ชวนทำเมนูวันสงกรานต์ขายหารายได้ ทั้งอาหารจานเดียว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ลองมาส่องดูกัน
ใกล้เข้าสงกรานต์ 2568 ใครอยากทำอาหารขายหารายได้เสริมช่วงนี้ วันนี้เรามีเมนูวันสงกรานต์มาฝาก มีทั้งคาวและหวาน เช่น ข้าวผัดกะเพรา ข้าวไข่เจียว รวมทั้งเครื่องดื่ม
สูตรอาหารจานเดียว
1. ข้าวราดกะเพราหมูเด้ง

ภาพจาก : คุณ Guyama
ข้าวราดกะเพราหมูเด้ง สูตรจาก คุณ Guyama มาพร้อมวิธีทำหมูเด้ง พอเสร็จแล้วก็นำไปลวกจนสุก จากนั้นเอามาผัดกับใบกะเพราและปรุงรสเผ็ดเค็มตามชอบ
ส่วนผสม ข้าวราดกะเพราหมูเด้ง
-
เนื้อหมูบดละเอียด
-
แป้งข้าวโพด
-
พริกไทย
-
น้ำตาลทราย
-
ผงปรุงรส
-
ซีอิ๊วขาว
-
เบกกิ้งโซดา
-
พริก
-
กระเทียม
-
ใบกะเพรา
-
น้ำปลา
วิธีทำหมูเด้ง
-
ทำหมูเด้ง โดยนำเนื้อหมูบดละเอียดผสมกับแป้งข้าวโพด พริกไทย น้ำตาลทราย ผงปรุงรส ซีอิ๊วขาว และเบกกิ้งโซดา จากนั้นคนคลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน
-
นำเนื้อหมูเด้งไปแช่ในช่องฟรีซประมาณ 30 นาที เพื่อให้เนื้อหมูเข้ารูปและเด้งมากขึ้น
-
นำเนื้อหมูเด้งแบ่งออกเป็นชิ้นพอดีคำ ลวกลงในน้ำร้อนจนสุกแล้วนำมาพักไว้
วิธีทำข้าวราดกะเพราหมูเด้ง
-
ปั่นพริกกับกระเทียมให้ละเอียดเข้ากันแล้วผัดให้หอม
-
นำเนื้อหมูเด้งลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว ผงปรุงรส น้ำตาลทราย ผัดให้หอมทั่ว
-
เมื่อผัดเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำใบกะเพราผัดลงไปจนกลิ่นหอม โรยพริกไทยเล็กน้อย
2. ข้าวราดผัดพริกแกงหมู

ข้าวราดผัดพริกแกงหมู จับพริกแกงผัดกับหมูและถั่วฝักยาว ปรุงรสตามชอบ สุดท้ายใส่ใบโหระพาและใบมะกรูดซอยลงไป
ส่วนผสม ผัดพริกแกงหมู
-
หมูหั่นชิ้นหรือหมูสับ 300 กรัม
-
น้ำพริกแกงเผ็ด 1-2 ช้อนโต๊ะ (ความเผ็ดตามชอบ)
-
ถั่วฝักยาวหั่นท่อน
-
ใบโหระพา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
-
ใบมะกรูดซอย 10 ใบ
-
น้ำตาลทราย (สำหรับปรุงรส)
-
น้ำปลา (สำหรับปรุงรส)
-
น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำผัดพริกแกงหมู
-
ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่น้ำพริกแกงลงไปผัดพอหอม
-
ใส่หมูลงไปผัดจนสุก ใส่ถั่วฝักยาวผัดตามชอบ
-
ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายกับน้ำปลา
-
ใส่ใบโหระพาและใบมะกรูดซอย ผัดพอเข้ากัน ปิดไฟ ยกลงจากเตา ตักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย
3. ข้าวคะน้าหมูกรอบ

