มาอร่อยไปกับขนมประเภทนึ่ง สูตรขนมไม่ง้อเตาอบ ทั้งขนมไทย ขนมสไตล์จีน และขนมสไตล์ฝรั่ง ทำกินเพลิน ๆ วันหยุด ดีงาม !
ขนมหวาน หรือสูตรทำเบเกอรี่ส่วนใหญ่ต้องใช้เตาอบ สำหรับเด็กหอ หรือมนุษย์คอนโดคงอด ! อย่าเพิ่งเศร้านะคะ ยังไม่หมดหนทางเสียทีเดียว บนโลกใบนี้ยังมีขนมไม่ง้อเตาอบเป็นอีกทางเลือก เอาล่ะ... ถ้าใครมีชุดนึ่งก็หยิบมาเช็ด ๆ ถู ๆ เตรียมไว้ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 18 สูตรขนมนึ่ง แต่ละสูตรทำง่าย ๆ จับเอาไปนึ่ง แป๊บเดียวก็เรียบร้อย ขอให้สนุกกับการทำขนมนะคะ
1. เค้กนึ่ง
เริ่มเมนูกันด้วยสูตรเค้กนึ่งจากคุณ SongSweetSong สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ทำเค้กเป็นรูปแมวเหมียว ดูน่ารักมุ้งมิ้งจริง ๆ
ส่วนผสม เค้กนึ่ง (สูตรนี้ใช้ถ้วยขนาดกว้าง 3 เซนติเมตร ได้ 5 ถ้วยค่ะ)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• น้ำตาลทราย 30 กรัม
• นมสด 60 ซี.ซี.
• แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป 100 กรัม
• เนยจืดละลาย 15 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
• สีผสมอาหารสีแดงและสีดำ
วิธีทำเค้กนึ่ง
1. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่นมสดลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ใส่แป้งแพนเค้กสำเร็จรูปลงไปตีให้เข้ากัน ใส่เนยละลายลงไปตีจนเนื้อเนียน เตรียมไว้
วิธีแต่งหน้าเค้กนึ่ง
1. แบ่งส่วนผสมแป้งที่ผสมแล้วออกมา 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาแบ่งออกเป็น 2 ถ้วย
2. ใส่สีผสมอาหารสีแดง และสีผสมอาหารสีดำลงไปคนให้เข้ากัน
3. ตักแป้งไม่ใส่สี แป้งใส่สีแดง และแป้งใส่สีดำ ใส่ถุงบีบ ตักส่วนผสมแป้งไม่ใส่สีใส่พิมพ์ 3/4 ของถ้วย
4. บีบสีดำและสีแดงแต่งหน้าแมวเหมียวให้สวยงาม นำไปนึ่งประมาณ 8-10 นาที (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์ที่ใช้ค่ะ ถ้าพิมพ์ใหญ่ก็จะใช้เวลามากขึ้น)
เคล็ดลับ : ใช้ผ้าห่อฝาของหม้อนึ่ง หรือใช้กระดาษอเนกประสงค์สำหรับที่ใช้ในครัวคลุมปิดขนมก่อนจะปิดฝา (แต่ตอนนึ่งเสร็จต้องค่อย ๆ เปิด อย่าให้กระดาษอเนกประสงค์ตกลงไปโดนหน้าขนมนะคะ) เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหยดไปโดนหน้าเค้กค่ะ
5. ต่อมาบีบส่วนหูค่ะ โดยบีบแป้งบนกระดาษไข นำไปนึ่งประมาณ 3-4 นาที จากนั้นใช้มีดแซะส่วนหูออกมาตกแต่งบนเค้ก พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 11 สูตรเค้กนึ่ง วิธีทำเค้กไม่อบสุดน่ารักที่ใครก็อยากกิน
++++++++++++++++++++
2. เค้กนึ่ง
สำหรับใครที่อยากทำเมนูเค้กนึ่งเอาใจคนพิเศษ ขอแนะนำสูตรจากนิตยสาร @Kitchen จุดเด่นคือ เนื้อเค้กมีรสสัมผัสของถั่วพีนัท และใส่กล้วยหอมด้วยจ้า พอขนมนึ่งเย็นลงแล้วก็จับใส่กล่องผูกโบได้เลยค่ะ
ส่วนผสม เค้กนึ่ง
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• เนยเค็ม 120 กรัม (ตั้งทิ้งไว้จนนิ่ม)
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 120 กรัม
• พีนัทบัตเตอร์ชิพ 1/2 ถ้วย (หรือช็อกโกแลตชิพ)
• เนยสดสำหรับทาพิมพ์
• กล้วยหอม
อุปกรณ์
• ที่นึ่ง
• พิมพ์เค้ก
วิธีทำเค้กนึ่ง
1. ผสมน้ำตาลทรายกับเนยเค็ม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายเริ่มละลาย
2. ใส่ไข่ไก่ลงไปผสมโดยใส่ทีละฟอง ตามด้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์ คนให้เข้ากัน
3. ใส่พีนัตบัตเตอร์ชิพลงไปผสม คนให้เข้ากัน (ถ้าไม่มีสามารถใช้ช็อกโกแลตชิพแทนได้) เตรียมไว้
4. ทาเนยสดที่พิมพ์เตรียมไว้ ตักส่วนผสมประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ถึง 1+1/2 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปแล้วเกลี่ยให้เรียบ
5. หั่นกล้วยหอมเป็นแว่น ๆ วางเรียงลงไปให้เต็ม แล้วตักส่วนผสมแป้งใส่ลงไปอีก 1 ช้อนโต๊ะ
6. เคาะพิมพ์เบา ๆ เพื่อไล่อากาศและช่วยให้ส่วนผสมแป้งกระจายตัว นำไปวางเรียงในที่นึ่ง นำไปนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 15-20 นาที หรือจนขนมสุก
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กต้ม เค้กนึ่ง 2 สูตรเค้กไม่ง้อเตาอบ เจอแบบนี้คนอยู่หอก็สบาย
++++++++++++++++++++
3. ขนมชั้นใบเตย
