อาหารไหว้เจ้า
-
หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
-
เป็ด หมายถึง ความบริสุทธิ์และความสะอาด
-
ไก่ หมายถึง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
-
ปลา ปลาหมึก หมายถึง การอยู่ดีกินดี มีเงินเหลือใช้
-
กุ้ง หมายถึง ชีวิตที่รุ่งเรือง มีโชคลาภ
-
วุ้นเส้น หมายถึง ชีวิตราบรื่น มีอายุยืนยาว
-
เส้นหมี่ซั่ว หมายถึง อายุยืนยาว
ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงเต้าหู้ขาวอย่างเด็ดขาด เพราะว่าสีขาวถือเป็นสีสำหรับงานโศกเศร้า
ขนมไหว้เจ้า
-
ขนมเข่ง ขนมเทียน หมายถึง ความร่ำรวยเงินทอง ความราบรื่นในชีวิต
-
ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต ความรุ่งเรือง
-
ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความมีชื่อเสียง
-
ขนมสาลี่ หมายถึง ความรุ่งเรืองและความเฟื่องฟู
-
ซาลาเปา หรือหมั่นโถว หมายถึง ห่อโชคลาภหรือมีความโชคดี
เมนูอาหารตรุษจีน
เมนูอาหารคาว
1. หมูกรอบคั่วพริกเกลือ
ส่วนผสม หมูกรอบผัดพริกเกลือ
-
หมูกรอบ (หั่นชิ้นพอดีคำ)
-
กระเทียมสับ
-
พริกสับ
-
ต้นหอมซอย
-
เกลือ
-
พริกไทย
-
น้ำตาลทราย
-
ซอสปรุงรส
-
ข้าวสวยหุงสุก
วิธีทำหมูกรอบผัดพริกเกลือ
-
นำหมูกรอบมาคั่วในกระทะพอร้อน จากนั้นใส่กระเทียมสับและพริกสับลงไป ผัดพอหอมและเข้ากันดี
-
ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส และพริกไทย ชิมรสตามชอบ โรยต้นหอม ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักราดบนข้าวสวย พร้อมเสิร์ฟ
2. เป็ดพะโล้
ส่วนผสม เป็ดพะโล้
-
เป็ดสด 1 ตัว
-
กระเทียม 1 หัวใหญ่
-
โป๊ยกั๊ก 5-6 ดอก
-
อบเชย 4-5 ก้าน
-
พริกไทยดำ 1/4 ถ้วย
-
ชวงเจีย (พริกหอม) 1/4 ถ้วย
-
รากผักชี 2-3 ราก
-
ข่าแก่ 2 ชิ้น
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
-
ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันหอย 1 ถ้วย
-
ซีอิ๊วขาว 1 ถ้วย
-
ซีอิ๊วดำหวาน 1/2 ถ้วย
-
ซอสปรุงรส 1/3 ถ้วย
-
เหล้าจีน 1/3 ถ้วย
วิธีทำเป็ดพะโล้
-
ใส่กระเทียม โป๊ยกั๊ก อบเชย พริกไทยดำ ชวงเจีย รากผักชี ข่าแก่ น้ำตาลปี๊บ และผงพะโล้ ลงในหม้อใบใหญ่ ตามด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำหวาน ซอสปรุงรส และเหล้าจีน จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไปกะพอให้ท่วมตัวเป็ด คนให้เข้ากัน ต้มเครื่องพะโล้ประมาณ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง
-
นำเป็ดที่ล้างสะอาดแล้วใส่หม้อ โดยจับเป็ดหงายก่อนนำลงไป และต้มประมาณ 20 นาที จากนั้นกลับตัวเป็ด เอาด้านอกลงต้ม ต้มไปอีกประมาณ 20 นาที นำเป็ดขึ้นมาใส่ภาชนะผึ่งไว้
-
ใช้กระชอนตักเครื่องพะโล้ออกให้หมดจากน้ำต้มเป็ด (สามารถเก็บไว้ทำน้ำราดเป็ด ก๋วยเตี๋ยวเป็ด หรือเกาเหลา) พอเป็ดเย็นลงจัดการสับปีกเป็ด น่องเป็ด ผ่าครึ่งตัว แล้วสับตามความชอบ จัดใส่จาน
3. ไก่ต้มน้ำปลา
ส่วนผสม ไก่ต้มน้ำปลา
-
น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น (หรือไก่ส่วนอื่น ๆ ตามชอบ)
-
รากผักชี 3 ราก
-
ข่า 1/2 หัว
-
ตะไคร้ 1 ต้น
-
มะกรูด 3 ใบ
-
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
-
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
-