ข้าวคะน้าหมูกรอบ จับคะน้าผัดกับเครื่องปรุงต่าง ๆ ทั้งพริก กระเทียม น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และเต้าเจี้ยว ที่ขาดไม่ได้เลยคือ หมูกรอบ
ส่วนผสม ข้าวราดคะน้าหมูกรอบ
-
คะน้า 1 ต้น
-
หมูกรอบหั่นชิ้น (ตามชอบ)
-
พริกขี้หนูทุบ (ตามชอบ)
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันหอย 2 ช้อนชา
-
เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-
น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำข้าวคะน้าหมูกรอบ
-
ล้างผักคะน้าให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ หั่นเป็นชิ้นตามชอบ เตรียมไว้
-
ใส่คะน้า หมูกรอบ พริกขี้หนู กระเทียมสับ น้ำมันหอย เต้าเจี้ยว และน้ำตาลทราย ลงในอ่างผสม เตรียมไว้
-
ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ เปิดไฟแรง พอน้ำมันร้อนจัดใส่ผักลงไป ผัดพอสุก ประมาณ 30 วินาที ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
4. ข้าวราดหมูกระเทียม

ภาพจาก : คุณ Guyama
ข้าวราดหมูกระเทียม สูตรจาก คุณ Guyama จับสันคอหมูหมักกับเครื่องปรุงรส พอครบเวลาก็นำไปย่างจนสุก
ส่วนผสม ข้าวราดหมูกระเทียม
-
เนื้อสันคอหมู
-
กระเทียมสับ (สำหรับหมักกับเจียว)
-
พริกไทย
-
ลูกผักชี
-
ซีอิ๊วขาว
-
น้ำมันหอย
-
ผงปรุงรส
วิธีทำข้าวราดหมูกระเทียม
-
เตรียมเนื้อสันคอหมู แล้วนำกระเทียมสับละเอียด พริกไทย ลูกผักชี ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และผงปรุงรส ใส่ลงไปคลุกเคล้ากับเนื้อสันคอหมูให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 30 นาที
-
เจียวกระเทียมให้กรอบหอมเหลือง แล้วตักแยกพักไว้
-
นำเนื้อสันคอหมูที่หมักไว้ไปย่างจนสุกทั่ว
5. ข้าวราดเนื้อผัดน้ำมันหอย

ข้าวเนื้อผัดน้ำมันหอย จับเนื้อวัวหมักกับซีอิ๊วและน้ำมันงา พอครบเวลาเอาไปผัดจนสุกและปรุงรสตามชอบ
ส่วนผสม ข้าวเนื้อผัดน้ำมันหอย
-
เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นบาง 200 กรัม
-
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
งาขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
-
แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)
-
กระเทียมสับละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
-
แครอตกดเป็นดอก 10 ดอก
-
หอมใหญ่หั่นเป็นชิ้น 1/2 หัว
-
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
-
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
-
ต้นหอมหั่นเป็นท่อน 1 ต้น
วิธีทำข้าวเนื้อผัดน้ำมันหอย
-
หมักเนื้อวัวกับซีอิ๊วขาว งาขาว น้ำมันงา และแป้งข้าวโพด คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ในตู้เย็น ประมาณ 30 นาที
-
ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใส่กระเทียมลงไป เจียวจนกรอบ
-
ใส่แครอต หอมใหญ่ และเนื้อที่หมักไว้ ใช้ไฟแรงปานกลางผัดจนสุก
-
ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซอสปรุงรส และน้ำตาลทราย ผัดผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่ต้นหอม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
6. ข้าวราดผัดพริกแกงปลาหมึก

ข้าวราดผัดพริกแกงปลาหมึก จับถั่วฝักยาวไปลวกสักครู่ก่อนนำไปผัดกับพริกแกงและปลาหมึก ใส่พริกแดงและใบมะกรูดซอยปิดท้าย
ส่วนผสม ข้าวราดผัดพริกแกงปลาหมึก
-
ปลาหมึกสด
-
พริกแกงเผ็ดใต้ หรือพริกแกงแดง
-
ถั่วฝักยาวหั่นท่อน
-
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ
-
ใบมะกรูดซอยหรือฉีก
-
น้ำตาลทราย
-
ซีอิ๊วขาว
-
น้ำมันพืช
วิธีทำข้าวราดผัดพริกแกงปลาหมึก
-
ตั้งน้ำเปล่าใส่เกลือเล็กน้อย พอน้ำเดือดใส่ถั่วฝักยาวลงไปลวกสักครู่ เพื่อให้ถั่วฝักยาวสีเขียวสวยและกรอบ ตักขึ้นพักไว้
-
ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่พริกแกงเผ็ดลงไป ผัดจนกลิ่นหอม ตามด้วยปลาหมึก ผัดพอสุก ปรุงรสตามชอบ
-
ใส่ถั่วฝักยาวลวกลงไป ผัดคลุกเคล้าสักครู่ ใส่พริกแดงและใบมะกรูด ผัดพอเข้ากัน ตักเสิร์ฟ
7. ข้าวไข่เจียว

