ตอนเช้าอย่าปล่อยให้ท้องว่าง ! มาจดสูตรอาหารเช้ายอดนิยมของชาวออฟฟิศ หาซื้อง่ายแต่ทำกินเองได้ ไม่ต้องง้อใคร
ก่อนถึงเวลาทำงานมนุษย์เงินเดือนอย่ามองข้ามอาหารเช้านะคะ เพราะเป็นมื้อสำคัญในการเติมพลังงานให้ร่างกายและสมองให้พร้อมที่จะทำงานได้ตลอดวัน ถ้าหากนึกไม่ออกว่าจะกินอะไรดี กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ สูตรอาหารเช้าเมนูฮิตที่เพื่อน ๆ คุ้นเคยทั้งนั้น หาซื้อง่ายและอร่อย ราคาพอเหมาะว่าแต่มีเมนูอะไรบ้าง... ติดตามชมกันเลยค่ะ
1. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
เมนูอาหารเช้าสุดฮิตขวัญใจชาวออฟฟิศที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยลิ้มลองอันดับต้น ๆ ขอยกตำแหน่งให้กับเมนูข้าวเหนียวหมูปิ้ง สูตรจาก เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา สูตรนี้มาพร้อมกับวิธีทำหมักหมูนุ่มอร่อยเหาะ ต่อให้หัวเหม็นแค่ไหนก็ยอมฝ่าดงควันไปซื้อจงได้
ส่วนผสม หมูปิ้ง หมูย่าง
• เนื้อสะโพกหมู หรือเนื้อสันนอกหมู 1 กิโลกรัม
• รากผักชี 25 กรัม
• กระเทียมไทย (แกะเปลือก) 2 หัว
• พริกไทยเม็ด 1+1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม
• หัวกะทิ 1+1/2 ถ้วยตวง
• ซีอิ๊วดำ 3 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว 8 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรสฝาเขียว 6 ช้อนโต๊ะ
• แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่แดง 1 ฟอง
• น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ
• ไม้สำหรับเสียบหมู
วิธีหมักหมูปิ้ง หมูย่าง
1. แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 ซม. ความกว้างประมาณ 4-5 ซม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ (หรือหั่นตามความถนัด)
2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดจนละเอียดเข้าด้วยกัน
3. ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง (ส่วนกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยเก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง) ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป
4. หลังจากหมักหมูทิ้งไว้ครบเวลาแล้ว นำเนื้อหมูออกจากตู้เย็นมาเสียบด้วยไม้
5. นำน้ำที่เหลือจากหมักหมูไปผสมกับกะทิที่เหลือให้เข้ากัน เตรียมไว้
6. เปิดเตาย่างให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นนำหมูขึ้นปิ้งบนเตา (หมั่นคอยดู) พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง แล้วใช้แปรงจุ่มส่วนผสมกะทิที่ผสมไว้ทาให้ทั่วด้านบน พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับมาทาซอสอีกครั้ง ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน แต่ไม่ควรปิ้งให้แห้ง เพราะน้ำในเนื้อหมูจะระเหยไปกับความร้อน ทำให้หมูเหนียวและแข็ง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรหมูปิ้ง หมูย่าง เนื้อนุ่มรสเด็ด อร่อยพร้อมทำขาย
++++++++++++++++++++
2. น้ำเต้าหู้
สำหรับชาวออฟฟิศที่รักสุขภาพคงไม่พลาดเครื่องดื่มน้ำเต้าหู้แน่นอน สูตรจาก RinS CookBook สูตรนี้เด็ดตรงที่ใส่ถั่วลิสงกับอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันด้วย ถ้าใส่เครื่องก็อิ่มท้องมากขึ้น
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้
• ถั่วเหลือง 450 กรัม
• ถั่วลิสง 1 ถ้วย
• อัลมอนด์ 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า
• น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว
วิธีทำน้ำเต้าหู้
1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3) แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ
5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำน้ำเต้าหู้ โฮมเมดสูตรเข้มข้น ทำดื่มเองดีกว่าไม่เสียอารมณ์
++++++++++++++++++++
3. ปาท่องโก๋
ส่วนผสม ปาท่องโก๋
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วย
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
• ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำ (อุณหภูมิห้อง) 1+1/2 ถ้วย
• เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ (สำหรับโรยกันติด)
วิธีทำปาท่องโก๋
1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกันลงในอ่างผสม ใส่ยีสต์แห้งลงไปคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ผสมน้ำอุ่น น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
3. เทส่วนผสมของเหลว (ข้อ 2) ลงในส่วนผสมแป้ง (ข้อ 1) นวดด้วยมือหรือเครื่องนวดแป้งให้เข้ากันประมาณ 10 นาที จากนั้นนำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ คลุมแป้งพักไว้ประมาณ 6 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
4. โรยแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงบนพื้นผิวที่จะนวดแป้งแล้วนำแป้งมารีดเป็นแผ่นบาง ๆ ใช้มีดตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดเท่ากัน ๆ
5. ใช้ไม้แตะน้ำเปล่าแล้วแตะลงตรงกลางแป้ง จากนั้นนำแป้งอีกชิ้นมาประกบซ้อนกันเบา ๆ พักไว้สักครู่
6. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน ยืดแป้งตามยาวเล็กน้อยแล้วนำลงทอดจนสุกเหลืองกรอบและลอยขึ้นมา ช้อนตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรปาท่องโก๋ นวดเองทอดเอง หอมกรอบร้อน ๆ กี่คู่ถึงจะพอ
++++++++++++++++++++
4. ข้าวเหนียวหมูฝอย
ข้าวเหนียวหมูฝอยเป็นอีกเมนูอาหารเช้าสุดฮิตที่หาได้ไม่ยากตามตลาดหรือแถวปากซอย สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ข้าวเหนียวนุ่ม ๆ กินคู่กับหมูฝอยกรอบ ๆ ถ้าใครกลัวไม่อิ่มก็ซื้อเบิ้ลเลยค่ะ
ส่วนผสม หมูฝอย
• เนื้อสะโพกหมู 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลปี๊บ 3 ทัพพี
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ทัพพี
• ซอสถั่วเหลือง 6-7 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น
• น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
• หอมเจียว (โรยหน้า)
• ผักชี (ตกแต่ง)
วิธีทำหมูฝอย
1. หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปต้มจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ
เคล็ดลับ : ถ้าอยากได้หมูเส้นที่ยาวกว่านี้ ให้หั่นหมูชิ้นใหญ่ จะทำให้สวยกว่า
2. นำหมูมาทุบให้แตก (ให้เห็นหมูเป็นเส้นๆ) ฉีกหมูออกเป็นเส้น ๆ เตรียมไว้
3. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย ซอสถั่วเหลือง และน้ำปลาลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวไปสักพักให้น้ำตาลละลายทั้งหมด และมีสีเหลืองสวย
4. ใส่หมูที่ฉีกไว้ลงไป คนผสมให้เข้ากันแล้วเคี่ยวไปเรื่อย ๆ เติมพริกไทยป่นลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำมันพืชลงไป คนผสมไปเรื่อย ๆ จนแห้ง
5. ตักใส่จาน โรยหอมเจียว และผักชี เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูเส้น หมูฝอย เมนูอร่อยในแบบที่คุณทำเองได้
++++++++++++++++++++
5. ข้าวเหนียวเนื้อฝอย
จะข้าวเหนียวหมูฝอยก็ดี แต่ถ้าเบื่อก็เปลี่ยนเป็นเนื้อฝอยก็ได้ สูตรจาก คุณ tukata001 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อฝอยกลิ่นหอมหวน ยิ่งกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ ฟินไปยันเที่ยง
