12 วิธีทำบราวนี่ไอเดียเก๋ สูตรขนมฮิตทำง่ายกินอร่อยเอาใจสายแนว

     1. ตีเนยกับน้ำตาลทราย (ในสูตรเอาไปปั่น) จนเป็นครีม และมีสีอ่อนลง จากนั้นใส่ไข่ลงไปทีละฟอง แล้วตีจนเข้ากัน
     2. ใส่สีผสมอาหารสีแดง กลิ่นวานิลลา และน้ำส้มสายชูลงไป ตีจนเข้ากัน
     3. ผสมแป้ง ผงโกโก้ และเกลือป่น จากนั้นร่อนลงไปในชามผสม แล้วตีจนเข้ากัน
     4. แบ่งออกมาสำหรับทำลายบนหน้าบราวนี่เล็กน้อย ส่วนแป้งเรดเวลเวทที่เหลือใส่ลงไปในพิมพ์ แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 30 นาที
     5. ทำส่วนผสมชีสเค้กโดยตีครีมชีสกับน้ำตาลทรายจนเป็นครีม จากนั้นใส่ไข่ขาวกับกลิ่นวานิลลา แล้วตีจนเป็นครีม
     6. พออบบราวนี่ครบ 30 นาทีแล้ว เทครีมชีสที่ตีลงไป เกลี่ยให้ทั่ว ตกแต่งด้วยแป้งบราวนี่ที่แบ่งไว้ ตกแต่งตามใจชอบ จากนั้นนำไปอบต่อด้วยอุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลาอีก 20 นาที พักให้เย็นสนิทแล้วนำไปแช่ตู้เย็น 1-2 ชั่วโมง พอบราวนี่เซตตัวแล้วนำมาตัดขนาดตามใจชอบ

     1. นำไวท์ช็อกโกแลตกับเนยสด เข้าไมโครเวฟประมาณ 2-3 นาที จากนั้นคนให้ละลายเข้ากัน แล้วพักให้เย็นสนิท
     2. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทราย (ในสูตรนำไปปั่นจะได้ละลายง่าย) จนน้ำตาลทรายละลายหรือสีไข่อ่อนลง จากนั้นเทไวท์ช็อกโกแลตผสมเนย (ที่พักไว้จนเย็นแล้ว) ลงไปในชามผสม จากนั้นตีจนเข้ากัน
     3. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และผงชาเขียว คนให้เข้ากัน
     4. ร่อนแป้งลงไปในชามผสม ตีหรือตะล่อมจนเข้ากัน สามารถเพิ่มสีเขียวได้เล็กน้อย ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็ได้ เทลงไปในพิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เสมอกัน จากนั้นวางคุกกี้หรือบิสกิตลงไป วางเรียงให้สวยงาม
     5. นำไปอบใช้ไฟบน-ล่าง ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที พออบเสร็จแล้วพักให้เย็นสนิทก่อนนำออกจากพิมพ์ พอบราวนี่เซตตัวแล้ว ตัดขนาดตามใจชอบ

     1. ละลายช็อกโกแลตกับเนยขาวให้เข้ากันดี
     2. ตีไข่กับน้ำตาลจนน้ำตาลละลาย จากนั้นก็เทช็อกโกแลตที่ละลายไว้แล้วใส่รวมกัน คนให้เนื้อเนียนเข้ากัน
     3. ร่อนแป้งเค้ก เบกกิ้งโซดา และผงฟูลงไป คนผสมรวมกัน ใส่กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน คลุมด้วยพลาสติกแรปแล้วนำไปพักไว้ตู้เย็น ประมาณ 30-60 นาที
     4. แบ่งเป็นก้อนให้ขนาดเท่า ๆ กัน อบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 10 นาที อบเสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น เก็บใส่ขวดโหลไว้กินยามว่าง

