16 เค้กมินิมอล สูตรของหวานแห่งความสุขที่ต้องมีในทุกเทศกาล

           ใครชอบกินเค้ก ยกมือขึ้น เราได้รวบรวมสูตรเค้กมินิมอล แสนอร่อยมาฝากกันค่ะ รับรองว่านอกจากจะสวยถูกใจแล้ว ยังอร่อยถูกปากทุกสูตรแน่นอน
เค้กมินิมอล

           ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด หรือโอกาสพิเศษใด ๆ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เค้ก ขนมหวาน หน้าตาดี รสชาติเยี่ยมที่ใคร ๆ ก็ต้องชอบ ทุกวันนี้รูปทรงของเค้กปรับเปลี่ยนไปมากมาย ทั้งทรงกลมแบบเดิม เป็น 3 มิติโดดเด่น หรือจะตัดแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำ ไปจนถึงแบบเรียบ ๆ แต่ดูดีในสไตล์ เค้กมินิมอล เน้นความอร่อยที่เนื้อเค้กและท็อปปิ้งสำหรับตกแต่ง แถมวิธีทำก็ง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก จะทำให้เป็น เค้กวันเกิด กินในครอบครัว ของฝากสำหรับญาติ เพื่อนฝูง หรือจะทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ก็เข้าท่า วันนี้เราจึงได้รวบรวมสูตรเค้กมินิมอลสุดคิวต์อร่อย ๆ ที่แสนง่ายมาฝากกัน เผื่อจะได้เป็นไอเดียสำหรับเพื่อน ๆ ทุกคนที่ชอบการทำเค้กค่ะ

สูตรเค้กวันเกิด เค้กมินิมอล ไอเดียเค้กสวย ๆ

1. เค้กวันเกิดสไตล์เกาหลี

เค้กวันเกิดสไตล์เกาหลี

สูตรจาก คุณ sujitrar สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           เค้กโฮมเมดสีขาวเรียบหรู ดูมินิมอลมาก ๆ เนื้อเค้กเป็นสปันจ์เนียนนุ่มเด้ง ปลอดภัยเพราะไร้สารเสริมเติมแต่งใด ๆ พร้อมแต่งหน้าด้วยครีมสวยหวานละมุน

ส่วนผสม เค้กวันเกิด

  • ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 2 ฟอง 

  • น้ำตาลทราย 80 กรัม 

  • แป้งเค้ก 90 กรัม 

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา 

  • ผงฟู 1 ช้อนชา 

  • นมสดรสจืด 50 กรัม 

  • น้ำมันดอกทานตะวัน 40 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

ส่วนผสม สำหรับแต่ง

  • วิปปิ้งครีม 150 กรัม

  • สีผสมอาหารสีเหลืองไข่

  • ท็อปปิ้งตามชอบ

วิธีทำเค้กวันเกิด

  1. ตีไข่และน้ำตาลทรายในโถตีให้ขึ้นฟู แล้วพักไว้

  2. ผสมส่วนผสมของแห้ง (แป้ง ผงฟู และเกลือ) จากนั้นผสมส่วนผสมของเหลว (น้ำมัน นมสด และกลิ่นวานิลา) เข้าด้วยกัน แล้วพักไว้ 

  3. ร่อนแป้งใส่ในโถตีไข่ ตะล่อมเบา ๆ จนเนื้อเนียน เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีค่อย ๆ ตักใส่ถ้วยของเหลว คนให้เข้ากันอย่างเบามือ 

  4. เทส่วนผสมลงพิมพ์กรุกระดาษไข นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 25-30 นาที เมื่อครบเวลานำออกจากพิมพ์และทิ้งไว้ให้เย็น 

  5. ทำส่วนผสมสำหรับตกแต่ง โดยตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใส่ถุงบีบ และส่วนที่ 2 ใส่สีผสมอาหารสีเหลืองไข่ไก่ ผสมให้เข้ากัน 

  6. นำครีมสีเหลืองบีบให้ทั่วเค้ก แล้วปาดให้เรียบ หลังจากนั้นใช้ครีมสีขาวบีบตกแต่งด้านบน จากนั้นโรยท็อปปิ้งหรือตกแต่งตามชอบได้เลย 
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กวันเกิด สไตล์เกาหลีสีหวานไม่ใส่สารเสริม

2. เค้กโยเกิร์ต

เค้กโยเกิร์ต

สูตรจาก คุณ sujitrar สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           เอาใจสายเฮลธ์ตี้ด้วยเค้กสูตรโยเกิร์ต เนื้อเนียนเด้งฟูนุ่ม หอมกรุ่นกลิ่นโยเกิร์ต ละมุนลิ้นสุด ๆ มั่นใจได้ในความปลอดภัยเพราะไม่ใส่สารเสริมใด ๆ วิธีการทำก็แสนง่าย จะทำกินเอง หรือทำเป็นของฝาก ก็อร่อยถูกปากคนกินแน่นอน

ส่วนผสม ไข่แดง

  • แป้งข้าวโพด 20 กรัม 

  • แป้งเค้ก 30 กรัม 

  • ไข่แดง (เบอร์ 2) 3 ฟอง 

  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา 

  • โยเกิร์ต 130 กรัม

  • น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม ไข่ขาว

  • ไข่ขาว (เบอร์ 2) 3 ฟอง 

  • น้ำตาลทราย 60 กรัม 

  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำเค้กโยเกิร์ต

  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส และเตรียมพิมพ์โดยใช้พิมพ์ถอดก้น เพราะสูตรนี้เราจะอบแบบรองน้ำ

  2. ร่อนแป้ง 2 ชนิด และพักไว้ จากนั้นไปทำส่วนผสมไข่แดง โดยนำไข่แดงใส่ชามผสม ตีจนขึ้นฟูและสีนวล หลังจากนั้นใส่กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน

