x close

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม เสกอาหารเลอค่าตำรับโฮมเมดไม่ง้อร้าน


     รวมฮิตสูตรอาหารฝรั่งจานฮิต มีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร หน้าตาดีงามพระรามแปด ใคร ๆ ก็ทำตามได้ รับรองอร่อยไม่แพ้ร้านดัง



     จู่ ๆ คนพิเศษก็อยากกินอาหารฝรั่ง  แต่เนื่องจากขี้เกียจไปต่อคิวกินตามร้าน แม่บ้านใจดีเลยจัดให้กินที่บ้านเลย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำอาหารฝรั่งยอดนิยม มีทั้งสเต๊ก สปาเกตตี ลาซานญ่า ซุป และมันบด บอกเลยว่าน่าอร่อยทั้งนั้น ตามมาชิมพร้อมกันเลยจ้า

1. สเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ bangbuatong60d สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

     ตั้งกระทะเตรียมทอดสเต๊กปลากันเถอะ ขอนำเสนอวิธีทำสเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์ จับเนื้อปลาหมักกับเกลือและพริกไทย ก่อนนำไปทอดคลุกเกล็ดขนมปังหน่อย เสิร์ฟกับซอสทาร์ทาร์

ส่วนผสม สเต๊กปลาทอด (สำหรับ 6-8 ที่)

      • ปลาดอรี่ชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น
      • เกลือป่นและพริกไทยป่น (สำหรับหมักปลาดอรี่)
      • แป้งทอดกรอบ (สำหรับชุบปลา)
      • ไข่ไก่ตีพอแตก (สำหรับชุบปลา)
      • เกล็ดขนมปัง
      • ชีส

ส่วนผสม ซอสทาร์ทาร์

      • หอมใหญ่ (ซอยละเอียด)
      • เกลือป่น
      • ครีมสลัด
      • พาร์สลีย์สับ
      • แตงกวาดอง (ซอยละเอียด)
      • ไข่แดงต้มสุก 2 ฟอง
      • มะนาว
      • แครอทลวก (หั่นเป็นแท่ง) 2 หัว
      • บรอกโคลีลวก 300 กรัม
      • ผักกาดแก้ว

วิธีทำซอสทาร์ทาร์

     1. ขยำหอมใหญ่กับเกลือเข้าด้วยกัน พักทิ้งไว้ให้น้ำหอมใหญ่ออกมาแล้วบีบให้แห้ง
     2. เทครีมสลัดใส่ลงโถผสมอาหาร ตามด้วยหอมใหญ่ ใบพาร์สลีย์สับ แตงกวาดอง และไข่แดงต้มสุก บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

วิธีทำสเต๊กปลาทอด

     1. ล้างปลาดอรี่ให้สะอาด นำไปซับน้ำและผึ่งลมให้แห้ง จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น หมักทิ้งไว้สักครู่
     2. นำเนื้อปลาที่หมักไว้ไปชุบลงในแป้งทอดกรอบ ตามด้วยชุบไข่ไก่ให้ทั่ว สุดท้ายนำไปคลุกในเกล็ดขนมปัง
     3. นำลงทอดในน้ำมันใช้ไฟไม่ต้องแรงมากทอดจนเหลืองอ่อน ๆ ตักขึ้นแล้วนำเข้าเตาอบประมาณ 5 นาที เพื่อไล่น้ำมันจากนั้นโรยชีส เอาไปอบต่อจนสุก
     4. ต้มแครอทและบรอกโคลีให้สุก จัดเรียงในจาน ตามด้วยผักกาดแก้วให้สวยงาม ใส่ปลาทอดลงไป ราดซอสทาร์ทาร์ พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์ เมนูหรูหราในราคาประหยัด

++++++++++++++++++

2. สเต๊กปลาแซลมอน

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ 13 Destinations สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

     ใครไม่อยากกินสเต็กปลาทอดก็มาทำสเต๊กปลาย่างสิคะ พบกับสเต๊กปลาแซลมอน จับเนื้อปลาไปย่างในกระทะจนสุก เสิร์ฟกับซอสขาว มันบด และผักลวกตามชอบ

     สเต็กปลาย่าง 1 จาน ให้พลังงานประมาณ 260 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม สเต๊กปลาแซลมอน

      • ปลาแซลมอน
      • พริกไทยดำบด
      • เกลือป่น
      • เนย
      • เลมอนผ่าซีก
      • ซอสขาวสำเร็จรูป
      • มันบด
      • บรอกโคลีลวก

วิธีทำสเต๊กปลาแซลมอน

     1. โรยพริกไทยและเกลือป่นลงบนเนื้อปลาแซลมอน พักไว้สักครู่
     2. ใส่เนยลงไปในกระทะ พอเนยละลายใส่ปลาแซลมอนลงไป พอเนื้อปลาแซลมอนเริ่มสุกพลิกกลับด้าน จัดใส่จาน เสิร์ฟกับบรอกโคลี มันบด เลมอน และซอสขาว

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 2 เมนูปลาแซลมอน เมนูอร่อยต่างขั้วจากวัตถุดิบชิ้นเดียว

++++++++++++++++++

3. พอร์คชอปกับสลัดส้ม 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine

     น่ากินไม่เบาเลยสำหรับพอร์คชอปกับสลัดส้ม จับพอร์คชอปไปอบหรือย่างจนสุก ตัดเลี่ยนด้วยสลัดส้มรสเปรี้ยวหวานและซอสส้ม