มาต่อกันที่สูตรขนมนึ่งหอมกลิ่นใบเตยอย่างเมนูขนมชั้น ถ้าอยากทำเองก็ไม่ยากเลยจ้า ขอแนะนำสูตรจากคุณ RinS Cook Book (#Rinscookbook) ขนมชั้นแม้จะใช้เวลานึ่งทีละชั้น แต่ทำครั้งเดียวกินได้เป็นสิบคนเลยนะคะ คุ้มเว่อร์
ส่วนผสม ขนมชั้นใบเตย
• น้ำตาลทราย 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• น้ำกะทิ 4 ถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
• แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
• แป้งเท้ายายม่อม 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
• น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
• น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
• ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)
วิธีทำขนมชั้นใบเตย
1. ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
2. นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้
3. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งเท้ายายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง
4. แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิ คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
5. ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้าย ให้นึ่งประมาณ 7 นาที ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง)
6. นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นใบเตย ขนมไทยสีสันสดใส เนื้อเหนียวนุ่ม
++++++++++++++++++++
4. ขนมชั้นดอกกุหลาบ
ขนมชั้นทั่วไปคงไม่แนวพอมอบให้สุดที่รัก ต้องนี่เลยเมนูขนมชั้นดอกกุหลาบ อีกสูตรขนมนึ่ง จับขนมชั้นแต่ละแผ่นทำเป็นรูปดอกกุหลาบ เป็นอีกไอเดียของขวัญวันเกิด หรือของขวัญวาเลนไทน์
ส่วนผสม ขนมชั้นดอกกุหลาบ
• หัวกะทิ 2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• แป้งเท้ายายม่อม 1/8 ถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
• แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
• สีผสมอาหารสีแดง
• กลิ่นมะลิ
• น้ำมันพืช
วิธีทำขนมชั้นดอกกุหลาบ
1. ใส่กะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้ม ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนละลาย ปิดไฟแล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น
2. พอส่วนผสมกะทิเย็นแล้วให้ตักช้อนเอาหัวกะทิที่อยู่ด้านบนใส่ภาชนะเก็บไว้
3. ผสมแป้งเท้ายายม่อม แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกันในอ่างผสม
4. ค่อย ๆ เทหัวกะทิใส่ลงไปทีละน้อยสลับกับใช้มือนวดแป้ง นวดจนแป้งรวมตัวกันเป็นก้อนแล้วนวดต่ออีก ประมาณ 15 นาที
เคล็ดลับ : นวดแป้งไปทางเดียวกันจะช่วยให้แป้งเหนียวนุ่มขึ้น
5. เทน้ำกะทิที่เหลือใส่ลงไป ตามด้วยกลิ่นมะลิ คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำส่วนผสมไปกรองด้วยกระชอน เตรียมไว้
6. แบ่งส่วนผสมแป้งออกเป็น 2 ส่วน ใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไป 1 ส่วน คนผสมสีให้เข้ากัน
7. ทาน้ำมันพืชลงบนถาดสำหรับนึ่งขนมชั้นให้ทั่ว
เคล็ดลับ : การทาน้ำมันพืชลงบนถาดจะช่วยทำให้แกะขนมชั้นออกจากพิมพ์ได้ง่ายขึ้น
8. นำชุดนึ่งขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำเดือดพล่าน จากนั้นวางถาดสำหรับนึ่งขนมลงไปแล้วตักส่วนผสมแป้งสีชมพูใส่ลงไปในพิมพ์ทำเป็นชั้นที่ 1 ปิดฝานึ่งประมาณ 5-7 นาที
9. พอชั้นที่ 1 สุกแล้วให้เปิดฝาแล้วตักส่วนผสมสีขาวใส่ลงไป ปิดฝานึ่งต่อ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งหมดและเต็มพิมพ์
เคล็ดลับ : เวลานึ่งขนมชั้นต้องรอให้น้ำเดือด เพราะหน้าขนมชั้นจะได้ไม่เป็นคลื่น
10. เมื่อนึ่งเสร็จแล้วนำขนมชั้นออกมาจากชุดนึ่ง พักไว้ให้เย็นลง นำขนมชั้นออกจากพิมพ์ ผ่าแบ่งครึ่งขนมชั้นตามยาวแล้วลอกขนมแต่ละชั้นออกมาเป็นแผ่น
11. ม้วนแต่ละแผ่นเป็นดอกกุหลาบ วิธีม้วนดอกกุหลาบ คือ ให้ม้วนแผ่นขนมชั้นเข้ามา 1 ทบ พับกลีบแรกไปข้างหลัง 45 องศา แล้วจึงพับตลบขึ้นมา ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนหมด พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นดอกกุหลาบ ขนมไทยใส่ไอเดีย เมนูล้ำค่าหนึ่งเดียวในปฐพี
++++++++++++++++++++
5. ข้าวต้มมัด