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
-
น้ำเปล่า
ส่วนผสม น้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลา
-
พริกขี้หนู
-
กระเทียม
-
น้ำตาลปี๊บ
-
น้ำมะนาว
-
น้ำปลา
วิธีทำไก่ต้มน้ำปลา
-
ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด จากนั้นใส่ไก่ลงไปลวกให้พอหนังตึง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่จานพักไว้
-
ใส่รากผักชี ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงในหม้อ วางชิ้นไก่ที่ลวกไว้ทับลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำ จากนั้นเทน้ำเปล่าใส่ลงไป กะให้พอท่วมชิ้นไก่ เปิดไฟอ่อน ๆ ปิดฝาต้มทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาที เมื่อต้มไก่จนสุกแล้ว ตักไก่ใส่จาน บั้งที่เนื้อไก่เล็กน้อยแล้วตักน้ำซุปราดลงไป แต่งให้สวยงาม
-
ทำน้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลา โดยซอยพริกและกระเทียมแล้วนำไปโขลกเข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลาลงไปคนผสมให้ละลายเข้ากัน ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมไก่ต้มน้ำปลา
4. ปลานิลนึ่งมะนาว
ส่วนผสม ปลานิลนึ่งมะนาว
-
ปลานิล 1 ตัว
-
น้ำปลา 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
-
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-
น้ำเปล่า หรือน้ำซุป 1/4 ถ้วย
-
กระเทียมจีน 10 กลีบ
-
พริกขี้หนูสีแดงสับ 5 เม็ด (หรือตามชอบ)
-
มะนาวฝานเป็นแผ่นบาง
-
ผักชี
วิธีทำปลานิลนึ่งมะนาว
-
ขอดเกล็ดปลา ควักเหงือกและไส้ออก ล้างให้สะอาด บั้งให้ห่าง ๆ ทั้ง 2 ด้าน
-
นำปลาใส่จานสำหรับนึ่ง นำไปนึ่งในชุดนึ่งบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรง ประมาณ 20 นาที หรือจนสุก
-
ทำน้ำยำด้วยการผสมน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ลงในถ้วย คนให้เข้ากัน ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู พักไว้
-
วางปลานึ่งลงในจาน ราดน้ำยำลงไป แต่งด้วยมะนาวฝาน และผักชีให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
5. กุ้งอบวุ้นเส้น
ส่วนผสม กุ้งอบวุ้นเส้น
-
กุ้ง 8-10 ตัว
-
วุ้นเส้น 80 กรัม (2 ห่อเล็ก)
-
เบคอนหั่น 3-4 ชิ้น
ส่วนผสม น้ำซอสกุ้งอบวุ้นเส้น
-
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-
กระเทียม 2-3 กลีบ
-
รากผักชี 1-2 ราก
-
ขิง 5-6 ชิ้น
-
พริกไทย
-
น้ำ 1/2 แก้ว
-
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
วิธีทำกุ้งอบวุ้นเส้น
-
ผสมเครื่องปรุงทุกอย่างเป็นซอสเข้มข้นหอมอร่อย ยกเว้นซีอิ๊วดำ
-
นำวุ้นเส้นที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วไปคลุกกับน้ำซอส จะทำให้วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม ไม่แฉะ หอมอร่อย
-
ใส่ซีอิ๊วดำเพิ่มสีให้น่ากิน นำเบคอนวางในกระทะ ตามด้วยวุ้นเส้น นำกุ้งไปคลุกกับน้ำซอส จะได้หอมอร่อยเข้าเนื้อ จัดวางกุ้งลงไปได้เลย
-
ผสมน้ำ 1/2 แก้วกับน้ำซอสที่เหลือ เทลงไปในกระทะ ปิดฝาอบประมาณ 10 นาที พร้อมเสิร์ฟ
เมนูของหวาน
6. ขนมเทียน
ส่วนผสม แป้งขนมเทียน
-
แป้งข้าวเหนียวดำ 1 กิโลกรัม
-
น้ำตาลปี๊บ 200-300 กรัม
-
ใบตอง (สำหรับห่อขนม)
ส่วนผสม ไส้ขนมเทียน (ไส้เค็ม)
-
ถั่วเขียวซีกเราะเปลือก 1 กิโลกรัม