     พอร์คชอป 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 230.6 กิโลแคลอรี

ส่วนผสม พอร์คชอปกับสลัดส้ม

      • พอร์คชอป 2 ชิ้น
      • น้ำส้มคั้น 1 ถ้วย
      • ผิวส้มขูด 2 ผล (เคล็ดลับ : ขูดผิวส้มไม่ให้ติดส่วนสีขาวเพราะจะมีรสขม ถ้าไม่มีที่ขูดผิวให้ใช้มีดคม ๆ ฝานเปลือกส้มออกบาง ๆ แล้วซอยเป็นเส้น)
      • ใบไทม์รูดใบ 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
      • ซีอิ๊วขาว 2-3 ช้อนชา
      • เกลือทะเล
      • พริกไทยดำบดหยาบ เล็กน้อย
      • เนื้อส้มซันคิสต์ (หั่นเป็นกลีบ) 1 ผล
      • ส้มเขียวหวาน (หั่นเป็นกลีบ) 1 ผล
      • ส้มเช้ง (หั่นเป็นกลีบ) 1 ผล
      • เลมอน (หั่นเป็นกลีบ) 1 ผล
      • ใบสะระแหน่ซอย 5-6 ใบ
      • ใบไทม์สด 2 กิ่ง
      • น้ำมันพืช เล็กน้อย

วิธีทำพอร์คชอปกับสลัดส้ม

     1. หมักพอร์คชอปกับน้ำส้มคั้น ผิวส้มขูด ใบไทม์ เกลือทะเล และพริกไทยดำเข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้นานประมาณ 2-3 ชั่วโมง
     2. ทำซอสส้มโดยเทน้ำส้มที่ใช้หมักเนื้อหมูลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มให้เดือด ใส่น้ำผึ้งและซีอิ๊วขาวลงไป ต้มจนงวดลงเล็กน้อย ใส่น้ำเลมอนและเกลือลงไป ชิมรสให้เปรี้ยว หวานและเค็มเล็กน้อย (เคล็ดลับ : ซีอิ๊วขาวมีอูมามิทำให้มีรสเค็มกลมกล่อม ถ้าชอบซอสข้นอาจเติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไปด้วยเล็กน้อย)
     3. ตั้งกระทะสำหรับย่างให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย วางพอร์คชอปที่หมักไว้และกิ่งไทม์สดลงไปย่างจนพอร์กชอปมีสีน้ำตาลและลายสวย จากนั้นให้กลับด้านแล้วย่างต่อจนสีสวย ทั้ง 2 ด้าน
     4. ตักพอร์คชอปใส่ถาด นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 5-10 นาทีจนสุกทั่ว ยกขึ้น คลุมด้วยกระดาษอลูมิเนียมฟลอยด์ พักไว้ 3-5 นาที (เคล็ดลับ : ถ้าไม่มีเตาอบ ขณะย่างให้ปิดฝาและลดไฟอ่อน อบจนสุก ใช้มีดปลายแหลมจิ้มเนื้อส่วนที่หนาที่สุด สังเกตน้ำที่ไหลออกมาจะใสไม่มีสีชมพูปน)
     5. หั่นเนื้อส้มทั้งหมดและเลมอนเป็นกลีบ ๆ โรยใบสะระแหน่ซอย คนผสมให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมพอร์คชอป ราดด้วยซอสส้ม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พอร์คชอปกับสลัดส้ม สเต๊กสุดอร่อยสไตล์ฝรั่ง

++++++++++++++++++

4. ไก่อบน้ำผึ้งมัสตาร์ด 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก นิตยสาร @Kitchen

     วันพิเศษก็อยากทำเมนูไก่อบสุดโปรดของคนพิเศษให้ได้กินสักมื้อ พบกับวิธีทำไก่อบ จับไก่หมักกับน้ำผึ้งและโฮลเกรนมัสตาร์ด พออบเรียบร้อยก็เสิร์ฟกับมันอบและถั่วเข็มผัดกระเทียม


ส่วนผสม ไก่อบน้ำผึ้งมัสตาร์ด (สำหรับ 4 ที่)
    
      • ไก่เบรสฝรั่งเศส 1/2 ตัว
      • มันฝรั่ง 600-800 กรัม
      • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
      • โฮลเกรนมัสตาร์ด 3 ช้อนโต๊ะ
      • ถั่วเข็มลวก 200 กรัม
      • กระเทียม 3 กลีบ   
      • เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
      • เลมอน 1/2 ลูก
      • โรสแมรี่ 2-3 ก้าน       
      • เกลือ
      • พริกไทย            

วิธีทำไก่อบน้ำผึ้งมัสตาร์ด

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส และหั่นมันฝรั่งเป็นชิ้น ๆ ขนาด 1.5-2 นิ้ว คลุกด้วยน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตามด้วยใบโรสแมรี่
     2. ผสมน้ำผึ้งและโฮลเกรนมัสตาร์ดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทย ทาเนื้อไก่ให้ทั่วแล้วพักไว้ (เก็บส่วนผสมที่เหลือไว้สำหรับทำซอส)
     3. ใช้หม้อที่เข้าเตาอบได้ เคลือบก้นหม้อด้วยน้ำมันมะกอกที่เหลือ จัดเรียงมันฝรั่งลงไปให้ทั่ว ตามด้วยไก่ที่หมักเรียบร้อยแล้ว ปิดหม้อด้วยกระดาษฟอยล์ อบประมาณ 20 นาที
     4. นำส่วนผสมของน้ำผึ้งและมัสตาร์ดที่เหลือผสมกับน้ำเลมอน
     5. เมื่อครบ 20 นาทีเปิดฟอยล์ออก ราดส่วนผสมน้ำเลมอนให้ทั่ว นำเข้าเตาอบแบบไม่ปิดฟอยล์จนไก่มีสีสวยงาม
     6. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่เนยลงไป ตามด้วยกระเทียมซอย พอเริ่มมีกลิ่นหอมใส่ถั่วเข็มลงไปผัด ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ใช้เสิร์ฟเป็นเครื่องเคียง

     เคล็ดลับ : สามารถใช้ไก่บ้านไทยแทนได้ และก่อนที่วางมันฝรั่งลงไปในชามอบให้นำชามเข้าเตาอบให้ร้อนประมาณ 5-10 นาที