  3. ใส่เกลือ ใส่โยเกิร์ต และน้ำมัน คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ 

  4. ทำส่วนผสมไข่ขาว โดยนำไข่ขาวและน้ำมะนาวใส่ลงในโถตี ตีด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟองละเอียด หลังจากนั้นทยอยใส่น้ำตาลทรายจนหมด

  5. ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน หลังจากนั้นทยอยตักไข่ขาวใส่ลงในส่วนผสมของไข่แดงที่พักไว้ และตะล่อมให้เข้ากัน 

  6. เทส่วนผสมลงในพิมพ์กรุกระดาษไขและห่อฟอยล์ให้เรียบร้อย นำเข้าอบ อบรองน้ำที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 50 นาที หรือจนกว่าจะสุก

  7. อบเสร็จแล้วนำมาพักไว้ให้อุ่น จึงนำออกจากพิมพ์ โรยไอซิ่งและตัดเสิร์ฟ
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กโยเกิร์ตสูตรเนื้อเด้งฟูนุ่มละมุน ทำง่ายไม่ใส่สารเสริม

3. เค้กเลมอน

เค้กเลมอน

สูตรจาก ครัวป้ามารายห์

           ใครจะรู้ว่า เลมอนเปรี้ยวปรี๊ด สามารถทำเป็นเค้กสุดน่ารัก เนื้อแน่น หอมมันจากเนยและครีมชีส แถมราดไอซิ่งเกลซมะนาวรสเปรี้ยวอมหวานได้ จะกินกับชา-กาแฟยามบ่ายหรือเครื่องดื่มแก้วโปรด ก็เพลินสุด ๆ ไปเลย

ส่วนผสม เค้กเลมอน

  • เนยสดรสเค็ม 100 กรัม

  • ครีมชีส 110 กรัม

  • น้ำตาลทราย 80-90 กรัม

  • ไข่ไก่ 3 ฟอง

  • แป้งอเนกประสงค์หรือแป้งเค้ก 135 กรัม

  • ผงฟู 1 ช้อนชา

  • น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ

  • ผิวเลมอน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ

  • สีผสมอาหารสีเหลือง

  • เลมอน (สำหรับแต่ง)

ส่วนผสม ไอซิ่งเกลซมะนาว

  • ไอซิ่ง 150 กรัม

  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเค้กเลมอน

  1. ตีเนยและครีมชีสจนเข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลทราย ไข่ไก่ ตีปั่นจนเข้ากัน จากนั้นร่อนแป้งและผงฟูตามลงไป 

  2. ตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่น้ำและผิวเลมอน จากนั้นใส่สีผสมอาหารสีเหลืองลงไป 

  3. นำส่วนผสมมาหยอดใส่พิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 20-25 นาที เมื่อครบเวลานำออกมาพักบนตะแกรงให้เย็น 

  4. ทำไอซิ่งเกลซ โดยผสมน้ำมะนาวกับน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน บีบหรือราดบนตัวเค้ก และตกแต่งด้วยเลมอนตามชอบ 
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กเลมอน ขนมน่ารัก ๆ อร่อยนุ่มละมุนไม่เลี่ยน

4. เค้กใบเตยครีมสดมะพร้าวอ่อน

เค้กใบเตยครีมสดมะพร้าวอ่อน

สูตรจาก คุณ sujitrar สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           เอาใจบ้านที่ไม่มีเตาอบกันด้วยเมนูเค้กใบเตยครีมสดมะพร้าวอ่อนสุดน่ารัก ที่ไม่ต้องตีให้เมื่อยแขน ไม่ต้องอบ วิธีการทำแสนง่าย จะทำแจก ทำขาย ก็ได้หมดเลยค่ะ

ส่วนผสม เค้กใบเตย

  • แป้งเค้ก 150 กรัม

  • ผงฟู 1 ช้อนชา

  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา

  • นมข้นจืด 50 กรัม

  • น้ำมะนาว 2 ช้อนชา

  • ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 2 ฟอง

  • น้ำตาลทราย 100 กรัม

  • น้ำใบเตยเข้มข้น 120 กรัม

  • น้ำมันดอกทานตะวัน 100 กรัม

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

ส่วนผสม ครีมสดมะพร้าวอ่อน

  • วิปปิ้งครีม 150 กรัม

  • นมข้นหวาน 1/2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำใบเตยเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ 

  • มะพร้าวอ่อนตามชอบ

วิธีทำเค้กใบเตยครีมสดมะพร้าวอ่อน

  1. ร่อนแป้ง ผงฟู และเบกกิ้งโซดา รวมกันแล้วพักไว้ 

  2. ทำบัตเตอร์มิลค์ โดยผสมนมและน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน พักไว้

  3. ใส่ไข่และน้ำตาลในโถผสม ตีให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนผสมบัตเตอร์มิลค์ที่เตรียมไว้ น้ำใบเตย น้ำมัน และเกลือ ผสมให้เข้ากัน 

  4. ทยอยใส่แป้งลงในส่วนผสมของเหลว คนจนเข้ากันดี ไม่เห็นแป้งเป็นเม็ดขาว 

  5. เทใส่พิมพ์ นำลงซึ้งที่ตั้งน้ำเดือด นึ่งประมาณ 50 นาที หรือจนกว่าจะสุก เมื่อครบเวลาหรือสุก นำขึ้นพักให้เย็นตัว เมื่อเย็นตัวให้ตัดเนื้อเค้กออกเป็น 2 ชั้น 

  6. ทำครีมสด โดยตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอดแข็ง ใส่น้ำใบเตยและนมข้นหวาน ตีผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่ถุงบีบ

  7. บีบวิปปิ้งครีมลงบนเค้ก ปาดครีมให้เรียบ แล้ววางด้วยมะพร้าวอ่อน หลังจากนั้นนำเค้กชั้นบนมาปิด แล้วบีบวิปปิ้งครีม ปาดให้เรียบ 