     1. ในชามผสมใบใหญ่ที่ทนความร้อนใส่ดาร์กช็อกโกแลตและเนยจืดลงไป แล้วนำชามผสมไปตั้งบนไอน้ำร้อน เปิดไฟต่ำ ถึงปานกลาง ใช้ไม้พายคน ๆ ให้เนยกับช็อกโกแลตละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วก็ยกชามออกมาจากไอน้ำร้อน
     2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำจนกระทั่งน้ำตาลกับช็อกโกแลตผสมรวมกัน และพักไว้ให้ช็อกโกแลตอยู่ที่อุณหภูมิห้อง ใช้มือสัมผัสดู
     3. เติมเกลือและไข่ไก่ลงไปผสม โดยแบ่งไข่ไก่ออกเป็น 3 ส่วน ใส่ส่วนที่ 1 ลงไปใช้ความเร็วต่ำตีแค่พอให้ไข่ไก่หายไปในช็อกโกแลต แล้วค่อยเติมส่วนที่ 2 ลงไป ตีเหมือนเดิม และตามด้วยส่วนที่ 3 ตีจนกระทั่งทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน
     4. เติมกลิ่นวานิลลา และแป้งอเนกประสงค์ลงไปตีแค่พอให้แป้งหายไปในเนื้อครีม ถ้าเห็นว่ามีแป้งกระจายติดขอบชามผสม ก็ใช้ไม้พายตะล่อมลงมารวมกันให้หมด ตีด้วยความเร็วต่ำจนทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวก็พอค่ะ ใส่แป้งลงไปผสมแล้วอย่าตีนาน ใช้ไม้พายตะล่อมเบา ๆ อีกรอบ ตักแบทเทอร์ใส่ฟอร์ม
     5. นำไปอบไฟบน-ล่าง ความร้อน 165 องศาเซลเซียส อบนาน 20 นาที อบเสร็จพักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท แล้วค่อยแต่งหน้าตามความชอบ

     1. ละลายเนยกับไวท์ช็อกโกแลตในไมโครเวฟประมาณ 1 นาที คนให้เข้ากัน แล้วพักให้อุ่นลง
     2. ตีไข่กับน้ำตาลทรายจนน้ำตาลละลายหรือไข่มีสีอ่อนลง เติมกลิ่นวานิลลาและไวท์ช็อกโกแลตละลายที่พักไว้จนอุ่นลงไปในชามผสม ตีให้เข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนพร้อมผงฟูและเกลือป่นลงไปแล้วตีจนเข้ากัน เพิ่มความหนึบด้วยไวท์ช็อกโกแลตชิพแล้วใช้ไม้พายตะล่อมจนเข้ากัน
     3. เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะไล่ฟองอากาศ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส (ใช้ไฟบน-ล่าง) ประมาณ 45-50 นาที
     4. พออบเสร็จแล้วพักให้เย็นในพิมพ์ประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เพื่อให้บราวนี่เซตตัวก่อน ไม่อย่างนั้นเวลายกออกจากพิมพ์เลยจะทำให้หน้าแตก แล้วค่อยนำมาตัดเสิร์ฟ

     1. ละลายดาร์กช็อกโกแลต เนย และผงกาแฟ พอละลายแล้วก็นำมาคนต่อข้างนอกจนเย็น พักไว้
     2. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายแดงจนน้ำตาลละลาย หรือเป็นสีขาวอ่อนลง แล้วเติมช็อกโกแลตที่ละลายไว้ลงไป เติมกลิ่นวานิลลา ตีจนเข้ากัน
     3. พอเข้ากันแล้วเทแป้งพร้อมผงฟูลงไป ตีจนเข้ากัน แล้วใส่ช็อกโกแลตชิพลงไปตะล่อมพอเข้ากัน และนำไปแช่ช่องฟรีชไว้ประมาณ 15 นาที
     4. พอครบ 15 นาทีแล้วก็ตักใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12-15 นาที
     5. พออบเสร็จแล้ว พักไว้ในพิมพ์ก่อนสัก 10 นาที เพื่อให้คุกกี้เซตตัว เพราะคุกกี้ยังนิ่มอยู่ แล้วค่อยนำมาพักบนตะแกรงจนเย็นสนิท เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

