- มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยขับสารตกค้างและสารพิษในร่างกาย
- มีแร่ธาตุซิลิกาที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน เส้นเอ็น และกระดูก
- มีธาตุแมกนีเซียมที่เป็นแร่ธาตุสำคัญของการทำงานในระบบประสาทและสมอง
- มีโพแทสเซียมและแมงกานีส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติควบคุมความดันโลหิต และปรับสมดุลสารอาหารในร่างกาย
- มีไฟเบอร์ที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
1. พันธุ์แตงกวาสีเข้ม ส่วนใหญ่บริโภคในภาคใต้และอีสาน เช่น แตงกวาธันเดอร์กรีน ตราศรแดง พาวเวอร์กรีน ตราตะวันต้นกล้า เป็นต้น
2. พันธุ์แตงกวาสีอ่อน ส่วนใหญ่บริโภคในภาคกลาง เช่น แตงกวาสปีด ตราศรแดง แตงกวาสปีดแม็ก ตราศรแดง เป็นต้น
- เตรียมดินร่วนปนทรายผสมกับปุ๋ยหมักในอัตราส่วน 50:50 ใส่กระถางโดยใส่กรวดและเศษหินรองพื้นกระถางก่อน
- นำเมล็ดแตงกวาที่สมบูรณ์และแข็งแรง ประมาณ 4-5 เมล็ด ใส่ลงในกระถางที่ทำหลุมไว้ลึกประมาณ 1.2 เซนติเมตร นำไปตั้งในสถานที่ที่มีแดดส่องถึง
- เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกยาว 5-7 เซนติเมตร ให้ถอนต้นกล้าที่อ่อนแอออกไป เหลือต้นกล้าแข็งแรงไว้ 2 ต้น จากนั้นย้ายต้นแตงกวาไปปลูกในกระถางใหญ่ ปักหลักไว้ให้เถาเลื้อย
- หลังจากที่นำเมล็ดลงดินไปแล้วประมาณ 60 วันขึ้นไป สังเกตให้ผลแตงกวามีความยาวอยู่ที่ 7 เซนติเมตรขึ้นไป ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้
วิธีดูแลต้นแตงกวา
-
ควรรดน้ำที่ดินโคนต้นให้ชุ่มและมั่นใจว่ารากโดนน้ำ ระมัดระวังอย่าให้โดนเถาหรือลำต้นมิเช่นนั้นจะต้นเน่าเอาได้
-
วางกระถางให้โดนแสงแดดอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง หมั่นใส่ปุ๋ยและพรวนดินในช่วงระยะแรก ๆ เพื่อกำจัดวัชพืชเท่านั้นพอ
สำหรับใครที่ชอบแตงกวาสดกรอบ ควรเลือกผลที่ค่อนข้างเรียว ผิวยังเป็นสีเขียวอ่อน และผิวยังขรุขระอยู่บ้าง เพราะแสดงถึงความสดใหม่ ยังไม่ลืมต้น ถ้าแตงกวาผิวเริ่มขาวคือลักษณะของแตงที่เริ่มแก่ เมล็ดข้างในค่อนข้างใหญ่และจะเหนียว
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับประโยชน์ วิธีการปลูก และการเลือกแตงกวากันมาแล้ว ต่อไปเรามาทำเมนูแตงกวากินกันได้เลยจ้า
1. แตงกวาผัดไข่
ส่วนผสม แตงกวาผัดไข่ (สำหรับ 2 ที่)
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ไข่ขาว 2 ฟอง
- เนื้อปลาอินทรีเค็มทอดสุก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทยกลีบเล็ก (สับละเอียด) 2 ช้อนชา
- กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก) 5 ตัว
- แตงกวา (หั่นชิ้น) 1 ถ้วยตวง
- ซอสปรุงรสอาหาร (ตราภูเขาทอง) 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่นเล็กน้อย
วิธีทำแตงกวาผัดไข่
1. ตีผสมไข่ไก่กับไข่ขาวให้เข้ากัน ใส่เนื้อปลาอินทรีลงไปตีผสมอีกครั้ง พักไว้
2. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันถั่วเหลืองลงไป ตามด้วยกระเทียมลงไปผัดจนหอม ใส่กุ้งลงไปผัดให้พอสุก ใส่แตงกวาตามลงไป โรยส่วนผสมไข่ลงไป ปิดฝาประมาณ 1-2 นาที หรือจนไข่สุก
3. เปิดฝา ยีไข่ที่สุกแล้วให้แตกตัวเล็กน้อย ใส่ซอสปรุงรสอาหารและน้ำตาลทรายลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง โรยพริกไทยป่น ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
