึ้ง และน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน
6. ใส่ครีมชีสและผิวมะนาวลงไป
7. ปั่นรวมกันจนส่วนผสมเนียนจนเหมือนสมูทตี้
8. เทครีมชีสลงพิมพ์ที่กรุด้วยแป้งพาย โดยใช้พายปาดให้เรียบและเกลี่ยให้เสมอกัน จากนั้นตกแต่งด้วยบิสกิตที่แบ่งไว้ โดยโรยให้ทั่ว ๆ นำไปแช่เย็นให้เนื้อชีสเค้กเซตตัว ประมาณ 30 นาที พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ อะโวคาโดชีสเค้ก ขนมแนวใหม่ไม่มีขายต้องทำเอง เอาใจคนรักสุขภาพ
++++++++++++++

11. เครปเค้กสายรุ้ง
นาทีนี้อยากชวนเพื่อน ๆ มาทำเครปเค้กสายรุ้ง สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1561647 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แป้งเครปสีพาสเทลปาดวิปปิ้งครีม ราดซอสสตรอว์เบอร์รีตัดเลี่ยน
ส่วนผสม แป้งเครป
• แป้งเค้กสำเร็จรูป 230 กรัม
• น้ำตาลทราย 120 กรัม
• เนยสด 150 กรัม
• นมสด 600 กรัม
• ไข่ไก่ 8 ฟอง
• วิปปิ้งครีม 400 กรัม
• สีผสมอาหาร 6 สี ตามชอบ
ส่วนผสม ซอสสตรอว์เบอร์รี
• สตรอว์เบอร์รีสดปั่นละเอียด
• น้ำตาลทราย
• แป้งข้าวโพด
วิธีทำเครปเค้ก
1. ทำแป้งเครป โดยนำนมสดไปต้มให้เดือดแล้วยกลงพักไว้ให้เย็น (การต้มนั้นจะทำให้นมเข้มข้นขึ้น และทำให้เค้กอร่อยมากขึ้น)
2. นำเนยสดไปละลาย ถ้าใช้ไมโครเวฟให้นำเข้าไปอุ่นประมาณ 1 นาที ถ้ายังไม่ละลายให้อุ่นต่ออีก 30 วินาที ส่วนถ้าบ้านใครไม่มีไมโครเวฟ ให้ตั้งน้ำเปล่าแล้วเอาอ่างที่ทนความร้อนวางทับแล้วละลายเนยสดบนอ่างแทน
3. ตอกไข่ไก่ลงอ่างผสมแล้วตีพอเข้ากัน แต่ไม่ต้องตีเข้ากันเหมือนทำไข่เจียวนะคะ ตีแค่เข้ากันก็พอแล้ว
4. ใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วตีผสมต่อจนน้ำตาลทรายละลาย ทยอยใส่แป้งเค้กสำเร็จรูปลงไป โดยทยอยใส่ 2-3 รอบ (ค่อย ๆ ใส่ เพราะใส่ทีเดียวแป้งจะเป็นเม็ด)
5. ค่อย ๆ ใส่นมสดที่พักไว้จนเย็นแล้ว ทยอยใส่ 2-3 รอบ ใส่เนยละลายที่พักไว้จนเย็นแล้วลงไป คนผสมต่อให้เข้ากัน นำส่วนผสมไปกรอง (หากไม่กรองส่วนผสมจะทำให้เวลาทอดจะมีเม็ดแป้งอยู่ด้วย) เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน
6. นำแป้งเครปออกจากตู้เย็น กวนแป้งเครปให้เข้ากันอีกรอบก่อนผสมสี ในสูตรทำทั้งหมด 6 สี ใส่สีผสมอาหารลงในส่วนผสมแป้งสีละ 1 ถ้วย ทอดแป้งครั้งละ 1/4 ถ้วย จะได้ทั้งหมด 24 แผ่น จริง ๆ สูตรนี้จะได้ 25 แผ่น เพราะฉะนั้นเหลือแป้งเครป 1 แผ่น ไว้ทดลองทำในกระทะเทฟลอนก่อน
7. ทอดแป้งเครป โดยทาเนยสดบาง ๆ บนกระทะเทฟลอน เริ่มจากเอาส่วนผสมแป้งที่เหลือจากการตวงทั้ง 6 สี มาลองทอดดูก่อน โดยใช้ไฟอ่อน ไฟแรงมากจะไม่ออกมาเป็นแผ่น ทดลองเสร็จแล้วจึงทอดแป้งเครปจนครบ 24 แผ่น พักแป้งเครปที่ทอดทั้งหมดไว้ให้เย็น ใครกลัวแป้งเครปติดกันเอากระดาษไขรองชั้นต่อชั้นก็ได้
8. ตีวิปปิ้งครีม โดยตีแค่พอตั้งยอดอ่อน ถ้าวิปปิ้งครีมยอดแข็งมากจะปาดแป้งเครปลำบาก
9. ทำซอสสตรอว์เบอร์รี โดยนำสตรอว์เบอร์รีสดปั่นละเอียดไปต้มกับน้ำตาลทราย ใส่แป้งข้าวโพดลงไปนิดหน่อย
