x close

16 เมนูสมุนไพร ทั้งอาหารจานเดียวและกับข้าวอร่อยได้สุขภาพ

          เมนูสมุนไพรทำอย่างไรให้อร่อย ? มาทางนี้ แจกสูตรอาหารไทยทำไม่ยากแคลอรีต่ำ เหมาะเป็นทั้งอาหารจานเดียวและเมนูกับข้าว ใครอยากมีสุขภาพดี คุณได้สิทธิ์นั้นบัดเดี๋ยวนี้
          เอ่ยถึงเมนูสมุนไพรเชื่อแน่ว่าหลายคนนึกถึงเมนูตะไคร้ แต่ถ้ากินบ่อยคงเบื่อ คงจะดีถ้าหากมีอาหารที่มีสมุนไพรเยอะ ๆ แบบอื่นให้ทำบ้าง กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูสมุนไพร เช่น ไข่เจียวสมุนไพร ข้าวต้มสมุนไพร ยำสมุนไพร และเมนูอาหารสมุนไพรแบบอื่น ๆ อีกเพียบ อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนลองทำดูเลยจ้า
 

1. ไข่เจียวเบคอนสมุนไพร

          จากที่เคยทำไข่เจียวเบคอน แม้จะอร่อยแต่ดูไม่ค่อยได้สุขภาพเท่าไร ลองใส่สมุนไพรเพิ่มคุณค่ากันดีไหม พบกับไข่เจียวเบคอนสมุนไพร สูตรนี้ใส่ใบโหระพา กระเทียม และพริกชี้ฟ้าลงไปตีผสมกับไข่ไก่ เพิ่มโปรตีนจากเบคอน พออบจนสุกก็ตัดแบ่งได้เลยจ้า
 

ส่วนผสม ไข่เจียวเบคอนสมุนไพร
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • เบคอนหั่นชิ้น 100 กรัม
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • หัวไชโป๊หวาน (หั่นฝอย) 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าสีแดง (หั่นแฉลบ) 1 เม็ด
  • ใบโหระพา (ซอยละเอียด) 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช เล็กน้อย
  • ใบโหระพา (สำหรับแต่ง)
  • กระทะเหล็ก
     
วิธีทำไข่เจียวเบคอนสมุนไพร

     1. ตีไข่ไก่พอแตก ใส่เบคอน กระเทียม และหัวไชโป๊หวาน คนให้เข้ากัน
     2. ใส่พริกชี้ฟ้ากับใบโหระพา คนให้เข้ากันอีกครั้ง
     3. เทน้ำมันพืชใส่ในกระทะเหล็ก เทส่วนผสมไข่ลงไป นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 25 นาทีหรือจนสุกเหลือง นำออกมาตกแต่งด้วยใบโหระพา จัดเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

2. ยำไตปลา

          แกงไตปลาใคร ๆ ก็ทำกินกัน ถ้าไม่อยากซ้ำใครลองมาทำยำไตปลา หรือไตปลาทรงเครื่องใส่สมุนไพรลากหลายเคล้ากับน้ำไตปลา รสแซ่บอย่าบอกใคร กินกับผักสดสุดฟิน
 
ส่วนผสม ยำไตปลา
  • ไตปลาขวด
  • น้ำเปล่า
  • ตะไคร้บุบ
  • ข่าบุบ
  • ใบมะกรูด
  • ขมิ้นบุบ
  • หัวกะทิ
  • น้ำตาลปี๊บ
  • น้ำมะนาว
  • ตะไคร้ซอย
  • ข่าซอย
  • ใบมะกรูดซอย
  • ขมิ้นซอย
  • ขิงซอย
  • กระชายซอย
  • พริกขี้หนูซอย
  • หอมแดงซอย
  • เนื้อปลาทูนึ่ง หรือปลาโอย่าง
     
วิธีทำยำไตปลา

     1. ต้มไตปลากับน้ำเปล่าเล็กน้อย ตามด้วยตะไคร้บุบ ข่าบุบ ใบมะกรูด และขมิ้นบุบ ต้มให้เดือดจนไตปลาละลาย นำมากรองเอาแต่น้ำพักไว้
     2. เอาไตปลาที่กรองแล้วมาตั้งไฟใส่หัวกะทิ ต้มให้พอเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำมะนาว ยกลงพักไว้ให้พออุ่น
     3. ใส่ตะไคร้ซอย ข่าซอย ใบมะกรูดซอย ขมิ้นซอย ขิงซอย กระชายซอย พริกขี้หนูซอย หอมแดงซอย และเนื้อปลาลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