  8. หลังจากนั้นบีบดอก นำเข้าตู้เย็นให้วิปปิ้งครีมเซตตัว แล้วตัดเสิร์ฟได้เลย
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กใบเตยครีมสดมะพร้าวอ่อน สูตรไม่ใช้เตาอบ ทำแจกทำขายก็แจ่ม

5. เค้กบลูเบอร์รีงาดำ

เค้กบลูเบอร์รีงาดำ

สูตรจาก ครัวป้ามารายห์

           เบื่อบลูเบอร์รีชีสเค้กหรือบลูเบอร์รีชีสพายกันหรือยัง ลองเปลี่ยนมาทำเมนูเค้กบลูเบอร์รีงาดำดูดีกว่า ด้วยเนื้อเค้กใส่ผิวมะนาว เพิ่มความหอมสดชื่นและงาดำเพื่อความเฮลธ์ตี้ ท็อปด้วยบลูเบอร์รีฉ่ำ ๆ ด้านบน และตกแต่งด้วยไอซิ่งหวานมัน เห็นแบบนี้แล้วใครจะอดใจไม่กินไหวบ้างนะ

ส่วนผสม บลูเบอร์รีสำหรับแต่งหน้าเค้ก

  • บลูเบอร์รี 150 กรัม

  • น้ำตาลป่น 15 กรัม

  • แป้งเค้ก 5 กรัม

  • ส่วนผสม แป้งเค้ก

  • เนยสดรสเค็ม 100 กรัม

  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

  • น้ำตาลทราย 90 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา

  • ไข่ไก่ 1 ฟอง

  • โยเกิร์ต 70 กรัม

  • ผิวมะนาว 1 ลูก

  • แป้งเค้ก 135 กรัม

  • ผงฟู 1 ช้อนชา

  • งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม ไอซิ่งสำหรับแต่งหน้าเค้ก

  • ไอซิ่ง 150 กรัม

  • นม 15 มิลลิลิตร

วิธีทำเค้กบลูเบอร์รีงาดำ

  1. ทำหน้าบลูเบอร์รี โดยผสมน้ำตาลป่น แป้งเค้ก และบลูเบอร์รี คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้ 

  2. ทำแป้งเค้ก โดยตีเนยสด เกลือป่น น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลา ตีจนเนยขึ้นฟูเล็กน้อย จากนั้นใส่ไข่ไก่ โยเกิร์ต และผิวมะนาว ในชามผสม ตีจนเข้ากัน

  3. ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูลงไปในส่วนผสมเนย ตะล่อมแป้งหรือตีจนเข้ากัน ใส่งาดำลงไป ตะล่อมจนเข้ากัน

  4. เทส่วนผสมแป้งลงไปในพิมพ์ ตักบลูเบอร์รีลงไปตรงกลาง อบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 35-40 นาที

  5. ทำส่วนผสมสำหรับราดหน้า โดยผสมนมกับน้ำตาลไอซิ่ง คนจนละลายเข้ากัน ใช้วาดตกแต่งบนเค้ก
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กบลูเบอร์รีงาดำ เครื่องแน่นอร่อยฉ่ำหอมเนย

6. เค้กเผือก

เค้กเผือก

สูตรจาก ครัวป้ามารายห์

           สวยหวานมาก ๆ กับเมนูเค้กเผือก เนื้อเค้กสีม่วงหอมกลิ่นเผือก เพิ่มสัมผัสด้วยชั้นเผือกกวนและครีมสด ใครได้กินเป็นต้องติดใจทุกราย

ส่วนผสม เนื้อเค้กสปันจ์

  • ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 2 ฟอง

  • น้ำตาลทราย 50-60 กรัม

  • สารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี (SP) หรือโอวาเล็ต (Ovalet) 10 กรัม

  • น้ำ 25 กรัม

  • นมสด หรือนมจืด 25 กรัม

  • กลิ่นเผือก 1/2 ช้อนชา

  • แป้งเค้ก 80 กรัม

  • ผงฟู 1 ช้อนชา

  • สีผสมอาหารสีม่วง 

  • เนยเค็มละลาย 80 กรัม

ส่วนผสม เผือกกวน

  • เผือกนึ่ง 400 กรัม

  • น้ำตาลทราย 80 กรัม

  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 

  • น้ำมันพืช 100 กรัม 

  • สีผสมอาหารสีม่วง

ส่วนผสม ครีมสด

  • วิปปิ้งครีม 300 กรัม

  • น้ำตาลไอซิ่ง 30 กรัม

วิธีทำเค้กสปันจ์เผือก

  1. ตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย และสารเสริมคุณภาพเอสพี หรือโอวาเล็ต จนขึ้นฟูหรือสีไข่ดูอ่อนลง

  2. ใส่น้ำ นม และกลิ่นเผือก ลงไป ตีต่อประมาณ 5-10 นาที หรือจนส่วนผสมฟูขึ้น 2-3 เท่า 

  3. ใส่แป้งที่ร่อนกับผงฟูลงไป เอาตะกร้อตะล่อมเบา ๆ และตีด้วยความเร็วต่ำ จากนั้นใส่สีผสมอาหารสีม่วงลงไป ตีประมาณ 3 นาที หรือจนเข้ากัน และค่อย ๆ ใส่เนยละลายลงไป ตีต่ออีก 3-5 นาที

  4. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 35-40 นาที อบเสร็จแล้วพักไว้ให้เย็นสนิท และนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เค้กเซตตัว

วิธีทำเผือกกวน

  1. นึ่งเผือกให้สุกแล้วนำมาบดให้ละเอียด กวนจนได้ส่วนผสมที่ไม่แห้งมากจนเกินไป 

  2. เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำมันพืช กวนทุกอย่างให้ละลายเข้ากัน พอกวนได้ที่แล้วก็ใส่สีผสมอาหารสีม่วง คนให้ทั่วแล้วทำมากรองด้วยตะแกรงอีกที แล้วพักให้เย็น