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไก่อบน้ำผึ้งมัสตาร์ด อาหารฝรั่งเมนูอร่อยจากผลิตภัณฑ์โครงการหลวง

++++++++++++++++++

5. ผักโขมอบชีส 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ Rock Barista สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

     ชีสเยิ้มน่ากินหนักมากกับเมนูผักโขมอบชีส จับผักโขมสับไปต้มจนสุกแล้วเอาไปผัดกับหอมใหญ่ เติมนมสด พอเข้ากันก็เอาไปอบพร้อมกับโรยชีส

     ผักโขมอบชีส 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 110 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม ผักโขมอบชีส

      • ผักโขม 7 ต้น
      • หอมใหญ่ 2 หัว
      • กระเทียม 1 หัว
      • เนยสด ปริมาณตามชอบ (อยากได้รสชาติมัน ๆ ก็ใส่เยอะหน่อย)
      • นมสด
      • เกลือ
      • แป้งมันสำปะหลัง
      • ชีสขูด

วิธีทำผักโขมอบชีส

     1. ต้มผักโขมให้สุกแล้วสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ
     2. สับหอมใหญ่และกระเทียม เตรียมไว้
     3. ใส่เนยลงกระทะ ผัดหอมใหญ่ก่อน พอหอมใหญ่ใกล้สุกใส่กระเทียม พอกระเทียมสุกตามด้วยผักโขม จากนั้นเทนมสดลงไปนิดหน่อย ปรุงรสด้วยเกลือ และทำให้ส่วนผสมเหนียวขึ้นมาหน่อยด้วยแป้งมันสำปะหลัง ผัดให้เข้ากัน
     4. ตักใส่ถ้วยขนาดพอเหมาะ (ที่สามารถนำเข้าเตาอบได้) โรยชีสลงไปตามชอบแล้วนำเข้าเตาอบ เอาออกมา พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ผักโขมอบชีส สูตรออแกนิกส์ ปลูกเองทำเองอิ่มอร่อยง่าย ๆ

++++++++++++++++++

6. ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณแม่นกกะอันนา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

     ลำพังแค่ผักโขมอบชีสก็อร่อย แต่ถ้าใส่ลาซานญ่าลงไปคงฟินไม่น้อยเลย พบกับลาซานญ่าผักโขมอบชีส เริ่มจากทำซอสเบชาเมลกับผัดเครื่องเคราสำหรับใส่ลงในลาซานญ่า สุดท้ายโรยชีส 

ส่วนผสม ลาซานญ่า (สำหรับ 4 ที่) แบ่งเป็น 2 ส่วน

      • น้ำมันมะกอก (สำหรับผัดผักโขม) 2 ช้อนโต๊ะ
      • กระเทียม (สับละเอียด) 1 กลีบใหญ่
      • หอมใหญ่ (ซอยละเอียด) 2 หัว
      • เกลือ
      • พริกไทย
      • ใบไทม์สับละเอียด พอประมาณ (ไทม์เป็นเครื่องเทศของครัวฝรั่ง)
      • เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มความหอมอบอวล ชวนหม่ำ)
      • ผักโขมสด 500 กรัม (ล้างสะอาดซับน้ำให้แห้งเพราะไม่ต้องการน้ำแฉะ ๆ ลงไปในตัวลาซานญ่า)
      • ริคอตต้าชีส 250 กรัม
      • พาร์มีซานชีส ตามชอบ
      • มอสซาเรลล่าชีส ตามชอบ
      • แผ่นพาสต้าลาซานญ่าอบแข็ง

ส่วนผสม ซอสครีมเบชาเมล (Bechamel Sauce)

      • เนยสด 3 ช้อนโต๊ะ
      • แป้งอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
      • นมสด 6 เดซิลิตร
      • เกลือ
      • พริกไทย
      • เมล็ดจันทน์เทศ ขูดละเอียด
      • พาร์มีซานชีส หรือ Le Gruyère ประมาณ 70 กรัม ปริมาณมากน้อยตามชอบ

วิธีทำลาซานญ่า

     1. ตั้งกระทะให้ร้อน เทน้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยกระเทียมผัดพอส่งกลิ่นหอม
     2. ใส่หอมใหญ่ลงไป เพิ่มรสชาติด้วยเกลือ พริกไทย ใส่ใบไทม์ลงไป กลิ่นใบไทม์จะทำให้ผักโขมหอม
     3. ตามด้วยเนยสด ผัดจนกว่าหอมใหญ่จะเปลี่ยนเป็นสีใส ๆ จากนั้นใส่ผักโขมลงไป ชิมรสตามชอบ

วิธีทำซอสครีมเบชาเมล (Bechamel Sauce)

     1. ตั้งไฟให้ร้อนปานกลางใส่เนยลงไป เติมแป้ง ใช้ตะกร้อคนจนแป้งสุก (ถ้าแป้งไม่สุกจะมีกลิ่นแป้ง กินแล้วจะไม่อร่อย)
     2. ค่อย ๆ เติมนมลงไปจนหมด คนให้เข้ากัน
     3. เติมเมล็ดจันทน์เทศขูดฝอยลงไปเล็กน้อย เพื่อให้มีกลิ่นหอม เติมเกลือลงไป เล็กน้อยพร้อมกับพริกไทย คนจนซอสข้นคล้าย ๆ ดับเบิลครีม
     4. เติมชีสลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง จนส่วนผสมทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้

