x close

15 เมนูอาหารอีสานแบบบ้าน ๆ เปิดครัวไทยเติมความแซ่บได้ทุกมื้อ

          กินอาหารฝรั่งมาหลายวัน มาเปลี่ยนรสชาติกันหน่อย พบกับเมนูอาหารอีสานบ้าน ๆ สูตรอาหารไทย ทำเองง่ายมาก ปรับลดความแซ่บตามชอบ บอกเลยว่าอร่อยเพลิน
          อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าอาหารอีสานขึ้นชื่อเรื่องความแซ่บ รวมทั้งเป็นทางเลือกสำหรับคนลดน้ำหนักอีกด้วย ครั้นจะทำกินเองคงขอบายอาหารอีสานแปลก ๆ ขอทำอาหารอีสานยอดนิยมก็แล้วกัน กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำอาหารอีสานแบบบ้าน ๆ เช่น ส้มตำ แกงอ่อม ลาบหมู ต้มแซ่บ ต้มซุปเปอร์ขาไก่ ซุบหน่อไม้ คอหมูย่าง เป็นต้น เอาล่ะ… ลองทำตามดู แล้วจะรู้ว่าดีงามมากเลยจ้า

1. ส้มตำข้าวโพด

          เริ่มกันที่อาหารอีสานบ้าน ๆ อย่างเมนูส้มตำข้าวโพด จากที่เคยใส่เส้นมะละกอสับก็เปลี่ยนมาใส่ข้าวโพดแทน และใส่เครื่องอื่น ๆ ลงไปโขลกกับน้ำยำรสแซ่บ แค่นี้ก็อร่อยแล้วค่ะ
 

ส่วนผสม ส้มตำข้าวโพด

  • ข้าวโพดต้ม
  • ถั่วฝักยาว
  • มะเขือเทศ
  • แครอตฝานเป็นเส้น ๆ
  • พริกขี้หนู
  • กระเทียมสับหยาบ
  • น้ำปลา (สูตรโซเดียมต่ำ)
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • ถั่วลิสงอบ
     

วิธีทำส้มตำข้าวโพด

     1. ฝานข้าวโพด หั่นถั่วฝักยาว หั่นมะเขือเทศ และฝานแครอตหั่นเป็นเส้น ๆ เตรียมไว้
     2. ปรุงน้ำยำด้วยพริกขี้หนู กระเทียมสับหยาบ ๆ น้ำปลาลดโซเดียม น้ำมะนาว และน้ำตาลมะพร้าว ชิมรสตามชอบ
     3. นำน้ำยำไปคลุกกับเครื่องที่เตรียมไว้ โรยด้วยถั่วลิสงอบ

 

ดูวิธีทำ ส้มตำข้าวโพด เพิ่มเติมคลิก

2. ส้มตำไทยไข่เค็ม

ส้มตำไทยไข่เค็ม

          ส้มตำไทยทั่วไปโลกไม่จำ ลองเพิ่มไข่เค็มลงไปหน่อยรับรองอร่อยเหาะ อ้อ… อย่าลืมใส่กุ้งแห้งกับถั่วลิสงคั่วเพิ่มความฟินด้วยนะคะ
 

ส่วนผสม ส้มตำไทยไข่เค็ม

  • มะละกอสับ
  • ไข่เค็ม 1 ฟอง
  • มะเขือเทศ 3 ลูก
  • พริกขี้หนู (ตามชอบ)
  • กระเทียม 1ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
  • ถั่วฝักยาว 2 ฝัก
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วลิสง 1 ช้อนโต๊ะ
     

วิธีทำส้มตำไทยไข่เค็ม

     1. โขลกพริก กระเทียม น้ำตาลปี๊บ และถั่วฝักยาว พอแหลก
     2. ใส่ไข่เค็มลง 1/2 ฟอง (ที่เหลือเอาไว้เสิร์ฟ) ตามด้วยมะเขือเทศกับกุ้งแห้ง
     3. ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำมะนาว คลุกส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่มะละกอลงไป โขลกพอเข้ากัน ตักใส่จาน โรยกุ้งแห้ง ถั่วลิสง และไข่เค็ม

 