ภาพจาก : คุณหมีซี้ด
ไข่เจียวหมูสับ สูตรจาก คุณหมีซี้ด จับไข่ตีผสมกับน้ำปลาและหมูบดลวก จากนั้นนำไปทอดจนสุกทั้งสองด้าน
ส่วนผสม ไข่เจียวหมูสับ
-
ไข่ไก่ 5-6 ฟอง
-
หมูบดหรือหมูสับลวกสุก 4 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมัน 200 มิลลิลิตร
วิธีทำไข่เจียวหมูสับ
-
ตอกไข่ใส่ชาม ตีผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ตีผสมจนเข้ากัน ใส่หมูบดลวกลงไป ตีให้เข้ากัน
-
ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป เร่งไฟพอน้ำมันร้อนจัด เพื่อเวลาทอดไข่จะไม่ติดกระทะและไม่อมน้ำมัน เบาไฟเหลือไฟกลาง เทไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวคนตรงกลางไข่จะช่วยให้ไข่สุกเร็ว ทอดไปเรื่อย ๆ จนกว่าไข่จะสุก เมื่อเสร็จก็สะเด็ดน้ำมัน
8. หมูปิ้งข้าวเหนียว

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา
หมูปิ้ง สูตรจาก เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา จับหมูหมักกับสามเกลอ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วดำ และซีอิ๊วขาว พอครบเวลาก็นำไปเสียบไม้ย่างจนสุก
ส่วนผสม หมูปิ้ง
-
เนื้อหมู (ส่วนสะโพกหรือสันนอก) 1 กก.
-
รากผักชี 25 กรัม
-
กระเทียมไทยแกะเปลือก 2 หัว
-
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา
-
น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม
-
หัวกะทิ 1+1/2 ถ้วยตวง
-
ซีอิ๊วดำ 3 ช้อนชา
-
ซีอิ๊วขาว 8 ช้อนโต๊ะ
-
ซอสปรุงรสฝาเขียว 6 ช้อนโต๊ะ
-
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
-
ไข่แดง 1 ฟอง
-
น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ
-
ไม้ (สำหรับเสียบหมู)
วิธีทำหมูปิ้ง
-
แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 ซม. กว้างประมาณ 4-5 ซม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ (หรือหั่นตามความถนัด)
-
โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ด จนละเอียดเข้าด้วยกัน
-
ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง (ส่วนกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วย เก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง) ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป
-
หลังจากหมักหมูทิ้งไว้ครบเวลาแล้ว นำเนื้อหมูออกจากตู้เย็นมาเสียบด้วยไม้
-
นำน้ำที่เหลือจากหมักหมูไปผสมกับกะทิที่เหลือให้เข้ากัน เตรียมไว้
-
เปิดเตาสำหรับปิ้งหมูให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นนำหมูขึ้นปิ้งบนเตา (หมั่นคอยดู) พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง แล้วใช้แปรงจุ่มส่วนผสมกะทิที่ผสมไว้ทาให้ทั่วด้านบน พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับมาทาซอสอีกครั้ง ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน (แต่ไม่ควรปิ้งให้แห้ง เพราะน้ำในเนื้อหมูจะระเหยไปกับความร้อน ทำให้หมูเหนียวและแข็ง)
9. ข้าวผัดหมู