ส่วนผสม เนื้อฝอยหวาน
• เนื้อ 1 กิโลกรัม
• หอมแดงซอย 2 ถ้วย
• น้ำมันพืช (สำหรับทอด) 4 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1/2 ถ้วย
• ซอสปรุงรสฝาเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำเนื้อฝอยหวาน
1. ต้มเนื้อให้เปื่อย ประมาณ 1 ชั่วโมง เอาขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นใช้สากทุบเนื้อต้มให้แตกแล้วใช้ไม้เสียบลูกชิ้นมาแทงที่เนื้อต้มจะทำให้ฉีกง่ายยิ่งขึ้น
2. เอาหอมซอยลงเจียวกับน้ำมันให้เหลืองกรอบ ตักพักไว้บนกระดาษอเนกประสงค์
3. เอาเนื้อลงทอดด้วยน้ำมันที่เจียวหอม ทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษอเนกประสงค์
4. เอาน้ำตาลปี๊บลงกระทะ ใส่น้ำตาลทรายตามลงไป ใส่น้ำเปล่านิดหน่อย ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา และซอสปรุงรส คอยคนให้น้ำตาลละลาย
5. ใส่เนื้อฝอยทอดลงไป คลุกเคล้าอย่างเบามือ แบ่งหอมเจียวลงไปคลุกเคล้าจนเข้ากัน และเก็บหอมเจียวที่เหลือไว้โรยหน้าตอนเสร็จ จัดใส่จานกินกับข้าวเหนียว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เนื้อฝอยหวาน เมนูอร่อยราคาสูงทำเองคุ้ม
++++++++++++++++++++
6. ข้าวเหนียวไก่ทอด
ข้าวเหนียวไก่ทอดเป็นอีกเมนูอาหารเช้าหาง่ายตามปากซอย และยังฮิตสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศด้วย สูตรจาก คุณ swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับไก่หมักกับเครื่องเทศจนเข้าเนื้อ นำไปทอดกรอบ ๆ กินกับข้าวเหนียว อูย... น้ำย่อยเดิน
ส่วนผสม ไก่ทอด
• น่องไก่หรือปีกไก่
• เม็ดผักชี 1+1/2 ช้อนชา
• ยี่หร่า 1+1/2 ช้อนชา
• กระเทียมไทย 1 หัว
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
• เหล้าจีน 2 ช้อนชา
• เกลือป่นเล็กน้อย
• น้ำมันถั่วเหลืองสำหรับทอด
• หอมเจียว สำหรับโรยหน้า
วิธีทำไก่ทอด
1. คั่วเม็ดผักชีและยี่หร่าให้หอม นำไปโขลกรวมกับกระเทียมจนละเอียด จากนั้นนำไปหมักกับไก่ น้ำผึ้ง เหล้าจีน และเกลือป่นให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง
2. นำไก่ไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาทีจนไก่สุก
3. อบครบ 30 นาที นำไก่ออกจากเตา เตรียมไว้
4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันถั่วเหลืองลงไป จากนั้นใส่ไก่ที่อบแล้วลงไปทอดประมาณ 10 นาที จนสุกและกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน โรยหอมเจียว เสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวเหนียวไก่ทอดหาดใหญ่ เมนูสุดฟินยิ่งกินยิ่งอร่อย
++++++++++++++++++++
7. โจ๊ก
ถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้สำหรับเมนูโจ๊ก เพราะมีขายทั่วไปหากินง่ายมาก สูตรจาก คุณ tukata001 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จัดเต็มหมูสับ เครื่องใน และไข่ลวก ใส่ขิงซอยและพริกไทยป่นเพิ่มความหอม ชามเดียวอิ่มเว่อร์
ส่วนผสม โจ๊กหมู
• ข้าวต้มบดละเอียด 2 ถ้วย (ใช้ข้าวสาร 1 ถ้วยตวง หุงเป็นข้าวต้มแล้วนำไปปั่น)
• น้ำซุป 5 ถ้วย
• ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ
• หมูบดหมัก 100 กรัม (ในสูตรตำกระเทียม พริกไทย และรากผักชี คลุกกับหมูสับ ใส่ซีอิ๊วขาว)
• ขิงซอย 1/2 ถ้วย
• เครื่องใน เช่น ตับ หัวใจ และกระเพาะหมู 200 กรัม
• ไข่ไก่ลวก 2 ฟอง (ไข่อุณหภูมิห้อง ใส่ในน้ำเดือดจัดประมาณ 2 -3 นาที)
• ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำโจ๊กหมู
1. นำข้าวสารหอมมะลิ 1 ถ้วย (ถ้วยตวงข้าวสาร) ใส่น้ำนิดหน่อยต้มเป็นข้าวต้ม พอสุกดีแล้วก็นำมาใส่โถปั่นให้ละเอียด พักไว้
