1. ขนมชั้นใบเตย
ขนมชั้นทำจากแป้งข้าวเจ้า ใส่น้ำใบเตยเข้มข้น และกลิ่นมะลิ เติมความหวานจากน้ำตาลทราย หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมสวยงาม
ส่วนผสม ขนมชั้น
- น้ำตาลทราย 2+1/2 ถ้วย
- น้ำกะทิ 4 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
- แป้งท้าวยายม่อม 1+1/2 ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
- น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
- ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)
วิธีทำขนมชั้น
1. ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
2. นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้
3. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง
4. แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิ คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
5. ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้าย ให้นึ่งประมาณ 7 นาที ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง)
6. นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
2. ขนมชั้นดอกกุหลาบ
ส่วนผสม ขนมชั้น
- หัวกะทิ 2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- แป้งเท้ายายม่อม 1/8 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
- สีผสมอาหารสีแดง
- กลิ่นมะลิ เล็กน้อย
- น้ำมันพืช (สำหรับทาถาด)
วิธีทำขนมชั้น
1. ใส่กะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้ม ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนละลาย ปิดไฟแล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น
2. พอส่วนผสมกะทิเย็นแล้วให้ตักช้อนเอาหัวกะทิที่อยู่ด้านบนใส่ภาชนะเก็บไว้
3. ผสมแป้งเท้ายายม่อม แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกันในอ่างผสม ค่อย ๆ เทหัวกะทิใส่ลงไปทีละน้อยสลับกับใช้มือนวดแป้ง นวดจนแป้งรวมตัวกันเป็นก้อนแล้วนวดต่ออีก ประมาณ 15 นาที
เคล็ดลับ : นวดแป้งไปทางเดียวกันจะช่วยให้แป้งเหนียวนุ่มขึ้น
4. เทน้ำกะทิที่เหลือใส่ลงไป ตามด้วยกลิ่นมะลิ คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำส่วนผสมไปกรองด้วยกระชอน เตรียมไว้
5. แบ่งส่วนผสมแป้งออกเป็น 2 ส่วน ใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไป 1 ส่วน คนผสมสีให้เข้ากัน
6. ทาน้ำมันพืชลงบนถาดสำหรับนึ่งขนมชั้นให้ทั่ว
เคล็ดลับ : การทาน้ำมันพืชลงบนถาดจะช่วยทำให้แกะขนมชั้นออกจากพิมพ์ได้ง่ายขึ้น
7. นำชุดนึ่งขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำเดือดพล่าน จากนั้นวางถาดสำหรับนึ่งขนมลงไปแล้วตักส่วนผสมแป้งสีชมพูใส่ลงไปในพิมพ์ทำเป็นชั้นที่ 1 ปิดฝานึ่งประมาณ 5-7 นาที
8. พอชั้นที่ 1 สุกแล้วให้เปิดฝาแล้วตักส่วนผสมสีขาวใส่ลงไป ปิดฝานึ่งต่อ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งหมดและเต็มพิมพ์
เคล็ดลับ : เวลานึ่งขนมชั้นต้องรอให้น้ำเดือด เพราะหน้าขนมชั้นจะได้ไม่เป็นคลื่น
9. เมื่อนึ่งเสร็จแล้วนำขนมชั้นออกมาจากชุดนึ่ง พักไว้ให้เย็นลง นำขนมชั้นออกจากพิมพ์ ผ่าแบ่งครึ่งขนมชั้นตามยาวแล้วลอกขนมแต่ละชั้นออกมาเป็นแผ่น
10. วิธีม้วนดอกกุหลาบ คือ ให้ม้วนแผ่นขนมชั้นเข้ามา 1 ทบ พับกลีบแรกไปข้างหลัง 45 องศา แล้วจึงพับตลบขึ้นมา ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนหมด พร้อมเสิร์ฟ
3. ขนมครก
ส่วนผสม แป้งขนมครก
- แป้งข้าวเจ้า 1+1/4 ถ้วย
- ข้าวสุก 1/3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย
- เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