     1. เปิดเตาไฟบน-ล่าง ไม่เปิดพัดลม ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส หรือ 325 องศาฟาเรนไฮต์ และนำถาดอบขนาด 14×25 ซม. ทาด้วยเนยให้ทั่วแล้วรองด้วยกระดาษไข พักไว้
     2. ทำช็อกโกแลตบราวนี่ โดยใช้หม้อขนาดกลางใส่น้ำเปล่า ตั้งไฟอ่อน ๆ วางอ่างผสมที่ทนความร้อนลงไป ใส่ช็อกโกแลตและเนยลงไป คนให้ทุกอย่างละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงจากเตา พักไว้ให้ช็อกโกแลตคลายความร้อนสักครู่ รอแค่พออุ่น ๆ เพราะถ้าร้อนมาก ๆ จะทำให้ไข่ไก่ที่จะเติมในขั้นตอนต่อไปสุกได้
     3. เติมน้ำตาลทรายลงไปในช็อกโกแลต คนให้เข้ากัน ตามด้วยไข่ไก่กับกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากันอีกครั้ง
     4. เติมแป้งสาลีอเนกประสงค์และเกลือ ใช้ตะกร้อคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แบ่งส่วนผสมออกมาประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ เพื่อใช้แต่งหน้าชีสเค้ก
     5. เทส่วนผสมช็อกโกแลตบราวนี่ลงไปในถาดอบที่เตรียมไว้ เกลี่ยหน้าให้เรียบ พักไว้
     6. ทำครีมชีส โดยเตรียมอ่างผสมอีกใบ เติมครีมชีส น้ำตาลทราย ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลา คนทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกันเทลงไปในถาดช็อกโกแลตบราวนี่ที่ทำไว้ เกลี่ยครีมชีสให้ทั่วถาด นำส่วนผสมช็อกโกแลตบราวนี่ที่แบ่งเอาไว้มาหยอดบนครีมชีส ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงไปในส่วนผสมวาดลวดลายที่สวยงามตามใจชอบ
     7. นำเข้าเตาอบ โดยวางถาดขนมไว้ตรงกลางเตาอบ อบนานประมาณ 35 นาที (เวลาอบขึ้นอยู่กับเตาอบแต่ละบ้าน แต่จะไม่เกิน 40 นาที เพราะถ้าอบนานไปจะทำให้บราวนี่เนื้อแห้งจนเกินไป)
     8. อบเสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็นสนิท นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อให้ครีมชีสเซตตัว หรือจะแช่ข้ามคืนเลยก็ได้  

      1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส โดยปรับตะแกรงวางถาดอบไว้ที่ชั้นล่าง หรือประมาณ 1/3 ของเตา และกรุกระดาษฟอยล์ในถาดอบ เตรียมไว้
      2. ตุ๋นช็อกโกแลต (Double Boiler) โดยเตรียมหม้อต้มน้ำและอ่างผสม (หม้อต้มน้ำสามารถวางอ่างผสมได้) ใส่น้ำเปล่าประมาณ 1/3 ของหม้อต้ม ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นวางอ่างผสมลงบนหม้อต้ม (อย่าให้ก้นอ่างผสมแตะโดนน้ำ) ใส่เนยจืด ผงไมโล ผงโกโก้ เกลือ และน้ำตาลทรายลงในอ่างผสม คนให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายและเหนียวข้น ยกลงจากหม้อต้ม
      3. ใส่ไข่ไก่กับกลิ่นวานิลลาลงไป คนผสมแรง ๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ คนให้เข้ากัน พอส่วนผสมเข้ากันแล้วให้คนแรง ๆ จนส่วนผสมเนียนข้นและมีความเงา เทส่วนผสมที่ได้ลงในถาดอบที่เตรียมไว้
      4. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟบน-ล่าง (ไม่เปิดพัดลม) โดยวางถาดอบไว้ที่ชั้นล่างประมาณ 1/3 ของเตาอบ อบนานประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก (ทดสอบโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลางขนม ถ้าไม่มีส่วนผสมติดมา แสดงว่าสุกแล้ว)
      5. พักขนมในถาดอบจนเย็นตัว จากนั้นนำออกจากถาดอบ แล้วนำเข้าตู้เย็นเป็นเวลา 1/2-1 ชั่วโมง หรือจนขนมแข็งขึ้นเล็กน้อย (จะตัดง่าย) ตัดขนมเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 2.5x2.5 นิ้ว จำนวน 12 ชิ้น (ถ้าขอบขนมไม่สวย ตัดทิ้งได้) แล้วตกแต่งโดยการตัดกระดาษฟอยล์เป็นรูปหัวใจ วางไว้ตรงกลางขนม แล้วโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ส่วนชิ้นอื่น ๆ โรยด้วยไมโล

