รู้ยัง ? ขนมไทยใส่ถ้วยนอกจากมีขนมถ้วย ที่คุ้นเคยแล้ว ยังมีขนมไทยอื่น ๆ ที่จับใส่ถ้วยได้น่าหยิบน่ากินอีกด้วย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำขนมไทยในถ้วย เช่น วุ้นกะทิ ปุยฝ้าย ขนมตาล จะใช้ถ้วยตะไลหรือถ้วยอื่น ๆ ตามการเลือกสรรก็ได้ กินเพลินจนลืมอิ่มแน่นอน
เริ่มต้นกับเมนูขนมไทยในถ้วยที่กินมาตั้งแต่เด็กอย่างเมนูขนมถ้วย สูตรจาก คุณ RinS CookBook สูตรนี้ตัวขนมสีธรรมชาติ ใครจะใส่น้ำใบเตยให้เป็นสีเขียวก็ตามชอบ หยอดใส่ถ้วยตะไลเล็กหรือถ้วยตะไลใหญ่ก็ได้ เอาล่ะ… เริ่มแคะขนมกินกันเลย
ส่วนผสม หน้าขนมถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• หัวกะทิ 2 ถ้วย
ส่วนผสม ตัวขนมถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
• แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
• แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำลอยดอกมะลิ 1+1/4 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
• หางกะทิ 1/2 ถ้วย
วิธีทำขนมถ้วย
1. ทำหน้าขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
2. ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
3. นำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย)
4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที
5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที
6. ค่อย ๆ ใช้ไม้พายหรือไม้ไอศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมถ้วย ขนมไทยสูตรทำง่าย ถ้วยเดียวไม่เคยพอ
++++++++++++++
2. ขนมถ้วยดอกกุหลาบ
ใครอยากได้สูตรขนมถ้วยหน้าตาไม่จำเจ ลองมาทำเมนูขนมถ้วยดอกกุหลาบ สูตรจาก คุณ Diary Delicious สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่พิมพ์ดอกกุหลาบเพิ่มความฟรุ้งฟริ้ง ทำกินเองก็ดูเก๋ หรือทำฝากก็แจ่มค่ะ
ส่วนผสม ตัวขนมถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
• แป้งมันสำปะหลัง 20 กรัม
• แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนชา
• น้ำตาลมะพร้าว 150 กรัม
• น้ำใบเตย 170 กรัม
• หางกะทิ 180 กรัม
ส่วนผสม หน้าขนมถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 6 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำขนมถ้วย
1. ทำตัวขนม โดยผสมแป้งสามอย่างเข้าด้วยกัน และนวดด้วยน้ำใบเตยเล็กน้อยให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ตัวขนมเหนียวนุ่ม
2. ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป นวดให้เข้ากัน โดยใช้น้ำใบเตยเป็นส่วนช่วยทำละลายด้วย ใส่น้ำใบเตยที่เหลือทั้งหมดและหางกะทิ ลงไปนวดให้เข้ากัน กรองแล้วพักไว้
3. ทำหน้าขนม โดยนำหัวกะทิมาผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และแป้งข้าวเจ้า กรองแล้วพักไว้
4. นำพิมพ์ซิลิโคนดอกกุหลาบใส่ลังถึง นึ่งให้ร้อนและเทส่วนผสมของตัวขนมลงไป นึ่งประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าตัวขนมสุก จากนั้นก็จะใส่หน้ากะทิลงไป นึ่งต่อด้วยไฟแรงให้หน้ากะทิแตก หลังจากขนมสุกแล้วให้พักขนมจนเย็นก่อนจะนำออกจากพิมพ์
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมถ้วยดอกกุหลาบใบเตย ขนมไทยประยุกต์ไม่ง้อถ้วยก็อร่อยได้
++++++++++++++
3. ขนมถ้วยใบเตยไส้ไข่หวาน
จากที่เคยขายขนมถ้วยใบเตยทั่วไป ลองเพิ่มความต่างด้วยการใส่ไข่หวานลงไปด้วยดีไหม กลายเป็นเมนูขนมถ้วยใบเตยไส้ไข่หวาน สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ด้านบนเป็นหน้ากะทิคลุมตัวขนมสอดไส้ไข่หวานตรงกลาง ดีงามอะไรเบอร์นี้
ส่วนผสม ตัวขนมถ้วย
• น้ำใบเตยเข้มข้น 110 กรัม (ในสูตรใช้ใบเตย 1 กำมือ)
• แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
• แป้งเท้ายายม่อม 10 กรัม
• กะทิ 350 กรัม
• น้ำตาลปึกหรือน้ำตาลปี๊บ 250 กรัม
ส่วนผสม หน้าขนมถ้วย
• กะทิ
• แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
• เกลือป่น 4 กรัม
• ไข่แดง
• น้ำตาลป่น
• กลิ่นวานิลลา
วิธีทำขนมถ้วยใบเตยไส้ไข่หวาน
1. คั้นใบเตยให้ได้น้ำใบเตยเข้มข้น เตรียมไว้
2. ใส่แป้งข้าวเจ้ากับแป้งเท้ายายม่อมลงในอ่างผสม คนให้เข้ากัน เทกะทิลงไป ใช้มือนวด ๆ ขยำ สักพัก
3. ใส่น้ำตาลปึก ขยำให้น้ำตาลละลายดี เทน้ำใบเตยลงไปผสมก็จะได้ตัวแป้งขนม
4. ทำหน้าขนม โดยใส่กะทิ แป้งข้าวเจ้า และเกลือป่น คนผสมให้เข้ากัน พักไว้ก่อน
5. ใส่ไข่แดง น้ำตาลป่น และวานิลลา คนผสมให้เข้ากัน นำไปกรองให้เนียน พักไว้ก่อน
6. เทตัวแป้งลงถ้วยตะไลประมาณ 3/4 ของถ้วย
7. ใช้วิธีการนึ่งแบบขนมบุหลันดั้นเมฆ คือ นึ่งในน้ำเดือด 2 นาที หรือ 2.30 นาทีโดยประมาณ ให้สังเกตขอบขนมจะมีสีเข้มขึ้น ส่วนตรงกลางสียังจาง ๆ อยู่เป็นใช้ได้ ให้รีบเอาออกจากชุดนึ่ง เทแป้งเหลวตรงกลางออก ขนมก็จะเป็นหลุม
8. หยอดไข่แดงหวานลงไป นำไปนึ่งสัก 1 นาทีหรือจนไข่สุก จากนั้นก็หยอดหน้าขนมที่เป็นกะทิทับหน้า แล้วนึ่งต่ออีก 15 นาที
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมถ้วยใบเตยไส้ไข่หวาน ขนมไทยเติมไอเดีย เพิ่มความเก๋
++++++++++++++
4. ข้าวเหนียวแก้วนมสด
เอาใจคุณลูกด้วยการทำข้าวเหนียวแก้วนมสด สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือ ใส่วิปปิ้งครีมหอมมันอร่อย เสิร์ฟในถ้วย กินตบท้ายของคาวกันเลยค่ะ
ส่วนผสม ข้าวเหนียวแก้ว
• ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง (แช่น้ำอย่างน้อย 4 ชั่วโมง)
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
• วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำใบเตย 1/4 ถ้วยตวง
• งาขาวกับงาดำ
วิธีทำข้าวเหนียวแก้ว
1. เทน้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม เกลือ น้ำปูนใส และน้ำใบเตยลงในกระทะ คนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายหมดแล้วก็เคี่ยวต่ออีกสักครู่
2. ใส่ข้าวเหนียวลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ตอนนี้ข้าวเหนียวเริ่มดูดซับน้ำ คนเรื่อย ๆ จนน้ำเริ่มแห้งและข้าวเหนียวเริ่มจับตัวกันเป็นก้อน ตักใส่ถ้วย
3. คั่วงาขาวกับงาดำให้หอมก่อนโรยหน้า
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวเหนียวแก้วนมสด ขนมไทยประยุกต์หวานนุ่มหอมอร่อย
++++++++++++++
5. ข้าวเหนียวแก้ว
ใครไม่มีวิปปิ้งครีมก็หันมาทำเมนูข้าวเหนียวแก้ว สูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#Rinscookbook) ใส่กะทิผสมกับข้าวเหนียวนึ่งสุกและน้ำใบเตย กวนจนข้าวเหนียวเป็นก้อนชักเงาสวย ตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ พอดีคำ
ส่วนผสม ข้าวเหนียวแก้วใบเตย
• ข้าวเหนียวนึ่งสุกและยังร้อนอยู่ [คลิกดู วิธีการนึ่งข้าวเหนียว]
• กะทิ 3/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ถ้วย
• น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
• น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ [คลิกดู วิธีทำน้ำปูนใส]
• งาดำคั่ว หรืองาขาวคั่ว (หรือทั้ง 2 ชนิด)
วิธีทำข้าวเหนียวแก้ว
1. ใส่ข้าวเหนียวร้อน ๆ กะทิ เกลือป่น น้ำปูนใส และน้ำใบเตยลงในอ่างผสมคนให้เข้ากัน ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร (หรือจาน) อย่าให้ลมเข้า พักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้ข้าวเหนียวดูดซึมส่วนผสมทุกอย่างเข้าไป
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้เข้ากัน เทส่วนผสมใส่กระทะใช้ไฟกลางอ่อน กวนข้าวเหนียวไปเรื่อย ๆ โดยค่อย ๆ กวนเพื่อให้ข้าวเหนียวเพื่อให้ข้าวเหนียวเรียงสวยและไม่หักกลาง
3. หลังจากกวนมาประมาณ 5 นาทีจนน้ำตาลทรายเริ่มละลาย ให้กวนต่ออีก 10-15 นาที จนข้าวเหนียวชักเงาและจับตัวเป็นก้อน