- น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- หางกะทิ 1/2 ถ้วย
ส่วนผสม หน้ากะทิ
- หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย
- เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม หน้าขนมครก
- ต้นหอมซอย
- เผือกหั่นเต๋าเล็ก ๆ
- เม็ดข้าวโพด
- น้ำมันพืช (สำหรับทาหลุมขนมครก)
วิธีทำขนมครก
1. ทำแป้งขนมครก โดยนำแป้งข้าวเจ้า ข้าวสุก น้ำตาลทราย เกลือสมุทร น้ำปูนใส หัวกะทิ และหางกะทิไปปั่นด้วยเครื่องปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียว เทใส่ภาชนะแล้ววางพักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
2. ทำหน้ากะทิ โดยผสมหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือสมุทรเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ค่อย ๆ ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากันดี เตรียมไว้
3. นำเบ้าขนมครกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางพอร้อน ทาน้ำมันให้ทั่วหลุมแล้วตักแป้งหยอดลงไปลงไปประมาณ 3/4 ของหลุม พอแป้งเริ่มเซตตัว ตักส่วนผสมหน้ากะทิหยอดทับลงไปให้เต็ม ปิดฝารอให้แป้งเริ่มสุก
4. เปิดฝาโรยหน้าด้วยเผือก ข้าวโพด และต้นหอมซอย พอขนมสุกใช้ช้อนแคะขนมออกจากเบ้า จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ (ในสูตรได้นำเบ้าขนมครกไปบ่มน้ำมันล่วงหน้า 2 วันแล้ว แต่ขนมก็ยังติดเบ้า แคะยากมาก)
4. ขนมถ้วย
ส่วนผสม หน้าขนม
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- หัวกะทิ 2 ถ้วย
ส่วนผสม ตัวขนม
- แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
- แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำลอยดอกมะลิ 1+1/4 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
- หางกะทิ 1/2 ถ้วย
อุปกรณ์
- ถ้วยขนมถ้วย (หรือถ้วยทนความร้อนสำหรับนึ่ง)
- ชุดนึ่ง
วิธีทำขนมถ้วย
1. ทำหน้าขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
2. ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
3. นำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย)
4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที
5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที
6. ค่อย ๆ ใช้ไม้พายหรือไม้ไอศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
5. ขนมใส่ไส้
ส่วนผสม ขนมใส่ไส้
- มะพร้าวขูดขาว 2+1/2 ถ้วย
- น้ำตาลมะพร้าว 1+1/2 ถ้วย
- น้ำต้มสุก
- เทียนอบ (สำหรับอบควันเทียน) ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ตามความสะดวก
- แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
- น้ำเย็น 1/3 ถ้วย (หรือน้ำใบเตย, น้ำอัญชันแช่เย็น หากต้องการเพิ่มสีสัน)
- แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- หัวกะทิ 3+1/3 ถ้วย
อุปกรณ์
- เตรียมใบตองตัดเป็น 2 ขนาด แผ่นใหญ่ขนาดประมาณ 5X9 เซนติเมตร และแผ่นเล็กขนาดประมาณ 4X6 เซนติเมตร แล้วตัดหัว-ท้ายเป็นสามเหลี่ยม เช็ดให้สะอาดทั้ง 2 ด้าน นำไปตากแดดทิ้งไว้สักครู่ (เพื่อไม่ให้ใบตองแตกขณะห่อขนม)
วิธีทำหน้ากระฉีก (ส่วนผสมไส้)
1. กวนมะพร้าวขูดกับน้ำตาลมะพร้าว และน้ำต้มสุกในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนส่วนผสมเหนียวและแห้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
2. พอส่วนผสมเย็นสนิทแล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ประมาณ 1 นิ้วใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด
3. นำส่วนผสมไส้ไปอบด้วยควันเทียน เตรียมไว้
วิธีทำแป้ง
- นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเย็นจนพอปั้นได้ จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเดียวกับหน้ากระฉีก เตรียมไว้
วิธีทำส่วนผสมหน้าขนม
- ผสมแป้งข้าวเจ้า เกลือป่น และกะทิคนให้ละลายเข้าด้วยกัน เทใส่ในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเทฟลอน) ใช้ไฟปานกลางกวนจนข้นและเดือดทั่ว ยกลงจากเตา เตรียมไว้
วิธีทำขนมใส่ไส้แบบห่อใบตอง
1. แผ่แป้งข้าวเหนียวที่ปั้นไว้เป็นแผ่นบาง ๆ (กะให้พอหุ้มไส้ได้มิด) จากนั้นหยิบไส้กระฉีกวางลงไปตรงกลางแล้วหุ้มแป้งให้มิด วางขนมลงบนใบตองที่ซ้อนกัน
2. หงายใบตองแผ่นใหญ่ขึ้น (ด้านนวล) แล้ววางทับด้วยใบตองแผ่นเล็ก วางไส้ขนมลงไป จากนั้นตักหน้าขนมประมาณ 1/2 ช้อนชา ใส่ด้านบนไส้
3. ห่อใบตองเป็นทรงสูง ใช้ใบมะพร้าวที่เตรียมไว้คาดและกลัดด้วยไม้กลัดให้เรียบร้อย ตัดปลายเตี่ยวให้เฉียงและยาวพองาม วางเรียงห่อขนมลงในชุดนึ่ง
4. นำขนมไปนึ่งในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือดพล่านประมาณ 10 นาที ยกลงจากเตา
วิธีทำขนมใส่ไส้สูตรประยุกต์
1. ตักส่วนผสมหน้ากะทิใส่ลงในถ้วยขนาดเล็ก (หรือพิมพ์พลาสติก) ประมาณ 1/2 ของพิมพ์ เตรียมไว้
2. แผ่แป้งข้าวเหนียวที่ปั้นไว้เป็นแผ่นบาง ๆ (กะให้พอหุ้มไส้ได้มิด) จากนั้นหยิบไส้กระฉีกวางลงไปตรงกลางแล้วหุ้มแป้งให้มิด จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจนลอยขึ้นมา ตักขึ้นใส่จาน เตรียมไว้
3. ค่อย ๆ นำส่วนผสมไส้วางลงในพิมพ์อย่างเบามือให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
6. ลอดช่อง
และแล้วก็ถึงเมนูลอดช่องที่รอคอย ทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งถั่วเขียว มาพร้อมวิธีทำน้ำกะทิหอมหวล
ส่วนผสม ลอดช่อง
- ใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ปอนด์ (ประมาณ 450 กรัม)
- น้ำปูนใส 9+1/2 -10 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
- แป้งถั่วเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็นจัด
- น้ำแข็งทุบ
ส่วนผสม น้ำกะทิ
- น้ำตาลปี๊บ 3+1/2 -4 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- กะทิ 5 ถ้วย
วิธีทำลอดช่องน้ำกะทิ
1. ทำน้ำกะทิ โดยใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และกะทิลงในอ่างผสม ใช้มือขยำส่วนผสมเข้าด้วยกันจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดี กรองด้วยตะแกรง
2. นำส่วนผสมน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนน้ำกะทิใกล้เดือด (ให้ส่วนผสมเดือดเฉพาะตรงกลาง ไม่เดือดพล่าน เพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน) ประมาณ 10-15 นาที ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้ (สามารถทำไว้ล่วงหน้าหรือทำทิ้งไว้ข้ามคืนได้)
3. ใส่ใบเตยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำปูนใส 6-7 ถ้วย ปั่นจนละเอียด จากนั้นคั้นเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
4. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งถั่วเขียวลงไปในน้ำใบเตย โดยปล่อยให้แป้งค่อย ๆ จมลงไปในน้ำจนหมด (เทคนิค : ปล่อยให้แป้งจมลงไปในน้ำเอง รอประมาณ 1 นาที โดยไม่ต้องคน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า แป้งจะได้ไม่จับตัวเป็นก้อน และละลายเข้ากับน้ำทั้งหมด) พอแป้งจมลงหมดแล้ว ค่อย ๆ คนผสมจนเข้ากันดี จากนั้นกรองด้วยตะแกรง เตรียมไว้
5. ใส่ส่วนผสมลงในกระทะก้นลึกขนาดใหญ่ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง กวนผสมตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง พอแป้งเริ่มเหนียว ค่อย ๆ เทน้ำปูนใสที่เหลือลงไปจนหมด กวนจนส่วนผสมเหนียว และมีสีใส
