ใครมีแพลนจะไปนอนกางเต็นท์ดูดาวและภูเขารับหน้าหนาว ลองลิสต์เมนูอาหารที่อยากทำบ้างหรือยังเอ่ย ? ถ้าหากยังมาจดกันเลยจ้า กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูแคมปิ้ง เช่น เมนูไข่ ยำปลากระป๋อง หม้อไฟเกาหลี สเต๊ก เป็นต้น รับรองเข้าป่าไม่มีอดแน่นอน
1. ยำปลากระป๋อง
ส่วนผสม ยำปลากระป๋อง
- ปลากระป๋อง (สูตรที่ชอบ) 1 กระป๋อง
- หอมแดงซอย 2-3 หัว
- ตะไคร้ซอย 1 ต้น
- พริกขี้หนูซอย (ตามชอบ)
- น้ำมะนาว (ปรุงรส)
- น้ำปลา (ปรุงรส)
- น้ำตาลทราย (ปรุงรส)
- ใบสะระแหน่
วิธีทำยำปลากระป๋อง
1. ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริก ลงในอ่างผสม คนผสมให้เข้ากันและน้ำตาลทรายละลายหมด
2. ใส่ปลากระป๋อง หอมแดง และตะไคร้ซอย ลงเคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน แต่งด้วยใบสะระแหน่ให้สวยงาม
2. ต้มยำปลากระป๋อง
ส่วนผสม ต้มยำปลากระป๋อง
- ปลากระป๋อง
- น้ำเปล่า
- ข่า (หั่นแว่น)
- ตะไคร้ (หั่นท่อน)
- ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง)
- หอมแดง (ปอกเปลือกแล้วทุบพอแตก)
- พริกขี้หนูซอย
- เห็ดฟาง (ผ่า 4 ส่วน)
- น้ำปลา
- มะนาว
- ผักชีฝรั่งซอย (โรยหน้า)
- ผักชีไทยซอย (โรยหน้า)
วิธีทำต้มยำปลากระป๋อง
1. ใส่น้ำลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และเห็ดฟาง ลงไปต้มจนเดือดอีกครั้ง
2. ใส่ปลากระป๋องลงไปต้ม คนผสมให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้งแล้วปิดไฟ
3. บีบน้ำมะนาวลงไป ตามด้วยน้ำปลา คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย โรยด้วยผักชีฝรั่งและผักชีซอย พร้อมเสิร์ฟ
3. ยำมาม่าปลากระป๋อง
ส่วนผสม ยำมาม่าปลากระป๋อง
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง 2 ห่อ
- ปลากระป๋อง
- หอมใหญ่หั่นวง
- มะนาว 1 ซีก
- พริกขี้หนูซอย 3 เม็ด
- ผักชี
วิธีทำยำมาม่าปลากระป๋อง
2. เทปลากระป๋องใส่ชาม เตรียมไว้ ตักเนื้อปลาวางไว้บนเส้นมาม่า เอาหอมวงมาเรียงให้สวยงาม ใส่พริกขี้หนูซอย ตามด้วยเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตามชอบ
3. บีบมะนาวลงไป เทน้ำที่ต้มมาม่าลงไปให้พอท่วมเส้นนิด ๆ โรยผักชีเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
4. บูเดชิเก วิธีทำหม้อไฟเกาหลี
ส่วนผสม บูเดชิเก
- ไส้กรอก (หรือผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปตามชอบ)
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี
- ไข่ไก่
- ผักตามชอบ เช่น ต้นหอมญี่ปุ่นซอย, แครอตหั่นแว่น, เห็ด, ผักกาดขาว, กะหล่ำปลี เป็นต้น
- สาหร่าย
- โคชูจัง
- น้ำมันงา
เคล็ดลับ :