4. พอข้าวเหนียวเริ่มเป็นเงาและจับตัวเป็นก้อนดีแล้ว ปิดไฟและพักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรือรอจนเย็นตัว ตักข้าวเหนียวแก้วใส่พิมพ์ โรยตกแต่งด้วยงาดำ หรืองาขาว พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวเหนียวแก้ว ขนมไทยสีสดใสหวานหอม ทำไม่ยาก
++++++++++++++
6. ขนมเปียกปูนกะทิสด
ถ้าหาซื้อขนมเปียกปูนกะทิสดยากเย็นนักก็ลองมาทำกินเองดีกว่า สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อขนมสีเขียวหอมกลิ่นใบเตย ปรับลดความหวานตามชอบ เสิร์ฟในถ้วยราดกะทิ
ส่วนผสม ขนมเปียกปูนกะทิสด
• แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
• แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำปูนใส 1 ถ้วยตวง
• น้ำใบเตย 2 ถ้วยตวง
• เกลือเล็กน้อย
• น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม
ส่วนผสม กะทิราดหน้าขนม
• กะทิ 500 กรัม
• เกลือแค่หยิบมือ
• แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ที่ใส่เพื่อให้น้ำกะทิข้น)
• งาขาวคั่ว
วิธีทำขนมเปียกปูนกะทิสด
1. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำปูนใส และน้ำใบเตยผสมกันและนวดจนเข้ากันดี
2. ใส่เกลือ น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลปี๊บ นวดต่อจนเข้ากันดี กรองส่วนผสมแป้งด้วยตะแกรง 1 รอบ
3. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี สังเกตจากการเอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้ว
4. ตักขนมเปียกปูนใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบแต่งหน้าเค้ก บีบใส่ถ้วย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมเปียกปูนกะทิสด ขนมไทยโบราณเนื้อหนึบหอมเข้มกลิ่นใบเตย
++++++++++++++
7. ขนมหยกมณี
ลองยัง ? ขนมหยกมณี ขนมไทยในถ้วยสีสวยแต่หากินยาก วันว่าง ๆ แบบนี้เข้าครัวทำกันเลยดีไหม สูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#Rinscookbook) ส่วนผสมหลัก ๆ มีแค่สาคูกับน้ำใบเตย เพิ่มความสวยจากมะพร้าวขูด
ส่วนผสม ขนมหยกมณี
• สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วยตวง
• ใบเตยหั่น 5-6 ใบ
• น้ำเปล่า หรือน้ำลอยดอกมะลิ (สำหรับปั่นน้ำใบเตย) 2 ถ้วยตวง
• น้ำเปล่า (สำหรับต้มสาคู) 1+1/2 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
• มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำขนมหยกมณี
1. ล้างสาคู โดยเทสาคูลงไปบนตะแกรง ใส่น้ำเปล่าลงไป ใช้มือคนเล็กน้อย เทน้ำทิ้ง ทำซ้ำ 2 รอบ พักสาคูไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำประมาณ 15-20 นาที
2. คั้นน้ำใบเตย โดยหั่นใบเตยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่โถปั่น ใส่น้ำเปล่า หรือน้ำลอยดอกมะลิลงไป ปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง หรือถุงกาแฟ เตรียมไว้
3. พอพักสาคูไว้จนครบ 15 นาทีแล้ว เทน้ำเปล่าใส่กระทะ หรือหม้อ เปิดไฟแรงสูง พอน้ำเดือดพล่านให้ปรับเป็นไฟกลาง จากนั้นใส่สาคูลงไปคนอย่างเร็ว (เพราะสาคูจะจับเป็นก้อน) คนจนสาคูเริ่มจับตัวเป็นก้อน มีลักษณะเป็นตากบคือ มีสีขุ่นตรงกลางและภายนอกสีใส
4. ใส่น้ำใบเตยลงไปคนให้เข้ากัน กวนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ ถ้าชอบสาคูเป็นแบบตากบก็ใส่น้ำตาลทรายลงไปได้เลย หรือถ้าชอบสาคูสุกมากก็กวนจนน้ำแห้งแล้วค่อยใส่น้ำตาลทรายลงไป (ชอบแบบไหนก็ใส่น้ำตาลลงไปตอนนั้น)
5. พอใส่น้ำตาลทรายเสร็จแล้วก็กวนส่วนผสมต่อไปอีกประมาณ 5 นาที หรือจนขนมค่อนข้างหนืดตัวและข้นแต่ไม่แห้ง เทขนมใส่ถาด เกลี่ยให้เท่า ๆ กัน (ห้ามจุ่มมือลงไปเพราะขนมร้อนมาก ๆ) ผึ่งขนมไว้จนเย็น
6. นึ่งมะพร้าวขูดในชุดนึ่งใช้ไฟแรงประมาณ 15 นาที จากนั้นนำมะพร้าวใส่จาน โรยเกลือป่น คลุกเคล้าให้ทั่ว