2. ยำกุนเชียงแตงกวา
ส่วนผสม ยำกุนเชียงแตงกวา
- กุนเชียง 1/2 แท่ง
- พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- แตงกวา (สไลซ์บาง ๆ) 2 ลูก
- หอมแดงซอย 2 หัว
- ขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อนสั้น) 1 ต้น
วิธีทำยำกุนเชียงแตงกวา
1. นำกุนเชียงที่หั่นไว้ไปต้ม (หรือทอด) จนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน นำมาหั่นเฉียง ๆ เตรียมไว้
2. ผสมพริกขี้หนูซอย น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย
3. ใส่แตงกวาสไลซ์ หอมแดงซอย กุนเชียง และขึ้นฉ่าย ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
3. ผัดเปรี้ยวหวานทะเล
ส่วนผสม ผัดเปรี้ยวหวานทะเล
- ปลาหมึก (หั่นแว่น) 200 กรัม
- สับปะรด (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย
- แตงกวา (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย
- หอมใหญ่ (หั่นเสี้ยว) 1 หัว
- ต้นหอม (หั่นท่อนสั้น) 1 ต้น
- มะเขือเทศ 2 ลูก (หั่น 4 ส่วน)
- ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่นเล็กน้อย (ปรุงรส) **ถ้าต้องการความหอมให้ใส่น้ำปลาแทนได้
- น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทยสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานทะเล
1. เจียวกระเทียมสับในน้ำมันพืชจนหอม ใส่เนื้อปลาหมึกลงไปผัดจนเกือบสุก
2. ใส่สับปะรด แตงกวา หอมใหญ่ ต้นหอม และมะเขือเทศ ลงไปผัดจนสุกนิ่ม
3. ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย และเกลือป่น ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
4. ซุปอะโวคาโดกับแตงกวา
ส่วนผสม ซุปอะโวคาโดกับแตงกวา
- อะโวคาโด หั่นเป็นชิ้นเล็ก 2 ลูก
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปผัก 2 ถ้วย
- แตงกวาลูกใหญ่ (แตงล้าน หรือแตงกวาญี่ปุ่น) หั่นเป็นชิ้นเล็ก 1/2 ลูก
- เหล้าสาเก 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสพริกเข้มข้น 2 ช้อนชา
- เกลือป่น
- พริกไทยป่น
- แตงกวาหั่นเป็นชิ้นบาง สำหรับแต่ง
- ต้นหอมซอย สำหรับแต่ง
วิธีทำซุปอะโวคาโดกับแตงกวา
1. ใส่อะโวคาโด น้ำมะนาว และน้ำซุปผัก 1 ถ้วย ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด เติมแตงกวา เหล้าสาเก และต้นหอม ปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง เทใส่อ่างผสม
2. เติมน้ำสต๊อกที่เหลือลงในส่วนผสมอะโวคาโด คนผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสพริก เกลือป่น และพริกไทยป่น ตักใส่ถ้วย แต่งด้วยแตงกวาและต้นหอมซอยให้สวยงาม พร้อมรับประทาน
5. สลัดแตงกวา
ส่วนผสม สลัดแตงกวา
- มะเขือเทศหั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1 ลูก
- แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1 ลูก
- หอมใหญ่หั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1/2 หัว
- ผักชีซอย 1 ต้น
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น
- พริกไทยดำบดเล็กน้อย
- น้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
- แป้งโรตีทอดกรอบ
วิธีทำสลัดแตงกวา
1. ตีผสมน้ำมะนาว เกลือป่น และพริกไทยดำ ให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำมันมะกอก ตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่กระเทียมลงคนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เตรียมไว้