10. ประกอบเครปเค้กสายรุ้ง (ใครมีจานหมุนสำหรับแต่งเค้กเอามาใช้ได้เลย) วางแผ่นแป้งเครปสลับกับวิปปิ้งครีม โดยวางไล่ทีละสี ปาดครีมให้พอดี หั่นเป็นชิ้น ราดซอสสตรอว์เบอร์รีลงไป
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำเครปเค้กสายรุ้ง ขนมในฝันสีคัลเลอร์ฟูล ทำกินเองง่าย ๆ ที่บ้าน
++++++++++++++

12. เค้กชาเขียว
แค่เห็นก็อยากลองทำแล้วสำหรับเค้กชาเขียว สูตรจาก เฟซบุ๊ก Baking Glory ตัวเค้กใส่ผงชาเขียว จะทำชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ก็ได้ สุดท้ายปาดวิปปิ้งครีม
ส่วนผสม ของแห้ง
• แป้งเค้ก (ที่ร่อนแล้ว) 1/2 ถ้วย
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• ผงชาเขียวมัทฉะ 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) 1/4 ถ้วย
ส่วนผสม ไข่แดง
• ไข่แดง 2 ฟอง
• น้ำมันเมล็ดชา 2 ช้อนโต๊ะ (หรือใช้น้ำมันพืชแทนได้)
• น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไข่ขาว
• ไข่ขาว 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 1/3 ถ้วย
• สีผสมอาหารสีเขียว (เพื่อเพิ่มสีสัน ไม่ใส่ก็ได้)
• ครีมสด (สำหรับแต่งหน้าเค้ก) สามารถเข้าไปดูเคล็ดลับวิธีตีครีมสดได้ที่ เฟซบุ๊ก Baking Glory
วิธีทำเค้กชาเขียว
1. ทำส่วนผสมของแห้ง โดยนำแป้งเค้กที่ร่อนแล้วผสมกับผงฟู ผงชาเขียว และเกลือป่น ใส่น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ลงไป เตรียมไว้
2. ทำส่วนผสมไข่แดง โดยผสมไข่แดง น้ำมัน และน้ำเข้าด้วยกัน นำไปผสมกับแป้งที่ร่อนไว้ คนผสมให้เข้ากันจนเนียน และชาเขียวไม่เป็นเม็ด ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปเล็กน้อย
3. ทำส่วนผสมไข่ขาว โดยตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) เข้าด้วยกันจนตั้งยอดแข็ง เทลงไปผสมกับส่วนผสมชาเขียวที่เตรียมไว้ เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที นำมาผ่าครึ่งแล้วทาด้วยวิปปิ้งครีมตามชอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กชาเขียว เนื้อฟูนุ่ม สูตรหวานน้อย หน้าตาดี
++++++++++++++

13. เครปข้าวเหนียวมะม่วง
ลองกันไหมกับเครปข้าวเหนียวมะม่วง สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน สูตรประยุกต์จับแป้งเครปใบเตยห่อข้าวเหนียวกับมะม่วง ความพิเศษคือ ราดซอสกะทิวานิลลา
ส่วนผสม เครปข้าวเหนียวมะม่วง
• แป้งเค้ก 80 กรัม
• นมสด 250 กรัม
• เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• น้ำใบเตย 2 ช้อนโต๊ะ
• สีผสมอาหารสีเขียว เล็กน้อย
• มะม่วงสุกหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 100 กรัม
• ข้าวเหนียวมูน 150 กรัม
• เนยสดชนิดเค็ม สำหรับทากระทะ
• กระทะเทฟลอน
ส่วนผสม ซอสกะทิวานิลลา
• แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
• หัวกะทิ 250 กรัม
• วานิลลาขูดเนื้อ 1/2 ฝัก
วิธีทำเครปข้าวเหนียวมะม่วง
1. ร่อนแป้งเค้กลงในอ่างผสม พักไว้
2. นำนมสดและเนยสด ใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ คนจนเนยสดละลายและส่วนผสมร้อนยกลง พักไว้ให้คลายความร้อน