1. การทำบูเดชิเกถ้าอยากให้เนียนคล้ายมาม่าเกาหลี แนะนำให้ใช้มาม่าโอเรียนทอลแบบซอง (เพราะมาม่าเกาหลีเส้นจะเป็นแป้งมันฝรั่ง เด้ง ๆ หนึบ ๆ คนละแบบกับมาม่าไทย ตราโอเรียนทอลนี้คล้ายสุดในราคาเบา ๆ)
2. ส่วนอื่น ๆ ที่ควรมีคือ ผักตามชอบ เช่น เห็ด ผักกาดขาว กะหล่ำปลี
3. โคชูจัง อันนี้เป็นตัวหลักที่ให้รสชาติ แนะนำว่าลองใส่น้ำมันงาจะเพิ่มความแซ่บ
4. สารพัดไส้กรอกและผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป เพราะหม้อไฟนี้เกิดจากที่ทหารอเมริกันเข้ามาตั้งค่าย ส่วนใหญ่เนื้อสัตว์ที่ใส่เลยเป็นเนื้อสัตว์แปรรูป และจะยิ่งแซ่บมากหากเป็นพวกไส้กรอกรมควันและเบคอน เพราะใส่แล้วเพิ่มกลิ่นหอมจนน้ำลายไหล
5. ส่วนอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มได้คือ พวกไข่ และแป้งต๊อกโบกี (Topokki)
วิธีทำหม้อไฟเกาหลี
1. ใส่เส้นมาม่าลงตรงกลางของกระทะ ตามด้วยเครื่องเคราอื่น ๆ ที่หั่นเตรียมไว้วางเรียงลงไปให้ทั่ว
หมายเหตุ : ปกติถ้าใช้มาม่าเกาหลีจะใส่ผงปรุงรสลงไปด้วย ในสูตรใช้มาม่าไทยก็ใส่ได้ แต่มีข้อควรระวังว่า...
- ถ้าชอบแบบแซ่บเหมือนต้มยำ ให้ใส่ผงมาม่า 2 ซอง + โคชูจัง 1 ช้อนโต๊ะ
- ถ้าชอบแบบมีรสผสม ให้ใส่ผงมาม่าแค่ 1/2 ซอง + โคชูจัง 1 ช้อนโต๊ะ
- ถ้าชอบแบบเกาหลีมากกว่า ให้ใส่แต่โคชูจังโปะไปราว 1+1/2 ช้อนโต๊ะพูน ๆ ราดน้ำมันงาและพริกขี้หนู แล้วใส่น้ำซุปหรือน้ำผสมผงซุปนิดหน่อยแทน
ซึ่งสูตรนี้เป็นแบบแรกคือ ใส่ทั้งผงมาม่าและเครื่องมาม่าลงไป ***
2. ตักโคชูจังช้อนใหญ่ ๆ ใส่ลงไปตรงกลางมาม่า ใส่น้ำลงไปจนเกือบท่วมเส้น นำขึ้นตั้งไฟ
หมายเหตุ : ถ้าอยากให้ได้อารมณ์ ใช้หม้อไฟฟ้ามานั่งล้อมวงกัน แต่ในสูตรกินกัน 2 คน ล้างลำบาก เลยทำการจัดเรียงใส่กระทะใบใหญ่ให้สวยงาม ใส่น้ำลงไปราวครึ่งหนึ่งพอท่วมเส้นครึ่งหนึ่ง (ไม่พอเดี๋ยวใส่เพิ่มได้) หากใส่เยอะจะจืด รสไม่เข้มแก้ยากกว่า
3. ต้มไปสักครู่จนเส้นมาม่าเริ่มนิ่มและน้ำเดือดตามต้องการ ระหว่างต้มถ้ากลัวน้ำแห้งสามารถใส่เพิ่มได้ แต่อย่าให้ท่วม ไม่อย่างนั้นจะเจือจางค่ะ หม้อไฟแบบนี้ใส่น้ำแค่พอขลุกขลิก ไม่เยอะ (ข้อควรระวัง มาม่าไทย พอเอาขึ้นแอบดูดน้ำด้วยนะคะ เผื่อไว้หน่อย) พอเส้นสุกตามชอบยกออกจากเตา พร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ: ถ้าเป็นมาม่าไทย ต้มราว 3 นาที หรือพอให้เส้นนุ่มตามชอบ แต่ถ้าเป็นมาม่าเกาหลีต้มนาน ๆ หน่อย เพราะเส้นจะหนากว่า หนึบกว่า ยิ่งต้มนานจะยิ่งดูดซึมน้ำอร่อยไปอีกแบบ ดังนั้นถ้าใช้เส้นเกาหลีอย่าใจร้อน สำหรับเส้นไทยก็ตามชอบได้เลย
5. ไข่กระทะ
ส่วนผสม ไข่กระทะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กุนเชียง
- ไก่รวน หรือหมูรวน
- หมูยอ
- ต้นหอม (สำหรับโรย)
- ซอสปรุงรส
- พริกไทย
- เนยจืดหรือน้ำมัน
วิธีทำไข่กระทะ
1. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่เนย พอเนยละลายแล้วใส่ไข่แล้วปิดฝาให้สุกตามต้องการ