ดูวิธีทำ ส้มตำไทยไข่เค็ม เพิ่มเติมคลิก

3. ส้มตำซั่วปูปลาร้า

ส้มตำซั่วปูปลาร้า

          ใครชอบส้มตำปูเป็นทุนเดิม อยากให้ลองเพิ่มเส้นขนมจีนและแคบหมูลงไปหน่อย เติมความเผ็ดตามชอบ ที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำปลาร้านัว ๆ นั่นเอง
 

ส่วนผสม ส้มตำซั่วปูปลาร้า

  • พริกสด ตามชอบ
  • กระเทียม ตามชอบ
  • มะเขือเปราะ 1 ลูก
  • มะเขือเทศ 1 ลูก
  • ขนมจีน 3 จับ
  • เส้นมะละกอ 1 กำ
  • ปูเค็มลวก 1 ตัว
  • แคบหมูกรอบ 1 ถ้วย
  • น้ำปลาร้าต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1+1/2 ลูก
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
     

วิธีทำส้มตำซั่วปูปลาร้า

     1. ตำพริกและกระเทียมให้พอแตก ฝานมะเขือเปราะใส่ลงไป ตามด้วยเส้นมะละกอ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว ตำให้เข้ากัน
     2. ใส่ปูเค็มลงไป ตำให้พอแหลก สุดท้ายใส่เส้นขนมจีนลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยแคบหมู ตักใส่จาน

 

ดูวิธีทำ ส้มตำซั่วปูปลาร้า เพิ่มเติมคลิก

4. ลาบหมู

          เมนูนี้ดีงามมาก กับเมนูลาบหมู ใส่หมูสับผสมกับตับหมู เคล้ากับเครื่องสมุนไพร เติมข้าวคั่วและพริกป่น จัดเสิร์ฟในใบผักกาดขาวเพิ่มความน่าหม่ำ
 

ส่วนผสม ลาบหมู

  • หมูสับ 100 กรัม (ผสมน้ำเปล่า 7 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนชา แล้วนำไปรวนพอสุก ตักใส่ชาม พักไว้)
  • ตับหมูต้ม 50 กรัม (ต้มพอสุกนุ่ม ไม่แข็งแห้ง)
  • หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • พริกป่น ตามชอบ
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (แบ่งไว้โรยหน้าตอนเสิร์ฟเล็กน้อย)
  • ใบสะระแหน่ เด็ดเป็นใบ สำหรับตกแต่ง
  • ผักกาดขาว 1 ก้าน
  • มะเขือเทศราชินี สำหรับเสิร์ฟ
  • ผักสด สำหรับเสิร์ฟ
     

วิธีทำลาบหมู

     1. นำหมูรวนและตับใส่ในชามผสม ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น และข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
     2. ใส่หอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง และใบมะกรูดซอย คลุกเคล้าเบา ๆ อีกครั้ง จัดวางลงบนใบผักกาดขาว
     3.  ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยใบมะกรูดซอยและใบสะระแหน่ เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศและผักสด

 

ดูวิธีทำ ลาบหมู เพิ่มเติมคลิก

5. ลาบหมูทอด

ลาบหมูทอด

          เตรียมกระทะรอทอดกันเลย ชวนทำเมนูลาบหมู จับหมูสับผสมกับเครื่องลาบแล้วปั้นเป็นก้อนกลม พอทอดจนสุกเสิร์ฟกับผักสดตัดเลี่ยน
 

ส่วนผสม ลาบหมูทอด

  • หมูติดมันบด 300 กรัม
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น (ตามชอบ)
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดซอย 6 ใบ
  • ต้นหอมซอย 2 ต้น
  • ผักชีฝรั่งซอย 2 ต้น
  • หอมแดง 5 หัว
  • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
     

วิธีทำลาบทอด

     1. ผสมหมูบดกับน้ำมะนาว น้ำปลา และพริกป่นให้เข้ากัน เติมข้าวคั่วและแป้งทอดกรอบลงไปคลุกคนให้เข้ากัน
     2. ใส่ใบมะกรูดซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอย ลงไปเคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน
     3. ปั้นลาบหมูเป็นก้อนกลม ๆ เตรียมไว้
     4. นำลาบปั้นก้อนลงไปทอดในน้ำมันร้อน ใช้ไฟกลางอ่อน รอให้สุกเองโดยไม่ต้องกลับด้าน ทอดจนเหลืองสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
     5. จัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ

 

ดูวิธีทำ ลาบทอด เพิ่มเติมคลิก

6. ลาบปลาดุก

ลาบปลาดุก

         ลาบปลาดุกเป็นอีกเมนูอาหารอีสานบ้าน ๆ ที่ทำง่าย ใครจะย่างปลาดุกเองหรือซื้อปลาดุกย่างมาทำก็ตามสะดวก ตัดความคาวด้วยต้นหอม ผักชี และผักชีฝรั่ง
 

ส่วนผสม ลาบปลาดุก

  • ปลาดุกย่าง 1 ตัว (แกะเอาเฉพาะเนื้อ)
  • ข่าอ่อน
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกสดสับ (ตามชอบ)
  • พริกป่น ตามชอบ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ลูก
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น
  • ผักชีซอย 1 ต้น
  • ผักชีฝรั่งซอย 2 ใบ
  • พริกแห้งทอดกรอบ
     

วิธีทำลาบปลาดุกย่าง

     1. สับหรือโขลกเนื้อปลาดุกย่างกับข่าอ่อนพอหยาบ ๆ
     2. ใส่ปลาดุกสับลงในอ่างผสม ตามด้วยข้าวคั่ว พริกสด พริกป่น น้ำปลา และน้ำมะนาว ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
     3. โรยต้นหอม ผักชี และผักชีฝรั่งซอย ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน แต่งด้วยพริกแห้งทอดกรอบ พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ ลาบปลาดุกย่าง เพิ่มเติมคลิก

7. น้ำตกหมู

น้ำตกหมู

          ใครเบื่อเมนูลาบหมู อาหารอีสานบ้าน ๆ ก็ลองเปลี่ยนมาทำเมนูน้ำตกหมูกันเถอะ ยิ่งถ้าได้เนื้อหมูติดมันย่างหอม ๆ อร่อยละลายในปากแน่นอน
 

ส่วนผสม น้ำตกหมู

  • เนื้อสันคอหมู หรือคอหมูย่าง ตามชอบ หั่นเป็นชิ้น ๆ 100 กรัม
  • น้ำซุป 1/4 ถ้วย
  • พริกป่น ตามชอบ
  • ข้าวคั่ว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย  1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมและผักชีซอย (หรือผักชีฝรั่งซอยตามชอบ)
  • ใบสะระแหน่ เด็ดเป็นใบ
  • ผักสด สำหรับรับประทานคู่
     

วิธีทำน้ำตกหมู

     1. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่เนื้อหมูลงรวนพอสุก ยกลงจากเตา
     2. ใส่พริกป่น และข้าวคั่ว ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว และน้ำปลา คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
     3. ใส่หอมแดงซอย ต้นหอมซอย ผักชีซอย ผักชีฝรั่งซอย และใบสะระแหน่ เคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับผักสด

 

ดูวิธีทำ น้ำตกหมู เพิ่มเติมคลิก

8. น้ำตกปลาหมึก

น้ำตกปลาหมึก

          น้ำตกหมูก็อร่อย แต่ทำบ่อยก็เบื่อ วันนี้เลยขอทำเมนูน้ำตกปลาหมึกแบบไม่แคร์แคลอรีกันบ้าง ใครชอบส่วนไหนของปลาหมึกก็เอาไปรวนจนสุกเตรียมไว้เลย สุดท้ายก็เคล้ากับเครื่องปรุงรสแซ่บ
 

ส่วนผสม น้ำตกปลาหมึก

  • ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้น 200 กรัม
  • หอมแดงซอย 1 หัว
  • ผักชีฝรั่งซอย
  • ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
  • น้ำปลา สำหรับปรุงรส
  • น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
  • พริกป่น ปริมาณตามชอบ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
     

วิธีทำน้ำตกปลาหมึก

     1. ใส่น้ำลงในหม้อเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด ใส่เนื้อปลาหมึกลงไปรวนจนสุก ยกลงจากเตา ตักใส่อ่างผสมเตรียมไว้
     2.  ใส่หอมแดง ต้นหอมซอย และใบสะระแหน่ ลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เติมข้าวคั่ว จากนั้นเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ น้ำตกปลาหมึก เพิ่มเติมคลิก