วิธีทำครีมสดและประกอบตัวเค้ก

  1. ตีวิปปิ้งครีมกับไอซิ่งจนตั้งยอดแข็ง เตรียมไว้ 

  2. แบ่งเค้กเป็น 2 ชั้น โดยปาดครีมลงไปที่ชั้นแรกก่อน แล้วปาดด้วยเผือกกวนทับลงไปอีกชั้น นำเค้กอีกแผ่นมาวางประกบ ปาดด้วยวิปครีมให้ทั่วทั้งก้อนเค้ก

  3. แต่งหน้าด้วยวิปครีมและเผือกกวนตามใจชอบ หลังจากนั้นแช่ตู้เย็นให้เค้กเซตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนนำมาตัดเสิร์ฟ
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กเผือก เค้กสีม่วงเนื้อนุ่มซ่อนเผือกกวนหวานอร่อย

7. เค้กสปันจ์ Topo Map Cake ลายแผนที่

เค้กสปันจ์ Topo Map Cake ลายแผนที่

สูตรจาก ครัวป้ามารายห์

           เค้กสปันจ์เลเยอร์สวย เนื้อเค้กนุ่มหอมฟุ้งกลิ่นใบเตยและวานิลลา แบ่งเป็นชั้น ๆ ทำเป็นลายแผนที่สุดเก๋ด้วยผงโกโก้ จะกินเป็นขนมหวานหลังอาหาร หรือกินคู่กับชา-กาแฟยามบ่าย ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว

ส่วนผสม Topo Map Cake

  • ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 5 ฟอง

  • น้ำตาลทราย 150 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

  • น้ำหรือนมจืด 115 มิลลิลิตร

  • สารเสริมคุณภาพเอสพี SP หรือโอวาเล็ต 1 ช้อนโต๊ะ

  • แป้งเค้ก 200 กรัม

  • เนยเค็มละลาย 125 มิลลิลิตร

  • สีผสมอาหารตามชอบ

  • ผงโกโก้

วิธีทำ Topo Map Cake

  1. ตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย นม กลิ่นวานิลลา และสารเสริมคุณภาพเอสพี หรือโอวาเล็ต ตีด้วยความเร็วสูง ค่อย ๆ ใส่แป้งลงไป ตีประมาณ 5-10 นาที หรือจนส่วนผสมฟูขึ้น 2-3 เท่า

  2. ค่อย ๆ เทเนยละลายลงไปให้ไหลเป็นสาย จากนั้นตีต่อประมาณ 3-5 นาที แล้วแบ่งส่วนผสมเป็นส่วน ๆ เพื่อผสมสีตามชอบ 

  3. นำส่วนผสมใส่ถุงบีบ บีบลงไปในพิมพ์ ปรับเกลี่ยให้เสมอ โรยผงโกโก้ลงไป ทำสลับสีเป็นชั้น ๆ ได้เลย และชั้นสุดท้ายที่อยู่บนสุดไม่ต้องโรยผงโกโก้ 

  4. อบอุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 50-60 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม เมื่อครบเวลานำออกจากเตาอบมาพักไว้จนเย็นสนิท 

  5. ตัดเป็นชิ้น ๆ เพื่อเสิร์ฟ
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กสปันจ์ Topo Map Cake ลายแผนที่สุดอาร์ต อร่อยนุ่มฟูทำง่าย

8. เค้กไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา

เค้กไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา

สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน

         ตามกระแสเค้กไส้ทะลักกันหน่อยกับเมนู เค้กไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา เนื้อเค้กสีครีมสอดไส้ซอสสตรอว์เบอร์รีฉ่ำ ๆ หวานอมเปรี้ยว หน้าตาสวยหรูแต่ทำง่ายแบบไม่น่าเชื่อเลย

ส่วนผสม ไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา

  • แป้งเค้ก 30 กรัม

  • ไวท์ช็อกโกแลต (หั่นชิ้นเล็ก) 60 กรัม

  • สีผสมอาหารสีขาวชนิดผง 1 ช้อนโต๊ะ

  • ไข่ไก่ 4 ฟอง

  • น้ำตาลทราย 40 กรัม

  • เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม

  • แยมสตรอว์เบอร์รี 3 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำตาลไอซิ่ง (สำหรับโรย)

  • สตรอว์เบอร์รีสด (สำหรับแต่ง)

วิธีทำไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา

  1. ร่อนแป้งเค้กลงในอ่างผสม พักไว้

  2. เตรียมไวท์ช็อกโกแลตกับเนยสดลงในอ่างผสม ยกขึ้นตุ๋นบนน้ำร้อน คนจนละลาย ยกลงพักไว้ให้เย็น ใส่สีผสมอาหารสีขาวลงไป คนให้เข้ากันดี

  3. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายด้วยตะกร้อมือพอเข้ากัน ใส่ไวท์ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนให้เข้ากัน

  4. ใส่แป้งเค้กที่ร่อนแล้ว คนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน ตักใส่พิมพ์อะลูมิเนียมที่ทาเนยสด โรยน้ำตาลทรายประมาณ 3/4 ของพิมพ์ ใส่แยมสตรอว์เบอร์รีลงไปตรงกลาง กดให้จมลงในเนื้อเค้ก

  5. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 12-15 นาที

  6. นำออกจากเตาอบ คว่ำออกจากพิมพ์ โรยน้ำตาลไอซิ่ง แต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา สวีตหวานสำหรับคนพิเศษ