ข้าวผัดหมู ใส่หมูสับหรือหมูชิ้นก็ได้ ผัดกับข้าวสวย ใส่คะน้า มะเขือเทศ หอมใหญ่ ไข่ไก่ และต้นหอม ปรุงรสเค็มตามชอบ
ส่วนผสม ข้าวผัดหมู
-
น้ำมันพืช
-
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
-
หมูหั่นชิ้นหรือหมูสับ
-
ไข่ไก่ 1 ฟอง
-
ข้าวสวย 1-2 ถ้วย
-
คะน้า
-
น้ำตาลทราย
-
ซอสปรุงรส
-
ซีอิ๊วขาว
-
ซีอิ๊วดำ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
-
มะเขือเทศ
-
หอมใหญ่
-
ต้นหอม
วิธีทำข้าวผัดหมู
-
ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนหอม ใส่หมูลงไปผัดพอสุก
-
ตอกไข่ไก่ลงไปยีพอแตก ตามด้วยคะน้า ผัดพอสุก ใส่ข้าวสวยลงไป
-
ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส อาจเพิ่มสีสันด้วยซีอิ๊วดำ
-
ใส่มะเขือเทศกับหอมใหญ่ ผัดคลุกเคล้าพอเข้ากัน ใส่ต้นหอม ผัดพอเข้ากัน ตักเสิร์ฟกับมะนาวหั่นซีก แตงกวา และพริกน้ำปลา
10. ผัดซีอิ๊วหมู

ผัดซีอิ๊วหมูหมัก จับเส้นใหญ่ผัดกับหมูหมัก ใส่คะน้ากับไข่ ใส่ซีอิ๊วดำเพิ่มสีสัน ปรุงรสด้วยพริกป่นหน่อยแซ่บเลย
ส่วนผสม หมูหมัก
-
เนื้อหมูหั่นชิ้น
-
ซีอิ๊วขาว
-
น้ำมันหอย
-
น้ำตาลทรายแดง
-
แป้งข้าวโพด
-
น้ำมันพืช
-
พริกไทยป่น
ส่วนผสม ผัดซีอิ๊วหมู
-
เส้นใหญ่ (สำหรับผัด)
-
ซีอิ๊วดำ
-
หมูหมัก
-
กระเทียมสับ
-
ไข่ไก่
-
คะน้าหั่นท่อน
-
น้ำตาลทราย
-
น้ำมันหอย
-
ซีอิ๊วขาว
-
พริกไทย
วิธีหมักหมูผัดซีอิ๊ว
-
ใส่เนื้อหมูลงอ่างผสม เติมซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทรายแดง แป้งข้าวโพด น้ำมันพืช และพริกไทยป่น คลุกผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
วิธีทำผัดซีอิ๊ว
-
นำเส้นใหญ่ใส่อ่างผสม เติมซีอิ๊วดำ คลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน
-
ตั้งกระทะใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป พอร้อนใส่กระเทียมและหมูหมักลงไปผัด
-
พอหมูเริ่มสุกตอกไข่ลงไป ตามด้วยคะน้า ใส่เส้นใหญ่ลงไปผัด ปรุงรสตามชอบ ผัดจนทุกอย่างเข้ากัน ปิดไฟ ตักเสิร์ฟ
สูตรของหวาน
11. น้ำแข็งไส

น้ำแข็งไส เมนูสงกรานต์คลายร้อน จับน้ำแข็งป่นราดน้ำหวาน จะใส่สีเดียวหรือหลากสีก็ได้ แต่งด้วยท็อปปิ้งต่าง ๆ
ส่วนผสม น้ำแข็งไส
-
น้ำแข็งป่น
-
น้ำหวานสีตามชอบ
-
นมข้นหวาน
-
ท็อปปิ้งตามเช่น เช่น เฉาก๊วย ขนมปัง ลูกชิด มันเชื่อม เป็นต้น
วิธีทำน้ำแข็งไส
-
นำน้ำแข็งเข้าเครื่องปั่นหรือเครื่องไสน้ำแข็ง เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย ราดน้ำหวานตามชอบ ราดนมข้นหวาน แต่งด้วยท็อปปิ้งต่าง ๆ
12. ไอศกรีมลอดช่องกะทิสด

ไอศกรีมลอดช่องกะทิ สูตรไม่ใช้เครื่อง มีความหอมของกะทิ เติมน้ำตาลทรายและเกลือ พร้อมเพิ่มความหวานมันจากนมข้นจืด
ส่วนผสม ไอศกรีมลอดช่องกะทิ
-
กะทิ 500 มิลลิลิตร
-
แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
-
เกลือ เล็กน้อย
-
นมข้นจืด 100 มิลลิลิตร
-
ลอดช่อง
-
ขนุน (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำไอศกรีมลอดช่องกะทิ
-
ตั้งหม้ออย่าเพิ่งเปิดไฟ ใส่กะทิลงไป ตามด้วยแป้งข้าวโพด คนผสมจนแป้งละลาย
-
เปิดไฟกลาง พอเดือดใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น นมข้นจืด กวนไปเรื่อย ๆ จนข้นตามชอบ ปิดไฟ
-
ใส่ลอดช่องลงไป คนผสมจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ทนความร้อน รอจนอุ่น แช่ไว้ในช่องฟรีซจนเซตตัวหรือข้ามคืน
13. ลอดช่องสิงคโปร์