-
กระเทียม
-
พริกไทย
-
น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
-
เกลือป่น
-
น้ำตาลทราย
วิธีทำไส้ขนมเทียน (ไส้เค็ม)
-
ล้างถั่วเขียวซีกเราะเปลือกให้สะอาด แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
-
โขลกกระเทียมกับพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ถั่วเขียวนึ่งลงโขลกพอหยาบ
-
ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใส่ส่วนผสมไส้ลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ให้มีรสหวาน เค็ม และเผ็ด ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมไว้
วิธีทำแป้งขนมเทียน
-
ใส่น้ำตาลปี๊บลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวให้น้ำตาลปี๊บพอละลาย ปิดไฟ ยกลงจากเตา พัก ทิ้งไว้จนเย็น
-
นวดผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำตาลปี๊บที่ละลายไว้จนเข้ากันดี เตรียมไว้
-
จับใบตองให้เป็นทรงกรวย ใส่ไส้ที่ปั้นไว้ลงไปตักส่วนผสมแป้งใส่ จากนั้นห่อให้สวยงามเรียงลงในชุดนึ่ง
-
นำขนมไปนึ่งด้วยไฟแรงที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 30 นาที จนขนมสุก ปิดไฟ นำออกจากชุดนึ่ง พร้อมเสิร์ฟ
7. ขนมเข่ง
ส่วนผสม ขนมเข่ง
-
แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
-
น้ำ 1 ถ้วย
-
น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม
-
มะพร้าวขูด 300 กรัม
-
กระทงขนมเข่ง
-
น้ำมันพืช (สำหรับทากระทง)
วิธีทำขนมเข่ง
-
ทากระทงด้วยน้ำมันพืชให้ทั่ว เตรียมไว้
-
นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจนแป้งนุ่ม จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงไปนวดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
-
ใส่มะพร้าวขูดลงคนผสมให้เข้ากัน ตักใส่กระทง ประมาณ 3/4 ของกระทง
-
วางขนมเรียงลงในชุดนึ่ง จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรงที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 30 นาที ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ใช้กรรไกรตัดเจียนกระทงที่เกินออกให้พอดีกับขนม พร้อมเสิร์ฟ
เทคนิค : คนสมัยก่อนจะใช้วิธีการจุดธูปเพื่อจับเวลานึ่งขนม ใช้ธูปสำหรับไหว้พระ ขนาดยาว 1 ดอก พอธูปหมดแสดงว่าขนมเข่งสุกแล้ว
8. ขนมไข่
ขนมไข่ สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ มีทั้งอบแบบนุ่มและแบบกรอบนอกนุ่มใน สามารถใส่ลูกเกด ไส้แยม ไส้ช็อกโกแลต หรือธัญพืชเพิ่มได้
ส่วนผสม ขนมไข่
-
ไข่ไก่ 3 ฟอง (แยกไข่ขาว+ไข่แดง)
-
ครีมออฟทาร์ทาร์ (หรือน้ำมะนาว) 1/2 ช้อนชา
-
น้ำตาลทราย 100-110 กรัม (สามารถลดหรือเพิ่มได้)
-
กลิ่นวานิลลา
-
น้ำเปล่า 1-2 ช้อนชา
-
แป้งเค้กหรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 65 กรัม
-
ผงฟู 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
-
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา หรือ 1/8 ช้อนชา
วิธีทำขนมไข่
-
นำพิมพ์ขนมไข่ไปอุ่นในเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 180-190 องศาเซลเซียส
-
ตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์หรือน้ำมะนาวลงไปตีพอเข้ากัน หลังจากนั้นทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3-4 รอบ ตีจนเมอแรงค์ตั้งยอด *ในสูตรแยกไข่ตีเพราะมันขึ้นฟูเร็ว แต่สามารถตีไข่ทั้งฟองตามสูตรทั่วไปได้ ที่สำคัญคือ ต้องตีให้ฟู*
