สูตรเค้กง่าย ๆ
1. เค้กเลมอน
ส่วนผสม เค้กเลมอน
-
เนยสดรสเค็ม 100 กรัม
-
ครีมชีส 110 กรัม
-
น้ำตาลทราย 80-90 กรัม
-
ไข่ไก่ 3 ฟอง
-
แป้งอเนกประสงค์ หรือแป้งเค้ก 135 กรัม
-
ผงฟู 1 ช้อนชา
-
น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผิวเลมอน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
-
สีผสมอาหารสีเหลือง
-
เลมอน (สำหรับตกแต่ง)
ส่วนผสม ไอซิ่งเกลซมะนาว
-
ไอซิ่ง 150 กรัม
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำเค้กเลมอน
-
ใส่เนยสดรสเค็มลงอ่างผสม ตีจนเนยขึ้นฟูเล็กน้อย ตามด้วยครีมชีส ตีจนเข้ากัน
-
ใส่น้ำตาลทราย ปั่นจนเข้ากัน ตามด้วยไข่ไก่ ตีจนเข้ากัน ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูลงไป
-
ตะล่อมแป้งหรือตีจนเข้ากัน ใส่น้ำเลมอนกับผิวเลมอนลงไป จากนั้นใส่สีผสมอาหารสีเหลืองลงไป
-
หยอดใส่พิมพ์ประมาณ 3/4 ของถ้วย อบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 20-25 นาที นำออกมาพักบนตะแกรงจนเย็น
-
ทำไอซิ่งเกลซ โดยผสมน้ำมะนาวกับน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน บีบหรือราดบนเค้ก ตกแต่งด้วยเลมอน
2. ไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา
ส่วนผสม ไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา
-
แป้งเค้ก 30 กรัม
-
ไวท์ช็อกโกแลต (หั่นชิ้นเล็ก) 60 กรัม
-
สีผสมอาหารสีขาวชนิดผง 1 ช้อนโต๊ะ
-
ไข่ไก่ 4 ฟอง
-
น้ำตาลทราย 40 กรัม
-
เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม
-
แยมสตรอว์เบอร์รี 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลไอซิ่ง (สำหรับโรย)
-
สตรอว์เบอร์รีสด (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา
-
ร่อนแป้งเค้กลงในอ่างผสม พักไว้
-
ใส่ไวท์ช็อกโกแลตกับเนยสดลงในอ่างผสม ยกขึ้นตุ๋นบนน้ำร้อน คนจนละลาย ยกลงพักไว้ให้เย็น ใส่สีผสมอาหารสีขาวลงไป คนให้เข้ากันดี
-
ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายด้วยตะกร้อมือพอเข้ากัน ใส่ไวท์ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนให้เข้ากัน
-
ใส่แป้งเค้กที่ร่อนแล้ว คนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน ตักใส่พิมพ์อะลูมิเนียมที่ทาเนยสด โรยน้ำตาลทรายประมาณ 3/4 ของพิมพ์ ใส่แยมสตรอว์เบอร์รีลงไปตรงกลาง กดให้จมลงในเนื้อเค้ก
-
นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 12-15 นาที นำออกจากเตาอบ คว่ำออกจากพิมพ์ โรยน้ำตาลไอซิ่ง แต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด
3. นิวยอร์กชีสเค้ก
ส่วนผสม ตัวฐานชีสเค้ก
-
บิสกิตไดเจสทีฟ 100 กรัม (1 ถ้วย)
-
เนยจืด 60 กรัม
ส่วนผสม ชีสเค้ก
-
ครีมชีส (Philadelphia Cheese) 625 กรัม
-
น้ำตาลทราย 70 กรัม
-
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
-