วิธีทำลาซานญ่าผักโขมอบชีสริคอตต้า

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส (ใช้เวลา 30-45 นาที) โดยแบ่งเวลาอบเป็น 2 ส่วน โดยช่วง 15 นาทีหลัง อบแบบไม่มีฟอยล์ เพื่อจะทำให้หน้าของลาซานญ่าน่ากิน
     2. ใช้เนยสดทาฟอร์มให้ทั่ว ตามด้วยซอสครีม วางแผ่นลาซานญ่าลงไปในฟอร์ม ตามด้วยผักโขมที่เตรียมไว้
     3. โรยมอสซาเรลล่าชีส ริคอตต้าชีส และพาร์มีซานชีส ราดซอสครีมลงไป ปิดด้วยแผ่นพาสต้าลาซานญ่า หักให้แผ่นแตก ๆ ตอนเสิร์ฟจะได้ตัดง่าย ๆ
     4. ทำชั้นต่อ ๆ ไปเหมือนเดิม ชั้นสุดท้ายวางแผ่นพาสต้าลงไป ราดซอสครีมให้ทั่ว ตามด้วยมอสซาเรลล่าชีส และพาร์มีซานชีส เสร็จแล้วใช้ฟอยล์ปิดไว้
     5. พอถึง 15 นาทีสุดท้ายเอาแผ่นฟอยล์ออกเพื่อให้หน้าลาซานญ่าสวยน่ากิน อบเสร็จเรียบร้อย ยกออกจากเตา พักไว้ประมาณ 5-7 นาที เพื่อให้ลาซานญ่าเซตตัว ง่ายต่อการตัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลาซานญ่าผักโขมอบชีสริคอตต้า อร่อยเลอค่าพ่วงสูตรซอสเบชาเมล

++++++++++++++++++


7. สตูหมู 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ pongsj สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

     เติมโปรตีนกันด้วยเมนูสตูหมู จับหมูสับหมักกับเครื่องเครามาพร้อมวิธีทำซอสสตูสำหรับตุ๋น กินกับข้าวสวยหรือเส้นสปาเกตตีก็อร่อยค่ะ


ส่วนผสม หมูก้อน

      • เนื้อหมู (สับหยาบ) 500 กรัม (ใช้เนื้อหมูสับติดมันจะได้นุ่ม ๆ)
      • เนื้อหมู (สับละเอียด) 500 กรัม
      • หอมใหญ่ (สับละเอียด) 1 หัว
      • พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
      • กระเทียบ (สับละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
      • ซีอิ๊วขาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
      • ผงปรุงรสอิตาเลียน (Italian Seasoning) 1/2 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
      • ไข่ไก่ 1 ฟอง
      • แครอทปอกเปลือกหั่นเป็นแว่น 1 หัว (หนาประมาณ 1/2-1 เซนติเมตร)

ส่วนผสม น้ำสตู

      • เนยสด
      • หอมใหญ่หั่น 1 ลูก
      • มะเขือเทศหั่นเต๋า 1 ลูก
      • เนื้อมะเขือเทศกระป๋อง (Tomato Paste) 2-3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใส่ก็ได้แต่ให้เพิ่มปริมาณซอสมะเขือเทศแทน)
      • ซอสมะเขือเทศ 5 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่น 1 ช้อนชา
      • พริกไทยป่น
      • น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
      • ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำสต๊อก หรือน้ำเปล่า (กะเอาปริมาณเทให้ท่วมหมูก้อนนิดหน่อย)
      • ซุปก้อนรสหมู 1 ก้อน
      • ใบกระวาน 4-5 ใบ
      • ผงปรุงรสอิตาเลียน 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
      • หอมใหญ่หัวเล็ก ๆ (ขนาดเท่าลูกมะนาว เวลากินจะกินได้ทั้งลูกในคำเดียว แถมน่ารักด้วย)

วิธีทำสตูหมูก้อน

     1. ทำหมูปั้นก้อน โดยผสมหมูสับหยาบติดมันกับหมูสับละเอียด หมูจะได้นุ่มและเกาะตัวกันดี เวลาเคี้ยวมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและเหนียวแบบพอดี ๆ ใส่หอมใหญ่สับ กระเทียมสับ พริกไทยป่น เกลือป่น น้ำตาลทราย ผงปรุงรสอิตาเลียน ซีอิ๊วขาว และไข่แดงลงไป
     2. นวดและขยำให้ส่วนผสมเนียนละเอียดเข้ากัน โดยให้เนื้อหมูสับเนียนไม่แฉะไม่แห้งเกินไป (ถ้ารู้สึกแฉะ ให้เติมแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปได้นิดหน่อย แต่ถ้าใส่มากไปเวลาเคี้ยวจะไม่อร่อยเพราะแทนที่จะได้รสหมูแต่จะได้รสแป้งแทน) นวดเสร็จแล้วให้ตักหมูสัก 1 ช้อนขนมเข้าไมโครเวฟจนสุกแล้วชิมรสก่อนนะ
     3. ปั้นส่วนผสมหมูเป็นก้อน ๆ ปั้นเรียงไว้ทีเดียวเวลาทอดจะได้สะดวก ๆ ทอดหมูปั้นก้อนในกระทะโดยให้เนื้อข้างนอกสุกเหลืองเกรียมนิด ๆ (เพราะเวลาเอาไปตุ๋นเสร็จ ตรงที่เกรียมจะสีเข้มสวยกว่าตรงขาว ๆ ทำให้น่ากิน)
     4. วางเรียงแครอทหั่นแว่นรองไว้ก้นหม้อ (จะช่วยกันก้นหม้อไหม้ได้ในระดับหนึ่ง) เรียงหมูก้อนใส่ให้เต็มหม้อ เตรียมไว้
     5. ทำน้ำสตู โดยผัดหอมใหญ่กับเนยจนหอมใหญ่กลายเป็นสีน้ำตาลสวย แล้วเติมมะเขือเทศหั่นเต๋าลงไปผัดต่อจนนิ่ม ใส่เนื้อมะเขือเทศกระป๋องลงไปผัดต่อให้ทั่ว ตามด้วยซอสมะเขือเทศ เติมน้ำนิดหน่อย ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว เทส่วนผสมที่ผัดลงในหม้อที่ใส่หมูก้อนแล้วเทน้ำสต๊อกตามลงไปให้ท่วมหมูก้อนนิดหน่อย
     6. ใส่ซุปก้อน ใบกระวาน แลผงปรุงรสอิตาเลียนลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสให้กลาง ๆ ไม่ต้องเข้มมาก เพราะพอน้ำงวดรสมันจะเข้มขึ้นอีกเยอะ ต้มไปสักพักให้ เติมหอมใหญ่ลูกเล็กลงไป ตุ๋นต่อจนน้ำงวดและหอมใหญ่สุกและใสก็ให้ปิดไฟ ตอนเสร็จใหม่ ๆ น้ำจะยังใส ๆ อยู่ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้สักพักน้ำซอสจะข้นขึ้นเอง ตักเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สตูหมูก้อน อาหารฝรั่งเนื้อนุ่มชุ่มลิ้น ทำง่าย ๆ พร้อมเคล็ดลับเด็ด