2. เตรียมน้ำซุปไก่หรือน้ำซุปหมู ใส่หม้อใช้ไฟกลาง รอจนเดือดแล้วเทข้าวต้มปั่นลงไป คนให้เข้ากัน พอข้าวเดือดปุด ๆ ตักหมูสับหมักใส่ช้อนเล็ก ๆ หยอดลงในหม้อต้มโจ๊ก หรือใครชอบแบบปั้นเป็นก้อนกลมก็ตามสะดวก
3. พอหมูสุกแล้วใส่ซีอิ๊วขาว ชิมตามชอบเลยค่ะ ปิดเตา ตักใส่ชาม และวางส่วนผสมอื่น เช่น ตับ หัวใจ ไส้ หรือเครื่องในตามชอบ และไข่ลวกลงไปในชาม โรยหน้าด้วยขิงซอย ต้นหอมซอย โรยพริกไทยป่น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โจ๊กหมู สูตรอาหารเช้าร้อน ๆ หนักเครื่องอร่อยง่าย
++++++++++++++++++++
8. ข้าวไข่เจียว
และแล้วก็มาถึงเมนูอาหารเช้าสุดฮิตอย่างเมนูข้าวไข่เจียว ใส่หมูสับเพิ่มโปรตีน ถ้าใครชอบกินเผ็ดก็สั่งใส่พริกขี้หนูไปด้วยเลย กินกับซอสพริกอร่อยเหาะ ใครมาแย่งก็ไม่ยอม
ส่วนผสม ข้าวไข่เจียว
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
• พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
• น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
• ข้าวสวย
วิธีทำข้าวไข่เจียว
1. ตีไข่ไก่ผสมกับหมูสับ พริกขี้หนู และต้นหอมซอย ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส และพริกไทยป่นคนให้เข้ากัน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ส่วนผสมไข่ลงทอดให้สุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย
++++++++++++++++++++
9. ต้มเลือดหมู
สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่อยากจัดเต็มมื้อเช้าคงไม่พลาดเมนูต้มเลือดหมูกับข้าวสวยร้อน ๆ ซดน้ำซุปสลับกับข้าว แถมยังมีน้ำจิ้มมาตัดเลี่ยน เคลียร์พุงให้พร้อมรอวันพรุ่งนี้เลยจ้า
ส่วนผสม ต้มเลือดหมู
• หมูสับ 100 กรัม
• ตับหมู 100 กรัม
• กระเพาะหมู 100 กรัม
• เลือดหมู (หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม) 1 ก้อน
• น้ำซุป 3 ถ้วย
• ใบตำลึง หรือใบปวยเล้ง 1/2 ถ้วย
• ใบขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อน) 1 ต้น
• ตั้งฉ่าย 1 ช้อนชา
• กระเทียมเจียว (โรยหน้า)
• พริกไทยป่น (โรยหน้า)
วิธีทำต้มเลือดหมู
1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือด ใส่เนื้อหมูสับ ตับหมู และกระเพาะหมูลงลวกในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ตำลึง หรือใบปวยเล้งลงลวกน้ำร้อนแล้วตักใส่ชาม เตรียมไว้
3. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือด ใส่เลือดหมูลงต้มสักครู่จากนั้นตักใส่ชามตามด้วยเครื่องในที่ลวกไว้ ตังฉ่าย และใบขึ้นฉ่าย ตักน้ำซุปร้อน ๆ ลงในชาม โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และพริกไทยป่น พร้อมรับประทาน
ส่วนผสม น้ำจิ้มต้มเลือดหมู
• พริกชี้ฟ้าเหลือง 2 เม็ด
• กระเทียม 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่นเล็กน้อย (ปรุงรส)
• น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา
วิธีทำน้ำจิ้มต้มเลือดหมู
1. โขลกพริกชี้ฟ้าเหลือง และกระเทียมเข้าด้วยกันจนละเอียดดี ปรุงรสด้วยเกลือป่นเล็กน้อย
2. ใส่น้ำส้มสายชู คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้รับประทานกับต้มเลือดหมู
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มเลือดหมู หอม ๆ ร้อน ๆ กับน้ำจิ้มรสเด็ด
++++++++++++++++++++
10. ซาลาเปา
เมนูซาลาเปาเป็นอีกเมนูอาหารเช้าที่ซื้อง่ายและกินสะดวก สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3128333 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่ไส้หมูสับไข่เค็ม หรือเลือกสรรไส้อื่นได้ตามชอบ เคี้ยวนุ่มทุกคำ อร่อยถูกใจ ใช่เลย !