6. ตักส่วนผสมแป้งใส่เครื่องกดลอดช่อง กดแป้งเป็นเส้น ๆ ลงในน้ำเย็นจัด จากนั้นตักส่วนผสมขึ้น ใส่ลงในถ้วย ตามด้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ และน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ : สูตรนี้ใส่แป้งถั่วเขียว เพื่อทำให้ลอดช่องมีเนื้อเหนียว นุ่ม และสีสวยมากขึ้น เก็บไว้กินนาน ๆ จะไม่คืนตัวและเป็นน้ำ
7. ขนมตาล
ส่วนผสม ขนมตาล
- น้ำตาลทราย 400 กรัม
- กะทิ 3 ถ้วย
- เนื้อลูกตาลสุก 350 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นเล็ก (คลุกเกลือเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า) 2 ถ้วย
วิธีทำขนมตาล
1. ละลายน้ำตาลทรายในกะทิ เติมเนื้อลูกตาลลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งและผงฟูลงไป คนจนเนียน
2. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ประมาณ 10 นาทีให้ส่วนผสมขึ้น
3. ระหว่างรอขนมขึ้น ใส่น้ำในลังถึง ตั้งไฟกลางเตรียมไว้ เรียงถ้วยตะไลลงในลังถึง พอส่วนผสมครบเวลา ตักส่วนผสมยอดลงในถ้วยตะไลจนเต็มถ้วย โรยด้วยมะพร้าวทึนทึก นึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาที จนกระทั่งสุก ยกลงจากเตา พักให้เย็นแซะออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
8. ขนมฟักทอง
ส่วนผสม ขนมฟักทอง
- ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น ๆ)
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
- มะพร้าวขูด 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- กะทิ 1 ถ้วย
อุปกรณ์
- ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่ง)
วิธีทำขนมฟักทอง
1. นำฟักทองไปนึ่งจนสุกแล้วนำออกมาพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
2. ใส่แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังลงในฟักทองที่นึ่งสุกแล้ว จากนั้นนวดผสมให้เข้ากัน
3. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปนวด จากนั้นค่อย ๆ เติมกะทิลงไปคนผสมจนเข้ากันดีและน้ำตาลทรายละลายหมด
4. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลประมาณ 3/4 ของถ้วย จากนั้นนำไปนึ่ง (ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด) ประมาณ 15-20 นาที นึ่งจนแป้งสุกและใส ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
5. แคะขนมออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
9. ขนมกล้วย
ส่วนผสม ขนมกล้วย
- กล้วยน้ำว้าสุก (บดละเอียด) 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 5 ช้อนโต๊ะ
- หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
- มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
- ใบตองสำหรับห่อ (ถ้าไม่มีใบตองสามารถใช้ถ้วยตะไลได้)
วิธีทำขนมกล้วย
1. ผสมกล้วยน้ำว้ากับน้ำตาลทราย เกลือป่น แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง หัวกะทิ และมะพร้าวขูด คนผสมให้เข้ากันดี
2. ตักส่วนผสมขนมกล้วยลงบนใบตอง แผ่บาง ๆ หรือจะทำเป็นทรงกรวยห่อเป็นทรงให้สวยงาม (หรือตักใส่ถ้วยตะไล) วางเรียงบนชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นึ่งประมาณ 20 นาที จนขนมสุก จากนั้นนำออกจากชุดนึ่ง พร้อมเสิร์ฟ
10. ตะโก้
ส่วนผสม ขนมตะโก้
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- แป้งมัน 1/4 ถ้วย
- แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย (หรือน้ำ 2 ถ้วย ผสมน้ำหอมกลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา)
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
- แห้วต้มสุก (หั่นเต๋าเล็ก) 1 ถ้วย
- กระทงใบเตย