9. ชีสเค้กมะม่วง

ชีสเค้กมะม่วง

สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           คนรักมะม่วงต้องเลิฟเมนูนี้ กับชีสเค้กมะม่วงสูตรโฮมเมด เนื้อครีมชีสมะม่วงบนฐานชีสกรุบกรอบ เพิ่มความน่ารักน่ากินด้วยรูปทรงและลวดลายชีสเก๋ ๆ เลียนแบบการ์ตูนดัง ทำง่ายมาก ๆ ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมเลย

ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก

  • แครกเกอร์ 90 กรัม
  • เนยละลาย 50 กรัม

ส่วนผสม ครีมชีสมะม่วง

  • เจลาตินแผ่น 8 กรัม
  • น้ำเย็น
  • มะม่วง (ผ่านการปั่นและกรองแล้ว) 80 กรัม
  • ครีมชีส 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 60 กรัม
  • น้ำมะนาว 150 กรัม
  • สีผสมอาหารสีเหลือง
  • วิปครีม 150 กรัม

วิธีทำชีสเค้กมะม่วง

  1. เริ่มทำฐาน โดยนำแครกเกอร์เข้าเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด หลังจากนั้นใส่เนยละลายลงไป ปั่นต่อให้เข้ากัน

  2. เทส่วนผสมของฐานลงในพิมพ์ถอดก้นได้ กดให้แน่น และนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที 

  3. ทำส่วนชีสเค้กกัน โดยนำเจลาตินแบบแผ่นแช่ในน้ำเย็นอย่างน้อย 15 นาที ให้เจลาตินบวมเต็มที่ 

  4. ปั่นมะม่วงสุกให้ละเอียด เสร็จแล้วนำไปกรองผ่านตะแกรง 

  5. ตีครีมชีสให้เนียนแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่มะม่วงปั่น น้ำมะนาว เจลาตินละลาย และสีผสมอาหารสีเหลือง 

  6. ตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอดกลาง ค่อย ๆ ทยอยใส่วิปครีมประมาณ 2 รอบลงในส่วนของครีมชีส และตะล่อมจนเนื้อเนียน 

  7. เทส่วนผสมครีมชีสมะม่วงลงบนฐานแครกเกอร์แล้วเกลี่ยหน้าให้เรียบ จากนั้นนำไปแช่เย็นเพื่อให้เนื้อขนมเซตตัว เมื่อขนมแข็งตัวดีแล้วให้ถอดพิมพ์ออก 

  8. ใช้ที่ตักผลไม้จุ่มลงในน้ำอุ่นแล้วเช็ดให้แห้ง ค่อย ๆ ตักชีสเค้กออกเป็นครึ่งวงกลม จะเอาวงเล็กหรือวงใหญ่ก็ตามสะดวก
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กมะม่วง Tom & Jerry สูตรโฮมเมดรูปทรงชีสเก๋ ๆ

10. นิวยอร์กชีสเค้ก

นิวยอร์กชีสเค้ก

สูตรจาก คุณ Little Pastry Chef

           แหวกแนวนิวยอร์กชีสเค้กแบบเดิม ๆ ด้วยการเพิ่มรสชาติและความสวยงามน่ากินจากแยมผลไม้สดสุดน่ารัก อร่อยแถมไม่เลี่ยนแบบนี้ ให้กินแค่ชิ้นเดียวคงไม่พอแน่ ๆ

ส่วนผสม ตัวฐานชีสเค้ก

  • บิสกิตไดเจสทีฟ 100 กรัม (1 ถ้วย)

  • เนยจืด 60 กรัม

ส่วนผสม ชีสเค้ก

  • ครีมชีส (Philadelphia Cheese) 625 กรัม

  • น้ำตาลทราย 70 กรัม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ

  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ

  • โยเกิร์ต 135 กรัม

  • ไข่ไก่ 2 ฟอง

ส่วนผสม สำหรับตกแต่งชีสเค้ก

  • สตรอว์เบอร์รี 6-9 ลูก

  • ราสป์เบอร์รี 6-9 ลูก

  • แยมสตรอว์เบอร์รี 45 กรัม

วิธีทำนิวยอร์กชีสเค้ก

  1. เริ่มทำฐาน โดยนำบิสกิตมาบดให้ละเอียด ใส่เนยละลาย คนให้เข้ากัน นำไปกรุในพิมพ์ให้แน่น และนำไปอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที และพักทิ้งไว้ให้เย็น

  2. ทำครีมชีส เริ่มจากนำครีมชีส นํ้าตาลทราย แป้งสาลีอเนกประสงค์ และกลิ่นวานิลลา มาใส่ในชามผสม ตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่โยเกิร์ตและไข่ไก่ ตีผสมจนเข้ากันดี 

  3. นำส่วนของครีมชีสเทลงในพิมพ์เค้กที่กรุบิสกิตไว้แล้ว นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที หลังจากนั้นปรับอุณหภูมิเตาอบลงมาที่ 135 องศาเซลเซียส และอบต่ออีก 35 นาที เมื่อครบเวลาจึงนำออกมาพัก และนำเข้าตู้เย็นอย่างต่ำประมาณ 4 ชั่วโมง 

  4. ตกแต่งหน้าชีสเค้ก โดยนำสตรอว์เบอร์รีเเละราสป์เบอร์รีมาล้างทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง แล้วนำสตรอว์เบอร์รีมาหั่นครึ่ง 

  5. นำแยมสตรอว์เบอร์รีไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 20 วินาที จากนั้นใส่สตรอว์เบอร์รีและราสป์เบอร์รีที่หั่นไว้ลงในแยม แล้วคนผสมอย่างเบามือ จากนั้นนำไปตกแต่งหน้าชีสเค้กได้เลย 
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ นิวยอร์กชีสเค้ก สูตรขนมอร่อยหวานมันน่ารักฟรุ้งฟริ้ง