3. หอยลายคั่วสมุนไพร

          หอยลายกระป๋องทำอะไรได้บ้าง ? จับมาทำหอยลายคั่วสมุนไพรสักมื้อสิคะ ทีเด็ดคือเอาเครื่องสมุนไพรไปทอดจนสุกกรอบแล้วค่อยเอามาเคล้ากับหอยลาย ใส่พริกแห้งและเกลือ กินเป็นกับข้าวหรือกับแกล้มก็อร่อยค่ะ
 
ส่วนผสม หอยลายคั่วสมุนไพร
  • หอยลายกระป๋อง
  • ใบมะกรูดฉีก
  • กระเทียมกลีบใหญ่
  • หอมแดง
  • กระชาย
  • ตะไคร้
  • พริกไทยอ่อน
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด
  • พริกขี้หนูแห้ง
  • เกลือป่น
     
หอยลายคั่วสมุนไพร

วิธีทำหอยลายคั่วสมุนไพร

     1. เตรียมผักและสมุนไพร โดยซอยตะไคร้ หอมแดง กระเทียม และกระชายเป็นแว่นบาง ๆ จากนั้นหั่นครึ่งพริกไทยอ่อน เตรียมไว้
     2. เคล้าผสมผักสมุนไพรที่เตรียมไว้ทั้งหมดกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ให้เข้ากัน ให้แป้งกระจายติดสมุนไพรให้ทั่ว (แป้งสาลีฯ จะช่วยให้สมุนไรพกรอบ)
     3. ทอดสมุนไพร โดยใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อนใส่สมุนไพรที่คลุกแป้งไว้ลงไปทอดจนเหลืองและกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
     4. ใส่สมุนไพรที่สะเด็ดน้ำมันแล้วลงในอ่างผสม ตามด้วยหอยลายกระป๋อง เติมเกลือป่นลงไปเล็กน้อย จากนั้นเคล้าผสมให้เข้ากัน เติมพริกแห้งลงไปผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
     5. ตักส่วนผสมหอยลายคั่วสมุนไพรใส่จาน แต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

4. พล่าเต้าหู้กรอบสมุนไพร

          เอาใจคนไม่อยากกินเนื้อสัตว์กับเมนูพล่าเต้าหู้กรอบสมุนไพร จับเต้าหู้ไปทอดจนกรอบแล้วเคล้ากับเครื่องพล่า เติมน้ำปรุงรสลงไป หรือใครจะใส่เต้าหู้ไข่หรือเต้าหู้นิ่มเอาไปลวกก็ตามชอบนะคะ
 
ส่วนผสม พล่าเต้าหู้กรอบ
  • เต้าหู้ (หั่นชิ้นเต๋าทอดพอกรอบ) 200 กรัม
  • ขิงอ่อนซอย 1/4 ถ้วยตวง
  • หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วยตวง
  • แครอทซอย 1/4 ถ้วยตวง
  • ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีเด็ดใบ 1/4 ถ้วยตวง
  • พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
     
ส่วนผสม น้ำปรุงรส
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียกต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1+1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำปรุงรส
     ​​​​►​ ​ผสมส่วนผสมทั้งหมด คนให้ละลายเข้ากัน
 
วิธีทำพล่าเต้าหู้กรอบ

     ​​​​►​ ​เคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่น้ำปรุงรส ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

5. ข้าวต้มปลาสมุนไพร

          มื้อเช้ามาหม่ำเมนูสมุนไพรร้อน ๆ กันเถอะ ขอนำเสนอข้าวต้มปลาสมุนไพร จับปลากะพงต้มกับข่าจนสุกหอม ใส่ข้าวต้มลงไป เพิ่มความเผ็ดร้อนจากใบกะเพรา
 