ส่วนผสม หน้ากะทิ
- แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
- กะทิ 2 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำตะโก้แห้ว
1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย ต้มจนเดือดและเหนียวเป็นน้ำเชื่อม พักไว้จนเย็น
2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้งถั่วเขียว น้ำลอยดอกมะลิ และน้ำใบเตยจนละลายเข้ากันดี เทใส่ลงในส่วนผสมน้ำเชื่อม กวนผสมจนแป้งสุกเหนียวและใส จากนั้นใส่แห้วลงคนผสมให้เข้ากัน ยกลงจากเตา
3. ตักใส่กระทงใบเตยที่เตรียมไว้ประมาณ 3/4 ของกระทง ตามด้วยหน้ากะทิจนเต็มพิมพ์ พักทิ้งไว้จนอุ่น
วิธีทำหน้ากะทิตะโก้
- ใส่แป้งข้าวเจ้า กะทิ และเกลือป่นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟใช้ความร้อนปานกลาง คนผสมจนข้น และเหนียว ยกลงจากเตา หยอดลงบนขนมตะโก้
11. ขนมน้ำดอกไม้
สีสวยน่าลองทำจริง ๆ สำหรับขนมน้ำดอกไม้ ใส่สีผสมอาหารหลายสีตามชอบ เพิ่มความหอมจากกลิ่นมะลิ อีกหนึ่งเมนูขนมใส่แป้งข้าวเจ้าที่น่าลองทำ
ส่วนผสม ขนมน้ำดอกไม้
- น้ำตาลทราย 225 กรัม
- น้ำร้อน 450 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
- แป้งเท้ายายม่อม 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
- สีผสมอาหาร
วิธีทำขนมน้ำดอกไม้
1. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำร้อน แล้วคนจนน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นพักให้เย็นลง
2. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งเท้ายายม่อม ค่อย ๆ เทน้ำที่ผสมน้ำตาลลงไป แล้วใช้มือขยำจนแป้งละลายหมด
3. พอผสมเข้ากันดีก็เทน้ำส่วนที่เหลือลงไปแล้วตามด้วยกลิ่นมะลิ (ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใส่กลิ่น) แบ่งใส่ถ้วย ใส่สีตามชอบใจ สีอย่าใส่มาก ให้ใส่ถ้วยละหยดพอ พอขนมสุกสีจะเข้มขึ้นอีก นึ่งถ้วยให้ร้อนประมาณ 15 นาที จากนั้นเทขนมลงไปให้เต็มถ้วย นึ่งด้วยไฟแรง 15 นาที
4. พอขนมสุกให้เอามาพักไว้ในน้ำเย็นจัดก่อนนำขนมออกจากถ้วย พอขนมเย็นแล้วก็แคะเอาออกจากถ้วยได้
12. ขนมเปียกปูนกะทิสด
ส่วนผสม ขนมเปียกปูนกะทิสด
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งมัน 1/4 ถ้วย
- น้ำปูนใส 1 ถ้วย
- น้ำใบเตย 2 ถ้วย
- เกลือเล็กน้อย
- น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม
ส่วนผสม กะทิราดหน้าขนม
- กะทิ 500 กรัม
- เกลือแค่หยิบมือ
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ที่ใส่เพื่อให้น้ำกะทิข้น)
- งาขาวคั่ว
วิธีทำขนมเปียกปูนกะทิสด
1. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำปูนใส และน้ำใบเตย ผสมกันและนวดจนเข้ากันดี
2. ใส่เกลือ น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลปี๊บ นวดต่อจนเข้ากันดี กรองส่วนผสมแป้งด้วยตะแกรง 1 รอบ
3. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดีสังเกตจากการเอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้ว ตักขนมเปียกปูนใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบแต่งหน้าเค้ก บีบใส่ถ้วย
วิธีทำกะทิราดหน้าขนม
- ใส่หัวกะทิลงในหม้อ ตามด้วยเกลือ ใส่แป้งข้าวเจ้า คนผสมจนเดือด เสร็จแล้วตักกะทิราดหน้าขนมเปียกปูนเลยค่ะ อย่าลืมโรยงาขาวคั่วหอม ๆ
13. ขนมดอกจอก
ส่วนผสม ขนมดอกจอก
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 50 กรัม
- น้ำปูนใส 250 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- หัวกะทิ 500 กรัม
- งาดำ
วิธีทำขนมดอกจอก
1. นำแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า และแป้งมัน เทรวมกัน ตามด้วยน้ำปูนใส นวดไปเรื่อย ใส่ไข่ไก่นวดต่อไปเรื่อย ๆ