2. ใส่มะเขือเทศ แตงกวาญี่ปุ่น และหอมใหญ่ ลงในอ่างผสม ใส่น้ำสลัดที่เตรียมไว้และผักชีซอยลงเคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟคู่กับแป้งโรตีทอดกรอบ
6. แกงจืดแตงกวายัดไส้
ส่วนผสม แกงจืดแตงกวายัดไส้
- เนื้อปลาอินทรีบด หรือเนื้อปลากรายบด
- เต้าหู้ขาว (แบบนิ่ม)
- แตงกวาคว้านเมล็ดออก
- เห็ดหอมสับ
- น้ำเปล่า
- กระเทียม พริกไทย และรากผักชี โขลกละเอียด
- ผงซุปไก่
- กระเทียมเจียว
- ผักชี
- ต้นหอม
- พริกไทยป่น
วิธีทำแกงจืดเต้าหู้สอดไส้เนื้อปลา
1. หั่นแบ่งเต้าหู้ขาวเป็น 4 ชิ้น แล้วผ่าครึ่งเพื่อให้สอดไส้เข้าไปได้ และปอกเปลือกแตงกวา หั่นครึ่งแล้วคว้านเมล็ด
2. หั่นต้นหอมและผักชีเป็นท่อน พักไว้
3. โขลกสามเกลอ กระเทียม พริกไทย และรากผักชี ให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเนื้อปลา
4. นำเนื้อปลาที่ปรุงรสยัดไส้ไปในเต้าหู้และแตงกวา
5. นำหม้อใส่น้ำ ตั้งไฟให้เดือด ใส่ผงซุปไก่ลงไป (อาจใส่เห็ดหอมหั่นลงต้มไปด้วย เพื่อให้ได้กลิ่น)
6. เมื่อน้ำเดือดจัด ใส่เต้าหู้และแตงกวายัดไส้ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว หรือน้ำปลา หรือเกลือป่น ถ้าเต้าหู้และแตงกวาลอยขึ้นมาแสดงว่าสุกดีแล้ว ก่อนปิดไฟให้แบ่งใส่ต้นหอมและผักชีบางส่วนลงไป
7. ใส่แครอตเพื่อเพิ่มสีสัน ก่อนเสิร์ฟ โรยต้นหอม ผักชี และพริกไทย ใส่กระเทียมเจียว
7. แตงกวาดองเกาหลี
ส่วนผสม แตงกวาดองเกาหลี
- แตงกวาสด
- เกลือ
- กุ้งฝอยหมักเกลือ
- กระเทียมสด บดละเอียด
- ซอสพริกเกาหลี
- พริกตำ
- พริกป่นเกาหลี
- น้ำตาลทราย
วิธีทำแตงกวาดองเกาหลี
1. ล้างแตงกวา ตัดหัว-ท้ายออก หั่นครึ่งหรือหั่นตามชอบ
2. นำแตงกวาไปแช่น้ำเกลือ ประมาณ 12 ชั่วโมง หรือข้ามคืน พอครบเวลานำมาล้างน้ำเปล่า ผึ่งบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
3. นำแตงกวาใส่ภาชนะใบใหญ่ เติมกระเทียมบด กุ้งฝอยหมักเกลือ
4. ปรุงรสด้วยซอสพริกเกาหลี พริกตำ พริกป่นเกาหลี และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน จัดเรียงใส่กล่องมีฝาปิด นำเข้าตู้เย็น
8. น้ำพันซ์แตงโมกับแตงกวา
ส่วนผสม น้ำพันซ์แตงโมกับแตงกวา
- เนื้อแตงโม แกะเมล็ดออก หั่นเต๋า 6 ถ้วย
- แตงกวาลูกใหญ่ หั่นบาง 1 ลูก
- น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำแข็ง
- ใบโหระพา สำหรับแต่งแก้ว
วิธีทำน้ำพันซ์แตงโมกับแตงกวา
1. ใส่เนื้อแตงโมและแตงกวาลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนละเอียด จากนั้นนำไปกรองเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
2. ผสมน้ำมะนาวและน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน จากนั้นเทใส่ลงในส่วนผสมน้ำแตงโม คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เทใส่แก้วตามด้วยน้ำแข็ง แต่งด้วยใบโหระพาให้สวยงาม พร้อมดื่ม
แนะนำเมนูผักอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
► 11 เมนูผักกาด อาหารจานผักทำง่าย ๆ อร่อยถูกปาก
► 18 เมนูผัดผัก รวมสูตรเมนูผักหอมอร่อยย่อยง่าย
► 10 เมนูหน่อไม้ฝรั่ง คุณค่าเต็มคำกินอร่อยจากเมนูผักกรอบ ๆ
► 13 เมนูสุขภาพจากดอกกะหล่ำ สร้างสรรค์เมนูผักอร่อยล้ำดีต่อใจ
► 5 เมนูตำลึง หลากเมนูผักกับข้าวและเครื่องดื่มอร่อยมีประโยชน์