10 สูตรขนมหน้าไหม้ สีสวยหอมอร่อยหน้าตาไม่จำเจ

     1. เริ่มจากตีไข่และน้ำตาลทรายจนน้ำตาลละลาย

     2. ใส่นม วิปครีม กลิ่นวานิลลา และเกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วกรองด้วยกระชอน หรือผ้าขาวบาง

     3. นำส่วนผสมที่กรองแล้วตักใส่ถ้วยให้เต็ม สูตรนี้ทำได้ 8-9 ถ้วย

     4. ก่อนนำเข้าเตาอบให้เปิดวอร์มเตาไว้ก่อนประมาณ 15 นาที เปิดไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นำเข้าเตาอบ 30-35 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุก
 

     1. ใส่เนยสดรสเค็ม เชดดาร์ชีส น้ำผึ้ง และวิปปิ้งครีม ลงไปในชาม ตุ๋นบนหม้อน้ำร้อน คนจนทุกอย่างละลายเข้ากัน

     2. จากนั้นนำมาทาบนขนมปัง นำไปอบอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 8-10 นาที
 

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส เตรียมไว้

     2. ต้มครีมสดและน้ำกะทิในหม้อด้วยไฟอ่อน คนผสมให้เข้ากัน พอเดือดให้ปิดไฟทันที (ไม่ควรใช้ไฟแรง และไม่ควรต้มให้เดือดจนเกินไป) พักไว้

     3. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมครีม คนผสมตลอดเวลาจนเข้ากันดี กรองส่วนผสมด้วยกระชอน จากนั้นเทส่วนผสมที่ได้ลงในถ้วย ประมาณ 3/4 ของพิมพ์

     4. วางถ้วยลงในถาดทรงสูง เทน้ำลงในถาดให้สูงประมาณ 3/4 ของถ้วยครีม (เรียกวิธีการนี้ว่า bain marir) นำเข้าเตาอบนานประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรือจนสุก (วิธีการเช็กว่าสุกหรือไม่ให้ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงไปตรงกลางถ้วย ถ้ามีเศษขนมติดออกมาแสดงว่ายังไม่สุก) นำออกจากถาดน้ำ และเก็บไว้ในตู้เย็นจนกว่าจะเสิร์ฟ

     5. เวลาจัดเสิร์ฟให้โรยน้ำตาลทรายบาง ๆ ลงบนหน้าขนมให้ทั่ว หลังจากนั้นใช้ปืนพ่นให้น้ำตาลเป็นสีน้ำตาลไหม้จนทั่ว เสิร์ฟคู่กับมะพร้าวเชื่อม
 

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เตรียมไว้

     2. นำวิปปิ้งครีมและกลิ่นวานิลลาใส่หม้อ ตั้งไฟให้พออุ่น ๆ 

     3. ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ตีจนน้ำตาลละลายเป็นเนื้อเดียวกันกับไข่ ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมนมอุ่น แล้วคนให้เข้ากัน เมื่อคนส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้กรองด้วยกระชอนถี่ ๆ ประมาณ 2 รอบ และต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ เพราะจะอบแบบรองน้ำ

     4. เทขนมใส่พิมพ์ และเทน้ำร้อนลงในถาดรองอบให้น้ำร้อนสูงประมาณ 1 เซนติเมตร นำขนมเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง อบประมาณ 40 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุก

     5. เมื่อขนมสุกแล้วนำออกจากถาด พักขนมไว้ให้เย็น แล้วนำเข้าตู้เย็น ก่อนเสิร์ฟเราจะโรยน้ำตาลที่หน้าขนม แล้วเผาน้ำตาลด้วยการใช้ปืนพ่นไฟ เพื่อให้น้ำตาลไหม้เป็นคาราเมลกรอบ ๆ
 

     1. เตรียมพิมพ์คัพเค้ก โดยกรุด้วยกระดาษรองอบ

     2. นำครีมชีสและน้ำตาลทรายใส่ลงในอ่างผสม คนผสมให้เข้ากัน

     3. ใส่กลิ่นวานิลลาและวิปปิ้งครีมลงในอ่างผสม ตีให้เข้ากัน

     4. ตอกไข่ลงไปผสมกับครีมชีส ตีให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพดลงไป ผสมให้เข้ากัน

     5. นำส่วนผสมเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปอบที่อุณหภูมิ 225 องศาเซลเซียส ประมาณ 23-25 นาที หลังจากสุกแล้วรอให้เย็น และนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำมาเสิร์ฟ
 

     1. เทน้ำตาลทรายป่นใส่ลงในครีมชีส ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่ไข่แดง 1 ฟอง คนให้ทุกอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน (แนะนำให้วางครีมชีสไว้ในอุณหภูมิห้องอย่างน้อย 20-30 นาที ก่อนใช้) พักไว้