ส่วนผสม ซาลาเปา
• แป้งสปันจ์
• แป้งโดว์
• เนยขาว 25 กรัม
• น้ำมัน 50 กรัม
ส่วนผสม แป้งสปันจ์
• น้ำอุ่น 200 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งซาลาเปา 375 กรัม
ส่วนผสม แป้งโดว์
• น้ำสะอาด 40 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• เกลือ 1 ช้อนชา
• แป้งซาลาเปา 150 กรัม
• ดับเบิ้ลผงฟู 2 ช้อนชา (หรือใช้ผงฟูธรรมดาก็ได้)
ส่วนผสม ไส้หมูสับไข่เค็ม
• หมูสับ 500 กรัม
• เห็ดหอมหั่นเต๋า 6-7 ดอก
• แครอทหั่นเต๋า 4-5 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมซอย 5 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 5 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งข้าวโพด 5 ช้อนโต๊ะ
• ไข่แดงเค็ม
วิธีทำไส้หมูสับไข่เค็ม
• ผสมหมูสับ เห็ดหอม แครอท และต้นหอม ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และพริกไทย จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดลงไป คนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารจนกว่าจะใช้
วิธีทำแป้งสปันจ์
1. ใส่น้ำอุ่นในภาชนะ ตามด้วยน้ำตาลทราย ใส่ยีสต์ คนให้เข้ากันเล็กน้อย พักไว้ 5 นาที ยีสต์จะฟูเป็นฟอง
2. ร่อนแป้งซาลาเปา เทส่วนผสมยีสต์ลงทีละนิด ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน แล้วนวดประมาณ 5 นาที ให้แป้งไม่ติดมือ (ไม่ต้องนวดจนแป้งเนียน) แล้วนำแป้งใส่อ่าง คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารหรือภาชนะปิดกันลมไว้ พักแป้งในที่อุ่น ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือรอจนแป้งขึ้นเป็น 2 เท่า
วิธีทำแป้งโดว์
1. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้ละลาย แล้วพักไว้
2. ร่อนแป้งซาลาเปากับผงฟู ทำหลุมตรงกลาง ค่อย ๆ เทส่วนผสมของเหลวที่ผสมไว้ลงไปในหลุมทีละนิด แล้วค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากันจนมีลักษณะเป็นก้อน
วิธีทำซาลาเปา
1. นำแป้งสปันจ์ที่พักเสร็จแล้วมาผสมกับแป้งโดว์ ใส่เนยขาวกับน้ำมัน นวดจนแป้งเนียน ประมาณ 20-30 นาที (ใครมีเครื่องผสมแป้งก็ใช้ได้เลย)
2. พอนวดจนเนียนดีแล้ว ใส่ลงในอ่างผสม คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักแป้งอีกประมาณ 30-60 นาทีจนแป้งขึ้นฟูเป็น 2 เท่า ชกไล่ลมออกจากแป้ง แล้วเอามาแบ่งเป็นก้อนเท่า ๆ กันตามขนาดที่ต้องการ (พิมพ์แบ่ง 40 กรัมต่อลูก)
3. นำก้อนแป้งเรียงใส่ถาด คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร แล้วพักแป้งอีก 10 นาที
4. พอครบเวลาแล้วก็นำแป้งมารีดเป็นแผ่นกลมไม่ต้องบางมาก ใส่ไส้หมูสับกับไข่เค็มที่เตรียมไว้ ห่อให้สวยงาม วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา พักอีก 10 นาทีก่อนค่อยเอาไปนึ่ง โดยนึ่งประมาณ 9-10 นาที ไม่ต้องนึ่งนาน ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำที่ใช้นึ่งด้วยเพราะจะช่วยให้ซาลาเปาขาว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็ม แป้งขาวนุ่มเด็กหอก็ทำได้