9. ตับหวาน

ตับหวาน

          ถ้าชอบกินเครื่องในอยากให้ลองทำเมนูตับหวาน จับตับหั่นเป็นชิ้นหนาหรือบางตามชอบแล้วเอาไปลวกจนสุก สุดท้ายเอาไปเคล้ากับเครื่องปรุงรสแซ่บ
 

ส่วนผสม ตับหวาน

  • ตับหมู (หั่นเป็นชิ้นบาง) 200 กรัม
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบสะระแหน่ (ตามชอบ)
  • ผักสด
     

วิธีทำตับหวาน

     1. ต้มน้ำจนเดือดจัด นำตับหมูลงลวกจนเกือบสุก (ระดับความสุกเลือกตามความชอบ)
     2. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น เข้าด้วยกัน เทลงในอ่างผสมที่ใส่ตับหมูลวกไว้ เคล้าผสมให้เข้ากัน
     3. ใส่ข้าวคั่ว ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย ใบมะกรูดซอย และใบสะระแหน่ ลงเคล้าผสมจนเข้ากันดี ตักใส่จาน เสิร์ฟคู่กับผักสด

 

ดูวิธีทำ ตับหวาน เพิ่มเติมคลิก

10. ต้มซุปเปอร์ขาไก่

ต้มซุปเปอร์ขาไก่

          คลายง่วงยามบ่ายกับเมนูต้มซุปเปอร์ขาไก่กันไหม สูตรนี้ใส่ขาไก่ลงไปต้มกับเครื่องต้มยำ เติมสีสันด้วยซีอิ๊วดำ ปรุงรสด้วยน้ำปลา โรยผักชีฝรั่ง ผักชี ที่ขาดไม่ได้เลยคือพริกสด
 

ส่วนผสม ต้มซุปเปอร์ขาไก่

  • น้ำเปล่า 500-700 มิลลิลิตร
  • ขาไก่ 500 กรัม
  • ข่า (หั่นเป็นแว่น)
  • ตะไคร้ (หั่นเป็นท่อน)
  • หอมแดง (ปอกเปลือก)
  • ใบมะกรูดฉีก
  • พริกสด
  • ผักชี
  • ผักชีฝรั่ง
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
     

วิธีทำต้มซุปเปอร์ขาไก่

     1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรง จากนั้นใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดง ลงไปต้ม พอน้ำเดือดพล่านแล้วใส่ขาไก่ลงไปต้ม (หมั่นช้อนฟองอากาศทิ้ง)
     2. ก่อนปรุงรสให้ตักส่วนผสมเครื่องต้มยำออกก่อนแล้วใส่ซีอิ๊วดำ น้ำปลา และซอสปรุงรส ลงไปคนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ  ต้มต่ออีกประมาณ 30 นาที จนขาไก่เปื่อย
     3. ซอยพริกขี้หนู ใบผักชีฝรั่ง ผักชี และหั่นมะนาว เตรียมไว้
     4. พอต้มจนขาไก่เปื่อยแล้ว บีบมะนาวลงไป (ปริมาณตามชอบ) ตามด้วยพริกที่ซอยไว้ คนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยผักชีและผักชีฝรั่งซอย พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ ต้มซุปเปอร์ขาไก่ เพิ่มเติมคลิก

11. ต้มแซ่บกระดูกอ่อน

ต้มแซ่บกระดูกอ่อน

          เตรียมข้าวสวยมาด่วน ๆ จะได้กินกับเมนูต้มแซ่บกระดูกอ่อน สูตรนี้ใส่เห็ดฟางเคี้ยวกรุบ กับมะเขือเทศเพิ่มความเปรี้ยว สุดท้ายโรยด้วยใบโหระพา
 

ส่วนผสม ต้มแซ่บกระดูกอ่อน

  • น้ำ 500 มิลลิลิตร
  • ข่าแก่หั่นแว่น 5 ชิ้น
  • ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
  • ใบมะกรูด ฉีกก้านกลาง 3 ใบ
  • กระดูกอ่อนหมูหั่นเป็นชิ้น ๆ 200 กรัม
  • เห็ดฟางผ่าครึ่ง 100 กรัม
  • มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง 50 กรัม
  • หอมแดงซอยบาง 1 หัว
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น ปริมาณตามความชอบ
  • ใบโหระพา 10 ใบ
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
     