ใครมีข้าวเหนียวแบ่งมาทำเมนูข้าวต้มมัดกันเถอะ ขอแนะนำสูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#Rinscookbook) ข้าวเหนียวหวานมันสอดไส้กล้วยหรือเผือกกวน มาพร้อมวิธีห่อข้าวต้มมัดแบบละเอียด อร่อยยอมใจเลย
ส่วนผสม ข้าวต้มมัด
• ข้าวเหนียวเขี้ยวงูดิบ 2 ถ้วยตวง
• ถั่วดำ 1/2 ถ้วยตวง
• หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 2 ช้อนชา
• ใบเตย
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง + 1/2 ถ้วยตวง
• กล้วยน้ำว้า 16-18 ลูก (หรือเผือกกวน)
อุปกรณ์
• ใบตองชั้นใน ขนาด 6x8 นิ้ว
• ใบตองชั้นนอก ขนาด 8x9 นิ้ว
• ตอก แช่น้ำให้นิ่มประมาณ 2-3 ชั่วโมง (หรือเชือก สำหรับห่ออาหาร)
วิธีทำข้าวต้มมัด
1. ล้างข้าวเหนียวเขี้ยวงูประมาณ 2 ครั้ง นำไปแช่น้ำสะอาดประมาณ 4 ชั่วโมงขึ้นไป หรือข้ามคืน พอแช่ครบเวลาตักขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้
2. ล้างถั่วดำให้สะอาดแช่น้ำไว้ข้ามคืน นำไปต้มในน้ำเดือดพล่านประมาณ 30-40 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้
3. ใส่หัวกะทิกับเกลือป่นลงในกระทะ นำขึ้นตั้งใช้ไฟปานกลางโดยคนไปในทิศทางเดียวกัน จากนั้นใส่ใบเตยลงไป
4. พอกะทิเดือดพล่านใส่ข้าวเหนียวลงไปคนในทิศทางเดียวกันเบา ๆ ด้วยพายยาง หรือพายไม้ อย่าคนมากจนเกินไปไม่เช่นนั้นเม็ดข้าวเหนียวจะหักและไม่สวย
5. พอคนไปประมาณ 2-3 นาที ข้าวเหนียวจะดูดซึมกะทิ ทำให้กะทิลดลงไปเยอะ
6. ผัดต่ออีกประมาณ 5-6 นาที จากนั้นปรับเป็นไฟอ่อน ข้าวเหนียวจะแห้งตัวลงเกือบสุก
7. ใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วคนไปเรื่อย ๆ คนจนข้าวเหนียวขึ้นเงา ปิดไฟ
8. ปอกเปลือกกล้วยแล้วผ่าครึ่ง เตรียมไว้
9. วางใบตอง 2 ใบซ้อนกัน โดยหันด้านที่เป็นมันประกบกัน ตักถั่วดำใส่ลงไปตามชอบ
10. ตักข้าวเหนียวลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นวางกล้วยตามลงไป ตักข้าวเหนียวอีกหนึ่งช้อนลงไปปิดทับหน้ากล้วย
11. พับใบตองครึ่งหนึ่งให้เป็นรูปสามเหลี่ยมให้เหลื่อมกันนิดหน่อย ต่อมาจึงพับปลายใบตองลงมาครึ่งหนึ่ง และพับอีกครึ่งหนึ่งลงมาให้สวยงาม พับเก็บริมใบตองขึ้นมาด้านหนึ่ง
12. เริ่มจับจีบอีกด้านโดยให้จับห่อใบตองในลักษณะตั้งขึ้นแล้วก็ใช้นิ้วชี้มือขวากดไขว้ใบตองไปทางซ้าย ต่อมาก็กดพับใบตองโดยเก็บริมปลายใบตองลงมาให้สวยงาม อีกด้านก็ทำเช่นเดียวกัน
13. พอทำครบก็จับทั้งสองชิ้นมาประกบกัน โดยหันด้านในชนกัน นำตอกมามัดให้แน่นเป็น 2 เปลาะ เก็บปลายตอกให้สวยงาม
14. นำข้าวต้มมัดไปวางเรียงในชุดนึ่ง นำไปตั้งบนน้ำเดือดพล่าน ใช้ไฟแรงนึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ถึง 2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดของข้าวต้มมัด และการผัดข้าวเหนียวว่าสุกมากน้อยแค่ไหน) ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวต้มมัด สูตรขนมไทยหวานมันอร่อยมัดใจ
++++++++++++++++++++
6. ขนมมันนึ่ง
มันสำปะหลังเชื่อม หรือมันทิพย์ก็กินบ่อยแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนแนวมากินขนมมันนึ่งกันบ้างดีกว่า จับเนื้อมันสำปะหลังผสมกับน้ำใบเตยและน้ำตาลทราย หยอดใส่พิมพ์ พอนึ่งเสร็จก็จับคลุกกับมะพร้าวขูดกับเกลือ เคี้ยวหนุบหนับเพลินจริง
ส่วนผสม ขนมมันนึ่ง
• น้ำใบเตย 1 ถ้วย
• เนื้อมันสำปะหลัง (ขูดละเอียด) 400 กรัม
• น้ำตาลทรายขาว 200 กรัม
• เนื้อมะพร้าวทึนทึกขูด 1 ถ้วย
• เกลือป่นเล็กน้อย
• ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่ง)
วิธีทำขนมมันนึ่ง
1. ผสมเนื้อมันสำปะหลังขูดกับน้ำตาลทราย ค่อย ๆ เทน้ำใบเตยลงนวดให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
2. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลแล้วนำไปวางเรียงในชุดนึ่ง
3. นำชุดนึ่งที่ใส่น้ำแล้วขึ้นตั้งไฟรอจนน้ำเดือด ยกชุดนึ่งที่ใส่ขนมวางลงไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที หรือจนขนมสุก นำออกมาพักไว้ให้เย็น
4. นำเนื้อมะพร้าวขูดไปนึ่งประมาณ 5 นาที แล้วนำออกมาคลุกกับเกลือป่นเล็กน้อย
5. แคะขนมมันออกจากพิมพ์ นำไปคลุกกับมะพร้าวขูดที่เตรียมไว้ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 8 สูตรขนมมัน ขนมไทยกินแล้วมันเคี้ยวแล้วเพลิน
++++++++++++++++++++