++++++++++++++++++++
11. ขนมจีบกุ้ง
ซาลาเปาต้องคู่กับขนมจีบกุ้งสิคะ สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่ทั้งกุ้งและหมู เพิ่มความกรุบจากแห้ว กินกับน้ำจิ้มเปรี้ยว ๆ เพิ่มความอร่อย
ส่วนผสม ขนมจีบกุ้ง
• กุ้งสับ 200 กรัม
• หมูสับ 200 กรัม
• กระเทียม รากผักชี และพริกไทยโขลกรวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ (สามเกลอ)
• แห้ว 1 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• น้ำมันงา 1 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
• แผ่นเกี๊ยว 1 ห่อ
• กระเทียมเจียว
วิธีทำขนมจีบกุ้ง
1. ผสมกุ้งสับ หมูสับ สามเกลอ แห้ว ต้นหอม และเครื่องปรุงต่าง ๆ นวดให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็น 30 นาที ก่อนจะนำมาห่อ
2. นำแผ่นเกี๊ยวมาตัดมุมออกทั้ง 4 ด้าน จับทีละแผ่นวางที่มือเติมไส้ให้เต็ม ใช้น้ำเปล่าแตะริมแป้ง จับจีบให้สวยงาม
3. ใช้แปรงจุ่มน้ำมันกระเทียมเจียวทาให้ทั่วชุดนึ่ง นำขนมจีบวางลงไปให้สวยงาม ใช้เวลานึ่งประมาณ 10 นาที
เคล็ดลับการทำแป้งนิ่ม
1. นำขนมจีบไปลวกน้ำร้อนก่อนแล้วจึงนำไปนึ่ง
2. ใช้สเปรย์น้ำเปล่าพรมขนมจีบก่อนนำไปนึ่ง
ส่วนผสม น้ำจิ้มขนมจีบ
• พริกบด
• ซีอิ๊วดำ
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำตาลทราย
• น้ำส้มสายชู
วิธีทำน้ำจิ้มขนมจีบ
1. ใส่พริกบด ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทราย และน้ำส้มสายชูมาผสมรวมกัน
2. นำขึ้นตั้งไฟให้เดือด ปิดไฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมจีบกุ้ง สูตรแป้งนิ่มไส้แน่น จีบได้ไม่มีหวง
++++++++++++++++++++
12. ขนมจีบหมู
เมนูขนมจีบหมูเป็นสูตรอาหารเช้าเมนูฮิตไม่แพ้เมนูขนมจีบกุ้งเชียวล่ะ สูตรจาก คุณอยากให้โลกนี้มีรอยยิ้มเรื่อยไป สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่แครอทลงไปเพิ่มสีสัน กินกับซอสพริกก็เข้ากันดีนะคะ
ส่วนผสม ขนมจีบหมู
• รากผักชี
• หมูสับ
• ไข่ไก่
• น้ำมันงา
• พริกไทยป่น
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
• แครอทหั่นเต๋าเล็ก
• ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม
• แผ่นเกี๊ยว
• กระเทียมสับ
วิธีทำขนมจีบหมู
1. โขลกรากผักชีให้ละเอียด นวดผสมกับหมูสับ ไข่ไก่ น้ำมันงา พริกไทยป่น น้ำปลา น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาวเห็ดหอม เตรียมไว้
2. ตัดแผ่นเกี๊ยวเป็นแผ่นวงกลม โดยใช้แก้วครอบเป็นตัวช่วย
3. วางแผ่นเกี๊ยวลงบนมือ ตักส่วนผสมหมูใส่ประมาณ 2 ช้อนชา รวบจับจีบให้สวยงาม ทำจนหมด