++++++++++++++++++


8. สตูเนื้อแกะ 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ 13 Destinations สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

     เกิดมาอยากลองชิมเนื้อแกะสักครั้งก็ลองทำสตูเนื้อแกะ จับเนื้อแกะไปทอดก่อนแล้วค่อยเอาไปตุ๋นกับเครื่องเคราต่าง ๆ จนนุ่มตามชอบ


ส่วนผสม สตูเนื้อแกะ

      • เนื้อแกะ (หั่นเป็นชิ้น)
      • เนย 50 กรัม
      • กระเทียมสับ
      • ใบกระวาน 4-5 ใบ
      • พริกไทยดำเม็ด
      • หอมใหญ่ (หั่นเต๋า)
      • น้ำ
      • แครอท (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น)
      • มันฝรั่ง (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น)
      • วูสเตอร์ซอส 3 ช้อนโต๊ะ
      • เนื้อมะเขือเทศเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะพูนๆ
      • ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือ
      • น้ำตาลทราย

วิธีทำสตูเนื้อแกะ

     1. นำเนื้อแกะไปทอดให้เกรียมเล็กน้อย
     2. ตั้งกระทะหรือหม้ออีกใบใส่เนย กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ และหอมใหญ่หั่นเต๋าลงไปหรือหม้อใบใหญ่ ผัดให้พอหอม ใส่เนื้อแกะที่ทอดแล้วลงไปผัดให้พอเข้ากัน เติมน้ำลงไปให้พอท่วมเนื้อแกะแล้วต้มให้เปื่อย
     3. ปรุงรสด้วยวูสเตอร์ซอส เนื้อมะเขือเทศเข้มข้น ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลทราย จากนั้นใส่มันฝรั่งและแครอทตามลงไป ตุ๋นต่อจนมันฝรั่งและแครอทสุกและน้ำข้น ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สตูเนื้อแกะ อาหารฝรั่งเนื้อนุ่ม ใครว่าทำยาก

++++++++++++++++++

9. มัคแอนด์ชีส (มะกะโรนีอบชีส)

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณแม่นกกะอันนา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

     ใครไม่กลัวอ้วนต้องมาทำเมนูอบชีส ขอนำเสนอมะกะโรนีอบชีส เริ่มจากเอามะกะโรนีไปต้มจนสุกราดซอสเบชาเมลและโรยหน้าด้วยชีส

     มะกะโรนีอบชีส 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 164 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม มะกะโรนีอบชีส

      • มะกะโรนีต้มสุก 250 กรัม
      • ชีสผสมชีสกรูแยร์ (สำหรับโรยหน้ามะกะโรนี) 100 กรัม (หรือชีสชนิดอื่น ๆ ตามชอบ แต่ชีสผสมน่าจะดีสุด)
      • หอมใหญ่ (หั่นเต๋าละเอียด หรือหั่นแว่น) 2 หัว (ผัดเนยกับเกลือ)
      • เบคอน 150 กรัม (ผัดในกระทะพอสุก)
      • เกล็ดขนมปัง
      • พาร์สลีย์ สำหรับแต่ง

ส่วนผสม ซอสเบชาเมล (ซอสครีม)

      • เนยสด 3 ช้อนโต๊ะ
      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
      • นมสด 6 ช้อน
      • ลูกจันทน์เทศ ขูดละเอียด
      • เกลือ
      • พริกไทย
      • พาร์มีซานชีส หรือชีสกรูแยร์ ประมาณ 70 กรัม

     หมายเหตุ : ซอสเบชาเมล สามารถนำไปใช้ทำลาซานญ่า มันฝรั่งอบชีส ผักโขมอบชีส และอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ

วิธีทำซอสเบชาเมล

     1. ตั้งไฟให้ร้อนใส่เนยลงไป เติมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ใช้ตะกร้อคนจนแป้งสุก (ถ้าแป้งไม่สุกจะมีกลิ่นแป้ง กินแล้วจะไม่อร่อย)
     2. ค่อย ๆ เติมนมลงไปจนหมด คนให้เข้ากัน เติมลูกจันทน์เทศขูดละเอียดลงไปเล็กน้อย เพื่อให้มีกลิ่นหอม เติมเกลือกับพริกไทยลงไปเล็กน้อย คนจนซอสข้นคล้าย ๆ ดับเบิลครีม
     3. เติมชีสลงไป คนจนส่วนผสมทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน

วิธีทำมะกะโรนีอบชีส

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส
     2. นำเส้นมะกะโรนีเทใส่ฟอร์มสำหรับอบ ตามด้วยซอสเบชาเมล หอมใหญ่ และเบคอน คลุกเคล้าให้เข้ากัน (ลองชิมดูว่า รสชาติถูกปากหรือยัง ถ้ายังไม่ถูกปากให้เติมเกลือกับพริกไทยลงไป)
     3. โรยชีสลงไปบนมะกะโรนี ตามด้วยเกล็ดขนมปัง นำไปใส่เตาอบที่เปิดเตรียมไว้ ประมาณ 15 นาที หรือจนชีสสีเข้มตามชอบ ยกออกจากเตา ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยพาร์สลีย์