7. สังขยาไข่
ข้าวเหนียวมูนกินกับมะม่วงสุกบ่อยก็เบื่อ ลองเปลี่ยนมากินคู่กับสังขยาไข่กันดีกว่า สูตรนี้ใส่แค่ไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิ นำไปนึ่งแค่ 15 นาทีก็พร้อมโปะหน้าข้าวเหนียวแล้วจ้า
ส่วนผสม สังขยาไข่
• ไข่ไก่ 10 ฟอง
• น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
• หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำสังขยาไข่
1. ผสมไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากัน นำไปกรองผ่านตะแกรง เทใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง
2. นึ่งสังขยานานประมาณ 15 นาที จนสุก ยกลง พักไว้จนเย็น พร้อมรับประทาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยาไข่ หวานหอมรับประทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
++++++++++++++++++++
8. สังขยาฟักทอง
บ้านใครมีฟักทองจับมาทำเมนูสังขยาฟักทองกินเป็นขนมสักมื้อกันเถอะ อยากกินเนื้อสังขยาหวานมากหรือหวานน้อยก็จัดไป เพิ่มทีเด็ดตรงใส่ฝอยทองด้านบน ผ่าเป็นชิ้นกินได้ทั้งเนื้อและเปลือก แค่ชิ้นเดียวอิ่มไปยันเย็นเลยล่ะ
ส่วนผสม สังขยาฟักทอง
• ฟักทองลูกเล็ก 1 ลูก
• ไข่ไก่ 8 ฟอง
• น้ำตาลปี๊บ 100-200 กรัม (ปรับเพิ่ม-ลดตามชอบ)
• หัวกะทิ 1 ถ้วย
• ฝอยทอง (สำหรับหยอดหน้า)
วิธีทำสังขยาฟักทอง
1. ใช้มีดเจาะไปที่ขั้วฟักทองออกให้เป็นฝา จากนั้นคว้านเอาไส้ออกจนหมดแล้วนำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้
2. ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำไปกรองผ่านตะแกรง จากนั้นเทใส่ลงในผลฟักทอง โรยฝอยทองด้านบน
3. ใส่ลูกฟักทองลงชามกระเบื้องขนาดพอดีกัน จากนั้นนำไปนึ่งในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือดนานประมาณ 30-40 นาที หรือจนฟักทองสุก ยกออกจากชุดนึ่ง พักไว้จนเย็น ตัดเป็นชิ้น พร้อมรับประทาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยาฟักทอง ขนมไทยสีเหลืองทองเนื้อเนียนนุ่ม
++++++++++++++++++++
9. ขนมถ้วย
ใครใฝ่ฝันอยากแคะขนมถ้วยกินเองสบาย ๆ อยากให้ลองสูตรขนมถ้วย จาก คุณ RinS Cook Book สูตรนี้ตัวขนมหอมกลิ่นมะลิเข้ากันดีกับหน้ากะทิ พอนึ่งเสร็จเตรียมไม้พายมาแคะกันเลย เป่าปากก่อนนะคะ ระวังร้อน
ส่วนผสม หน้าขนมถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• หัวกะทิ 2 ถ้วย
ส่วนผสม ตัวขนม
• แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
• แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
• แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/4 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
• หางกะทิ 1/2 ถ้วย
วิธีทำขนมถ้วย
1. ทำหน้าขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
2. ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งเท้ายายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
3. นำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย)
4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที
5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที
6. ค่อย ๆ ใช้ไม้พายหรือไม้ไอศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมถ้วย ขนมไทยสูตรทำง่าย ถ้วยเดียวไม่เคยพอ
++++++++++++++++++++
10. ขนมใส่ไส้
ขนมใส่ไส้ สูตรขนมนึ่งนับวันยิ่งหากินยาก ต่อไปนี้ไม่ต้องไปหาซื้อแล้วค่ะ มาทำเองกันเลย สูตรนี้ใส่ไส้กระฉีกหอมกลิ่นควันเทียนอบ ถ้าหาใบตองไม่ได้ก็ใส่ถ้วยนึ่งได้เลยจ้า
ส่วนผสม ขนมใส่ไส้
• มะพร้าวขูดขาว 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลมะพร้าว 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• น้ำต้มสุก
• เทียนอบ (สำหรับอบควันเทียน) ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ตามความสะดวก
• แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
• น้ำเย็น 1/3 ถ้วย (หรือน้ำใบเตย, น้ำอัญชันแช่เย็น หากต้องการเพิ่มสีสัน)
• แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย
• เกลือป่น 2 ช้อนชา
• หัวกะทิ 3 ถ้วย + 1/3 ถ้วย