ส่วนผสม ข้าวต้มปลาใส่ใบกะเพรา
  • น้ำเปล่า (สำหรับลวกปลา)
  • ข่าแก่หั่นแว่น 3 แว่น
  • ปลากะพงหั่นชิ้น 100 กรัม
  • น้ำซุป 2 ถ้วยตวง
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  • ข้าวหอมมะลิหุงสุก 1 ถ้วยตวง
  • ตั้งฉ่าย 1/2 ช้อนชา
  • ใบกะเพรา 1/2 ถ้วยตวง
  • พริกไทยป่น
  • น้ำส้มพริกดอง
     
วิธีทำข้าวต้มปลาใส่ใบกะเพรา

     1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่ข่าต้มสักครู่ ใส่เนื้อปลากะพงลงไปลวกพอสุก ตักขึ้นพักไว้
     2. ต้มน้ำซุป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พอเดือดใส่เนื้อปลากะพงลวกลงไป
     3. ตักข้าวหอมมะลิหุงสุกใส่ลงไป ตามด้วยตั้งฉ่าย ใบกะเพรา ราดด้วยส่วนผสมน้ำซุป จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำส้มพริกดอง 
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

6. ต้มโคล้งปลาทูสมุนไพร

          นานมาแล้วที่ไม่ได้กินเมนูต้มโคล้ง วันหยุดเลยขอจัดต้มโคล้งปลาทู ใส่สมุนไพรคั่วลงในน้ำซุป ใส่ปลาทูกับปลากดรมควันลงไป ปรุงรสตามชอบ
 
ส่วนผสม ต้มโคล้งปลาทู
  • ปลาทูนึ่งแกะเนื้อ 2 ตัว
  • ข่าหั่นแว่น 6 แว่น
  • ตะไคร้หั่นท่อน 2 ต้น
  • กระเทียมปอกเปลือก 5 กลีบใหญ่
  • หอมแดงปอกเปลือก 4-5 หัวเล็ก
  • พริกขี้หนูแห้ง 4-5 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้าแห้ง 3-4 เม็ด
  • น้ำเปล่า 2+1/2 ถ้วยตวง
  • มะเขือเทศ 2 ลูก
  • น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ปลากดรมควันหั่นชิ้นใหญ่ 1/2 ตัว
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดฉีกก้านกลางออก 5 ใบ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
     
วิธีทำต้มโคล้งปลาทู

     1. คั่วข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู และพริกชี้ฟ้า ด้วยไฟกลางจนหอมและสุกทั่ว ประมาณ 3-5 นาที ตักขึ้นพักไว้
     2. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่ส่วนผสมที่คั่วไว้ลงไป รอจนน้ำซุปหอมจึงใส่มะเขือเทศ ปรุงรสด้วยน้ำปลา
     3. ใส่ปลากดรมควัน เนื้อปลาทู ใช้ไฟค่อนข้างอ่อน พอเดือดอีกครั้ง ใส่ผักชีฝรั่ง ใบมะกรูด ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

7. ต้มเห็ดสมุนไพร

           ใครชอบกินเห็ดฟางเป็นทุนเดิม อยากให้ลองมาทำต้มเห็ดสมุนไพร ใส่ตะไคร้ โหระพา และกะเพราลงในน้ำซุป เพิ่มกลิ่นหอมจากผักชีฝรั่ง ที่ขาดไม่ได้เลยคือเห็ดฟาง
 
ส่วนผสม ต้มเห็ดสมุนไพร
  • น้ำ 4 ถ้วย
  • หอมแดงทุบ 5 หัว
  • ตะไคร้ 4 ต้น (หั่นเป็นท่อนแล้วทุบ)
  • กระเทียมกลีบใหญ่ 5 กลีบ
  • เห็ดฟาง (ดอกตูม) 200 กรัม
  • มะขามเปียก (ทั้งรก) 2 ฝัก
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
  • ใบโหระพา (เด็ดเป็นใบ) 1/2 ถ้วย
  • ใบกะเพรา (เด็ดเป็นใบ) 1/2 ถ้วย
  • ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วย
  • พริกแห้งทอด 3 เม็ด
     
วิธีทำต้มเห็ดสมุนไพร

     1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง พอน้ำเดือดใส่หอมแดง ตะไคร้ และกระเทียมลงไปต้มสักครู่จนมีกลิ่นหอม
     2. ใส่เห็ดฟางลงไปต้มจนสุกประมาณ 5 นาที ปรุงรสด้วยมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และซีอิ๊วขาว คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ให้เปรี้ยวกลมกล่อม)
     3. ใส่โหระพา ใบกะเพรา ผักชีฝรั่ง และพริกแห้งทอดลงไป ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย แต่งด้วยยอดใบกะเพราให้สวยงาม เสิร์ฟขณะร้อน ๆ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