2. ใส่เกลือและน้ำตาลทราย นวดให้เข้ากัน เทกะทิแล้วนวดให้ส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้เวลานวดค่อนข้างนานกว่าส่วนผสมจะเข้ากันดี กรองด้วยกระชอนตาถี่ แป้งจะละเอียดเนียนสวย
3. ใส่งาดำตามชอบ หรือจะใส่งาขาวด้วยก็ได้
4. ขั้นตอนการทอด นำพิมพ์ไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำมันที่ร้อนประมาณ 10 นาที พอพิมพ์ร้อนได้ที่แล้วก็ซับด้วยน้ำมันก่อนที่จะไปชุบแป้ง
5. จุ่มพิมพ์ลงไปในแป้ง แต่อย่าจุ่มจนมิด (เพราะถ้าจุ่มมิดแป้งจะติดพิมพ์ ไม่หลุด) นำพิมพ์ชุบแป้งเสร็จแล้วลงไปทอดในน้ำมันที่ร้อน ใช้ไฟกลาง พอเอาพิมพ์จุ่มลงในน้ำมันแล้วค่อย ๆ เขย่าพิมพ์ แป้งก็จะหลุดออกจากพิมพ์
6. ทอดให้สุกเหลือง เอาขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน พอพักจนเย็นก็กินได้แล้วค่ะ กรอบมันอร่อย
14. ขนมฝักบัวใบเตย
ส่วนผสม ขนมฝักบัว
- แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
- กล้วยหอมสุก 1 ลูก (บดละเอียด)
- ใบเตย 20 ใบ
- สีผสมอาหารสีเขียว 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
วิธีทำขนมฝักบัว
1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วม ปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองและคั้นเอาแต่น้ำ เตรียมไว้
2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และกล้วยหอม ค่อย ๆ เทน้ำใบเตยลงไปนวดให้เข้ากัน ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไป
3. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปนวดกับแป้งให้ละลายจนมีลักษณะข้นเหนียว (เหมือนนมข้นหวาน) พักแป้งทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที
4. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะขนาดเล็กสูงประมาณ 1/2 ของกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ พอน้ำมันร้อน กวนแป้งให้เข้ากันแล้วตักหยอดลงตรงกลางกระทะ (ระวังอย่าให้แป้งใต้กระบวยหยดลงในกระทะ) ขนมจะค่อย ๆ พองจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในจนปิดสนิท รอจนขนมเหลืองและลอยขึ้นจากน้ำมันแล้วพลิกกลับด้าน จากนั้นตักน้ำมันราดตรงกลางของขนมเพื่อให้ตรงกลางขนมปูดขึ้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
15. เค้กแป้งข้าวเจ้า
ส่วนผสม ไข่แดง
- ไข่แดง (เบอร์ 2) 4 ฟอง
- น้ำมันรำข้าว 20 กรัม
- นมจืด หรือกะทิ 110 มิลลิลิตร
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา
- แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
ส่วนผสม ไข่ขาว
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 70 กรัม
วิธีทำเค้กแป้งข้าวเจ้า
1. ทำส่วนผสมไข่แดงโดยผสมไข่แดง น้ำมันรำข้าว นมจืด เกลือป่น ตามด้วยกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน ร่อนแป้งข้าวเจ้า
2. ทำส่วนผสมไข่ขาวโดยนำไข่ขาวมาตีจนเป็นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป จากนั้นทยอยใส่น้ำตาลลงไป (แบ่งใส่สัก 3 รอบ) ตีจนตั้งยอดอ่อน-กลาง
3. นำ (เมอแรงค์) ไข่ขาวใส่ลงในส่วนผสมไข่แดง แล้วตะล่อมจนเข้ากัน ใส่ที่เหลือลงไป แล้วตะล่อมจนเข้ากัน หยอดใส่พิมพ์ นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25-30 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม
4. นำเค้กออกจากพิมพ์ พักเค้กจนเย็นสนิท ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ใส่กล่องปิดฝาไว้แล้วค่อยนำมากิน เค้กจะนุ่มขึ้น
จบไปแล้วสำหรับสูตรขนมจากแป้งข้าวเจ้า ลองทำเป็นอาหารว่างเอาไว้กินหรือแจกได้ หรือทำขายเพิ่มรายได้ก็ดีงามจ้า