     1. คนครีมชีสกับน้ำตาลไอซิ่งด้วยตะกร้อมือจนเป็นเนื้อเดียวกัน
     2. ใส่น้ำเลมอนกับวิปครีมลงไปคนจนส่วนผสมเข้ากันดีจึงนำไปใช้

     1. เปิดเตาวาฟเฟิล เตรียมไว้
     2. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงโกโก้ และเกลือเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
     3. ผสมเนยสด ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้เข้ากัน เทลงในส่วนผสมแป้งแล้วคนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ใส่ช็อกโกแลตชิพลงไปคนผสมให้เข้ากัน
     4. ตักส่วนผสมใส่ลงในเตาวาฟเฟิล รอจนส่วนผสมสุกประมาณ 2 นาที นำออกมา โรยน้ำตาลไอซิ่งและอัลมอนด์สไลซ์ พร้อมเสิร์ฟ

     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
     2. ใส่ถั่วดำลงในเครื่องปั่น ตามด้วยไข่ไก่ ผงโกโก้ สารสกัดจากหญ้าหวาน เกลือป่น ผงฟู เบกกิ้งโซดา น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา ปั่นให้เนียนสวยงาม ใส่ช็อกโกแลตชิพลงไปคนผสมให้เข้ากัน
     3. เทลงในพิมพ์ หรือถาดทนความร้อนที่จะเอาเข้าเตาอบ โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลซ์
     4. นำเข้าเตาอบประมาณ 20-25 นาที ลองเช็กความสุกด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าไม่มีเนื้อขนมติดไม้ออกมาเป็นอันใช้ได้ แต่อย่าอบนานไปเพราะเนื้อขนมจะแห้งไป

     1. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด และละลายเนยแล้วนำไปผสมกับแครกเกอร์บด ใส่น้ำตาลทรายลงไป ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน เอามากดอัดลงในถาดที่เตรียมไว้
     2. ทำตัวเค้กช็อกโกแลตโดยผสมน้ำตาลทราย ผงโกโก้ ช็อกโกแลตแท่ง และเกลือป่นคนพอเข้ากัน ใส่เนยลงไปคนเบา ๆ จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟ 1 นาทีคนต่อให้เข้ากัน ใส่ไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา และใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน เทลงบนฐานพายที่เตรียมไว้
     3. นำเข้าหม้ออบลมร้อน อบประมาณ 20 นาที พออบเสร็จนำมาร์ชเมลโล่วางเรียงด้านบนของขนม นำเข้าหม้ออบลมร้อนต่ออีก 2-3 นาที ใช้ไฟบนให้มาร์ชเมลโล่ละลายปิดด้านหน้าเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ จัดเสิร์ฟ

สนใจให้ Kapook.com แนะนำการทำอาหารด้วยเครื่องปรุง ของใช้ในครัว หรืออื่น ๆ รับทำการตลาดด้วย Social Network, Content Marketing