2. พอไข่เริ่มเซตตัวแล้วใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปเลยค่ะ ต้องการสุกมากน้อยแล้วแต่ชอบ เหยาะซอสปรุงรสกับพริกไทย โรยต้นหอม
6. สเต๊กเนื้อโคขุนจิ้มแจ่ว
สายเนื้อมาย่างสเต๊กร้อน ๆ กันดีไหม ขอแนะนำสเต๊กเนื้อโคขุนจิ้มแจ่ว สูตรจาก เฟซบุ๊ก บ.บวม อร่อยเลียชาม จับเนื้อหมักกับเครื่องปรุงแล้วเอาไปย่างจนสุกตามชอบ มาพร้อมวิธีทำน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ
ส่วนผสม เนื้อสเต๊ก
- เนื้อโคขุน หั่นเต๋า 200 กรัม (ใช้ค้อนสำหรับทุบเนื้อ ทุบเพื่อช่วยให้เนื้อนุ่มขึ้น)
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เนยสด เล็กน้อย (สำหรับย่าง)
- เห็ดเข็มทองผัดเนย (สำหรับเสิร์ฟ)
- ผักสลัด (สำหรับเสิร์ฟ)
- ขนมปังโฮลวีตย่าง (สำหรับเสิร์ฟ)
ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว (สำหรับ 1 ถ้วย)
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดได้ตามชอบ)
- ต้นหอมซอย
- ผักชีฝรั่งซอย
วิธีทำสเต๊กเนื้อโคขุน
1. หมักเนื้อกับซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส เกลือป่น น้ำมันมะกอก น้ำตาลทราย ข้าวคั่วป่น และพริกป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้เนื้อนุ่มและรสชาติเข้าเนื้อ
2. นำเนื้อที่หมักไว้ลงย่างในกระทะ ใช้เนยนิดหน่อย ย่างให้สุกแค่ระดับปานกลาง (Medium) จัดจานเสิร์ฟพร้อมเห็ดเข็มทองผัดเนย ผักสลัด และขนมปังโฮลวีต
3. ทำน้ำจิ้มแจ่ว โดยคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ชิมรสแล้วปรุงเพิ่มตามรสชาติที่ชอบ เสิร์ฟพร้อมกับสเต๊ก
7. สเต๊กหมูพริกไทยดำ
ส่วนผสม สเต๊กหมูพริกไทยดำ
- เนื้อหมูสันนอก (ติดกระดูก) 300 กรัม 2-3 ชิ้น
- ซอสหอยนางรม 1/2 ถ้วยตวง
- ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วยตวง
- มายองเนส 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ หรือน้ำสลัดงา
- พริกไทยดำบุบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- โรสแมรี นิดหน่อย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ หรือจะใส่รากผักชี กระเทียม และพริกไทยดำ ตำพอแหลก)
ส่วนผสม ซอสพริกไทยดำ
- น้ำที่ใช้หมักเนื้อ
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
หมายเหตุ : หากเพิ่มผงบราวน์ซอสนิดหน่อย จะอร่อยกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ส่วนผสม ข้าวผัดเนยกระเทียม
- เนยเค็ม
- กระเทียมบุบ
- ข้าวสวย
วิธีทำสเต๊กหมูพริกไทยดำ
2. ใส่เนยลงในกระทะ เปิดไฟปานกลาง รอเนยละลายก็ใส่เนื้อหมูลงไป เร่งเป็นไฟแรงสุด จี่เนื้อหมูในกระทะด้านละ 15-20 วินาที แค่พอผิวสุก