8. ข้าวกล้องผัดสมุนไพรแซลมอนรมควัน

          หิว ๆ แบบนี้ต้องเจอกับข้าวกล้องผัดสมุนไพรแซลมอนรมควัน ใส่ปลาแซลมอนผัดกับข้าวกล้องและเครื่องสมุนไพร เพิ่มความกรอบอร่อยจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์
 
ส่วนผสม ข้าวกล้องผัดสมุนไพรแซลมอนรมควัน
  • แซลมอนรมควัน (สามารถเปลี่ยนเป็นปลาทูหรือเนื้อสัตว์อื่นแทนได้)
  • พริกขี้หนูซอย 5 เม็ด
  • ตะไคร้ซอย 1 ต้น
  • หอมแดงซอย 2 หัว
  • กระเทียมไทยสับ 4-5 กลีบ
  • ข้าวกล้องหุงสุก 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • เกลือป่น สำหรับปรุงรส
  • น้ำตาลทราย (ปรุงรส)
  • น้ำปลา (ปรุงรส)
  • ผักชีฝรั่งซอย 2 ใบ
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น
  • ใบมะกรูดซอย 2 ใบ
  • น้ำมันพืชสำหรับผัด
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด (ปริมาณมาก-น้อยตามชอบ)
  • มะนาว
  • ต้นหอม
  • ผักชี สำหรับแต่ง
     
วิธีทำข้าวกล้องผัดสมุนไพรแซลมอนรมควัน

     1. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่เนื้อปลาแซลมอนลงผัดจนปลาเริ่มสุก
     2. ใส่พริกขี้หนูซอย ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย และกระเทียมสับลงผัดให้หอม
     3. ใส่ข้าวกล้องลงไปผัดให้ข้าวแห้งและเต้นได้แล้วเกลี่ยข้าวไปไว้ริมกระทะ ตอกไข่ไก่ลงไปในกระทะ ยีไข่แดงพอแตก รอจนไข่เริ่มสุกแล้วนำข้าวมาผัดรวมกับไข่
     4. ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำปลา (ใส่อย่างละนิด) ผัดให้เข้ากัน ชิมรสชาติตามชอบ
     5. ปิดไฟ ใส่ผักชีฝรั่งซอย ต้นหอมซอย และใบมะกรูดซอย ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด มะนาว ต้นหอม และโรยผักชี
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

9. น้ำพริกสมุนไพร

          เอาใจคนเลิฟน้ำพริกกันด้วยน้ำพริกสมุนไพร จับเครื่องสมุนไพรและกุ้งแห้งไปทอดจนกรอบแล้วเคล้ากับน้ำปรุงรส กินกับไข่ต้มและผักตามชอบค่ะ
 
ส่วนผสม น้ำพริกสมุนไพร
  • หอมแดงซอย 100 กรัม
  • กระเทียมซอย 75 กรัม
  • ตะไคร้ซอย 25 กรัม
  • ใบมะกรูดซอย 10 กรัม
  • พริกชี้ฟ้าแห้งหั่นท่อนสั้น ๆ 10 กรัม
  • กุ้งแห้ง 25 กรัม
  • ข่าซอย 5 กรัม
  • ไข่ต้ม 2 ฟอง
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด
  • น้ำปรุงรส
  • ผักสดและผักต้มตามชอบ
     
ส่วนผสม น้ำปรุงรส
  • น้ำมะขามเปียกคั้นข้น ๆ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
     
วิธีทำน้ำปรุงรส
     ​​​​►​ ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ยกขึ้นตั้งไฟเคี่ยวพอมีลักษณะเหนียวข้น ปิดไฟ
 
วิธีทำน้ำพริกสมุนไพร

     1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า กุ้งแห้ง และพริกชี้ฟ้า ลงทอดตามลำดับ จนสุกเหลืองกรอบตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
      2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำปรุงรส พอร้อนใส่ส่วนผสมน้ำพริกลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดไฟยกลง พักไว้พออุ่น จัดใส่ถ้วยเสิร์ฟกับไข่ต้ม ผักสด และผักต้มตามชอบ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