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
-
โยเกิร์ต 135 กรัม
-
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ส่วนผสม สำหรับตกแต่งชีสเค้ก
-
แยมสตรอว์เบอร์รี 45 กรัม
-
สตรอว์เบอร์รี 6-9 ลูก
-
ราสป์เบอร์รี 6-9 ลูก
วิธีทำฐานบิสกิต
-
นำบิสกิตมาบดให้ละเอียด และนำเนยไปละลายในไมโครเวฟ 20 วินาที หรือจนเนยละลาย แล้วนำมาผสมในบิสกิตให้เข้ากัน
-
นำไปกรุในพิมพ์เค้กทรงกลมถอดก้นได้ขนาด 8 นิ้ว กรุบิสกิตให้แน่น
-
นำไปอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที พักให้เย็น
วิธีทำชีสเค้ก
-
ตีผสมครีมชีส นํ้าตาลทราย แป้งสาลีอเนกประสงค์ และกลิ่นวานิลลา ให้เข้ากัน
-
ใส่โยเกิร์ตลงผสมกับครีมชีส ตีให้เข้ากัน
-
ใส่ไข่ไก่ทีละฟองลงไปผสมกับครีมชีส ตีผสมกันจนเข้ากันดี เทลงในพิมพ์เค้กที่กรุบิสกิตไว้แล้ว
วิธีทำนิวยอร์กชีสเค้ก
-
นำชีสเค้กเข้าเตาอบ อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส อบประมาณ 35 นาที หลังจากนั้นปรับอุณหภูมิเตาอบลงมาที่ 135 องศาเซลเซียส และอบต่ออีก 35 นาที หรือจนตรงกลางขนมใกล้เซตตัว นำขนมออกจากเตาอบมาพัก แล้วนำเข้าตู้เย็นอย่างต่ำประมาณ 4 ชั่วโมง
-
นำชีสเค้กออกจากพิมพ์ โดยใช้มีดปลายแหลมวนรอบพิมพ์เค้กก่อนถอดพิมพ์เค้ก
-
นำแยมสตรอว์เบอร์รีไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 20 วินาที แล้วใส่สตรอว์เบอร์รีและราสป์เบอร์รีลงไป คนผสมอย่างเบามือแล้วแต่งบนหน้าเค้ก
4. บลูเบอร์รีชีสเค้ก
ส่วนผสม บลูเบอร์รีชีสเค้ก
-
เนยจืด 35 กรัม
-
บิสกิตไดเจสทีฟ 70 กรัม
-
แผ่นเจลาติน 6 กรัม
-
ครีมชีส 300 กรัม
-
น้ำตาลทราย 46 กรัม
-
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
-
วิปปิ้งครีม 300 กรัม
-
นม 46 กรัม
ส่วนผสม ซอสบลูเบอร์รีโฮมเมด
-
บลูเบอร์รี 100 กรัม
-
น้ำตาลทราย 45 กรัม
-
น้ำส้ม 85 กรัม
-
แป้งข้าวโพด 10 กรัม
-
น้ำ 20 กรัม
-
น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำซอสบลูเบอร์รี
-
นำบลูเบอร์รี น้ำส้ม และน้ำตาลทราย ใส่ลงไปในหม้อแล้วนำไปต้ม โดยใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน เมื่อบลูเบอร์รีที่ต้มไว้เดือดแล้วปิดไฟ
-
ใส่น้ำลงไปในแป้งข้าวโพดที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน เทลงไปในหม้อต้มบลูเบอร์รี คนให้เข้ากันดี แล้วเปิดไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ต้มซอสบลูเบอร์รีต่อจนเดือดอีกรอบแล้วยกลงจากเตา
-
ใส่น้ำมะนาวที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน พักให้เย็น แล้วใส่กล่องเอาไปแช่เย็น
วิธีทำบลูเบอร์รีชีสเค้ก
-
ทำฐานชีสเค้ก โดยนำเนยใส่ในชามทนความร้อนแล้วเอาไปวางลงในหม้อที่มีน้ำร้อน รอให้เนยละลาย
-
นำบิสกิตมาบดให้ละเอียด เทเนยละลายลงไปผสมให้เข้ากัน นำตัวบิสกิตเข้าไปกรุในตัวพิมพ์เค้กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 14 เซนติเมตร กดให้แน่น เสร็จแล้วแช่ในตู้เย็น 30 นาที