11. บลูเบอร์รีชีสเค้ก

บลูเบอร์รีชีสเค้ก

สูตรจาก คุณ Little Pastry Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          มาดูวิธีการทำขนมหวานยอดฮิตที่ครองใจสายหวานทั้งหลายกับ บลูเบอร์รีชีสเค้ก สูตรไม่ง้อเตาอบ แต่ได้ฐานที่กรุบกรอบมาพร้อมครีมชีสหอมอร่อย และปิดท้ายราดซอสบลูเบอร์รีเข้มข้นแบบจุก ๆ

ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก

  • เนยจืด 35 กรัม
  • บิสกิตไดเจสทีฟ 70 กรัม
  • ส่วนผสม ชีสเค้ก
  • แผ่นเจลาติน 6 กรัม
  • ครีมชีส 300 กรัม
  • น้ำตาลทราย 46 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • วิปปิ้งครีม 300 กรัม
  • นม 46 กรัม

ส่วนผสม ซอสบลูเบอร์รีโฮมเมด

  • บลูเบอร์รี 100 กรัม
  • น้ำตาลทราย 45 กรัม
  • น้ำส้ม 85 กรัม
  • แป้งข้าวโพด 10 กรัม
  • น้ำ 20 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำบลูเบอร์รีชีสเค้ก

  1. ทำฐาน เริ่มจากละลายเนยและบดบิสกิตให้ละเอียด นำมาผสมให้เข้ากัน กรุลงในพิมพ์ กดให้แน่น และนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที 

  2. ทำชีสเค้ก เริ่มจากแช่แผ่นเจลาตินในน้ำเย็น และผสมครีมชีส น้ำตาลทราย และวานิลลา ในอ่างผสม คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่วิปปิ้งครีมลงไป ตีให้ตั้งยอดอ่อน 

  3. นำนมไปอุ่นในไมโครเวฟ ใส่เจลาตินที่รีดน้ำออกจนหมดลงไป คนให้เจลาตินละลาย แล้วนำไปผสมกับครีมชีส คนให้เข้ากัน 

  4. ใส่ส่วนผสมครีมชีสลงในพิมพ์ ปาดหน้าให้เรียบ นำไปแช่เย็นประมาณ 2-4 ชั่วโมง เมื่อครบเวลานำออกมาเพื่อถอดพิมพ์ 

  5. ทำซอสบลูเบอร์รี เริ่มจากนำบลูเบอร์รี น้ำส้ม และน้ำตาลทราย ใส่ลงไปในหม้อแล้วนำไปต้ม โดยใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน เมื่อบลูเบอร์รีที่ต้มไว้เดือดก็ปิดไฟ 

  6. ใส่น้ำลงไปในแป้งข้าวโพดที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน เทลงไปในหม้อต้มบลูเบอร์รี คนให้เข้ากันดี แล้วเปิดไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ต้มซอสต่อจนเดือดอีกรอบแล้วยกลงจากเตา ใส่น้ำมะนาวที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน พักให้เย็น เมื่อเย็นสนิทดีจึงนำไปตกแต่งหน้าเค้ก
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บลูเบอร์รีชีสเค้ก สูตรขนมวาเลนไทน์สุดฮิต ทำง่ายไม่อบ

12. ชีสเค้กทอมแอนด์เจอร์รี่ สูตรคีโต

ชีสเค้กทอมแอนด์เจอร์รี่ สูตรคีโต

สูตรจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

            สายเฮลธ์ตี้ที่ชอบกินขนมหวานต้องชอบเมนูนี้ เพราะเป็นเมนูชีสเค้กสูตรแคลอรีต่ำ ไม่ต้องอบ ไม่ใส่แป้ง และไม่มีน้ำตาล ใครที่กำลังลดหุ่นแต่ยังชอบกินขนม ต้องลองสูตรนี้เลย

ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก

  • แป้งอัลมอนด์ 20 กรัม

  • ผงโกโก้ 10 กรัม

  • อิริทริทอล (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) 15 กรัม

  • เนยละลาย 20 กรัม

ส่วนผสม ครีมชีส

  • แผ่นเจลาติน 1/2 แผ่น

  • น้ำอุ่น

  • ครีมชีส 50 กรัม

  • อิริทริทอล (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) 25 กรัม

  • วิปปิ้งครีม 100 กรัม

  • สีผสมอาหารตามชอบ

วิธีทำชีสเค้กทอมแอนด์เจอร์รี่

  1. ทำฐานเค้กก่อน โดยผสมแป้งอัลมอนด์ โกโก้ และอิริทริทอล เข้าด้วยกัน แล้วตามด้วยเนยละลาย กรุที่ก้นพิมพ์ แล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที 

  2. ทำตัวชีสเค้ก เริ่มจากแช่แผ่นเจลาตินในน้ำอุ่นทิ้งไว้ จากนั้นผสมครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) กับอิริทริทอล คนให้เนียน ตามด้วยเจลาตินและสีผสมอาหาร คนให้เข้ากัน 

  3. ตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอดอ่อน จากนั้นเทลงไปในส่วนผสมครีมชีส และใส่สีผสมอาหาร จากนั้นคนให้เข้ากัน 

  4. แกะฐานช็อกโกแลตที่เซตตัวแล้วออกมา จากนั้นหยอดตัวชีสเค้กลงในพิมพ์ และวางทับด้วยตัวฐานช็อกโกแลต แล้วนำไปแช่ช่องแข็งประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้เซตตัว เมื่อครบเวลาจึงนำออกมาแกะจากพิมพ์และเสิร์ฟได้เลย
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กทอมแอนด์เจอร์รี่ สูตรคีโต ไม่มีน้ำตาลเนื้อละมุนไม่ต้องอบ