4. วางขนมจีบลงในหม้อนึ่ง พรมน้ำให้ทั่ว นำไปนึ่ง ใช้ไฟปานกลางจนสุก นึ่งจนสุก จัดใส่จาน โรยกระเทียมเจียว และผักชี พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมจีบ ฉบับสอนมือใหม่ทำง่าย ๆ ใครก็ทำได้
++++++++++++++++++++
13. แซนด์วิชแฮมชีส
ส่วนผสม แซนด์วิชแฮมชีส
• ขนมปัง 3 แผ่น
• แฮม
• มอสซาเรลลาชีสขูด 1/2 ถ้วย
• มายองเนส 2 ช้อนชา
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
• ผงพริกปาปริก้า 1 ช้อนชา
• เกลือป่น
• พริกไทยดำ
• เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแซนด์วิชแฮมชีส
1. วางแฮมลงบนขนมปังแผ่นที่ 1 โรยชีสลงไปแล้วประกบขนมปังแผ่นที่ 2 ลงไป
2. วางแฮมลงไปบนขนมปังแผ่นที่ 2 โรยชีสลงไปแล้วประกบขนมปังแผ่นที่ 3 (ที่ทามายองเนสไว้)
3. คนผสมไข่ไก่ นมสด ผงพริกปาปริก้า เกลือ และพริกไทยให้เข้ากัน กดขนมปังแซนด์วิชให้แบนแล้วนำลงไปชุบให้ทั่ว
4. ใส่เนยลงไปบนกระทะใช้ไฟปานกลางรอจนเนยละลาย นำขนมปังลงไปทอด ด้านละ 3-4 นาทีจนสุกเหลืองกรอบทั้ง 2 ด้าน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 12 เมนูแซนด์วิชอบร้อน อาหารว่างทำกินง่ายทำขายดี
++++++++++++++++++++
14. แซนด์วิชไส้ปูอัด
ขนมปังแซนด์วิชเป็นอีกเมนูอาหารเช้าที่พกพาสะดวกแถมหาซื้อง่าย ขอยกตัวอย่างเมนูแซนด์วิชไส้ปูอัด สูตรนี้จับปูอัดฉีกเป็นเส้นผสมกับมายองเนส เพิ่มแครอทลงไปอีกนิด กินอร่อยเต็มปากเต็มคำเชียวล่ะ
ส่วนผสม แซนด์วิชไส้ปูอัด
• ปูอัด 200 กรัม (ฉีกเป็นเส้นแล้วสับหยาบ ๆ)
• แครอท 1/2 ถ้วย (ขูดเป็นเส้น ๆ แล้วสับหยาบ ๆ)
• มายองเนส 100 กรัม
• ขนมปังแผ่น (ตามชอบ)
วิธีทำแซนด์วิชไส้ปูอัด
1. ผสมปูอัด แครอท และมายองเนสเข้าด้วยกัน (ถ้าต้องการหวานสามารถใส่น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม หรือน้ำตาลทรายได้)
2. ตักส่วนผสมไส้ปูอัดลงตรงกลางแผ่นขนมปัง (ปริมาณตามชอบ) เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน (แต่ไม่ต้องสุดขอบขนมปังเพื่อความสวยงามและป้องกันไส้ล้นออกมา)
3. ประกบด้วยขนมปังอีกแผ่น ตัดเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แซนด์วิชไส้ปูอัด เมนูขนมปังง่าย ๆ จะมื้อไหน ๆ ก็อิ่มท้อง
++++++++++++++++++++
15. เบอร์เกอร์ข้าวเหนียวลาบหมู
หนุ่มสาวหลายคนคงถูกปากเมนูเบอร์เกอร์ข้าวเหนียวลาบหมูจากร้านสะดวกซื้อกันทีเดียว สูตรจาก เว็บไซต์ Ching Can Cook จุดเด่นคือ นำข้าวเหนียวประกบไส้ลาบหมู อร่อยรสแซ่บยอมใจจริง ๆ
ส่วนผสม เบอร์เกอร์ข้าวเหนียวลาบหมู
• หมูสับ 2 ขีด
• แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงปรุงรสลาบ-น้ำตก 1 ซอง
• ต้นหอมซอย
• หอมแดงซอย
• ผักชีฝรั่งซอย
• ใบสะระแหน่
• ข้าวเหนียว
• ผักกาดหอม
วิธีทำเบอร์เกอร์ข้าวเหนียวลาบหมู