3. ตีไข่ไก่ด้วยตะกร้อมือพอแตก ค่อย ๆ เทส่วนผสมนมลงไป คนพอเข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลลา น้ำใบเตย และสีผสมอาหารสีเขียว คนให้เข้ากันอีกครั้ง
4. ใส่แป้งเค้กลงไปผสมคนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอนแล้วพักไว้ประมาณ 15 นาที
5. ตั้งกระทะเทฟลอนโดยใช้ไฟอ่อน ทาเนยสดบาง ๆ พอทั่ว พอกระทะร้อนตักส่วนผสมแป้งเครปใส่ลงในกระทะ กลอกแป้งให้เป็นแผ่นกลมบาง ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว ทอดจนแป้งสุก วางแป้งเครปลงบนภาชนะเรียบ ตักมะม่วงสุกและข้าวเหนียวมูนวางลงตรงกลาง ห่อแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม จัดใส่จาน
6. ทำซอสกะทิวานิลลา โดยใส่แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงในภาชนะ คนพอเข้ากัน ใส่หัวกะทิและกลิ่นวานิลลาลงคนผสมพอเข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟ คนจนส่วนผสมสุกมีลักษณะข้นเป็นซอส ยกลงกรองด้วยกระชอน พักไว้ให้เย็นสนิท เอาไว้ราดเครปข้าวเหนียวมะม่วง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เครปข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวานหน้าตาดีที่ต้องฟาดให้เรียบ
++++++++++++++

ถ้าเบื่อเค้กปอนด์กันแล้วก็ลองเปลี่ยนสไตล์มาทำเค้กโรลชาเขียวถั่วแดง สูตรจาก คุณ AdrenalineRush สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อเค้กสีพาสเทลนุ่ม ๆ หอมชาเขียว สอดไส้ครีมถั่วแดง ชิ้นเดียวก็ฟินแล้ว
ส่วนผสม เค้กโรลชาเขียวถั่วแดง
• แป้งเค้ก 75 กรัม
• ผงชาเขียว 10 กรัม
• ไข่แดง 4 ฟอง
• น้ำตาลทราย (1) 30 กรัม
• น้ำมันพืช 40 กรัม
• นมสด 40 กรัม
• ไข่ขาว 4 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา
• น้ำตาลทราย (2) 60 กรัม
• พิมพ์ขนาด 8x12 นิ้ว ปูกระดาษไข
หมายเหตุ : สูตรที่ลงไว้คือสูตรเต็ม แต่สูตรนี้ทำเพียงครึ่งสูตร
ส่วนผสม ไส้ครีมถั่วแดง
• ถั่วแดงสำเร็จรูป
• วิปปิ้งครีมหรือกะทิ
• น้ำตาลทรายป่น
วิธีทำเค้กโรลชาเขียวถั่วแดง
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่างอย่างเดียว เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งเค้กกับผงชาเขียวเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง เตรียมไว้
3. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลทราย (1) ในอ่างผสมจนเข้ากัน ใส่นมสดและน้ำมันลงไปตีต่อ จากนั้นเทส่วนผสมแป้งลงไป
4. ใช้พายยางคนผสมจนเข้ากัน (เนื่องจากสูตรนี้ส่วนผสมหนืดมากจึงเพิ่มน้ำมันพืช 10 กรัม และนมอีก 10 กรัมลงไป)
5. ตีไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน แบ่งไข่ขาวเป็น 3 ส่วน แล้วนำไปตะล่อมกับส่วนผสมของไข่แดงจนครบ 3 ครั้ง
6. เทส่วนผสมใส่ถาดแล้วเคาะไล่อากาศ 2 ครั้ง นำไปอบประมาณ 12-15 นาที ก่อนครบเวลา 5 นาที ให้เปิดไฟบน (ระยะเวลาความสุกแล้วแต่ยี่ห้อเตาอบ ซึ่งสูตรนี้ใช้เตาอบขนาดเล็กมาก) อบจนเค้กสุก
7. นำออกจากเตา รอให้เค้กเย็นลงประมาณ 2 นาที คว่ำหน้าเค้กบนกระดาษไข จากนั้นลอกกระดาษไขที่รองอบออก ม้วนเค้กแล้วพักไว้ก่อน