-
ทำชีสเค้ก โดยนำแผ่นเจลาตินไปแช่ในน้ำเย็นจัด หรือน้ำผสมน้ำแข็ง ประมาณ 10 นาที
-
นำครีมชีส น้ำตาลทราย และวานิลลา ใส่ลงไปในอ่างผสม คนให้เข้ากัน ใส่วิปปิ้งครีมลงไปผสมกับครีมชีส ตีให้ขึ้นยอดอ่อน
-
เอานมเข้าไมโครเวฟประมาณ 20 วินาที และรีดนํ้าออกจากเจลาติน แล้วนำไปใส่ในนมที่ร้อน ผสมให้เข้ากัน นำเจลาตินที่ละลายแล้วลงไปผสมในครีมชีส คนให้เข้ากัน นำครีมชีสใส่ลงในพิมพ์ที่กรุฐานด้วยบิสกิตที่เตรียมไว้ ปาดให้หน้าชีสเค้กเรียบ แช่ไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง
-
ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นพันรอบพิมพ์เค้กเพื่อถอดพิมพ์เค้กออกจากชีสเค้ก นำซอสบลูเบอร์รีโฮมเมดมาตกแต่ง จัดเสิร์ฟ
5. แอปเปิลครัมเบิล
ส่วนผสม แป้งครัมเบิล
-
น้ำตาลทราย 20 กรัม
-
น้ำตาลทรายแดง 20 กรัม
-
แป้งอเนกประสงค์ 40 กรัม
-
เนย 40 กรัม
-
ผงอัลมอนด์ 40 กรัม
ส่วนผสม ไส้แอปเปิล
-
แอปเปิล 3 ลูก
-
น้ำตาลทราย 25 กรัม
-
เนย 10 กรัม
วิธีทำแอปเปิลครัมเบิล
-
ผสมแป้ง ผงอัลมอนด์ น้ำตาลทราย และน้ำตาลทรายแดง ลงในชามผสม จากนั้นใส่เนยลงไปแล้วตีผสมให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้พักไว้
-
ปอกแอปเปิลและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พักไว้
-
อุ่นน้ำตาลในกระทะและนำไปตั้งไฟให้ละลายเป็นคาราเมล
-
ใส่แอปเปิลที่เตรียมไว้และเนยลงไปในคาราเมล ต้มต่อสักพักจนแอปเปิลสุก นำแอปเปิลที่ได้มาใส่ลงในถ้วยเซรามิก
-
ตัดแป้งมาเล็กน้อยและวางบนไส้แอปเปิลที่เตรียมไว้
-
นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20-30 นาที เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา
6. ชีสเค้กสตรอว์เบอร์รีสด
ส่วนผสม ชีสเค้กสตรอว์เบอร์รีสด
-
แครกเกอร์ 150 กรัม
-
เนยละลาย 60 กรัม
-
ครีมชีส 30 กรัม
-
น้ำตาลทราย 100 กรัม
-
ไข่ไก่ 2 ฟอง
-
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
-
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
แป้งอเนกประสงค์ 15 กรัม
-
ซาวร์ครีม 185 กรัม
วิธีทำชีสเค้กสตรอว์เบอร์รี
-
ปั่นแครกเกอร์ให้ละเอียด ใส่เนยละลายคนให้เข้ากัน ตักใส่แม่พิมพ์แล้วกดให้แน่น
-
ตีครีมชีสด้วยความเร็วต่ำ ทยอยใส่น้ำตาล ตีจนละลายเข้ากันดี แล้วใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ตีจนเนียนเข้ากัน
-
ใส่กลิ่นวานิลลา น้ำมะนาว และแป้งอเนกประสงค์ ตีให้พอเข้ากัน ตามด้วยซาวร์ครีม ตีให้เข้ากัน ตักใส่ลงในแม่พิมพ์
-
นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 15 นาที พักไว้ให้เย็น
-
แต่งหน้าด้วยสตรอว์เบอร์รี นำไปแช่เย็น จัดใส่กล่องให้สวยงาม
7. เค้กสตรอว์เบอร์รีครีมสด (สูตรเค้กคีโต)
ส่วนผสม เค้กสตรอว์เบอร์รีครีมสด
-
แป้งอัลมอนด์ 80 กรัม
-
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