13. มูสเค้กสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต

มูสเค้กสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต

สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2051857 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           อีกหนึ่งเมนูขนมหวานสูตรคีโต เอาใจสายเฮลธ์ตี้ทั้งหลายกับสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตมูสเค้ก สูตรไม่ใช้เตาอบ และไม่มีน้ำตาล แต่ยังได้รสชาติที่เข้มข้นหอมหวานมัน ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพแบบนี้ต้องทำกินแล้วล่ะ

ส่วนผสม ฐานเค้ก

  • แป้งอัลมอนด์ 25 กรัม

  • เนยละลาย 10 กรัม

  • ส่วนผสม มูสเค้ก

  • เจลาติน 2 แผ่น

  • กรีกโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 60 กรัม

  • อิริทริทอล (สารให้ความหวาน) 40 กรัม

  • วิปปิ้งครีม 70 มิลลิลิตร

  • ซอสสตรอว์เบอร์รี 50 กรัม

  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

  • สตรอว์เบอร์รีสด สำหรับแต่ง

ส่วนผสม ซอสสตรอว์เบอร์รี

  • สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 150 กรัม

  • อิริทริทอล 20 กรัม

  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตมูสเค้ก

  1. ทำฐาน เริ่มโดยใส่เนยละลายลงในแป้งอัลมอนด์ คลุกให้เข้ากัน นำไปกรุลงพิมพ์ กดให้แน่น และนำไปแช่เย็น 

  2. ทำซอสสตรอว์เบอร์รี โดยใส่สตรอว์เบอร์รี อิริทริทอล และน้ำมะนาว ลงในชาม คลุกส่วนผสมให้เข้ากันแล้วนำเข้าไมโครเวฟสัก 2 นาที บี้ให้พอหยาบ จากนั้นนำไปปั่นให้เหลวข้นเป็นซอส 

  3. ทำมูสเค้ก โดยแช่แผ่นเจลาตินในน้ำ และพักไปตีวิปครีมให้ขึ้นฟู จากนั้นแบ่งวิปปิ้งครีมมาใส่แผ่นเจลาตินที่นิ่มสัก 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำเข้าไมโครเวฟ 20 วินาที เพื่อให้เจลาตินละลาย และคนให้เข้ากัน 

  4. ผสมส่วนผสมโยเกิร์ต อิริทริทอล วิปครีมที่ละลายเจลาติน ซอสสตรอว์เบอร์รี และน้ำมะนาว คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ จากนั้นใส่วิปปิ้งครีมที่ตีแล้วลงไป และตะล่อมให้เข้ากัน 

  5. เทส่วนผสมลงพิมพ์ นำไปแช่เย็นประมาณ 5-6 ชั่วโมง เมื่อครบเวลานำออกจากพิมพ์ และตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมและสตรอว์เบอร์รีสด 
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตมูสเค้ก สูตรคีโต ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ง้อเตาอบ

14. เค้กโรลมะม่วง

เค้กโรลมะม่วง

สูตรจาก คุณ Bake with heart สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           ผลไม้หน้าร้อนยอดฮิตอย่างมะม่วงสุก กินแบบสด ๆ กับข้าวเหนียวมูนก็ฟิน หรือจะเอามาทำเป็น เค้กมินิมอล ในแบบโรลสอดไส้ครีมสดก็อร่อย ยิ่งแช่เย็นก็ยิ่งสดชื่น คลายร้อน

ส่วนผสม เค้กโรลวานิลลา

  • ไข่ไก่ 3 ฟอง

  • น้ำตาลทราย 65 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา

  • เกลือ 1 หยิบนิ้ว

  • แป้งเค้ก 65 กรัม

  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา

  • น้ำมันพืช 15 กรัม

  • มะม่วงสุก

  • ผลไม้แต่งตามชอบ

ส่วนผสม ไซรัป

  • น้ำต้มสุก 15 กรัม (เย็นแล้ว)

  • น้ำตาลทราย 10 กรัม

  • เหล้ามาลิบู (Malibu) 1 ช้อนชา 

ส่วนผสม ครีมสด

  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม

  • น้ำตาลทราย 25 กรัม

วิธีทำเค้กโรลมะม่วง

  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง และแยกไข่แดงกับไข่ขาวเตรียมไว้ 

  2. ตีไข่ขาวให้มีฟองหยาบ ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อย ตีจนตั้งยอดกลาง จากนั้นใส่ไข่แดงลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลลาและเกลือลงไป และร่อนแป้งกับผงฟูใส่ลงไป แล้วผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ

  3. เทลงใส่ถาดที่เตรียมไว้ รองกระดาษรองอบให้เรียบร้อย ปาดให้เรียบเสมอกัน นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส ประมาณ 12 นาที หรือจนกว่าจะสุก 

  4. เมื่อครบเวลาหรือขนมสุกแล้วให้นำมาพัก และแกะมุมกระดาษออก จากนั้นม้วนไปทั้งกระดาษ รอให้เย็น จึงค่อยคลี่ขนมออก 

  5. ทำส่วนผสมไซรัปโดยผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ใช้ช้อนคนให้น้ำตาลละลายเข้ากันดี เสร็จแล้วใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อมแล้วทาให้ชุ่มทั่วเค้กทั้งแผ่น

  6. ทำส่วนผสมครีมสด โดยตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายจนตั้งยอด และแบ่งครีมออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกสำหรับปาดโรลเค้ก และส่วนที่เหลือสำหรับตกแต่งด้านบน 

  7. บีบครีมสดลงบนตัวเค้ก และหั่นมะม่วงสุกลงไปตามชอบ ม้วนเค้กให้เป็นโรล จากนั้นนำไปแช่เย็นให้เค้กเซตตัวประมาณ 1 ชั่วโมง จึงค่อยตัดแบ่งเป็นชิ้นและบีบครีมตกแต่งด้านบน
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กโรลมะม่วง เนื้อนุ่มสอดไส้ครีมสดกับผลไม้หน้าร้อน