7. นำช้อนกินข้าวไปจุ่มน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำมาตักขนมหยกมณีเป็นคำ ๆ วางขนมหยกมณีลงบนมะพร้าว คลุกเคล้าขนมหยกมณีกับมะพร้าวให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมหยกมณี ขนมไทยโบราณเนื้อนุ่มเหนียวหอมกลิ่นใบเตย
++++++++++++++
8. วุ้นกะทิใบเตย
และแล้วก็มาถึงเมนูขนมไทยในถ้วยที่เด็ก ๆ ชอบนั่นคือ เมนูวุ้นกะทิใบเตย สลับชั้นระหว่างวุ้นกะทิกับวุ้นใบเตย เคี้ยวกรุบกรอบอร่อยเพลิน แช่เย็นสุดฟิน
ส่วนผสม วุ้นใบเตย
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้าต้องการความหอมให้ผสมกลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา)
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
• น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย ถึง 1 ถ้วย
ส่วนผสม วุ้นกะทิ
• กะทิ 2+1/2 ถ้วย
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น ปลายช้อนชา
วิธีทำวุ้นกะทิใบเตย
1. ใส่น้ำและผงวุ้นลงในหม้อ คนให้ผงวุ้นกระจายทั่ว ๆ และไม่เป็นก้อน พักทิ้งไว้สักครู่
2. นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟกลางอ่อน คนผสมเรื่อย ๆ จนเริ่มเดือดและผงวุ้นละลายหมด จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลทรายละลาย
3. ใส่น้ำใบเตยคั้นลงไปคนผสมให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วนำส่วนผสมไปกรอง
4. เทส่วนผสมวุ้นใบเตยใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ประมาณครึ่งพิมพ์ นำไปแช่เย็นจนเซตตัว เตรียมไว้
5. ใส่กะทิลงในหม้อ ตามด้วยผงวุ้น จากนั้นคนให้ผงวุ้นกระจายทั่ว ๆ นำขึ้นตั้งไฟกลางอ่อน คนจนผงวุ้นละลาย และกะทิเริ่มเดือด (แต่ไม่ต้องแตกมัน) จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลทรายละลาย ปิดไฟ ยกลงจากเตา
6. ตักส่วนผสมวุ้นกะทิหยอดลงในพิมพ์ทับวุ้นใบเตยจนเต็มพิมพ์ (ต้องแน่ใจว่าวุ้นใบเตยด้านล่างเซตตัวดีแล้ว)
7. นำวุ้นไปแช่เย็นจนเซตตัว นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 เมนูวุ้นกะทิ ขนมไทยหวานหอมกรุบกรอบรับร้อนสุดฟิน
++++++++++++++
9. ขนมบุหลันดั้นเมฆ
แค่เห็นภาพขนมบุหลันดั้นเมฆ สูตรขนมไทยในถ้วยก็คันไม้คันมืออยากเข้าครัว สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งผสมน้ำดอกอัญชัน สอดไส้ไข่แดงกับกะทิ เนื้อเหนียวนุ่มหอมอร่อย
ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ
• ดอกอัญชัน
• น้ำร้อน (สำหรับคั้นน้ำอัญชัน)
• กะทิ 120 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม
• เกลือ เล็กน้อย
• ไข่แดง 10 ฟอง
• น้ำตาลไอซิ่ง 60 กรัม
• กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
• แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
• แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม
• น้ำเปล่า 200 กรัม
• น้ำเชื่อม 350 กรัม (พักไว้จนเย็น)
• ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่งขนม)
วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ
1. คั้นดอกอัญชันกับน้ำร้อนให้ได้ปริมาณ 100 กรัม พักไว้
2. ผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า 10 กรัมเข้าด้วยกันแล้วนำไปเคี่ยวในกระทะให้พอข้น ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย พักไว้
3. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกรองให้เนื้อเนียน ๆ (ในภาพยังไม่ได้กรอง) เตรียมไว้
4. ผสมแป้งข้าวเจ้า 100 กรัมและแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าลงไปผสม (ใส่น้ำเปล่านิดเดียวก่อนยังไม่ต้องใส่น้ำหมด แต่เผลอเทน้ำลงมากไปนิด) นวดแป้งประมาณ 5 นาที แป้งจะไม่ติดมือและผิวจะมีลักษณะเงา ๆ เทน้ำเปล่าที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้ำเชื่อมที่เย็นแล้ว เทน้ำดอกอัญชันลงไปผสม คนผสมให้เข้ากันแล้วนำไปกรอง พักไว้
5. นำถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน หยอดส่วนผสมแป้งลงไปจนเกือบเต็ม ปิดฝานึ่งในน้ำเดือดประมาณ 2 -2.30 นาที ถ้าเกินกว่านั้น แป้งจะสุกเกิน สังเกตจากขอบขนมเริ่มมีสีเข้มขึ้นและตรงกลางมีสียังอ่อน ๆ เป็นใช้ได้
6. จากนั้นให้รีบนำออกมาจากชุดนึ่งแล้วคว่ำถ้วยขนมลงชาม แป้งที่ยังไม่สุกก็จะไหลออกมา ทำให้ขนมเป็นหลุมตรงกลางบีบหรือหยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุม นำไปนึ่งต่ออีก 1 นาทีก็ได้ หรือจะหยอดไข่แดงเลยก็ได้
7. หยอดส่วนผสมไข่แดงลงในหลุม (ขั้นตอนนี้ระวัง ให้ปาดก้นช้อนทุกครั้ง อย่าให้มีไข่แดงติดมา เพราะมันจะหยดลงขอบขนมทำให้เลอะเทอะไม่สวย) จากนั้นนำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที เป็นอันเสร็จ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมบุหลันดั้นเมฆ วิธีทำขนมไทยโบราณสีสดใสไว้ลองชิม
++++++++++++++
10. วุ้นไข่
คอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงสำหรับเมนูวุ้นไข่ สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ส่วนผสมไม่เยอะมีแค่ผงวุ้นกับไข่ ใครจะเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นน้ำหวานหรือนมสดก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ
ส่วนผสม วุ้นไข่
• น้ำ 500 กรัม
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 80 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
วิธีทำวุ้นไข่
1. ใส่น้ำเปล่า เติมผงวุ้นกับน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลายดีและต้มวุ้นให้เดือด
2. ตีไข่ให้แตก ค่อย ๆ เทไข่ลงไปในวุ้นเป็นเส้นเล็กแล้วใช้ช้อนคนไข่ไม่ให้จับตัวเป็นก้อน
3. พอไข่สุกดีแล้วก็เทใส่กาน้ำนกหวีด เพื่อที่จะไปเทใส่พิมพ์ได้ง่าย ๆ เทวุ้นใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้ รอให้วุ้นเซตตัวจัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นไข่ สูตรขนมไทยคลาสสิกลายสวย ส่วนผสม 4 อย่าง
++++++++++++++
11. สังขยาไข่
เตรียมทำข้าวเหนียวมูนรอเลยค่ะ เราจะมาทำสังขยาไข่เอาไว้กินคู่กัน ตีผสมไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บและกะทิ เสร็จแล้วเอาไปกรองก่อนนึ่งจนสุก แค่นี้ก็เรียบร้อย
ส่วนผสม สังขยาไข่
• ไข่ไก่ 10 ฟอง
• น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
• หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำสังขยาไข่
1. ผสมไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากัน นำไปกรองผ่านตะแกรง เทใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง
2. นึ่งสังขยานานประมาณ 15 นาที หรือจนสุกยกลง พักไว้จนเย็น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยาไข่ หวานหอมรับประทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
++++++++++++++
12. ขนมปุยฝ้าย
สำหรับคนอยากทำเมนูขนมปุยฝ้ายขายสร้างรายได้วันหยุด สูตรจาก คุณ RinS CookBook (#rinscookbook) หน้าแตกเนื้อฟูนุ่ม ใส่สีสันตามชอบ พอเย็นสนิทแล้วก็จัดแจงแพ็กใส่ถุงขายกันเลย
ส่วนผสม ขนมปุยฝ้าย
• แป้งเค้ก 2+1/2 ถ้วย (ประมาณ 300 กรัม)
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• ไข่ไก่ (อุณหภูมิห้อง) 3 ฟอง
• น้ำตาลทราย 1+1/4 ถ้วย (หรือ 250 กรัม)
• น้ำเปล่า (อุณหภูมิห้อง) 1 ถ้วย
• สารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี (SP) 4 ช้อนชา
• นมข้นจืด 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำหอมกลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา (หรือกลิ่นนมแมว 2 หยด)
• สีผสมอาหาร (ตามชอบ)
วิธีทำขนมปุยฝ้าย
1. ร่อนแป้งเค้ก กับผงฟูเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย และน้ำลงในอ่างผสม จากนั้นป้ายสารเสริมคุณภาพบนหัวตีรูปตะกร้อ ตีผสมด้วยความเร็วสูง นานประมาณ 3-5 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟูเป็น 3 เท่า