-
เกลือหยิบมือ
-
น้ำมันมะกอก 50 กรัม
-
วิปปิ้งครีม 40 กรัม
-
กลิ่นวานิลลา 1/4 ช้อนชา
-
ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 3 ฟอง (แยกไข่แดงกับไข่ขาว)
-
อิริทริทอล 40 กรัม
-
อิริทริทอล 30-50 กรัม
ส่วนผสม แยมสตรอว์เบอร์รี
-
สตรอว์เบอร์รี 160 กรัม (สดหรือแช่แข็ง)
-
อัลลูโลส 3-6 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ครีมสด
-
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
-
สีผสมอาหารสีแดง 2-4 หยด
-
แยมสตรอว์เบอร์รี 2-3 ช้อนโต๊ะ
-
อิริทริทอล 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแยมสตรอว์เบอร์รี
-
ใส่สตรอว์เบอร์รีลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง รอประมาณ 2-3 นาที จนมีน้ำออกมาและเริ่มนุ่ม แล้วบดให้ละเอียด
-
ใส่สารให้ความหวาน (ใช้น้ำตาลทรายแทนได้) ชิมรสตามชอบ เคี่ยวจนงวดดีแล้วนำไปพักให้เย็นสนิท
วิธีทำเค้กสตรอว์เบอร์รีครีมสดคีโต
-
ใส่แป้งอัลมอนด์ ผงฟู และเกลือ คนให้เข้ากัน พักไว้
-
ตีไข่แดงพอแตก เติมสารให้ความหวาน 40 กรัม (ใช้น้ำตาลทรายแทนได้) ตีให้ไข่สีซีดลง แล้วใส่น้ำมันมะกอกลงไป คนให้เข้ากัน
-
ใส่วิปปิ้งครีมและกลิ่นวานิลลาลงไป คนให้เข้ากัน ตามด้วยใส่ของแห้ง คนให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นพักไว้ก่อน (หาอะไรปิดไว้กันหน้าแห้งด้วย)
-
ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟองหยาบแล้วใส่สารให้ความหวาน 30-50 กรัม ทยอยใส่ 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอดแข็ง
-
แบ่งส่วนผสมไข่ขาวมาตะล่อมกับส่วนผสมไข่แดง 3 ครั้ง ค่อย ๆ ผสม อย่าคนแรงฟองจะยุบ แบ่งเทใส่พิมพ์ขนาด 1 ปอนด์ จำนวน 2 อันให้เท่ากัน แล้วนำเข้าเตาอบ
-
วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 150-180 องศาเซลเซียส นำเข้าไปอบประมาณ 35-45 นาที เมื่อสุกแล้วนำออกจากเตาอบ วางในพิมพ์ให้เย็นประมาณ 10 นาที ค่อยนำออกจากพิมพ์ แล้วพักให้เย็นสนิทบนตะแกรง
-
ปาดแยมสตรอว์เบอร์รีให้ทั่ว แล้วนำเค้กอีกชั้นมาวางประกบ เหลือแยมสตรอว์เบอร์รีไว้เล็กน้อยเพื่อนำไปผสมกับวิปครีม
-
ตีวิปปิ้งครีมให้ข้นขึ้นแล้วใส่สารให้ความหวาน แยมสตรอว์เบอร์รี และสีผสมอาหาร ตีพอข้น ๆ ไม่เหลวและแข็งเกินไป เทวิปครีมลงบนเค้ก ปาดให้ทั่วแล้วใช้ช้อนสร้างลายด้านบน แล้วนำไปแช่ตู้เย็นจนเซตตัวดีก่อนตัด พร้อมเสิร์ฟ
8. บาสก์ชีสเค้ก
ส่วนผสม ชีสเค้กหน้าไหม้ (สำหรับ 5 ชิ้นเล็ก)
-
ครีมชีส 150 กรัม
-
น้ำตาลทราย 50 กรัม
-
กลิ่นวานิลลา 1/4 ช้อนชา
-
วิปปิ้งครีม 60 กรัม
-
ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 1 ฟอง
-
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
วิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้
-
เตรียมพิมพ์คัพเค้ก โดยกรุด้วยกระดาษรองอบ
-