• เตรียมใบตองตัดเป็น 2 ขนาด แผ่นใหญ่ขนาดประมาณ 5X9 เซนติเมตร และแผ่นเล็กขนาดประมาณ 4X6 เซนติเมตร แล้วตัดหัว-ท้ายเป็นสามเหลี่ยม เช็ดให้สะอาดทั้ง 2 ด้าน นำไปตากแดดทิ้งไว้สักครู่ (เพื่อไม่ให้ใบตองแตกขณะห่อขนม)
วิธีทำหน้ากระฉีก (ส่วนผสมไส้)
• 1. กวนมะพร้าวขูดกับน้ำตาลมะพร้าว และน้ำต้มสุกในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนส่วนผสมเหนียวและแห้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
• 2. พอส่วนผสมเย็นสนิทแล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ประมาณ 1 นิ้วใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด
• 3. นำส่วนผสมไส้ไปอบด้วยควันเทียน เตรียมไว้
วิธีทำแป้ง
• นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเย็นจนพอปั้นได้ จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเดียวกับหน้ากระฉีก เตรียมไว้
วิธีทำส่วนผสมหน้าขนม
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า เกลือป่น และกะทิคนให้ละลายเข้าด้วยกัน
2. เทใส่ในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเทฟลอน) ใช้ไฟปานกลางกวนจนข้นและเดือดทั่ว ยกลงจากเตา เตรียมไว้
วิธีทำขนมใส่ไส้แบบห่อใบตอง
1. แผ่แป้งข้าวเหนียวที่ปั้นไว้เป็นแผ่นบาง ๆ (กะให้พอหุ้มไส้ได้มิด) จากนั้นหยิบไส้กระฉีกวางลงไปตรงกลางแล้วหุ้มแป้งให้มิด วางขนมลงบนใบตองที่ซ้อนกัน
2. หงายใบตองแผ่นใหญ่ขึ้น (ด้านนวล) แล้ววางทับด้วยใบตองแผ่นเล็ก วางไส้ขนมลงไป จากนั้นตักหน้าขนมประมาณ 1/2 ช้อนชา ใส่ด้านบนไส้
3. ห่อใบตองเป็นทรงสูง ใช้ใบมะพร้าวที่เตรียมไว้คาดและกลัดด้วยไม้กลัดให้เรียบร้อย ตัดปลายเตี่ยวให้เฉียงและยาวพองาม วางเรียงห่อขนมลงในชุดนึ่ง
4. นำขนมไปนึ่งในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือดพล่านประมาณ 10 นาที ยกลงจากเตา
วิธีทำขนมใส่ไส้สูตรประยุกต์
1. ตักส่วนผสมหน้ากะทิใส่ลงในถ้วยขนาดเล็ก (หรือพิมพ์พลาสติก) ประมาณ 1/2 ของพิมพ์ เตรียมไว้
2. แผ่แป้งข้าวเหนียวที่ปั้นไว้เป็นแผ่นบาง ๆ (กะให้พอหุ้มไส้ได้มิด) จากนั้นหยิบไส้กระฉีกวางลงไปตรงกลางแล้วหุ้มแป้งให้มิด จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจนลอยขึ้นมา ตักขึ้นใส่จาน เตรียมไว้
3. ค่อย ๆ นำส่วนผสมไส้วางลงในพิมพ์อย่างเบามือให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมใส่ไส้ ขนมไทยสุดคลาสสิก เนื้อเนียนไส้นุ่มละมุนทุกสัมผัส
++++++++++++++++++++
11. ขนมตาล
ใครที่หลงใหลความอร่อยของขนมตาลเนื้อเหนียวนุ่ม ถ้ามีเวลาว่างมาลองทำเองสนุก ๆ กันไหมคะ ขอแนะนำสูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine สูตรนี้ใส่ถ้วยตะไล หรือพิมพ์อื่น ๆ ตามชอบก็ได้ ก่อนนึ่งก็โรยมะพร้าวขูดไปหน่อย รับรองเคี้ยวเพลินจนหยุดไม่อยู่เลย
ส่วนผสม ขนมตาล
• น้ำตาลทราย 400 กรัม
• กะทิ 3 ถ้วย
• เนื้อลูกตาลสุก 350 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
• มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นเล็ก (คลุกเกลือเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า) 2 ถ้วย
วิธีทำขนมตาล
1. ละลายน้ำตาลทรายในกะทิ เติมเนื้อลูกตาลลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งและผงฟูลงไป คนจนเนียน
2. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ประมาณ 10 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้น
3. ระหว่างรอขนมขึ้น ใส่น้ำในชุดนึ่ง ตั้งไฟกลางเตรียมไว้ เรียงถ้วยตะไลลงไป พอส่วนผสมครบเวลา ตักส่วนผสมหยอดลงในถ้วยตะไลจนเต็มถ้วย โรยด้วยมะพร้าวทึนทึก นึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาที หรือจนกระทั่งสุก ยกลงจากเตา พักให้เย็น แซะออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมตาล สูตรขนมไทยสีเหลืองนวลเนื้อเหนียวนุ่ม หอมอร่อย
++++++++++++++++++++
12. ขนมฟักทอง
ฟักทองนึ่งกินไม่หมดอย่าเพิ่งทิ้งนะคะ จับมาทำเมนูขนมฟักทองสำหรับคุณลูกกันเถอะ สามารถปรับความหวานได้ตามชอบ เนื้อขนมเหนียวนุ่ม เคี้ยวเจอมะพร้าวขูดทุกคำ ฟินเว่อร์
ส่วนผสม ขนมฟักทอง
• ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น ๆ)
• แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
• แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
• มะพร้าวขูด 50 กรัม