3. ลดความเร็วเครื่องตีลง ใช้ความเร็วต่ำ จากนั้นค่อย ๆ ตักแป้งใส่ลงไปตีผสมจนหมด ปาดข้างอ่าง ตีผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ค่อย ๆ เทนมข้นจืดลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว และน้ำหอมกลิ่นมะลิ ตีต่อประมาณ 30 วินาที ปิดเครื่อง คลุมอ่างผสมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด ๆ พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ส่วนผสมขึ้นฟู
4. ใส่น้ำลงในชุดนึ่ง นำขึ้นตั้งไฟแรงจนน้ำเดือดจัด
5. เมื่อครบเวลา ใช้พายยางคนตะล่อมแป้งให้เข้ากันอีกครั้ง แบ่งแป้งผสมสีผสมอาหารตามชอบ เตรียมไว้
6. วางถ้วยกระดาษ (ถ้วยจีบ) ลงในพิมพ์อะลูมิเนียม ตักส่วนผสมแป้งใส่ประมาณ 3/4 พิมพ์ จากนั้นวางเรียงในชุดนึ่ง (โดยวางถ้วยให้ระยะห่างกันประมาณ 2 ซม. เพื่อให้ความร้อนกระจายขึ้นมาอย่างทั่วถึง) จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรง นานประมาณ 15 นาที นำออกจากชุดนึ่ง แกะขนมออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมปุยฝ้าย ของไหว้เจ้าวันตรุษจีน สีสันสดใสเนื้อนุ่มฟู
++++++++++++++
13. ตะโก้สาคู
ขี้เกียจทำกระทงใบเตยใส่ตะโก้สาคู ก็เปลี่ยนมาใส่ถ้วยแทนสิคะ สูตรจาก คุณ RinS CookBook (#rinscookbook) สาคูเหนียวนุ่มผสมน้ำใบเตยกับข้าวโพด ราดหน้ากะทิฉ่ำ ๆ อ้วนก็ยอม
ส่วนผสม ตะโก้สาคู
• น้ำ 3+3/4 ถ้วย
• ใบเตยสด 3-4 ใบ (หรือน้ำหอมกลิ่นใบเตย 1 ช้อนชา)
• สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย
• เม็ดข้าวโพดต้มสุก 1 ถ้วย
ส่วนผสม หน้ากะทิ
• กะทิ 4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1+1/2 ช้อนชา
วิธีทำตะโก้สาคู
1. ใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยใบเตย นำขึ้นตั้งไฟแรง ต้มจนเดือด ระหว่างรอน้ำใบเตยเดือด ใส่กะทิ น้ำตาลทราย แป้งข้าวเจ้า และเกลือป่นลงในหม้ออีกใบ เตรียมไว้
2. พอน้ำใบเตยเดือด ใส่เม็ดสาคูลงไปต้มใช้ไฟกลางอ่อน ต้มนานประมาณ 15 นาที จนเม็ดสาคูเริ่มพองออก จากนั้นนำใบเตยออก แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้เข้ากันจนเม็ดสาคูสุก
3. สุดท้ายใส่เม็ดข้าวโพดต้มสุกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ยกลงจากเตา วางพักทิ้งไว้จนเย็นลง
4. นำส่วนผสมหน้ากะทิขึ้นตั้งไฟอ่อน หมั่นคนผสมตลอดเวลา (เพื่อป้องกันไม่ให้ไหม้) นานประมาณ 15 นาที จนส่วนผสมข้น ปิดไฟ ยกลงจากเตา เตรียมไว้สำหรับราดหน้า
5. ตักสาคูใส่ถ้วย ราดด้วยหน้ากะทิ แต่งด้วยเม็ดข้าวโพด พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ตะโก้สาคู ขนมไทยหวานหอม ทำง่ายนิดเดียว
++++++++++++++
14. ตะโก้แห้ว
ตะโก้สาคูเพิ่งทำไปเมื่อวาน วันนี้ลองมาทำเมนูตะโก้แห้วกันดีกว่า สูตรนี้ใช้แป้ง 3 ชนิดผสมกับน้ำใบเตย เติมแห้วเพิ่มความอร่อย สุดท้ายราดหน้ากะทิ
ส่วนผสม ตัวตะโก้
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
• แป้งมัน 1/4 ถ้วย
• แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย (หรือน้ำ 2 ถ้วย ผสมน้ำหอมกลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา)
• น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
• แห้วต้มสุก (หั่นเต๋าเล็ก) 1 ถ้วย
• กระทงใบเตยสำหรับใส่ขนม
ส่วนผสม หน้ากะทิ
• แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
• กะทิ 2 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำตะโก้แห้ว
1. ทำหน้ากะทิ โดยใส่แป้งข้าวเจ้า กะทิ และเกลือป่นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟใช้ความร้อนปานกลาง คนผสมจนข้น และเหนียว ยกลงจากเตา เตรียมไว้หยอดลงบนขนมตะโก้
2. ทำตัวตะโก้ โดยใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย ต้มจนเดือดและเหนียวเป็นน้ำเชื่อม พักไว้จนเย็น
3. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้งถั่วเขียว น้ำลอยดอกมะลิ และน้ำใบเตยจนละลายเข้ากันดี เทใส่ลงในส่วนผสมน้ำเชื่อม กวนผสมจนแป้งสุกเหนียวและใส จากนั้นใส่แห้วลงคนผสมให้เข้ากัน ยกลงจากเตา
4. ตักใส่กระทงใบเตยที่เตรียมไว้ประมาณ 3/4 ของกระทง ตามด้วยหน้ากะทิจนเต็มพิมพ์ พักทิ้งไว้จนอุ่น จัดใส่จาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ตะโก้แห้ว ขนมไทยถ้วยจิ๋วหวานละมุนนุ่มลิ้น
++++++++++++++
15. ขนมตาล
เตรียมเนื้อลูกตาลให้พร้อมแล้วมาทำเมนูขนมตาล สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine ใส่ถ้วยตะไลแสนง่าย สีสวยกลิ่นหอมเนื้อนุ่ม โรยมะพร้าวหน่อยอร่อยเหาะ
ส่วนผสม ขนมตาล
• น้ำตาลทราย 400 กรัม
• กะทิ 3 ถ้วย
• เนื้อลูกตาลสุก 350 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
• มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นเล็ก (คลุกเกลือเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า) 2 ถ้วย
วิธีทำขนมตาล
1. ละลายน้ำตาลทรายในกะทิ เติมเนื้อลูกตาลลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งและผงฟูลงไป คนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันจนเนียน
2. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ ประมาณ 10 นาทีให้ส่วนผสมขึ้น
3. ระหว่างรอขนมขึ้น ใส่น้ำในลังถึง ตั้งไฟกลางเตรียมไว้ เรียงถ้วยตะไลลงในลังถึง พอส่วนผสมครบเวลา ตักส่วนผสมยอดลงในถ้วยตะไลจนเต็มถ้วย โรยด้วยมะพร้าวทึนทึก นึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาที หรือจนสุก นำออกมาพักให้เย็น แซะออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมตาล สูตรขนมไทยสีเหลืองนวลเนื้อเหนียวนุ่ม หอมอร่อย
++++++++++++++
16. ขนมฟักทอง
ใครเอียนกับฟักทองนึ่งแสนจืดชืดก็มาทำเมนูขนมฟักทอง สูตรจาก คุณนัทจัง สบายดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับขนมฟักทองหยอดลงถ้วยหรือพิมพ์ตามชอบ พอสุกแล้วโรยมะพร้าวขูดก่อนเสิร์ฟ
ส่วนผสม ขนมฟักทอง
• แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
• แป้งมัน 40 กรัม
• แป้งเท้ายายม่อม 50 กรัม
• หัวกะทิ 200 กรัม
• เนื้อฟักทองนึ่งสุก 300 กรัม
• น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม
• น้ำตาลทราย 90 กรัม
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• มะพร้าวทึนทึกขูด 100 กรัม
วิธีทำขนมฟักทอง
1. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อมลงในภาชนะ ใส่กะทิลง จะใช้กะทิประมาณ 60-80 กรัม แล้วนวดประมาณ 15 นาที
2. นำกะทิที่เหลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เนื้อฟักทอง และเกลือป่น ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อละเอียด เทลงในส่วนผสมแป้ง ใช้มือหรือตะกร้อมือคนเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน ใส่เนื้อมะพร้าวขูดลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง
3. นำไปใส่ถ้วยและนำไปนึ่งประมาณ 15 นาที ส่วนใครชอบมะพร้าวขูดสามารถโรยเพิ่มได้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมฟักทอง ขนมไทยสุดคลาสสิก ทำง่ายอร่อยด้วย
++++++++++++++
17. ขนมฟักทอง สูตรเฮลธ์ตี้
เอาใจสาว ๆ รักสุภาพกันด้วยเมนูขนมฟักทอง สูตรจาก คุณ @sseeri_sirirattana สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่นมสดแทนกะทิ ใส่ฟักทองบดลงไปนวดจนเข้ากัน หยอดใส่ถ้วยแล้วนำไปนึ่งจนสุก
ส่วนผสม ขนมฟักทอง
• ฟักทองนึ่งสุก (ไม่ต้องเละมาก) 2 ถ้วยตวง
• แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
• แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• นมสดแบบพาสเจอร์ไรส์ 3/4 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมฟักทอง
1. ตวงส่วนผสมทุกอย่างตามสูตร
2. บดฟักทองให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แต่ไม่ต้องละเอียดมาก เราใช้ส้อมกด ๆ ให้แหลกค่ะ