นำครีมชีสและน้ำตาลทรายใส่ลงในอ่างผสม คนผสมให้เข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลลาและวิปปิ้งครีมลงในอ่างผสม ตีให้เข้ากัน
-
ตอกไข่ลงไปผสมกับครีมชีส ตีให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพดลงไป ผสมให้เข้ากัน
-
นำส่วนผสมเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปอบที่อุณหภูมิ 225 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 23-25 นาที หลังจากสุกแล้วรอให้เย็น และนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำมาเสิร์ฟ
9. เค้กสตรอว์เบอร์รีหน้ากรอบ
ส่วนผสม เค้กสตรอว์เบอร์รีหน้ากรอบ (ประมาณ 8 ชิ้น)
-
เนยจืด อุณหภูมิห้อง 85 กรัม
-
น้ำตาลทรายป่น 190 กรัม
-
ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 1 ฟอง
-
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
-
นมจืด 70 กรัม
-
แป้งอเนกประสงค์ 185 กรัม
-
ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา
-
สตรอว์เบอร์รีสด (หั่น 4 ส่วน ต่อ 1 ลูก) 8-10 ลูก (สำหรับตกแต่ง)
-
น้ำตาลทรายป่น 10 กรัม (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำเค้กสตรอว์เบอร์รีหน้ากรอบ
-
นำเนยกับน้ำตาลมาผสมให้เข้ากัน โดยตีให้เนยเป็นสีขาวและขึ้นฟู
-
ค่อย ๆ เทไข่ลงไปผสมทีละนิด คนให้เข้ากัน แล้วใส่กลิ่นวานิลลาลงไป ตีให้เข้ากันดี
-
ค่อย ๆ เทนมลงไปผสมในแป้งทีละน้อย ตีให้เข้ากัน
-
ใส่แป้งและผงฟูที่ร่อนแล้วลงไปผสม ค่อย ๆ คนให้เข้ากันอย่างเบามือ
-
นำแป้งขนมเค้กมาตักใส่ถ้วยกระดาษที่เตรียมไว้ ตกแต่งเค้กด้วยสตรอว์เบอร์รี และโรยน้ำตาลที่หน้าขนมเค้ก
-
นำขนมเค้กไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที พอครบเวลาแล้วปรับอุณหภูมิลงมาที่ 170 องศาเซลเซียส อบต่อไปอีก 10 นาที แล้วนำออกจากเตา จัดเสิร์ฟ
10. เค้กช็อกโกแลตไร้แป้งรูปหัวใจ
เค้กช็อกโกแลตไร้แป้งรูปหัวใจ สูตรจาก Easy food good health by Andy เนื้อเค้กมีส่วนผสมของกล้วยหอมและเนยถั่ว เติมผงโกโก้ หยอดใส่พิมพ์รูปหัวใจ แต่งด้วยอัลลมอนด์สไลซ์ แล้วนำไปอบจนสุก
ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง
-
กล้วยหอม 1 ลูก
-
เนยถั่วแบบไม่หวาน 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
-
ผงโกโก้สีเข้ม 100% 1 ช้อนโต๊ะ
-
อัลมอนด์สไลซ์ตามชอบ
วิธีทำเค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง
-
นำกล้วยหอมมาบดให้ละเอียด ใส่เนยถั่วลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไปหน่อย กรณีที่กล้วยงอมมากปรับลดความหวานได้ตามชอบ
-
ร่อนผงโกโก้ลงไป คนให้เข้ากันจนเนียน ตักใส่พิมพ์รูปหัวใจหรือรูปอื่น ๆ ตามชอบ โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลซ์
-
นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 10 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดพิมพ์