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มะกะโรนีอบชีส อาหารฝรั่งจานเด็ดหอมชีสยืดเยิ้ม

++++++++++++++++++

10. สปาเกตตีมีทบอล  

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ 13 Destinations สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

     ใครชอบกินเนื้อเป็นทุนเดิม ขอนำเสนอสปาเกตตีมีทบอล จับเนื้อบดหมักกับเครื่องปรุงแล้วปั้นเป็นก้อนกลม เสร็จแล้วเอาไปทอดจนสุกและใส่ลงไปเคี่ยวพร้อมซอสสปาเกตตี

     สปาเกตตีมีทบอล 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 97.3 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม เนื้อบด

      • เนื้อบด 500 กรัม
      • ไข่ 1 ฟอง
      • เกลือ 1 ช้อนชา
      • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
      • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
      • แป้งมันหรือแป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
      • ใบออริกาโนแห้ง (ปริมาณตามชอบค่ะ)
      • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
      • เนย 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม ซอสสปาเกตตี

      • มะเขือเทศ 4 ลูก
      • หอมใหญ่ 1 ลูก
      • กระเทียม 3 กลีบ
      • ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่นเล็กน้อย
      • พริกไทยป่นเล็กน้อย

ส่วนผสม สปาเกตตี

      • เส้นสปาเกตตี
      • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ

 วิธีทำสปาเกตตีมีทบอล

     1. ใส่เนื้อบด ไข่ เกลือป่น พริกไทยป่น แป้งทั้ง 2 ชนิด ใบออริกาโน และน้ำเปล่าลงในอ่างผสม นวดให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมไว้
     2. ตั้งกระทะ ใส่เนยและน้ำมันมะกอกลงไป ใส่เนื้อบดลงทอดให้สุก พอเนื้อสุก ตักใส่จานพักไว้
     3. ทำซอสสปาเกตตีโดยหั่นมะเขือเทศ หัวหอม และกระเทียมเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
     4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอกลงลงไป พอร้อนใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัดให้หอม ตามด้วยกระเทียม ผัดจนหอม ใส่มะเขือเทศลงไปผัดรวมกัน ผัดส่วนผสมไปเรื่อย ๆ จนมะเขือเทศนิ่มและน้ำเริ่มข้นขึ้น แล้วใส่ซอสมะเขือเทศลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย โรยออริกาโน่ คนผสมให้เข้ากัน ใส่มีทบอลลงไป เคี่ยวต่อสักครู่ ปิดไฟแล้วคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
     5. ต้มเส้นสปาเกตตี โดยใส่น้ำ น้ำมันมะกอก และเกลือลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนน้ำเดือดแล้วใส่เส้นสปาเกตตีลงไปต้ม หมั่นคนเพื่อไม่ให้เส้นติด ต้มจนเส้นสุก เทลงในกระชอนเพื่อสะเด็ดน้ำจนแห้งแล้วใส่น้ำมันมะกอกลงไปคลุกกับเส้นเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน ตักเส้นสปาเกตตีใส่จาน ตามด้วยส่วนผสมซอสและมีทบอล พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สปาเกตตีมีทบอล เมนูนี้กินได้ทุกวัย

++++++++++++++++++


11. สปาเกตตีพอร์คบอลชีส 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ iammreview สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

     ใครไม่กินสปาเกตตีมีทบอลก็มีอีกทางเลือกนั่นคือ สปาเกตตีพอร์คบอลชีส จับหมูมายัดไส้ชีสแล้วปั้นเป็นก้อนกลม พอทอดจนสุกก็เอาไปเคี่ยวกับซอสสปาเกตตี

ส่วนผสม พอร์คบอล

      • หมูบด 1/2 กิโลกรัม
      • ไข่ไก่ 1 ฟอง
      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนพูน
      • แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนพูน
      • ออริกาโน
      • เกลือป่น
      • ผงปรุงรส
      • มอสซาเรลล่าชีส หั่นเต๋า

ส่วนผสม ซอสสปาเกตตี

      • เนยสด
      • กระเทียมสับ 5 กลีบ
      • มะเขือเทศ (หั่นเต๋า) 5 ลูก
      • แครอท (หั่นเต๋า) 1/2 ลูก
      • หอมใหญ่ (หั่นเต๋า) 1 ลูก
      • เห็ดหอมสด (หั่นชิ้นเล็ก) 5 ลูก
      • เกลือ
      • พริกไทย
      • ออริกาโน่
      • ซอสมะเขือเทศเข้มข้น

วิธีทำสปาเกตตีพอร์คบอลชีส

     1. ทำพอร์คบอล โดยผสมหมูบด ไข่ไก่ แป้งทั้ง 2 ชนิด ออริกาโน่ เกลือป่น และผงปรุงรสให้เข้ากัน
     2. นำหมูมายัดไส้ชีสแล้วปั้นเป็นก้อนกลม เสร็จแล้วก็นำไปทอดจนสุก ตักขึ้นมาพักไว้ก่อน
     3. ทำซอสสปาเกตตี โดยใส่เนยลงในกระทะ ตามด้วยกระเทียม มะเขือเทศ แครอท หอมใหญ่ และเห็ดหอม ผัดพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และออริกาโน
     4. พอผักเริ่มนิ่มก็ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้นลงไป พอส่วนผสมเริ่มเดือดก็ใส่พอร์คบอลชีสระเบิดลงไป รอให้ซอสมะเขือเทศซึมเข้าหมูสักพักก็ปิดไฟ
     5. ตักเส้นสปาเกตตีที่ต้มแล้วใส่จาน ราดซอสกับพอร์คบอล

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สปาเกตตีพอร์คบอลชีส ระเบิดความอร่อยก้อนเบิ้ม เริดสุดในปฐพี