วิธีทำต้มแซ่บกระดูกอ่อน

     1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ลงต้มจนเดือดอีกครั้ง
     2. ใส่กระดูกอ่อนหมูลงต้มจนสุก ใส่เห็ดฟาง มะเขือเทศ และหอมแดงซอย ลงต้ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากันดี ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม เติมน้ำมะนาว พริกป่น และผักชีฝรั่ง ชิมรสตามชอบ โรยด้วยใบโหระพา พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ ต้มแซ่บกระดูกอ่อน เพิ่มเติมคลิก

12. คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว

คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว

         ข้าวเหนียวพร้อม ! ชวนทำเมนูคอหมูย่าง หมักกับน้ำผึ้ง ซอสปรุงรส และพริกไทย พอหมักจนครบเวลาและย่างเสร็จเสิร์ฟกับน้ำจิ้มแจ่ว
 

ส่วนผสม คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว

  • เนื้อสันคอหมู 200 กรัม
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยขาว 1/4 ช้อนชา
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
     

วิธีทำคอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว

     1. ทำน้ำจิ้มแจ่วโดยผสมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ เข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลปี๊บละลายหมด ใส่พริกป่น ข้าวคั่ว และหอมแดง คนให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เตรียมไว้
     2. ทำซอสหมักโดยผสมน้ำผึ้งกับซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และพริกไทยขาว คนผสมจนเข้ากัน
     3. ใช้ส้อมจิ้มสันคอหมูให้ทั่ว นำไปหมักกับซอส พักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
     4. ตั้งกระทะจนร้อน นำคอหมูลงจี่ให้สุกทั้งสองด้าน จากนั้นหั่นเป็นชิ้น จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว

 

ดูวิธีทำ คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว เพิ่มเติมคลิก

13. ซุบหน่อไม้

ซุปหน่อไม้

           มาต่อกันที่เมนูซุบหน่อไม้ ทำกินเองรับรองว่าสะอาดและอร่อย เริ่มจากทำน้ำใบย่านางคั้นสด เติมน้ำปลาร้า ใส่หน่อไม้ลงไปต้มจนเดือด สุดท้ายก็เอาหน่อไม้มาเคล้ากับหอมแดง ผักชีฝรั่ง และต้นหอม ปรุงรสเผ็ดตามชอบ

ส่วนผสม ซุบหน่อไม้

  • ใบย่านาง 5-10 ใบ
  • หน่อไม้รวก ขูดเป็นเส้นยาว
  • น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • หอมแดงซอย 3 หัว
  • น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
  • น้ำปลา สำหรับปรุงรส
  • พริกป่น ตามชอบ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย
  • ต้นหอมซอย
     

วิธีทำซุบหน่อไม้

     1. ขยี้ใบย่านางกับน้ำจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม กรองเอาเฉพาะน้ำ เทใส่หม้อ เตรียมไว้
     2. ต้มน้ำจนเดือด ใส่หน่อไม้รวกลงต้มจนน้ำเดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นบีบน้ำออกจากหน่อไม้ให้หมด แล้วใส่ลงในน้ำใบย่านางที่เตรียมไว้ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือป่นและน้ำปลาร้าลงไป ต้มจนเดือด ยกลงจากเตา เตรียมไว้
     3. ตักหน่อไม้ใส่อ่างผสม ใส่หอมแดงซอย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว เคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่ผักชีฝรั่งซอย และต้นหอมซอย เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ ซุบหน่อไม้ เพิ่มเติมคลิก

14. แกงหน่อไม้ใบย่านาง

          ถ้าซื้อกินบ่อยแล้วก็มาทำกินเองกันเถอะ พบกับเมนูแกงหน่อไม้ใบย่านาง หรือแกงเปรอะ สูตรเครื่องแน่นใส่หน่อไม้ เห็ดฟาง ชะอม ใครจะใส่ฟักทองกับบวบเพิ่มก็ตามชอบนะคะ
 