10. ไก่จี๊ดสมุนไพร

          เติมโปรตีนกันด้วยเมนูไก่จี๊ดสมุนไพร  ใส่เนื้อไก่ฉีกเคล้ากับเครื่องสมุนไพร ปรุงรสด้วยน้ำยำ โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่และหอมเจียว
 
ส่วนผสม ไก่จี๊ดสมุนไพร
  • สะโพกไก่ 1 ชิ้น
  • มะเขือเปราะ 2-3 ลูก
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูด 3-5 ใบ
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย
  • พริกขี้หนูซอยละเอียด
  • หอมเจียว
  • ใบสะระแหน่
     
วิธีทำไก่จี๊ดสมุนไพร
     1. ล้างสะโพกไก่ให้สะอาด จากนั้นนำไปต้มจนสุก ฉีกสะโพกไก่ที่ต้มสุกแล้วเป็นชิ้นเล็ก ๆ พักไว้
     2. ล้างมะเขือเปราะ และหั่นเป็นแว่นบาง ๆ
     3. ล้างตะไคร้ ใบมะกรูด จากนั้นนำมาซอยให้ละเอียด
     4. ผสมน้ำยำโดยใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทรายเล็กน้อย คนส่วนผสมจนน้ำตาลละลาย ใส่พริกลงไป (กะปริมาณความเผ็ดตามชอบ) คนจนเข้ากัน
     5. ใส่เนื้อไก่ มะเขือเปราะ ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไปเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่และหอมเจียว (หากแห้งมากเกินไป อาจเติมน้ำซุปที่ได้จากการต้มไก่ผสมลงไปด้วยเล็กน้อย)
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

11. ข้าวยำสมุนไพรน้ำกะปิหวาน

          จากที่เคยกินข้าวยำกับน้ำบูดู ลองเปลี่ยนมากินกับน้ำกะปิหวานกันดีไหม พบกับข้าวยำสมุนไพรน้ำกะปิหวาน ข้าวยำมีส่วนผสมของข้าวกล้องกับเครื่องสมุนไพร มาพร้อมวิธีทำน้ำกะปิหวาน
 

ส่วนผสม ข้าวยำสมุนไพรน้ำกะปิหวาน
  • ข้าวกล้องหุงสุก 1+1/2 ถ้วยตวง
  • งาดำคั่วหอม 2 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งแห้งเนื้อทอดสุกป่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาวหั่นชิ้น 2 ลูก
     
ส่วนผสม ผัก และสมุนไพรเคียงข้าวยำ
  • มะพร้าวขูดคั่วจนหอม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ซอยบาง ๆ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วงอกล้างสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบบัวบกซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบชะพลูซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ส้มโอแกะเนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะม่วงเปรี้ยวสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วฝักยาวซอย 2 ช้อนโต๊ะ
     
ส่วนผสม น้ำกะปิหวานราดข้าวยำ
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมกลีบใหญ่ทุบ 4 กลีบ
  • หอมแดงทุบ 2 หัว
  • ข่าแก่ทุบ 2 ต้น
  • มะกรูดผ่าครึ่ง แคะเม็ดออก 1/4 ลูก
  • ปลาอินทรีเค็มทอด 90 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
  • น้ำมะกรูด 2 ช้อนโต๊ะ
     
วิธีทำน้ำกะปิหวานราดข้าวยำ
     1. นำน้ำเปล่าตั้งไฟกลาง เติมกะปิ กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ข่า และมะกรูด ต้มให้เดือด เติมปลาอินทรีเค็ม เคี่ยวสักพักยกลง กรองด้วยกระชอนเอาแต่น้ำ
     2. นำน้ำที่ได้มาเคี่ยวต่อ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และน้ำมะกรูด เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนน้ำเริ่มเหนียว ยกลง พักไว้ให้เย็น
 
วิธีทำข้าวยำสมุนไพรน้ำกะปิหวาน

     ​​​​►​ ตักข้าวกล้องใส่จาน วางเคียงด้วยกุ้งแห้งป่น งาดำคั่ว พริกขี้หนูแห้งป่น มะนาว ผัก และสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมน้ำกะปิหวาน
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