3. หรี่เป็นไฟอ่อนแล้วปิดฝาให้ความร้อนอบเนื้อด้านในให้สุก เป็นเวลา 10-15 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาของเนื้อหมู วิธีกึ่งย่างกึ่งอบนี้จะทำให้เนื้อหมูสุกทั่วทั้งชิ้น แต่เนื้อภายในจะฉ่ำนิ่ม ไม่แข็งกระด้าง
4. ทำซอสพริกไทยดำ โดยนำซอสที่หมักเนื้อหมูมาผสมกับน้ำเปล่าแล้วเปิดไฟแรง พอซอสเริ่มข้นก็ปิดไฟได้
5. ทำข้าวผัดเนยกระเทียม โดยนำเนยกับกระเทียมใส่กระทะ ใช้ไฟอ่อนผัดให้กระเทียมมีกลิ่นหอม จากนั้นก็ใส่ข้าวลงไป เร่งไฟแรงแล้วผัดจนเข้ากัน เสิร์ฟพร้อมสเต๊กหมูราดซอสพริกไทยดำ
8. สเต๊กไก่ย่างพริกไทยดำกับน้ำจิ้มแจ่ว
ส่วนผสม สเต๊กไก่ย่างพริกไทยดำ (สำหรับ 2 ที่)
- สะโพกไก่ 600 กรัม
- น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
- สามสหาย 1 ช้อนโต๊ะ (รากผักชี กระเทียม และพริกไทย โขลกให้เข้ากัน)
- พริกไทยดำ บดหยาบ 1 ช้อนชา
ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา
- พริกป่น ตามชอบ
- ผักชีใบเลื่อย ตามชอบ
- ต้นหอม ตามชอบ
วิธีทำสเต๊กไก่ย่างพริกไทยดำน้ำจิ้มแจ่ว
1. หมักสะโพกไก่กับน้ำมันหอยและสามสหายเข้าด้วยกัน
2. โรยพริกไทยดำลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
3. พอหมักไก่ได้ที่แล้วก็ตั้งกระทะใช้ไฟแรงสุด นำไก่ลงไปย่างบนกระทะ โดยเอาส่วนที่เป็นหนังลงไปก่อน
4. ปิดฝาแล้วลดเป็นไฟอ่อน พอไก่สุกได้ที่ก็กลับด้าน ปิดฝาแล้วรอจนกว่าจะสุกทั่ว
5. พอไก่สุกแล้วให้กลับด้าน และเอาส่วนที่เป็นหนังลงไปนาบกระทะอีกครั้ง แล้วใช้ไฟแรงสุดเพื่อให้หนังเกรียมสวย
6. ทำส่วนผสมของน้ำจิ้มแจ่ว โดยผสมน้ำปลา น้ำมะนาว ข้าวคั่ว น้ำตาลทราย พริกป่น ผักชีใบเลื่อย และต้นหอม ให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมกับสเต๊กไก่พริกไทยดำ ผักสลัด หรือผักอื่น ๆ ตามชอบเลยจ้า
9. ขนมปังโทสต์ไข่แฮมชีส
ถ้าเบื่อขนมปังทาแยมลองมาทำขนมปังเกาหลีกันไหม นี่เลยขนมปังโทสต์ไข่แฮมชีส สูตรจาก คุณแฟนผมเป็นสาว healthy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ผักและชีส เติมโปรตีนจากไส้กรอก แฮม และไข่ เพิ่มต้นหอมกลิ่นอวล
ส่วนผสม ขนมปังโทสต์ไข่แฮมชีส
- ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
- แครอตหั่นเส้น
- ต้นหอมซอยยาว
- เห็ดหอมสด หั่นบาง
- มอสซาเรลล่าชีส หรือชีสมิกซ์
- ไส้กรอก หั่นบาง
- แฮม หั่นบาง
- ไข่
- น้ำมัน หรือเนย
- มายองเนส
- ซอสมะเขือเทศ
- ใส่ผักหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้ตามชอบ
วิธีทำขนมปังโทสต์ไข่แฮมชีส
2. ตอกไข่ลงในกระทะ ใส่แครอต ต้นหอม เห็ดหอมสด และมอสซาเรลล่าชีส ลงไป
3. ใส่ไส้กรอกกับแฮม เสร็จแล้วกลับด้านเพื่อให้ผักและเนื้อสัตว์สุกดี จากนั้นกลับด้านมาอีกครั้ง ราดด้วยมายองเนส ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หรืออื่น ๆ ตามชอบได้เลย ตักส่วนผสมไส้วางบนขนมปังที่เตรียมไว้ ประกบด้วยขนมปังอีก 1 แผ่น เสร็จแล้วก็หั่นเป็นชิ้น