ลอดช่องสิงคโปร์ ขนมหวานใส่น้ำแข็ง เส้นยาวเหนียวนุ่ม หอมใบเตย ใส่ท็อปปิ้งอย่างเช่นขนุนและมะพร้าวอ่อน
ส่วนผสม แป้งลอดช่องสิงคโปร์
-
แป้งมัน 250 กรัม
-
น้ำใบเตยเข้มข้น 250 กรัม
-
น้ำตาลทราย 500 กรัม
-
น้ำเปล่า 500 กรัม
-
ใบเตย 5 ใบ
-
กะทิ 500 กรัม
-
เกลือป่น เล็กน้อย
-
ขนุนสุกหั่นเป็นเส้นหรือหั่นเต๋า
-
มะพร้าวอ่อนหั่นเป็นเส้น
-
น้ำแข็ง
วิธีทำลอดช่องสิงคโปร์
-
ใส่ใบเตยลงในเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าลงไป ปั่นจนละเอียด กรองเอาเฉพาะน้ำ พักไว้
-
ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และใบเตยมัด ลงในหม้อ เปิดไฟใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรง เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและเดือด ลดเป็นไฟกลาง เคี่ยวไปอีกประมาณ 5-10 นาที ปิดเตา พักให้เย็น
-
ทำกะทิ โดยใส่กะทิลงในหม้อ เติมเกลือลงไปเล็กน้อย เปิดไฟกลาง คนไปเรื่อย ๆ จนร้อนจัด อย่าให้เดือดจนแตกมัน ปิดไฟ พักให้เย็น
-
นำน้ำใบเตยไปต้มจนเดือดจัด ค่อย ๆ เทใส่ลงในอ่างแป้งมัน คนพอเข้ากัน จากนั้นใช้มือนวดแป้งต่อจนเป็นก้อนเนียน
-
นำส่วนผสมแป้งมาคลึงเป็นแผ่นบางแล้วตัดเป็นเส้น ๆ ตามชอบ
-
นำแป้งลงไปต้มในน้ำเดือดจัดจนเส้นสุก ใส และลอยขึ้น ตักใส่น้ำเย็น ล้างหลาย ๆ น้ำจนน้ำใส ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
-
ตักส่วนผสมลอดช่องใส่ภาชนะ เติมน้ำเชื่อม กะทิ น้ำแข็ง และท็อปปิ้ง เช่น ขนุนและมะพร้าวอ่อน ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
14. วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน สูตรนี้ใส่ทั้งน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าว เติมความหวานจากน้ำตาลทราย เพิ่มกะทิให้หอมมันยิ่งขึ้น
ส่วนผสม วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน
-
น้ำมะพร้าว 350 กรัม
-
ผงวุ้น 4 กรัม
-
น้ำตาลทราย 150 กรัม
-
เกลือ 1/4 ช้อนชา
-
เนื้อมะพร้าวอ่อน 100 กรัม
-
กะทิ 500 กรัม
วิธีทำวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน
-
ใส่ผงวุ้นกับน้ำมะพร้าว แช่ประมาณ 20 นาที เพื่อให้วุ้นอิ่มตัว คนผสมให้เข้ากัน
-
นำขึ้นตั้งไฟ เติมเกลือกับน้ำตาลทราย คนจนละลาย พอเดือดใส่มะพร้าวอ่อนลงไป
-
พอเดือดอีกครั้งใส่กะทิ ต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที พอร้อนไม่ต้องเดือด เพราะไม่ต้องการให้กะทิแตกมัน
-
หยอดน้ำวุ้นใส่พิมพ์ตามชอบ ช้อนฟองอากาศออก วางไว้ให้เซตตัวประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปแช่เย็น
15. ขนมรวมมิตร