     2. ตอกไข่ใส่ถ้วยและตีให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ ทยอยเติมลงส่วนผสมครีมชีส 3 รอบ เติมวิปปิ้งครีมลงไป คนให้เข้ากันดี ร่อนแป้งใส่ลงไป ตีให้เนียนไม่เป็นเม็ดแป้ง

     3. เทใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข สูตรวันนี้ใช้พิมพ์ทรงกลมขนาด 6 นิ้ว หรือ 1 ปอนด์ อบด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที ถ้าต้องการหน้าไหม้กว่านี้ปรับไฟไปที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส พักให้เย็นสนิทก่อนจะคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร จากนั้นแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง

     4. นำออกจากตู้เย็นและแกะกระดาษไขออก ตัดเป็นชิ้นเอาขนาดที่ต้องการ
 

     1. ตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือป่น สารเสริม SP นมข้นจืด และกลิ่นวานิลลา ให้ขึ้นฟู

     2. ร่อนแป้งและผงฟูลงไป ตีจนเข้ากันใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมันรำข้าวลงไป ตีประมาณ 5 นาที

     3. เทลงไปในพิมพ์เค้ก 3 ปอนด์ อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใชไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม เป็นเวลา 35-40 นาที

     4. ทำหน้าชีส โดยนำเชดดาร์ชีส วิปปิ้งครีม น้ำผึ้ง และเนยสด ตุ๋นจนละลายเข้ากัน นำมาทาด้านบนเค้ก เอาไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม เป็นเวลา 8-12 นาที หรือได้หน้าที่ไหม้ตามชอบ
 

     1. เตรียมพิมพ์ที่จะอบไว้รอ สูตรนี้ใช้พิมพ์ทรงกลมขนาด 15 เซนติเมตร ทาเนยให้รอบพิมพ์แล้วกรุด้วยกระดาษไข รีดให้เรียบทั้งก้นพิมพ์และด้านข้าง

     2. ทำบราวนี่ด้วยการละลายเนยและช็อกโกแลตในไมโครเวฟ แล้วคนให้เข้ากัน เติมกาแฟ ผงโกโก้ อิริทริทอล และเกลือ คนให้เข้ากัน ใส่ไข่ ผสมให้เข้ากัน เติมแป้งอัลมอนด์ คนให้เข้ากันแล้วตักลงพิมพ์ ปาดหน้าให้เรียบแล้วพักไว้

     3. ทำส่วนผสมของครีมชีส เริ่มด้วยผสมครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) กับอิริทริทอลให้เข้ากัน ตามด้วยไข่และวิปปิ้งครีม ตีให้ส่วนผสมเนียนเข้ากันแล้วเทลงบนส่วนผสมของบราวนี่ นำไปอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส ประมาณ 40 นาที พักให้เย็นแล้วนำเข้าตู้เย็นข้ามคืน เมื่อเค้กเซตตัวแล้วก็พร้อมตัดเสิร์ฟได้เลย
 

     1. นำโยเกิร์ตไปกรองในผ้าขาวบาง บีบเอาน้ำออกให้มากที่สุด จากนั้นนำโยเกิร์ตที่ได้ไปตีให้เนียน 

     2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดีแล้วให้เทไข่แดงลงไปทีละฟอง แล้วคนให้เข้ากัน

     3. เติมกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน จากนั้นเทนมสดรสจืดลงไป คนให้เข้ากัน ตามด้วยแป้งข้าวโพด คนให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดีแล้วนำไปกรองลงพิมพ์ (พิมพ์ขนาด 1 ปอนด์)

     4. เอาเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ไม่เปิดพัดลม เป็นเวลา 45 นาที (อย่าลืมวอร์มเตาก่อนอบ 15 นาที)

     5. พออบสุกแล้วนำมาพักไว้ให้เย็น นำเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง แนะนำให้แช่ทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วนำมาตัดแบ่งตามต้องการ
 

     1. ทำตัวฐานเค้ก โดยเติมเนยละลายลงไปในขนมปังอบกรอบที่บดละเอียดแล้วคนให้เข้ากัน

     2. นำขนมปังอบกรอบเทใส่พิมพ์แล้วปรับให้เรียบเพื่อให้เป็นฐานเค้ก จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที

     3. ทำชีสเค้ก โดยตีผสมครีมชีส ซาวร์ครีม และเนยสด ให้เข้ากันจนเนียนเป็นครีม (สามารถเพิ่มน้ำเลมอนได้ ประมาณ 1/2 ช้อนชา) หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทราย ตีจนเข้ากัน แล้วใส่ไข่ไก่ ไข่แดง และกลิ่นวานิลลา ลงไปตีจนเข้ากัน

     4. เทใส่พิมพ์ แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 80-90 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง รองพิมพ์ด้วยถาดใส่น้ำร้อนด้วย พออบเสร็จแล้วพักไว้จนเย็นสนิท แล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 5 ชั่วโมง พอเค้กเซตตัวแล้วก็นำมาตัดเสิร์ฟ