++++++++++++++++++

12. มันบด 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
 ภาพจาก คุณ RinS Cook Book 

     ใครกำลังมองอาหารฝรั่งเสิร์ฟเคียงกับจานสเต๊ก พบกับมันบด จับมันฝรั่งไปต้มจนสุกและบดจนละเอียด ปรุงรสด้วยเกลือ

     มันบด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 88.4 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม มันบด

      • มันฝรั่ง 1+1/2 ปอนด์
      • กระเทียมสด 6 กลีบ
      • น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันพืช) 1/3 ถ้วย
      • เนยสด 1/2 ถ้วย
      • เฮฟวี่ครีม หรือนมสด 1 ถ้วย
      • เกลือป่น 2+1/2 ช้อนชา
      • ใบกุยช่ายฝรั่งซอย หรือพริกไทยดำบด สำหรับโรยหน้า

วิธีทำมันบด

     1. ล้างมันฝรั่งให้สะอาด ปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ขนาดเท่า ๆ กัน (เพื่อให้มันฝรั่งสุกพร้อมกัน) นำไปล้างอีกครั้ง (ให้นวลแป้งจากมันฝรั่งลดลง) จากนั้นนำไปใส่ลงหม้อสำหรับต้มแล้วเติมน้ำเย็นลงไปให้ท่วมมันฝรั่ง สูงประมาณ 1+1/2 นิ้ว พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที โดยยังไม่ต้องเปิดเตา
     2. ทุบและสับกระเทียมพอหยาบ นำไปผัดในหม้อด้วยไฟปานกลาง-อ่อน ประมาณ 3-5 นาที จนกระเทียมนิ่มลง แต่ไม่ต้องให้เปลี่ยนสี
     3. เติมน้ำมันมะกอกลงไปผัดกับกระเทียมจนนิ่มและหอม (ไม่ต้องให้เป็นกระเทียมเจียว เอาแค่พอกระเทียมนิ่มตัวลง)
     4. ใส่เนยสดลงไปผัดให้เข้ากันจนเนยละลาย ใช้ไฟอ่อนสุด (หรือถ้าหม้อร้อนแล้วให้ปิดไฟเลยก็ได้) ประมาณ 5 นาที จากนั้นพักทิ้งไว้จนกระเทียมนิ่มตัว
     5. ใส่เกลือป่น 2 ช้อนชาลงในหม้อต้มมันฝรั่ง เปิดไฟแรงสุดต้มจนน้ำเดือด จากนั้นลดเป็นไฟอ่อนสุด ต้มทิ้งไว้ประมาณ 20-25 นาที
     6. เติมครีมลงในหม้อส่วนผสมกระเทียม ใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 15 นาที พักทิ้งไว้
     7. พอมันฝรั่งสุกแล้วให้เทน้ำทิ้ง ใช้ส้อม (หรือเครื่องบดมันฝรั่ง) บดให้ละเอียด ค่อย ๆ เติมส่วนผสมครีมลงไป คนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำมันมะกอก (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) คนผสมให้เข้ากัน (**ในขั้นตอนนี้อาจจะเห็นว่าส่วนผสมเหลว แต่ถ้าพักทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ส่วนผสมจะเซตตัว)
     8. ตักส่วนผสมใส่ถ้วย โรยด้วยใบกุยช่ายฝรั่งซอย (สามารถเลือกใช้พริกไทยดำบด หรือน้ำเกรวี่ก็ได้ตามชอบ) พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มันบดแบบฝรั่ง เนื้อเนียนนุ่มหอมกระเทียม ทำไม่ยาก

++++++++++++++++++

13. มันบดอบชีสเบคอน

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

     มันบดทั่วไปคงต้องชิดซ้ายให้กับมันบดอบชีสเบคอน ทีเด็ดคือใส่เบคอนทอดกับชีสลงไปในเนื้อมันบด แม้กินแล้วอ้วนก็เต็มใจเนอะ

ส่วนผสม มันบดอบชีสเบคอน

      • มันฝรั่งต้มสุก
      • เนยจืด
      • เกลือป่น
      • พริกไทยป่น
      • เบคอนทอด
      • มอสซาเรลล่าชีส
      • พาร์สลีย์ สับละเอียด

     หมายเหตุ : ถ้าใช้เนยเค็มไม่ต้องใส่เกลือ

วิธีทำมันบดอบชีสเบคอน

     1. ใช้ส้อมยีมันฝรั่งต้มสุกกับเนยให้เข้ากัน โดยยีไม่ต้องให้เละมาก หรือตามชอบ
     2. ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่นเล็กน้อย โรยเบคอนทอดกรอบลงไป คนผสมให้เข้ากันดี โรยชีสลงไป
     3. นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 20-25 นาที หรือจนชีสเหลืองสวยตามชอบ พออบเสร็จแล้วนำออกมาโรยพาร์สลีย์สับละเอียด เสิร์ฟขณะร้อน ๆ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มาอ้วนกัน ! 19 เมนูชีสและเบคอน ความอร่อยเน้น ๆ น้ำหนักไม่เกี่ยว

++++++++++++++++++

14. ซุปผักโขม 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก Ching Can Cook

     อิ่มสบายท้องไปกับซุปผักโขม จับผักโขมไปผัดกับหอมใหญ่และเห็ด จากนั้นก็เอาไปปั่นจนละเอียด ใส่วิปปิ้งครีมเพิ่มความหอมมัน

     ซุปผักโขม 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 410 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม ซุปครีมผักโขม

      • เนยสด
      • หอมใหญ่ (หั่นเต๋าเล็ก)
      • เห็ดแชมปิญอง (ซอยบาง)
      • ผักโขมลวกสุก (บีบน้ำออก)
      • น้ำซุปไก่
      • วิปปิ้งครีม
      • ผงปรุงรส
      • พาร์สลีย์สับ
      • พริกไทยป่น
      • ขนมปังฝรั่งเศสหั่นเป็นชิ้น สำหรับเสิร์ฟ