15. คัพเค้กครีมบลูเบอร์รี

คัพเค้กครีมบลูเบอร์รี

สูตรจาก ครัวป้ามารายห์

           เพิ่มความมินิมอลให้กับคัพเค้กแสนอร่อย กับสูตรโฮมเมดที่ใช้น้ำมันรำข้าวจนได้เป็นเนื้อสปันจ์นุ่มแน่น รสชาติหวานน้อย ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก แค่ไม่กี่ขั้นตอนก็ได้คัพเค้กสุดน่ารักมากินแล้ว

ส่วนผสม คัพเค้ก

  • ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 4 ฟอง

  • น้ำตาลทราย 100 กรัม

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

  • นมจืด 70 มิลลิลิตร

  • แป้งเค้ก 135 กรัม

  • ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา

  • สารเสริม SP หรือโอวาเล็ต 12 กรัม

  • น้ำมันรำข้าว 80 มิลลิลิตร

ส่วนผสม สำหรับแต่งหน้า

  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม

  • สีผสมอาหารสีตามชอบ

  • ฟิลลิ่งบลูเบอร์รี

วิธีทำคัพเค้ก

  1.  ตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือป่น นมจืด และกลิ่นวานิลลา ร่อนแป้งกับผงฟูลงไป ตามด้วยสารเสริม SP ตีจนขึ้นฟู และค่อย ๆ เทน้ำมันรำข้าวลงไป ตีต่ออีก 5 นาที 

  2. นำส่วนผสมหยอดใส่พิมพ์ และอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม เป็นเวลา 25-30 นาที เมื่อครบเวลานำออกจากพิมพ์ พักไว้จนเย็นสนิท 

  3. ทำวิปปิ้งครีม เริ่มจากตีวิปปิ้งครีม (ชนิดหวาน) บนน้ำผสมน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัด ตีจนตั้งยอดแข็ง ผสมสีตามชอบ และเทใส่ถุงบีบ 

  4. บีบวิปปิ้งครีมและฟิลลิ่งบลูเบอร์รีหรือรสต่าง ๆ ตามชอบลงบนตัวคัพเค้ก
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คัพเค้กครีมบลูเบอร์รี สูตรทำขาย อร่อยนุ่มประหยัดต้นทุน

16. คัพเค้กไฮเดรนเยีย

คัพเค้กไฮเดรนเยีย

สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           มาดูวิธีทำ เค้กมินิมอล เมนูสุดท้าย เป็นคัพเค้กสุดน่ารักไม่ซ้ำใคร กับเนื้อชิฟฟ่อนรสเลมอน เปรี้ยวนิด ๆ กับครีมชีสดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าแสนสดใส รสชาติหวานอมเปรี้ยว สดชื่น ไม่เลี่ยน กินได้ไม่มีเบื่อแน่นอน

ส่วนผสม ชิฟฟ่อน

  • ไข่ขาว 3 ฟอง

  • น้ำตาลทราย A 30 กรัม

  • ไข่แดง 3 ฟอง

  • น้ำตาลทราย B 30 กรัม

  • น้ำมันพืช 30 กรัม

  • น้ำเลมอน 30 กรัม

  • แป้งเค้ก 70 กรัม

  • ผงฟู 1/4 ช้อนชา

ส่วนผสม ครีมชีสฟรอสติ้ง

  • ครีมชีส 120 กรัม

  • น้ำตาลทราย 45 กรัม

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 30 กรัม

  • น้ำเลมอน 2 ช้อนชา

  • วิปปิ้งครีม 100 กรัม

  • สีผสมอาหารสีเขียว

  • สีผสมอาหารสีฟ้า

วิธีทำคัพเค้กไฮเดรนเยีย

  1. ทำเมอแรงค์ไข่ขาว โดยตีไข่ขาวเป็นฟองหยาบ ใส่น้ำตาลทราย ตีต่อจนส่วนผสมแน่นขึ้น และตั้งเป็นยอดแข็ง 

  2. ทำส่วนผสมไข่แดง โดยผสมไข่แดง น้ำตาลทราย น้ำมันพืช และน้ำเลมอน ตีจนส่วนผสมเข้ากัน 

  3. ร่อนแป้งและผงฟูลงในส่วนผสมไข่แดง ตีด้วยสปีดต่ำจนส่วนผสมเข้ากัน 

  4. ผสมเมอแรงค์และส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมจนส่วนผสมเนียน ตักใส่ถ้วย นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 18-20 นาที 

  5. ทำครีมชีสฟรอสติ้ง โดยตีครีมชีส น้ำตาลทราย โยเกิร์ต น้ำเลมอน วิปปิ้งครีม ให้ขึ้นยอดแข็ง 

  6. แบ่งครีมชีสฟรอสติ้งออกเป็นส่วน ใส่สีผสมอาหารสีเขียวทำเป็นใบไม้ และสีฟ้าทำเป็นดอกไฮเดรนเยีย ตักครีมชีสลงในถุงบีบ พักไว้ 

  7. บีบครีมสีเขียวลงบนคัพเค้ก ทำเป็นใบไม้ก่อน จากนั้นจึงบีบครีมสีฟ้า ทำเป็นดอกลงไปให้เต็ม
     

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คัพเค้กไฮเดรนเยียสีฟ้า ไอเดียแต่งหน้าเค้กมอบเป็นขนมวันแม่

           เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 16 เมนู เค้กมินิมอล ที่เราเอามาฝากกัน แม้จะดูหน้าตาเรียบง่าย แต่ขอบอกเลยว่ารสชาติอร่อยเด็ดขาด ถูกใจสายหวานทุกคนแน่นอน ลองเอาไปทำกันดูนะคะ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
16 เค้กมินิมอล สูตรของหวานแห่งความสุขที่ต้องมีในทุกเทศกาล อัปเดตล่าสุด 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 15:04:00 46,908 อ่าน
TOP
x close