1. ผสมหมูสับแป้งข้าวโพด ผงปรุงรสลาบ-น้ำตก ต้นหอม หอมแดง ผักชีฝรั่ง และใบสะระแหน่ ให้เข้ากัน นำไปตำในครกให้เป็นเนื้อเดียวกัน และนวดด้วยมือจนเหนียวหนึบ สุดท้ายนำไปแช่ตู้เย็นสัก 2-3 ชั่วโมง
2. ข้าวเหนียวกัน โดยหาพิมพ์กลมมาชโลมน้ำให้ทั่ว นำข้าวเหนียวร้อน ๆ ปั้นใส่ลงไปในพิมพ์ ยกพิมพ์ออก พักไว้
3. นำหมูหมักมาปั้นเป็นก้อนด้วยพิมพ์กลม นำไปนึ่งพอสุก แล้วนำไปย่างบนกระทะเทฟลอนจนสุกเกรียมสวย
4. ประกบไส้ลาบหมูกับข้าวเหนียว พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์เกอร์ข้าวเหนียวลาบหมู อาหารไทยชื่ออินเตอร์
++++++++++++++++++++
16. ขนมครก
ส่วนผสม ตัวแป้ง
• แป้งข้าวเจ้า 1+1/4 ถ้วย
• ข้าวสุก 1/3 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย
• เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
• น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย
• หัวกะทิ 1 ถ้วย
• หางกะทิ 1/2 ถ้วย
ส่วนผสม หน้ากะทิ
• หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย
• เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม หน้าขนมครก
• ต้นหอมซอย
• เผือกหั่นเต๋าเล็ก ๆ
• เม็ดข้าวโพด
• น้ำมันพืชสำหรับทาเบ้าขนมครก
วิธีทำแป้งขนมครก
• นำส่วนผสมตัวแป้ง (แป้งข้าวเจ้า ข้าวสุก น้ำตาลทราย เกลือสมุทร น้ำปูนใส หัวกะทิ และหางกะทิ) ไปปั่นด้วยเครื่องปั่นจนละเอียดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว เทส่วนผสมใส่ภาชนะแล้ววางพักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
วิธีทำหน้ากะทิขนมครก
• ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือสมุทรเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายแล้วค่อย ๆ ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากันดี เตรียมไว้
วิธีทำขนมครก
1. นำเบ้าขนมครกขึ้นตั้งไฟกลาง ทาน้ำมันให้ทั่วหลุมแล้วตักแป้งหยอดลงไปประมาณ 3/4 ของหลุม
2. พอแป้งเริ่มเซตตัว ตักส่วนผสมหน้ากะทิหยอดทับลงไปให้เต็ม ปิดฝาขนมครกแล้วรอให้แป้งเริ่มสุก
3. พอขนมเริ่มสุก เปิดฝาโรยหน้าด้วยเผือก ข้าวโพด และต้นหอมซอย (สูตรนี้ใช้วิธีโรยรวม ๆ กัน 3 in 1 ในเบ้าเดียวกัน)
4. เมื่อขนมสุกใช้ช้อนแคะขนมออกจากเบ้า จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมครก ขนมไทยคู่ปาก (ซอย) คนไทยมาตั้งแต่สมัยเอ๊าะ ๆ
เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงเดาสูตรอาหารเช้าเมนูฮิตถูกกันหลายเมนูเลยใช่ไหมคะ ก็แหม… หน้าตาแต่ละอย่างคุ้นเคยกันทั้งนั้น เจอที่ปากซอยบ้าง เจอในตลาดบ้าง หรือบ้างก็บีบแตรปู๊น ๆ ผ่านหน้าก็ยังมี แม้บางเมนูเช่นหมูปิ้งจะกินมาตั้งแต่เด็กแล้วแต่ก็ยังไม่มีเบื่อเลย ได้เวลานอนกันแล้ว พรุ่งนี้ไปหาอาหารเช้าอร่อย ๆ กินกันเถอะ