ขนมรวมมิตร สูตรจาก คุณ sujitrar สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ขนมหวานไทย เช่น ลอดช่อง ครองแครง ทับทิมกรอบ สาคู ข้าวโพด เป็นต้น
ส่วนผสม ขนมรวมมิตร
-
แป้งมัน 500 กรัม
-
น้ำเปล่า (1) 250 มิลลิลิตร
-
สีผสมอาหารตามชอบ
-
สาคู 150 กรัม
-
น้ำ (สำหรับต้ม)
ส่วนผสม น้ำกะทิ
-
กะทิ 400 มิลลิลิตร
-
น้ำเปล่า (2) 600 มิลลิลิตร
-
น้ำตาลทราย 200 กรัม
-
เกลือ 1/4 ช้อนชา
-
ท็อปปิ้งตามชอบ
วิธีทำขนมรวมมิตร
-
ทำแป้งขนม โดยต้มน้ำ (1) ให้เดือด หลังจากนั้นนำน้ำร้อนที่ได้ทยอยเทลงในแป้ง คนให้แป้งจับตัวเป็นก้อน พอเริ่มจับตัวให้นวดจนแป้งเนียน นำแป้งแบ่งเป็นสีตามที่จะใส่ (ตามชอบ) จากที่ทำแบ่งเป็น 4 ส่วน สำหรับ 4 สี
-
นำสีหยดลงในถ้วย ผสมน้ำเล็กน้อย (ปริมาณความเข้มของสีตามชอบ) แล้วคนให้เข้ากัน นำสีที่ได้เทใส่ลงในแป้งที่แบ่งไว้แล้วนวดให้เข้ากัน โดยทำทีละสี ทำแบบนี้จนครบตามที่แบ่งแป้งไว้ หลังจากนั้นแบ่งแป้งแต่ละสีออกเป็น 2 ส่วน เพื่อทำครองแครงและลอดช่อง
-
ปั้นแป้งที่แบ่งไว้เป็นครองแครง และคลึงแป้งส่วนที่เหลือเป็นแผ่นบาง ๆ ตัดเป็นชิ้นตามยาว ขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว นำมาซ้อนกัน แล้วตัดเป็นชิ้นยาวขนาดเล็กตามภาพเพื่อทำลอดช่อง เมื่อทำครองแครงและลอดช่องเสร็จครบทุกสีแล้วหาผ้าคลุมแล้วพักไว้สักครู่
-
ต้มน้ำให้เดือด (น้ำส่วนนี้ไม่มีในส่วนผสม) เมื่อเดือดแล้วให้ใส่สาคูลงไปต้มให้สุก แล้วพักไว้ในน้ำเย็น
-
นำน้ำใส่หม้อแล้วต้มให้เดือด หลังจากนั้นต้มครองแครงให้สุก แล้วตักขึ้นพักในน้ำเย็น ต้มลอดช่องให้สุก แล้วพักในน้ำเย็นเช่นกัน
-
ทำกะทิ โดยนำกะทิ น้ำเปล่า น้ำตาลทราย และเกลือ ใส่ลงหม้อ คนให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟอ่อนแค่พอเดือดปุด ๆ ที่ขอบหม้อ แล้วปิดไฟ นำขึ้นพักให้เย็น
-
ใส่สาคู ครองแครง และลอดช่อง ลงในน้ำกะทิ ตามด้วยท็อปปิ้งต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ลงไป ถ้ามีขนุนใส่ลงไปด้วยจะยิ่งหอม ตักเสิร์ฟเลย หรือจะใส่น้ำแข็งก็อร่อยชื่นใจ
สูตรเครื่องดื่ม
16. น้ำใบเตย

น้ำใบเตย ล้างใบเตยและจับต้มกับน้ำเปล่าจนเปลี่ยนสี เติมน้ำตาลทราย คนจนละลาย ปิดไฟ ตักใส่แก้วน้ำแข็ง
ส่วนผสม น้ำใบเตย
-
ใบเตยหอม
-
เกลือ เล็กน้อย
-
น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ
-
น้ำเปล่า
-
น้ำแข็ง
วิธีทำน้ำใบเตย
1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นท่อน
2. ตั้งน้ำจนเดือด ใส่ใบเตยลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี ตักเอาใบเตยออก ปิดเตา
3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปนิดหน่อย คนจนน้ำตาลละลาย ตักใส่แก้วน้ำแข็ง จัดเสิร์ฟ
17. นมชมพู