10. ผัดผักบุ้งหมูกรอบ
ส่วนผสม ผัดผักบุ้งหมูกรอบ
- ผักบุ้ง 300 กรัม
- หมูกรอบ (ปริมาณแล้วแต่ชอบ)
- กระเทียม 3-4 กลีบ (นำมาสับ)
- พริกแห้ง 10 เม็ด (หรือแล้วแต่ความเผ็ดที่ชอบ)
- น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
- เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำผักผักบุ้งหมูกรอบ
1. ใส่ผักบุ้งลงอ่างผสม ปรุงรสด้วยพริกแห้ง กระเทียมสับ น้ำมันหอย เต้าเจี้ยว และน้ำตาลทราย ใส่หมูกรอบที่เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันรอจนร้อนจัด (ถ้าใครอยากทำแบบไฟลุกไฟแดง ให้ตั้งกระทะให้ร้อนจัดกว่านี้แบบสุด ๆ เลย แล้วค่อยใส่ลงไปผัด) ใส่ผักบุ้งลงไปผัดให้พอผักสลดเพื่อความกรอบของผักบุ้ง จากนั้นปิดไฟและจัดเสิร์ฟ
11. ไข่ป่าม
ส่วนผสม ไข่ป่าม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เกลือป่น เล็กน้อย (สำหรับปรุงรส)
- พริกไทยป่น เล็กน้อย (สำหรับปรุงรส)
- เนื้อหมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย (สำหรับโรยหน้า)
- พริกขี้หนูแดงซอย ปริมาณตามชอบ
- กระทงใบตอง
วิธีทำไข่ป่าม
2. ใส่หมูสับ ไส้กรอก หรือปูอัด โรยหน้าด้วยพริกขี้หนูแดงซอยและต้นหอมซอย
3. นำไข่ป่ามไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟอ่อน หรือวางลงบนกระทะแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ย่างจนไข่ขึ้นฟูและสุกทั่วทั้งหมด จัดใส่จาน
12. ซุปกิมจิ
ส่วนผสม ซุปกิมจิ
- เบคอนหั่น หรือหมูสามชั้นหั่นชิ้น 100 กรัม
- ผงกระเทียม 1 ช้อนชา หรือกระเทียมสับ 3 กลีบ
- ขิงผง 1 ช้อนชา หรือขิงสับ 1 ช้อนชา
- พริกป่น หรือพริกเกาหลี 1/4 ช้อนชา
- กิมจิ 150-200 กรัม
- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
- ดาชิ (ผงซุปปลา) 2 ช้อนโต๊ะ (ซุปก้อนไก่หรือหมู 1/2 ก้อน หรือน้ำที่แช่ปลาแห้งปริมาณพอเหมาะ)
- โคชูจัง (พริกแกงเกาหลี) 1-2 ช้อนโต๊ะ
- มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) หรือเต้าเจี้ยวไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- เต้าหู้คินุ หรือเต้าหู้ใบตอง หั่นเต๋าใหญ่ 1/2-1 ก้อน
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ต้นหอมญี่ปุ่น หรือต้นหอมไทย หั่นท่อน
วิธีทำซุปกิมจิ
1. นำเบคอนลงไปผัดในกระทะพอให้มีน้ำมันออกมา แล้วใส่กระเทียม ขิง และพริกป่น ลงไปผัดให้เข้ากัน
2. หลังจากผัดเบคอนจนหอมแล้วจึงใส่กิมจิ (พร้อมน้ำกิมจิ) ลงไปผัด
3. ใส่น้ำเปล่าลงไป ปรุงรสด้วยผงซุปปลา ใส่โคชูจัง