11. ทอฟฟี่เค้ก (สูตรนึ่ง)
ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลต
-
ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 2 ฟอง
-
น้ำตาลทราย 120 กรัม
-
กลิ่นวานิลลา
-
นมจืด 120 กรัม
-
น้ำมันรำข้าว 60 กรัม
-
แป้งเค้ก ตราพัดโบก 180 กรัม
-
ผงฟู 1 ช้อนชา
-
เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
-
ผงโกโก้ 2 ช้อนชา
-
ผงกาแฟ 1 ช้อนชา
ส่วนผสม ซอสคาราเมล
-
นมจืด 50 กรัม
-
น้ำตาลทราย 50 กรัม
-
วิปปิ้งครีม 50 กรัม
-
แป้งกวนไส้ หรือแป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
-
เนยจืด 50 กรัม
-
ผงโกโก้สีเข้ม 2 ช้อนชา
-
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบแห้ง
วิธีทำทอฟฟี่เค้ก
-
ผสมไข่ไก่ น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา นมสดรสจืด และน้ำมันรำข้าว จากนั้นคนจนน้ำตาลทรายละลาย
-
ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา ผงโกโก้ และผงกาแฟ รวมกัน ทยอยแบ่งผสมลงในของเหลว แบ่งผสมประมาณ 3 รอบ ค่อย ๆ ตะล่อมแป้งจนแป้งละลาย ไม่เป็นเม็ด เทใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษรองอบ (แอนใช้พิมพ์สี่เหลี่ยมจัตุรัส คลุมด้วยกระดาษฟอยล์เพื่อป้องกันไอน้ำหยด)
-
ตั้งน้ำให้เดือดจัด วางขนมลงนึ่ง ปรับลดเป็นไฟปานกลางถึงอ่อน นึ่งนาน 50 นาที
-
ทำซอสคาราเมล โดยผสมนมจืด น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม แป้งกวนไส้หรือแป้งข้าวโพด นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนคนจนเริ่มข้น เติมผงโกโก้ คนให้เข้ากัน ใส่เนยลงไป คนให้เข้ากัน ตามด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบแห้ง คนพอข้นหนืดเล็กน้อย ตักราดลงบนตัวเค้ก นำแช่ตู้เย็น 1 คืนให้เซตตัว ตัดเป็นชิ้น เวลานำมากินให้ตั้งทิ้งไว้ให้คลายความเย็น
12. ทอฟฟี่เค้ก
ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลต
-
แป้งเค้ก 250 กรัม
-
ผงฟู 4 ช้อนชา
-
ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
-
ผงกาแฟ 4 ช้อนโต๊ะ
-
นมผง 2 ช้อนโต๊ะ
-
ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 8 ฟอง
-
เกลือเล็กน้อย
-
น้ำตาลทราย 340 กรัม
-
เนยจืดละลาย 300 กรัม
ส่วนผสม ซอสคาราเมล
-
เนยจืด 300 กรัม
-
นมข้นจืด 120 กรัม
-
น้ำตาลทราย 140 กรัม
-
เกลือเล็กน้อย
-
ผงกาแฟ 2 ช้อนชา
-
แป้งเค้ก 4 ช้อนโต๊ะ
-
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก 250 กรัม
วิธีทำทอฟฟี่เค้ก
-
ร่อนแป้ง ผงฟู ผงโกโก้ ผงกาแฟ และนมผง เข้าด้วยกันประมาณ 3 รอบ เตรียมไว้
-
เตรียมถาดสี่เหลี่ยม ขนาด 10x10 นิ้ว จำนวน 2 ถาด ปูกระดาษรองอบเตรียมไว้
-
ละลายเนยด้วยไมโครเวฟแล้วพักไว้พออุ่น
-
ตอกไข่ใส่อ่างผสม ตีผสมด้วยความเร็วสูงประมาณ 3-5 นาที จากนั้นเติมเกลือ ทยอยใส่น้ำตาลลงไป ตีต่อจนขึ้นฟูเป็นสีขาวเนื้อเนียน