-
ทยอยใส่ไข่แดงลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลาและน้ำเปล่า ตีจนฟู *สังเกตจากการยกหัวตะกร้อขึ้น ถ้าส่วนผสมหยดลงและลอยบนผิวไม่จมลงถือว่าใช้ได้แล้ว*
-
ร่อนแป้ง ผงฟู และเกลือป่นลงไป แล้วตะล่อมอย่างเบามือจนเข้ากัน (แบ่งร่อนสัก 2 รอบ) แล้วนำไปใส่ถุงบีบ ถ้าไม่มีถุงบีบก็ตักหยอดเอาก็ได้
-
นำพิมพ์ขนมไข่ออกจากเตา รีบทาไขมันและหยอดขนมตอนที่พิมพ์ยังร้อนอยู่ ถ้าพิมพ์เย็นจะทำให้ขนมติดพิมพ์
-
พอหยอดเสร็จก็นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180-190 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-12 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง ถ้าอยากให้กรอบนอกนุ่มในก็อบสัก 200-220 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 10-12 นาที พออบเสร็จรีบแซะขนมออก แล้วทาไขมัน หยอดขนมต่อจนหมดแป้ง
9. ซาลาเปา
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้หมูแดง
-
แป้งซาลาเปา
-
รากผักชี 3 ราก
-
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
-
เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 500 กรัม
-
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
-
ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง
-
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนชา
-
ผงทำหมูแดง 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
-
หอมใหญ่หั่นเต๋า 1 หัว
-
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ (ละลายน้ำเปล่าเล็กน้อย)
-
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
-
กระดาษรองสำหรับซาลาเปา
ส่วนผสม แป้งเชื้อ
-
แป้งเค้ก 350 กรัม
-
ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 240 กรัม
ส่วนผสม แป้งโด
-
แป้งเค้ก 180 กรัม
-
ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา
-
แป้งเชื้อที่ผสมไว้
-
น้ำตาลทราย 125 กรัม
-
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
-
น้ำเปล่า 4 ช้อนชา
-
เนยขาว 40 กรัม
วิธีทำแป้งเชื้อ
-
ร่อนแป้งเค้ก 2 รอบแล้วใส่ลงในอ่างผสม ใส่ยีสต์ตามลงไปคนให้ผสมเข้ากัน
-
ทำหลุมแป้งตรงกลางแล้วค่อย ๆ เทน้ำเปล่าลงไป ใช้หัวตีรูปตะขอนวดแป้งจนส่วนผสมเริ่มเป็นก้อน
-
นำส่วนผสมแป้งใส่ภาชนะแล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารหรือผ้าขาวบาง พักแป้งไว้ประมาณ 30-40 นาทีจนแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า
วิธีทำแป้งโด
-
ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูเข้าด้วยกัน 2 รอบ เตรียมไว้
-
ใส่แป้งเชื้อที่ขึ้นฟูแล้วลงในเครื่องตีแป้ง ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำเปล่า ตีด้วยหัวตีรูปตะขอใช้ความเร็วปานกลางนวดแป้งพอเข้ากัน ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีจนพอจับตัวเป็นก้อน ใส่เนยขาวลงไปนวดจนแป้งมีเนื้อเนียนและนุ่ม
-
นำก้อนแป้งออกมาคลึงเป็นก้อนกลม ใส่ภาชนะแล้วใช้พลาสติกถนอมอาหารคลุมแป้งพักไว้ประมาณ 5-10 นาที
-