3. เทแป้งทั้ง 2 ชนิด และเกลือใส่ในชามผสม ตามด้วยนมสดประมาณครึ่งหนึ่งก่อน
4. นวดเป็นเนื้อเดียวกัน ประมาณ 2 นาที (นวดเพื่อให้แป้งเหนียวนุ่มขึ้น ไม่นวดก็ได้นะ ใส่นมทีเดียวคน ๆ กับแป้งจนเข้ากัน แล้วข้ามไปขั้นตอน 6 เลย จะได้เร็วขึ้น)
5. ละลายแป้งโดยการเติมนมส่วนที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้ำตาลทราย
6. ใส่ฟักทองที่บดแล้วคนให้เข้ากับแป้ง
7. ตักใส่พิมพ์ เอาไปนึ่งไฟแรงจนสุก ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที โรยมะพร้าวอ่อนก่อนนึ่งได้ พักให้เย็นก่อนแกะออกจากพิมพ์
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมฟักทอง สูตรเฮลธ์ตี้หวานน้อยแคลอรีต่ำทำไม่ยาก
++++++++++++++
18. วุ้นลูกชุบ
ใครจะไปเชื่อว่าวุ้นกับลูกชุบจะเอามาผสมกันได้ด้วย ขอนำเสนอเมนูวุ้นลูกชุบ สูตรจาก คุณ Three days before Valentine\'s สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับลูกชุบวางบนวุ้นสีสวย ถ้าแช่เย็นหน่อยอร่อยขึ้นอีกค่ะ
ส่วนผสม ลูกชุบ
• ถั่วเขียวผ่าซีก 220 กรัม (นึ่งสุก)
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• น้ำกะทิ 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• วุ้นสำหรับชุบ
ส่วนผสม วุ้นสำหรับชุบ
• ผงวุ้น 2 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
ส่วนผสม วุ้นน้ำผลไม้ หรือวุ้นน้ำสมุนไพร
• น้ำเปล่า 3 ถ้วย
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ถ้าหากชอบหวานให้เพิ่มอีก 2 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพร 1 ถ้วย
อุปกรณ์
• ไม้เสียบลูกชิ้น (ขนาดเล็ก)
• แผ่นโฟม
• พู่กันทาสี
• สีผสมอาหาร
วิธีทำลูกชุบ
1. นำถั่วเขียวนึ่งสุก น้ำตาลทราย กะทิ และเกลือ ใส่ลงในเครื่องปั่นแล้วเปิดเครื่องปั่นให้ละเอียด
2. เทส่วนผสมใส่กระทะสำหรับกวนถั่ว ใช้ไฟปานกลาง ค่อย ๆ กวนจนขนมล่อนจากกระทะ จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน กวนจนเนื้อขนมให้เนียนและเหนียวพอปั้นได้ ปิดไฟ พักไว้จนเย็น
3. เมื่อส่วนผสมถั่วกวนเย็นแล้วก็นำมาปั้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ เสียบไม้ลูกชิ้นขนาดเล็ก ปักทิ้งไว้บนแผ่นโฟม แล้วค่อย ๆ ใช้พู่กันระบายสี จากนั้นรอให้สีแห้งก่อน จึงนำไปชุบวุ้น (ควรชุบสัก 2 รอบ)
4. วิธีการชุบให้ชุบเพียง 1 ครั้ง แล้วหมุนไม้ขึ้น จากนั้นรอให้แห้งแล้วชุบอีกครั้งหนึ่ง ปักทิ้งไว้ห่าง ๆ กัน ไม่เช่นนั้นวุ้นจะติดกัน พอวุ้นแห้งให้ดึงลูกชุบออกจากไม้และแยกตามประเภทที่ปั้น
วิธีทำวุ้นสำหรับชุบ
• ผสมผงวุ้นกับน้ำเปล่า เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 25 นาที พอวุ้นละลายใสจนได้ที่แล้วใส่น้ำตาลทราย และเคี่ยวต่ออีกสักพักประมาณ 15 นาที จึงจะนำมาชุบลูกชุบได้
วิธีทำวุ้นน้ำผลไม้
1. ผสมน้ำเปล่ากับวุ้น นำไปตั้งไฟใช้ความร้อนปานกลาง คนจนวุ้นละลาย
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป ลดไฟให้อ่อน ๆ เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน ประมาณ 5 นาที จนวุ้นใส
3. เติมน้ำสมุนไพรลงไป เคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที
4. นำไปหล่อไว้ในน้ำร้อน เพื่อเตรียมไว้สำหรับหยอดใส่ถ้วย
วิธีทำวุ้นลูกชุบ
1. หยอดวุ้นปริมาณ 3/4 ถ้วย แล้วปล่อยให้เย็นลง
2. หยอดน้ำวุ้นลงไปเพิ่มอีกเล็กน้อย เพื่อเป็นตัวเชื่อมระหว่างลูกชุบกับวุ้น
3. นำลูกชุบลงวางบนวุ้นที่หยอดไว้ให้ติดกัน
4. ตักน้ำวุ้นราดลงบนลูกชุบให้สวยงาม และพอดีขอบถ้วย รอจนวุ้นเซตตัวก่อนเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นลูกชุบ ขนมหวานหลากสีสัน น่าทานสุด ๆ
สำหรับคนรักขนมไทยอยากให้ลองทำเมนูขนมไทยในถ้วยกันค่ะ จะใส่ถ้วยเล็กหรือถ้วยใหญ่ก็ได้ ทำเองกินให้จุใจไปเลย หรือใครจะทำขายก็เวิร์กนะคะ