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• กะทิ 1 ถ้วย
• ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่ง)
วิธีทำขนมฟักทอง
1. นำฟักทองไปนึ่งจนสุกแล้วนำออกมาพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
2. ใส่แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังลงในฟักทองที่นึ่งสุกแล้ว จากนั้นนวดผสมให้เข้ากัน
3. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปนวด จากนั้นค่อย ๆ เติมกะทิลงไปคนผสมจนเข้ากันดีและน้ำตาลทรายละลายหมด
4. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลประมาณ 3/4 ของถ้วย จากนั้นนำไปนึ่ง (ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด) ประมาณ 15-20 นาที นึ่งจนแป้งสุกและใส ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น แคะขนมออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมฟักทอง ขนมไทยสีสวยเนื้อเหนียวนุ่ม
++++++++++++++++++++
13. ขนมกล้วย
กล้วยน้ำว้าสุกรสชาติไม่ค่อยประทับใจเท่าไร ครั้นจะทิ้งก็เสียดายลองจับมาทำเมนูขนมกล้วยกินอร่อย ๆ และแบ่งบางส่วนแจกจ่ายญาติมิตรกันเถอะ จะห่อขนมด้วยใบตอง หรือจะใส่ถ้วยตะไลก็ตามชอบ เอาที่สบายใจเลยค่ะ
ส่วนผสม ขนมกล้วย
• กล้วยน้ำว้าสุก (บดละเอียด) 500 กรัม
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
• แป้งมันสำปะหลัง 5 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
• มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
• ใบตองสำหรับห่อ (ถ้าไม่มีใบตองสามารถใช้ถ้วยตะไลได้)
วิธีทำขนมกล้วย
1. ผสมกล้วยน้ำว้ากับน้ำตาลทราย เกลือป่น แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง หัวกะทิ และมะพร้าวขูด คนผสมให้เข้ากันดี
2. ตักส่วนผสมขนมกล้วยลงบนใบตอง แผ่บาง ๆ หรือจะทำเป็นทรงกรวยห่อเป็นทรงให้สวยงาม (หรือตักใส่ถ้วยตะไล) วางเรียงบนชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นึ่งประมาณ 20 นาทีจนขนมสุก จากนั้นนำออกจากชุดนึ่ง พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมกล้วย สูตรขนมไทยทำง่าย ๆ สมชื่อ
++++++++++++++++++++
ถ้าไม่ใช่เทศกาลไหว้เจ้าคงอดกินขนมเข่ง แต่ถ้าอยากกินก็ไม่เห็นต้องแคร์ ออกไปหาซื้อส่วนผสมมาทำเองเสียเลย แค่มีแป้งข้าวเหนียว น้ำตาลปี๊บ และมะพร้าวขูด พอนวดเสร็จก็เทใส่กระทงเอาไปนึ่งจนสุก เอาล่ะ… แจกจ่ายเพื่อนฝูงกันเลย
ส่วนผสม ขนมเข่ง
• แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
• น้ำสะอาด 1 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม
• มะพร้าวขูด 300 กรัม
• กระทงสำหรับใส่ขนม
• น้ำมันพืชสำหรับทากระทง
วิธีทำขนมเข่ง
1. ทากระทงด้วยน้ำมันพืชให้ทั่ว เตรียมไว้
2. นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจนแป้งนุ่ม จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงนวดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. ใส่มะพร้าวขูดลงคนผสมให้เข้ากัน ตักใส่กระทงประมาณ 3/4 ของกระทง
4. วางขนมเรียงลงในชุดนึ่ง จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรงที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 1/2 ชั่วโมง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ใช้กรรไกรตัดเจียนกระทงที่เกินออกให้พอดีกับขนม พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมเข่ง สูตรขนมเข่ง ขนมไหว้เจ้าชื่อมงคล
++++++++++++++++++++
15. ขนมเทียน
อยู่ดี ๆ ก็อยากกินเมนูขนมเทียนแต่ไม่ใช่วันตรุษจีนจะไปหาซื้อจากไหน สงสัยต้องทำเองให้หายอยาก สูตรนี้ใช้แป้งข้าวเหนียวดำ มาพร้อมสูตรไส้เค็มหอมกลิ่นพริกไทย ห่อเป็นทรงสามเหลี่ยมให้สวยงาม พอนึ่งสุกก็จัดการหม่ำได้เลยค่ะ
ส่วนผสม แป้งขนมเทียน
• แป้งข้าวเหนียวดำ 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลปี๊บ 200-300 กรัม
• ใบตองสำหรับห่อขนม
ส่วนผสม ไส้ขนมเทียน (ขนมเทียนไส้เค็ม)
• ถั่วเขียวซีกเราะเปลือก 1 กิโลกรัม
• กระเทียม
• พริกไทย
• น้ำมันพืชสำหรับผัด
• เกลือป่น
• น้ำตาลทราย
วิธีทำไส้ขนมเทียน
1. ล้างถั่วเขียวซีกเราะเปลือกให้สะอาด แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
2. โขลกกระเทียมกับพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ถั่วเขียวนึ่งลงโขลกพอหยาบ
3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใส่ส่วนผสมไส้ลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ให้มีรสหวาน เค็ม และเผ็ด ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมไว้
วิธีทำขนมเทียน
1. ใส่น้ำตาลปี๊บลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวให้น้ำตาลปี๊บพอละลาย ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
2. นวดผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำตาลปี๊บที่ละลายไว้จนเข้ากันดี เตรียมไว้
3. จับใบตองให้เป็นทรงกรวย ใส่ไส้ที่ปั้นไว้ลงไป ตักส่วนผสมแป้งใส่ จากนั้นห่อให้สวยงาม เรียงลงในชุดนึ่ง
4. นำขนมไปนึ่งด้วยไฟแรงที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 30 นาที จนขนมสุก ปิดไฟ นำออกจากชุดนึ่ง พร้อมรับประทาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรขนมเทียน วิธีทำขนมเทียน ขนมไหว้เจ้าตัวแทนความรุ่งเรือง
++++++++++++++++++++
16. ขนมปุยฝ้าย ขนมถ้วยฟู
ขนมปุยฝ้าย หรือขนมถ้วยฟู สูตรขนมนึ่งสีคัลเลอร์ฟูล ใครอยากทำเองเราก็มีสูตรจากคุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม สูตรนี้แป้งหอมกลิ่นมะลิ ชิ้นเล็กพอดีคำ นุ่มละมุนลิ้นจนต้องเบิ้ล
ส่วนผสม ขนมปุยฝ้าย ขนมถ้วยฟู
• แป้งเค้ก 2+1/2 ถ้วย (หรือ 300 กรัม)
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• ไข่ไก่ (อุณหภูมิห้อง) 3 ฟอง
• น้ำตาลทราย 1+1/4 ถ้วย (หรือ 250 กรัม)
• น้ำเปล่า (อุณหภูมิห้อง) 1 ถ้วย
• สารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี (SP) 4 ช้อนชา
• นมข้นจืด 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำหอมกลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา (หรือน้ำหอมกลิ่นนมแมว 2 หยด)
• สีผสมอาหาร (ตามชอบ)
วิธีทำขนมปุยฝ้าย ขนมถ้วยฟู
1. ร่อนแป้งเค้ก กับผงฟูเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย และน้ำลงในอ่างผสม จากนั้นป้ายสารเสริมคุณภาพบนหัวตีรูปตะกร้อ ตีผสมด้วยความเร็วสูง นานประมาณ 3-5 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟูเป็น 3 เท่า
3. ลดความเร็วเครื่องตีลง ใช้ความเร็วต่ำ จากนั้นค่อย ๆ ตักแป้งใส่ลงไปตีผสมจนหมด ปาดข้างอ่าง ตีผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ค่อย ๆ เทนมข้นจืดลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว และน้ำหอมกลิ่นมะลิ ตีต่อประมาณ 30 วินาที ปิดเครื่อง คลุมอ่างผสมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด ๆ พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ส่วนผสมขึ้นฟู
4. ใส่น้ำลงในชุดนึ่ง นำขึ้นตั้งไฟแรงจนน้ำเดือดจัด
5. เมื่อครบเวลา ใช้พายยางคนตะล่อมแป้งให้เข้ากันอีกครั้ง แบ่งแป้งผสมสีผสมอาหารตามชอบ เตรียมไว้
6. วางถ้วยกระดาษ (ถ้วยจีบ) ลงในพิมพ์อะลูมิเนียม ตักส่วนผสมแป้งใส่ประมาณ 3/4 พิมพ์ จากนั้นวางเรียงในชุดนึ่ง (โดยวางถ้วยให้ระยะห่างกันประมาณ 2 ซม. เพื่อให้ความร้อนกระจายขึ้นมาอย่างทั่วถึง) จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรง นานประมาณ 15 นาที นำออกจากชุดนึ่ง แกะขนมออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมปุยฝ้าย ขนมถ้วยฟู ของไหว้เจ้าวันตรุษจีน สีสันสดใสเนื้อนุ่มฟู
++++++++++++++++++++
17. ขนมบุหลันดั้นเมฆ
ว้าว ! เห็นภาพขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมไทยโบราณแล้วคันไม้คันมือ ใครสนใจอยากทำขอแนะนำสูตรจากคุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ตัวขนมสีม่วงจากน้ำดอกอัญชัน พอนึ่งเสร็จแล้วก็หยอดกะทิกับไข่แดงลงไปในหลุมขนม พอนึ่งสุกอย่าลืมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนหม่ำนะคะ
ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ
• ดอกอัญชัน
• น้ำร้อน
• กะทิ 120 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม
• เกลือเล็กน้อย
• ไข่แดง 10 ฟอง
• น้ำตาลไอซิ่ง 60 กรัม
• กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
• แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
• แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม
• น้ำเปล่า 200 กรัม
• น้ำเชื่อม 350 กรัม (พักไว้จนเย็น)
• ถ้วยตะไล
วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ
1. คั้นดอกอัญชันกับน้ำร้อนให้ได้ปริมาณ 100 กรัม พักไว้
2. ผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า 10 กรัมเข้าด้วยกันแล้วนำไปเคี่ยวในกระทะให้พอข้น ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย พักไว้
3. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกรองให้เนื้อเนียน ๆ เตรียมไว้
4. ผสมแป้งข้าวเจ้า 100 กรัม และแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าลงไปผสม (ใส่น้ำเปล่านิดเดียวก่อนยังไม่ต้องใส่น้ำหมด แต่เผลอเทน้ำลงมากไปนิด)
5. นวดแป้งประมาณ 5 นาที แป้งจะไม่ติดมือและผิวจะมีลักษณะเงา ๆ เทน้ำเปล่าที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้ำเชื่อมที่เย็นแล้ว เทน้ำดอกอัญชันลงไปผสม คนผสมให้เข้ากันแล้วนำไปกรอง พักไว้
6. นำถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน หยอดส่วนผสมแป้งลงไปจนเกือบเต็ม ปิดฝานึ่งในน้ำเดือดประมาณ 2-2.30 นาที ถ้าเกินกว่านั้น แป้งจะสุกเกิน สังเกตจากขอบขนมเริ่มมีสีเข้มขึ้นและตรงกลางมีสียังอ่อน ๆ เป็นใช้ได้
7. จากนั้นให้รีบนำออกมาจากชุดนึ่งแล้วคว่ำถ้วยขนมลงชาม แป้งที่ยังไม่สุกก็จะไหลออกมา ทำให้ขนมเป็นหลุมตรงกลาง
หมายเหตุ : ตอนนึ่งครั้งแรก เผลอนึ่งนานไปหน่อย มันสุกไวมาก ตอนเทแป้งออก กลับกลายเป็นว่า นิ่งสนิท ไม่มีอะไรไหลออกมาเป็นหลุมเลย ครั้งต่อ ๆ ไปจึงลดเวลาการนึ่งลงเป็น 2 นาที ถึงจะเทแป้งเหลวออกได้ ก็ยากเล็กน้อยในตอนแรก พอจับทางได้ก็ไม่ยากละ
8. บีบหรือหยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุม นำไปนึ่งต่ออีก 1 นาทีก็ได้ หรือจะหยอดไข่แดงเลยก็ได้ (มั้ง ! แต่เรามีทั้งเอากะทิไปนึ่งก่อน และมีทั้งหยอดไข่แดงทับไปเลยก็มี)
9. หยอดส่วนผสมไข่แดงลงในหลุม (ขั้นตอนนี้ระวัง ให้ปาดก้นช้อนทุกครั้ง อย่าให้มีไข่แดงติดมา เพราะมันจะหยดลงขอบขนมทำให้เลอะเทอะไม่สวย) จากนั้นนำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที เป็นอันเสร็จ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมไทยโบราณสีสดใส
++++++++++++++++++++
18. ขนมน้ำดอกไม้
ขนมน้ำดอกไม้ สีสันสดใส เนื้อนุ่ม รสชาติหวานหอม ใครไม่เคยลองกินมาทำสนุก ๆ กันเถอะ ส่วนผสมหลัก ๆ มีแค่แป้ง น้ำลอยดอกมะลิ และสีผสมอาหารตามชอบ พอผสมแป้งเสร็จแล้วเทใส่ถ้วยตะไลจับเอาไปนึ่งจนสุก รับรองกินอร่อยไม่หยุดปากกันเลย
ส่วนผสม ขนมน้ำดอกไม้
• แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
• แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย (ถ้าไม่มีให้ใช้น้ำ 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย ผสมน้ำหอมกลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา)
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• สีผสมอาหารตามชอบ
• ถ้วยตะไล
วิธีทำขนมน้ำดอกไม้
1. ร่อนแป้งข้าวเจ้าและแป้งเท้ายายม่อม เข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ใส่น้ำลอยดอกมะลิ และน้ำตาลทรายไปลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ คนจนเข้ากันดี และน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อม ยกลง พักทิ้งไว้จนเย็น
3. ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำเชื่อมลงในส่วนผสมแป้งทีละน้อย คนจนเข้ากันดี แบ่งส่วนผสมสำหรับผสมสีต่าง ๆ จากนั้นค่อย ๆ เติมสีผสมอาหารลงไปให้มีสีอ่อน เตรียมไว้
4. ใส่ถ้วยตะไลลงนึ่งประมาณ 10 นาที จากนั้นหยอดส่วนผสมแป้งลงในพิมพ์ ประมาณ 1/2 ของพิมพ์ นำไปนึ่งประมาณ 15 นาทีจนแป้งสุก นำขึ้นจากชุดนึ่งใส่ลงในถาดที่ใส่น้ำเอาไว้ จากนั้นพักขนมทิ้งไว้ให้เย็น แกะออกจากพิมพ์ จัดใส่จานให้สวยงาม พร้อมรับประทาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมน้ำดอกไม้ ขนมไทยถ้วยจิ๋วหลากสีกินเพลิน ๆ
แอบดีใจที่ไม่ต้องไปซื้อเตาอบมาทำขนมแล้ว เพราะมีแค่ชุดนึ่งก็ทำขนมอร่อย ๆ กินได้ นอกจากมีขนมไทยที่ใช้วิธีนึ่งแล้วยังมีขนมสไตล์ฝรั่งอย่างเมนูเค้กนึ่ง รวมถึงขนมสไตล์จีนอย่างขนมเข่ง และขนมเทียนอีก ใครชอบสูตรไหนก็จัดไปเลยค่ะ