8. ทำไส้ครีมถั่วแดง โดยต้มถั่วแดงกับกะทิ หรือนำไปตีผสมกับวิปปิ้งครีม เติมน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ (ในสูตรใช้ถั่วแดงสำเร็จรูป)
9. แผ่เค้กที่ม้วนออก ปาดด้วยไส้ถั่วแดงให้ทั่ว โดยเว้นขอบประมาณ 1-2 นิ้ว จากนั้นม้วนเป็นท่อน นำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืนจนเซตตัว
10. นำออกจากตู้เย็น ตัดเป็นชิ้น ๆ แต่งด้วยไส้ครีมถั่วแดง และถั่วแดงกวนปั้นเป็นเม็ด ๆ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กโรลชาเขียวถั่วแดง ขนมหวานหน้าตาดีแบบนี้ใครก็ทำได้
++++++++++++++

15. เค้กโรลแคนตาลูป
มาต่อกันที่เมนูเค้กโรลแคนตาลูป สูตรจาก นิตยสาร Food News & Life เค้กโรลสีเขียวปาดบัตเตอร์ครีมกลิ่นแคนตาลูป เติมความสดชื่นจากแคนตาลูปสด
ส่วนผสม เค้กโรลแคนตาลูป
• แป้งสาลี 200 กรัม
• แป้งข้าวโพด 40 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• ผงวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 180 กรัม
• ไข่ไก่แช่เย็น 6 ฟอง
• โอวาเล็ต (Ovalet) 20 กรัม
• น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นแคนตาลูป 50 กรัม
• สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล 1/2 ช้อนชา
• เนยเค็ม (ละลาย) 80 กรัม
• น้ำมันพืช 20 กรัม
• แคนตาลูปลูกกลม (สำหรับแต่งและสอดไส้)
• บัตเตอร์ครีม (ตามชอบ)
• บัตเตอร์ครีม (Buttercream) กลิ่นแคนตาลูปสำหรับแต่ง
• ถาดขนาด 11x15x1 นิ้ว (ทาเนยขาว ปูกระดาษ ทาเนยขาวทับ) 3 ถาด
ส่วนผสม บัตเตอร์ครีมกลิ่นแคนตาลูป
• บัตเตอร์ครีมตามชอบ 500 กรัม
• น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นแคนตาลูป 100 กรัม
• สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล 1/2 ช้อนชา
วิธีทำบัตเตอร์ครีมกลิ่นแคนตาลูป
• ผสมส่วนผสมทุกอย่างจนเข้ากันดี เตรียมไว้สำหรับปาดหน้าเค้ก
วิธีทำเค้กโรลแคนตาลูป
1. ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวโพด ผงฟู วานิลลา และเกลือป่นเข้าด้วยกัน เทน้ำตาลทรายลงเคล้ากับตัวแป้ง พักไว้
2. ต่อยไข่ไก่แช่เย็นใส่อ่างตี ใส่แป้งที่ร่อนไว้ ใช้พายยางคนผสมพอเข้ากัน เติมโอวาเล็ต เทใส่เครื่องตีแป้ง ตีด้วยความเร็วต่ำประมาณ 1 นาที เพิ่มเป็นความเร็วสูงสุด 2 นาที
3. เติมน้ำหวานเข้มข้นกลิ่นแคนตาลูป และสีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล ตีต่อที่ความเร็วสูงสุด 3 นาที ลดความเร็วต่ำ 3 นาที
4. เติมเนยสดชนิดเค็มละลายและน้ำมันพืช ตีผสมพอเข้ากัน ปิดเครื่อง
5. นำออกมาคนด้วยพายยางอีกครั้งจนเข้ากันดี เทใส่ถาดที่เตรียมไว้ ถาดละ 250 กรัม เกลี่ยหน้าให้เรียบ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 420 องศาฟาเรนไฮต์ นานประมาณ 5 นาที หรือจนสุก
6. ปาดบัตเตอร์ครีมลงบนแผ่นเค้กให้ทั่ว เรียงแคนตาลูปกลมลงไป ม้วนเค้กเป็นท่อนกลม นำเข้าแช่เย็นจนกระทั่งเซตตัว
7. นำออกมาปาดด้วยบัตเตอร์ครีมกลิ่นแคนตาลูป ตัดเป็นชิ้น ตกแต่งด้วยแคนตาลูปกลมให้สวยงาม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กโรลแคนตาลูป เนื้อนุ่มหอมอร่อย
++++++++++++++

16. เต้าหู้เย็น