วิธีทำซุปครีมผักโขม

     1. นำหม้อขึ้นตั้งไฟ ใส่เนยลงไป ตามด้วยหอมใหญ่และเห็ดแชมปิญอง ผัดจนหอมใหญ่เริ่มสุกและใส
     2. ใส่ผักโขมลวกลงไปผัด เมื่อได้ที่ก็เติมน้ำซุปไก่
     3. จากนั้นเทส่วนผสมลงในโถปั่น ปั่นจนละเอียด
     4. เทส่วนผสมที่ปั่นจะละเอียดแล้วใส่ลงหม้อ ต้มต่อไปจนเดือด
     5. เติมวิปปิ้งครีม ปรุงรสด้วยผงรสดี ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ โรยพาร์สลีย์สับและพริกไทย
     6. หั่นขนมปังฝรั่งเศสเป็นชิ้น ๆ เสิร์ฟพร้อมเนย และซุปผักโขม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซุปผักโขม จับผักขม ๆ มาทำซุปอุ่น ๆ สุดอร่อย

++++++++++++++++++

15. ซุปครีมเห็ด 


     ตามคำเรียกร้องของคุณแม่ที่อยากกินซุปครีมเห็ดเลยจัดให้หม้อโต สูตรนี้ใส่เห็ดผัดกับเนยสด เติมน้ำซุปกับนมสดลงไป ก่อนเสิร์ฟโรยพริกไทยดำ

     ซุปครีมเห็ด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 38.7 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม ซุปครีมเห็ด

      • เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
      • หอมใหญ่สับ 1/4 ลูก
      • เห็ดพอตโตเบลโล 8 ออนซ์ (ประมาณ 227 กรัม)
      • กระเทียมสับ 1 กลีบ
      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำซุปผัก หรือน้ำซุปไก่ 2 ถ้วย
      • นมสด 1 ถ้วย (หรือเฮฟวี่ครีม 1/2 ถ้วย)
      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
      • พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำซุปครีมเห็ด

     1. ละลายเนยสดในหม้อด้วยไฟปานกลาง เดิมหอมใหญ่สับและเห็ดลงไป ผัดไปเรื่อย ๆ จนเห็ดเริ่มสุกนิ่ม และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม ประมาณ 1 นาที
     2. ใส่แป้งลงไปผัดประมาณ 1-2 นาที จนส่วนผสมเริ่มเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ
     3. เติมน้ำซุปลงไปคนผสมเรื่อย ๆ ให้เข้ากันจนแป้งไม่เป็นเม็ด
     4. เติมนมสด เกลือป่น และพริกไทยป่นลงไป ลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อย ๆ อีกประมาณ 5-6 นาที จนส่วนผสมเหนียวข้น

++++++++++++++++++

16. กราแตงมะกะโรนีทูน่าอะโวคาโด 

16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม
ภาพจาก นิตยสาร @Kitchen

     ปิดท้ายกันด้วยเมนูกราแตงมะกะโรนีทูน่าอะโวคาโด จับมะกะโรนีเคล้ากับทูน่าและใส่ในเปลือกอะโวคาโด สุดท้ายราดซอสครีมและชีส

     กราแตง 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 131.9 กิโลแคลอรี


ส่วนผสม กราแตงมะกะโรนีทูน่าอะโวคาโด

      • อะโวคาโด
      • หอมหัวใหญ่สับ
      • เนย
      • แป้งอเนกประสงค์ 1-2 ช้อนโต๊ะ
      • วิปปิ้งครีม 1+1/2 ถ้วย
      • เกลือป่น
      • พริกไทยป่น
      • แครอท หน่อไม้ฝรั่ง และดอกกะหล่ำ (หั่นเป็นชิ้นเล็ก)
      • มะกะโรนีต้มสุก
      • เนื้อปลาทูน่ากระป๋อง
      • มอสซาเรลล่าชีส

วิธีทำกราแตงมะกะโรนีทูน่าอะโวคาโด

     1. ผ่าครึ่งอะโวคาโด แล้วใช้ช้อนค่อย ๆ ตักเนื้ออะโวคาโดออก ระวังอย่าให้เปลือกขาด เก็บเปลือกไว้ ส่วนเนื้ออะโวคาโดนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
     2. ทำครีมซอส โดยนำหอมหัวใหญ่สับมาผัดกับเนย ใส่แป้งอเนกประสงค์ลงไป ตามด้วยวิปปิ้งครีม คนผสมให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อนจนแป้งสุกและซอสมีลักษณะข้น ยกลง ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
     3. หั่นแครอท หน่อไม้ฝรั่ง และดอกกะหล่ำเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มให้สุก แล้วนำไปผสมกับมะกะโรนีต้มสุก และเนื้อปลาทูน่ากระป๋อง คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
     4. ตักส่วนผสมทูน่าใส่ลงในเปลือกอะโวคาโดที่เก็บไว้ให้เกือบเต็ม ราดทับด้วยครีมซอส โรยมอสซาเรลล่าชีสลงไป นำไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 200-220 องศาเซลเซียส ให้ชีสละลายเป็นสีเหลืองทอง

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กราแตงมะกะโรนีและทูน่าในอะโวคาโด อาหารฝรั่งจากผลไม้เม็ดใหญ่

     จบไปแล้วสำหรับอาหารฝรั่งยอดนิยม วันหยุดลองมาทำสักอย่างสองอย่างดีไหม มาจิ้มเมนูที่อยากทำกันเถอะ จะได้ลิสต์ส่วนผสมที่ต้องไปหาซื้อกันเนอะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
16 สูตรอาหารฝรั่งยอดนิยม เสกอาหารเลอค่าตำรับโฮมเมดไม่ง้อร้าน อัปเดตล่าสุด 19 มกราคม 2565 เวลา 16:49:45 332,857 อ่าน
TOP