4. ใส่มิโซะลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เต้าหู้ลงไป รอสักครู่เพื่อให้เต้าหู้ดูดซึมน้ำซุปเข้าไป (ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที) ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ปิดไฟ ตักใส่ชาม โรยต้นหอม พร้อมเสิร์ฟ
13. ฟักทองผัดไข่
ส่วนผสม ฟักทองผัดไข่
- ฟักทองดิบ หั่นเป็นชิ้น ประมาณ 200 กรัม
- หมูสับ 30 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กระเทียม 2-3 กลีบ
- โหระพา เด็ดเป็นใบ
- น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่าหรือน้ำสต๊อก 1/2 ถ้วย
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะพูน ๆ
วิธีทำฟักทองผัดไข่
1. นำกระเทียมสับเจียวในกระทะให้หอม ใส่หมูสับลงไปผัด พอหมูสับใกล้สุกนำฟักทองใส่ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำมันหอยลงไปผัดให้เข้ากัน
2. เติมน้ำลงไปคลุกเคล้าเบา ๆ สังเกตพอฟักทองสุก 90% ให้ตอกไข่ใส่ลงไป ผัดไข่เบา ๆ ให้ทั่วพอไข่และฟักทองสุก น้ำจะงวดพอดี ใส่ใบโหระพาลงไป พร้อมเสิร์ฟ
14. ข้าวผัดมาม่าหมูสับ
ถ้าข้าวเหลือ ๆ ลองจับมาผัดกับมาม่าเป็นอาหารจานใหม่เก๋ ๆ กันเถอะ นี่ไงข้าวผัดมาม่าหมูสับ สูตรจาก คุณ Panda-chan สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่เครื่องปรุงตามชอบ แต่งสีสันจากต้นหอม
ส่วนผสม ข้าวผัดมาม่าหมูสับ
- กระเทียมสับ
- หมูสับ
- ไข่ไก่
- ข้าวสวย
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสที่ชอบ
- ต้นหอมซอย
วิธีทำข้าวผัดมาม่าหมูสับ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้มีสีเหลืองทอง แล้วใส่หมูสับ ตามด้วยไข่ลงไป
2. ใส่ข้าวลงไปแล้วผัดให้เข้ากัน ตามด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลวกแล้ว จากนั้นก็ใส่เครื่องปรุง ผัดให้เข้ากันแล้วใส่ต้นหอมซอย
15. หมูมะนาว
ส่วนผสม หมูมะนาว
- เนื้อหมู 300 กรัม
- ก้านคะน้า
- กระเทียมจีนสับ 1 หัว
- พริกขี้หนูสับ 6 เม็ด หรือตามชอบ
- มะนาว 3 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
วิธีทำหมูมะนาว
1. นำก้านคะน้ามาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเฉียงเป็นชิ้น ๆ แช่ในน้ำแข็ง เตรียมไว้
2. เตรียมน้ำราดหมูมะนาว โดยผสมน้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว เข้าด้วยกัน จากนั้นใส่กระเทียมสับและพริกสับลงไปคนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เตรียมไว้
3. หั่นสไลซ์เนื้อหมูเป็นแผ่นบาง ๆ ตามแนวเส้น (เพื่อให้เนื้อหมูนุ่มอร่อย) นำไปลวกในน้ำเดือดแค่พอสุก (อย่าลวกนานจะทำให้หมูแข็งกระด้าง) ตักเนื้อหมูขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วจัดเรียงใส่จาน ราดด้วยน้ำราด เสิร์ฟพร้อมกับก้านคะน้าที่เตรียมไว้
16. หมูกระทะ