ส่วนผสม แกงหน่อไม้ใบย่านาง

  • ข้าวเบือ
  • พริกสด
  • หอมแดง
  • น้ำใบย่านาง
  • น้ำปลาร้า
  • หน่อไม้
  • เห็ดฟาง
  • ชะอม
     

วิธีทำแกงหน่อไม้ใบย่านาง

     1. ขั้นตอนแรกก็โขลกข้าวเบือให้ละเอียด และโขลกพริกสดผสมกับหอมแดงพอหยาบ ๆ
     2. เทน้ำใบย่านางคั้นสด ๆ ใหม่ ๆ ใส่หม้อ ตั้งไฟให้ร้อนแล้วใส่พริกสดกับหอมที่โขลกไว้แล้วตามลงไป พอเดือดก็ใส่น้ำปลาร้าและข้าวเบือ ปล่อยไว้ให้เดือด
     3. พอแกงเดือดเผ็ดร้อนดีแล้วใส่หน่อไม้กับเห็ดฟาง ชิมรสชาติตามชอบ สุดท้ายใส่ชะอม ปิดเตาเป็นอันเสร็จ

 

ดูวิธีทำ แกงหน่อไม้ใบย่านาง เพิ่มเติมคลิก

15. ยำแหนมสด

          ปิดท้ายกันด้วยเมนูยำแหนมสด จับหมูบดรวนในกระทะ เสร็จแล้วเคล้ากับหนังหมูต้ม ขิงซอย กระเทียมซอย หอมแดงซอย และพริกขี้หนูซอย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ก่อนเสิร์ฟโรยถั่วลิสงคั่ว ต้นหอมซอย ผักชีซอย และพริกขี้หนูแห้งทอด
 

ส่วนผสม ยำแหนมสด

  • เนื้อหมูบด 1 ถ้วย
  • เกลือป่น (สำหรับผัดกับหมูสับ) 1/2 ช้อนชา
  • หนังหมูต้มหั่นฝอย 1/2 ถ้วย
  • เกลือป่น (สำหรับปรุงรส) 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงอ่อนซอย 1/4 ถ้วย
  • กระเทียมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 1/4 ถ้วย
  • พริกขี้หนูสดซอย ตามชอบ
  • ผักชีและต้นหอมซอย 1/4 ถ้วย
  • ถั่วลิสงคั่ว 1/2 ถ้วย
  • พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด
  • ผักสด ตามชอบ
     

วิธีทำยำแหนมสด

     1. ผสมหมูบดกับเกลือเข้าด้วยกัน ใส่ลงในกระทะ รวนด้วยไฟอ่อนแล้วผัดยีให้เป็นชิ้นเล็กจนหมูสุก ตักใส่ชาม พักทิ้งไว้จนเย็น
     2. เติมหนังหมูต้มลงในชามหมูสับ คนผสมให้เข้ากัน ใส่เกลือที่เหลือ น้ำมะนาว ขิงซอย กระเทียมซอย หอมแดงซอย และพริกขี้หนูซอย เคล้าผสมให้ทั่ว
     3. ตักใส่จาน โรยด้วยถั่วลิสงคั่ว ต้นหอมซอย ผักชีซอย และพริกขี้หนูแห้งทอด พร้อมเสิร์ฟคู่กับผักสด

 

ดูวิธีทำ ยำแหนมสด เพิ่มเติมคลิก

          ใครวางแผนจะจัดปาร์ตี้หรืออยากกินอาหารแซ่บ ๆ ขอฝากเมนูอาหารอีสานบ้าน ๆ ที่ทำไม่ยากไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ จะกินกับข้าวสวย ข้าวเหนียว หรือกินเป็นกับแกล้มก็ตามชอบเลยค่ะ
 

สนใจให้ Kapook.com แนะนำการทำอาหารด้วยเครื่องปรุง ของใช้ในครัว หรืออื่น ๆ รับทำการตลาดด้วย Social Network, Content Marketing

คลิกเลย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
15 เมนูอาหารอีสานแบบบ้าน ๆ เปิดครัวไทยเติมความแซ่บได้ทุกมื้อ อัปเดตล่าสุด 30 ตุลาคม 2566 เวลา 16:31:25 186,076 อ่าน
TOP