-
เทส่วนผสมแป้งลงไปในส่วนผสมไข่ ตะล่อมส่วนผสมเบา ๆ จนเข้ากัน เทเนยละลายลงไป คนผสมจนเข้ากันอีกครั้ง
-
เทลงในถาด ใช้พายยางเกลี่ยให้หน้าเสมอกัน นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 30 นาที หรือจนสุก
-
นำออกจากเตา ยกพิมพ์ขึ้นแล้วปล่อยพิมพ์กระแทกพื้นโต๊ะเบา ๆ ให้เค้กเซตตัว พักไว้จนเย็น นำออกจากถาด
-
ทำหน้าทอฟฟี่ โดยใส่เนยสด น้ำตาลทราย นมข้นจืด และเกลือ ลงในหม้อ เปิดไฟอ่อน คนจนน้ำตาลละลาย ใส่ผงกาแฟลงไป คนจนละลาย เติมแป้ง คนจนแป้งสุกเหนียวข้น ปิดไฟ ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป คนพอเข้ากัน ราดลงบนหน้าเค้กที่เตรียมไว้
-
นำเค้กไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที หรือจนหน้าเค้กแห้งมีสีน้ำตาลสวย นำออกมาพักไว้จนเย็น ตัดเสิร์ฟ หรือเอาไปแช่เย็นก่อนตัดแบ่ง
13. เค้กบลูเบอร์รีงาดำ
ส่วนผสม บลูเบอร์รีสำหรับแต่งหน้าเค้ก
-
บลูเบอร์รี 150 กรัม
-
น้ำตาลป่น 15 กรัม
-
แป้งเค้ก 5 กรัม
ส่วนผสม แป้งเค้ก
-
เนยสดรสเค็ม 100 กรัม
-
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
-
น้ำตาลทราย 90 กรัม
-
กลิ่นวานิลลา
-
ไข่ไก่ 1 ฟอง
-
โยเกิร์ต 70 กรัม
-
ผิวมะนาว 1 ลูก
-
แป้งเค้ก 135 กรัม
-
ผงฟู 1 ช้อนชา
-
งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไอซิ่งสำหรับแต่งหน้าเค้ก
-
ไอซิ่ง 150 กรัม
-
นม 15 มิลลิลิตร
วิธีทำเค้กบลูเบอร์รีงาดำ
-
ทำหน้าบลูเบอร์รี โดยผสมน้ำตาลป่น แป้งเค้ก และบลูเบอร์รี คนกันให้เข้ากัน
-
ทำแป้งเค้ก โดยตีเนยสด เกลือป่น น้ำตาลทราย (ในสูตรนำไปปั่น) และกลิ่นวานิลลา ตีจนเนยขึ้นฟูเล็กน้อย จากนั้นใส่ไข่ไก่ โยเกิร์ต และผิวมะนาว ลงไปในชามผสม ตีจนเข้ากัน
-
ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูลงไปในส่วนผสมเนย ตะล่อมแป้งหรือตีจนเข้ากัน ใส่งาดำลงไป ตะล่อมจนเข้ากัน เทส่วนผสมแป้งลงไปในพิมพ์ ตักบลูเบอร์รีลงไปตรงกลาง อบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 35-40 นาที
-
ทำส่วนผสมสำหรับราดหน้า โดยผสมนมกับน้ำตาลไอซิ่ง คนจนละลายเข้ากัน วาดตกแต่งบนเค้ก
14. คัพเค้กไมโครเวฟ
ส่วนผสม คัพเค้กไมโครเวฟ
-
เนยสด อุณหภูมิห้อง 120 กรัม
-
น้ำตาลทราย 120 กรัม
-
กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
-
ไข่ 2 ฟอง
-
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 120 กรัม
-
ครีมและเกล็ดน้ำตาลตกแต่งตามชอบ
วิธีทำคัพเค้กไมโครเวฟ
-
เทเนยสดและน้ำตาลทรายขาวลงอ่างผสม ปั่นให้เข้ากันจนเนยเริ่มขึ้นฟูเนื้อเนียน เติมกลิ่นวานิลลาลงไป เมื่อทุกอย่างเข้ากันดีแล้วทยอยใส่ไข่ครั้งละฟองและปั่นให้เข้ากันดี
-
ทยอยแบ่งใส่แป้ง 3 รอบ และตีจนกระทั่งเนื้อแป้งเนียน เทใส่พิมพ์ปริมาณ 1/2 ถ้วย ใส่น้ำรองก้นจาน นำไปเข้าไมโครเวฟ 800 วัตต์ ประมาณ 2 นาที ตกแต่งด้วยครีมและเกล็ดน้ำตาลตามชอบ