นมเย็น หรือนมชมพู จับนมสด นมข้นหวาน และน้ำหวาน ผสมเข้าด้วยกัน ตักใส่แก้วน้ำแข็ง
ส่วนผสม นมเย็น
-
นมสด 5 ออนซ์
-
นมข้นหวาน 1 ออนซ์
-
น้ำหวานสีแดง 2 ช้อนชา
-
นมข้นจืด หรือวิปปิ้งครีม (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำนมเย็น
-
ผสมนมสด นมข้นหวาน และน้ำหวาน เข้าด้วยกันจนเป็นฟอง
-
เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ราดด้วยนมข้นจืดหรือวิปปิ้งครีม พร้อมเสิร์ฟ
18. น้ำผึ้งมะนาวโซดา

น้ำผึ้งมะนาวโซดา เริ่มจากผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวจนเข้ากันแล้วเทใส่แก้วน้ำแข็ง ใส่โซดาแช่เย็นลงไป
ส่วนผสม น้ำผึ้งมะนาวโซดา
-
น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
-
โซดาแช่เย็นจัด
-
น้ำแข็ง 1 แก้ว
-
มะนาวฝานเป็นชิ้นบาง (สำหรับแต่งแก้ว)
-
ใบสะระแหน่ (สำหรับแต่งแก้ว)
วิธีทำน้ำผึ้งมะนาวโซดา
-
ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้ละลายเข้ากัน เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง
-
ตามด้วยโซดาแช่เย็นจนเต็มแก้ว แต่งด้วยมะนาวฝานและใบสะระแหน่ พร้อมดื่ม
19. สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตปั่น

สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตปั่น จับสตรอว์เบอร์รีแช่แข็งปั่นผสมกับน้ำสตรอว์เบอร์รี น้ำเชื่อม น้ำเปล่า และเกลือ เทใส่แก้วแล้วราดโยเกิร์ต
ส่วนผสม สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตปั่น (แก้วขนาด 22 ออนซ์)
-
สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 5 ลูก
-
น้ำสตรอว์เบอร์รี 60 มิลลิลิตร
-
น้ำเชื่อม 45 มิลลิลิตร
-
น้ำเปล่า 45 มิลลิลิตร
-
เกลือป่น เล็กน้อย
-
ผงปั่นสมูทตี้ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
-
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (สำหรับราด)
-
สตรอว์เบอร์รีสด (สำหรับแต่ง)
-
น้ำแข็ง
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตปั่น
-
ใส่สตรอว์เบอร์รีแช่แข็งลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำสตรอว์เบอร์รี น้ำเชื่อม น้ำเปล่า และเกลือ ปั่นจนเนียนละเอียด
-
เทใส่แก้ว แต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด ราดด้วยโยเกิร์ตเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
20. ชานมไข่มุก

ชานมไข่มุก จับผงชาชงกับน้ำร้อน กรองเอาชาออกเหลือแต่น้ำ แล้วเติมน้ำตาลทราย คนจนละลาย เทใส่แก้วน้ำแข็งที่มีไข่มุกแล้ว ราดนมสดปิดท้าย
ส่วนผสม ชานมไข่มุก
-
ผงชา 1 ช้อนชา
-
น้ำเดือด 8 ออนซ์
-
น้ำตาลทราย เล็กน้อย (สำหรับปรุงรส)
-
ไข่มุกต้มสุก 1/4 ถ้วย
-
น้ำแข็ง
-
นมสด (ตามชอบ)
วิธีทำชานมไข่มุก
-
แช่ผงชากับน้ำร้อนไว้ประมาณ 5 นาที พอครบเวลากรองเอาชาออก
-
เติมน้ำตาลทรายลงไปตามชอบ คนให้ละลายแล้วพักทิ้งไว้จนเย็น
-
ตักไข่มุกใส่แก้ว ตามด้วยน้ำแข็ง เทน้ำชาที่เย็นแล้วลงไปจนเกือบเต็ม สุดท้ายเติมนมสดลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
จบไปแล้วสำหรับเมนูสงกรานต์ มีทั้งอาหารจานเดียวง่าย ๆ ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เหมาะกับการทำขายหารายได้เสริม