ส่วนผสม น้ำจิ้มหมูกระทะ
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดงจินดาสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชี 2 ต้น
- น้ำเปล่า 550 มิลลิลิตร
- ซอสพริก 400 กรัม
- ซอสมะเขือเทศ 250 กรัม
- น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำกระเทียมดอง 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งกวนไส้ หรือแป้งมัน หรือแป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผสมแป้ง)
- งาขาวคั่ว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีสับ
ส่วนผสม หมักหมูนุ่ม
- สะโพกหมู 1+1/2 กิโลกรัม
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
- งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำจิ้มหมูกระทะ
1. นำกระเทียมมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด และนำไปสับพอหยาบใส่ถ้วย นำพริกเด็ดขั้วล้างน้ำให้สะอาด และสับเตรียมไว้ นำผักชีล้างน้ำให้สะอาด ตัดส่วนรากมาสับให้ละเอียด ส่วนใบและก้านซอยเตรียมไว้
2. นำน้ำเปล่า ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย เกลือ น้ำกระเทียมดอง และน้ำส้มสายชู ใส่ลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากัน และชิมรสตามความชอบ หลังจากนั้นใส่กระเทียมสับ
3. ใส่พริกสับ คนให้เข้ากัน ใส่แป้งกวนไส้หรือแป้งข้าวโพดที่ผสมน้ำไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ใส่งาขาวคั่วตามชอบ ใส่น้ำมันงา คนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนจนส่วนผสมเดือดและข้น หลังจากนั้นปิดไฟ โรยผักชี
วิธีหมักหมู
2. โรยด้วยงาขาวคั่ว แล้วคลุกเคล้านวดให้เข้ากันจนน้ำแห้ง หลังจากนั้นนำเข้าตู้เย็น แช่ไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน ก็จะได้หมูนุ่ม ๆ มาไว้ทำได้หลายเมนูค่ะ จะทำหมูกระทะ สุกี้ หรือนำไปทำราดหน้าก็ได้
17. ยำกุนเชียง
ส่วนผสม ยำกุนเชียง
- กุนเชียง 1/2 แท่ง
- พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- แตงกวา (สไลซ์บาง ๆ) 2 ลูก
- หอมแดงซอย 2 หัว
- ขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อนสั้น) 1 ต้น
วิธีทำยำกุนเชียง
2. ผสมพริกขี้หนูซอย น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย
3. ใส่แตงกวาสไลซ์ หอมแดงซอย กุนเชียง และขึ้นฉ่าย ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
แนะนำเมนูง่าย ๆ ที่น่าสนใจ ใครอยากทำเมนูไหนคลิกเลยจ้า
◆ น้ำพริกปลากระป๋อง เมนูง่าย ๆ อร่อยแซ่บนัว
◆ เฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง อาหารว่างกรอบเพลินพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด
◆ ข้าวไข่ข้นแฮม เมนูไข่ง่าย ๆ ส่วนผสมน้อย อร่อยเยิ้ม ๆ