ใครอยากทำเต้าหู้เย็นรับวันพิเศษ ไปซื้อส่วนผสมมาทำเองคุ้มกว่านะคะ สูตรจาก คุณโจนส์เปลี่ยนใจ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้นมสดแทนนมถั่วเหลือง เติมน้ำหวานสีแดงเพิ่มสีสัน ท็อปด้วยผลไม้สด
ส่วนผสม เต้าหู้เย็น (สูตรนี้ใช้นมสด)
• นมสด 2 ถ้วย (หรือน้ำเต้าหู้)
• นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำหวานเฮลซ์บลูบอย กลิ่นสละ (ใส่จนได้สีที่ชอบ)
• ผงวุ้น 2+1/2 ช้อนชา (ราคา 30 บาท)
ท็อปปิ้ง (ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ)
• กีวี (หั่นเต๋า)
• ส้ม (แกะเป็นกลีบ)
• กล้วยหอม (หั่นแว่น)
• แคนตาลูป (หั่นชิ้นพอดีคำ)
• เยลลี่ (ตามชอบ)
วิธีทำเต้าหู้เย็น
1. นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลางพออุ่น เทนมสด นมข้นหวาน และน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยลงไป
2. พอส่วนผสมเริ่มอุ่น เทผงวุ้นลงไป (เคล็ดลับคือ ให้เทแบบเคาะช้อน ผงวุ้นจะได้กระจาย ละลายง่าย และไม่เป็นก้อน)
3. คนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นไม่เป็นเม็ดเล็ก ๆ ติดปลายช้อน หากผงวุ้นละลายดีแล้วให้เร่งไฟแรงขึ้นเล็กน้อย รอจนส่วนผสมในกระทะเริ่มมีฟอง (แต่ไม่ต้องถึงกับเดือด) ปิดไฟ พักไว้
4. นำส่วนผสมมากรองผ่านตะแกรง ประมาณ 2-3 รอบ เทส่วนผสมใส่พิมพ์ทรงกลม หรือถ้วยทรงกลม พักทิ้งไว้จนเย็น (หรือใช้พัดลมช่วยเป่าจนเย็น) จากนั้นจึงนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง
5. พอครบเวลานำเต้าหู้เย็นออกมาจากถ้วยกลม เทออกมาบั้งเป็นแฉก ๆ เสิร์ฟคู่กับกีวี ส้ม กล้วยหอม แคนตาลูป และเยลลี่
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าหู้เย็น วิธีทำเมนูดังกินเองง่ายกว่า หวานเย็นกลิ่นหอม
++++++++++++++

ภาพจาก cookiesandcups.com
17. สตรอว์เบอร์รีฟัดจ์
ไม่ต้องรอวันวาเลนไทน์ก็ทำเค้กสีพาสเทลมุ้งมิ้งได้นะคะ ขอนำเสนอสตรอว์เบอร์รีฟัดจ์ เนื้อฟัดจ์สีชมพูเคี้ยวนุ่มแน่น หั่นพอดีคำใส่กล่องสวย ๆ ทำเป็นของขวัญของฝากสุดแจ่ม
ส่วนผสม สตรอว์เบอร์รีฟัดจ์
• ครีมสตรอว์เบอร์รีฟรอสติ้ง (ขนาด 16 ออนซ์) 1 กระป๋อง
• ไวท์ช็อกโกแลตชิพสำหรับละลาย 12 ออนซ์
• เกล็ดน้ำตาล (ตกแต่ง)
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีฟัดจ์
1. เตรียมถาดก้นลึกขนาด 9 x 9 พ่นสเปรย์กันติด เตรียมไว้
2. นำไวท์ช็อกโกแลตไปละลายในไมโครเวฟ นำออกมาคนจนเข้ากัน
3. เติมครีมสตรอว์เบอร์รีฟรอสติ้งลงไป คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว เทใส่ถาดที่เตรียมไว้ สร้างลวดลายให้สวยงาม แล้วนำแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
4. นำออกจากตู้เย็น โรยเกล็ดน้ำตาล ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Strawberry 2 Ingredient Fudge / cookiesandcups.com
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาสูตรขนมมอบให้คนพิเศษ ลองทำเบเกอรี่สีพาสเทลกันสิคะ หน้าตาฟรุ้งฟริ้งสวยงาม แถมรสชาติอร่อยห้าดาว ถ้าทำเองปรับลดหรือเพิ่มความหวานตามชอบ และจะกินเยอะหรือทำเยอะแค่ไหนก็ได้