แบ่งแป้งออกเป็นก้อนขนาดตามต้องการ จากนั้นคลึงเป็นก้อนกลม ๆ แล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารทิ้งไว้อีกประมาณ 10 นาที หรือจนส่วนผสมฟูขึ้นเป็นสองเท่าแล้วจึงนำไปห่อไส้ที่ต้องการ
วิธีทำซาลาเปาไส้หมูแดง
-
โขลกรากผักชีและพริกไทยให้ละเอียด เตรียมไว้
-
ผสมน้ำตาลทราย ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำหวาน ผงหมูแดง เกลือป่น และกระเทียมกับพริกไทยที่โขลกไว้เข้าด้วยกัน ใส่เนื้อสะโพกหมูลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
-
นำหมูที่หมักไว้ใส่ลงในหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่าแล้วนำไปต้มจนเนื้อหมูสุกและเก็บน้ำหมูแดงเอาไว้ จากนั้นหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นเต๋าเล็ก ๆ
-
นำเนื้อหมูลงไปผัดพร้อมจากนั้นใส่หอมใหญ่ลงผัดพอสุก ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำลงไปผัดจนส่วนผสมแห้ง
-
แผ่แป้งซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วออกเป็นแผ่นบาง ตักส่วนผสมไส้หมูแดงลงไป ห่อให้สวยงาม วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักไว้จนขึ้นฟูเป็นสองเท่า
-
นำซาลาเปาไปนึ่งบนน้ำเดือดโดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาทีจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่งจัดเสิร์ฟ
10. ขนมสาลี่
ส่วนผสม ขนมสาลี่โบราณ
-
แป้งเค้ก 120 กรัม
-
ผงฟู 1 ช้อนชา
-
เกลือ 1/4 ช้อนชา
-
ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 3 ฟอง
-
น้ำตาลทราย 130 กรัม
-
น้ำเปล่า 70 กรัม
-
สารเสริมเอสพี 10 กรัม (ใส่หรือไม่ก็ได้ค่ะ ถ้าใส่ก็จะเพิ่มปริมาตรของขนมให้สูงขึ้น และรอนึ่งได้ค่ะ)
-
กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
-
สีผสมอาหารสีแดง
-
ลูกเกด
วิธีทำขนมสาลี่โบราณ
-
ร่อนแป้งเค้กและผงฟูให้แป้งฟูเบาขึ้นและเอาสิ่งสกปรกออก หลังจากนั้นใส่เกลือลงในแป้ง คนให้เข้ากัน พักไว้ และนำไข่ไก่ น้ำตาลทราย ตามด้วยน้ำเปล่า ใส่ลงในโถตี และปาดสารเสริมเอสพีที่หัวตะกร้อ
-
ตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 6 นาที จนขึ้นฟู ระหว่างตีให้ใส่กลิ่นมะลิได้เลย เมื่อครบเวลาให้เปลี่ยนเป็นความเร็วต่ำสุด แล้วทยอยใช้ช้อนตักแป้งใส่ลงในโถตี โดยทยอยใส่จนหมด ในระหว่างใส่แป้งให้ตีด้วยความเร็วต่ำสุด
-
หลังจากใส่แป้งหมดให้ใส่สีผสมอาหารสีแดง (ทยอยใส่จนได้สีที่ชอบ) ตีต่อจนแป้งและส่วนผสมอื่น ๆ เข้ากันดี แล้วปิดเครื่องตี
-
ใช้พายซิลิโคนตะล่อมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันอีกครั้ง หลังจากนั้นเทใส่ถาดสี่เหลี่ยมขนาด 8x8 หรือ 9x9 นิ้ว เกลี่ยให้หน้าขนมเรียบ แล้วแต่งหน้าด้วยลูกเกด
-
นำลงซึ้งนึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 12-15 นาที (น้ำในซึ้งต้องเดือดก่อนนำขนมลงนึ่ง) เมื่อนึ่งสุก ลูกเกดอาจจะจม ดังนั้นเพื่อเพิ่มความสวยงาม สามารถนำมาแต่งเพิ่มได้ เมื่อนึ่งสุกพักให้เย็น แกะกระดาษไข ตัดเป็นชิ้นพร้อมเสิร์ฟ
บทความเกี่ยวกับเมนูอาหารตรุษจีนที่น่าสนใจ
◆ 22 เมนูของไหว้เจ้า อาหารตรุษจีนทั้งคาวหวานเสริมความมงคล
◆ 10 เมนูอาหารสารทจีน ตรุษจีน เตรียมของไหว้เจ้ารับความมงคล
◆ 12 เมนูขนมวันไหว้ เสริมความโชคดีมีชัยรับสารทจีน ตรุษจีน