12. ยำตะไคร้ทูน่า

          ยำตะไคร้กุ้งสดหรือยำตะไคร้หมูสับคงต้องชิดซ้ายให้กับยำตะไคร้ทูน่า จับทูน่าเคล้ากับเครื่องสมุนไพร ปรุงรสตามชอบ กินกับไข่ต้มและผักลวก
 
ส่วนผสม ยำตะไคร้ทูน่า
  • ทูน่ากระป๋อง (แนะนำเป็นทูน่าในน้ำแร่)
  • พริกชี้ฟ้า
  • ขิง
  • ตะไคร้
  • มะนาว
  • ใบสะระแหน่
  • เกลือ
     
วิธีทำยำตะไคร้ทูน่า

     1. หั่นขิงเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ และนำพริกมาสไลซ์บาง
     2. ใส่พริก ขิง และตะไคร้ที่หั่นแล้วใส่ถ้วย บีบน้ำมะนาวตามชอบ
     3. ใส่ทูน่าลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วใส่ใบสะระแหน่
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

13. ยําตะไคร้ปลากรอบ

ยําตะไคร้ปลากรอบ

          มาต่อกันที่อีกเมนูยำตะไคร้นั่นคือ ยําตะไคร้ปลากรอบ ใส่หมูสับกับถั่วลิสงทอด ที่ขาดไม่ได้เลยคือตะไคร้ เสิร์ฟกับใบชะพลูกลิ่นหอม
 
ส่วนผสม ยําตะไคร้ปลากรอบ
  • ตะไคร้ซอย (ตามชอบ)
  • หมูสับ (รวนสุก)
  • ปลากรอบ (ตามชอบ)
  • หอมแดงซอย 2-3 หัว
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด หรืออบกรอบ
  • ถั่วลิสงทอด
  • น้ำตาลปี๊บ (ปรุงรส)
  • น้ำปลา (ปรุงรส)
  • น้ำมะนาว (ปรุงรส)
  • พริกขี้หนูสวนซอย (ตามชอบ)
  • ใบชะพลู
     
วิธีทำยําตะไคร้ปลากรอบ

     1. ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว และพริกในอ่างผสม คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ
     2. ใส่หมูสับรวนสุก ปลากรอบ และหอมแดงลงไป คนให้เข้ากัน
     3. ใส่ตะไคร้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ถั่วลิสงทอด คลุกพอเข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมใบชะพลู
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

14. ยำแซลมอนสมุนไพร

          แซลมอนดิบไม่ค่อยอร่อยถูกปากเท่าไร ลองจับมาทำเมนูยำสมุนไพรดีไหม พบกับยำแซลมอนสมุนไพร  จับแซลมอนเคล้ากับเครื่องสมุนไพรและน้ำยำ
 
ส่วนผสม ยำแซลมอนสมุนไพร
  • เนื้อแซลมอนสด (แล่เป็นชิ้นบาง ๆ)
  • ตะไคร้ซอย
  • กระเทียมหั่นบาง
  • หอมแดงซอย
  • พริกสดซอย
  • ต้นหอมซอย
  • ผักชีซอย
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรสเล็กน้อย
     
วิธีทำยำแซลมอนสมุนไพร

     1. ผสมน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และผงปรุงรสเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ
     2. ใส่ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง พริก ต้นหอม และผักชีลงไป เคล้าผสมเบา ๆ ให้เข้ากัน
     3. ใส่เนื้อปลาแซลมอนลงไป เคล้าผสมเบา ๆ ให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

15. ยำเห็ดออรินจิสมุนไพร

          และแล้วก็ถึงเมนูยำสมุนไพรที่รอคอยนั่นคือ ยำเห็ดออรินจิสมุนไพร  ใส่เห็ดออรินจิลวกหรือเห็ดอื่น ๆ ลวกก็ตามสะดวก อ้อ… อย่าลืมใส่เครื่องสมุนไพรด้วยนะคะ
 
ส่วนผสม ยำตะไคร้เห็ดออรินจิ
  • เห็ดออรินจิหั่นชิ้น 200 กรัม
  • พริกขี้หนูสวนซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ซอย 5 ต้น
  • หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบสะระแหน่สำหรับโรย
     
วิธีทำยำตะไคร้เห็ดออรินจิ

     1. ผสมน้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากัน
     2. ลวกเห็ดออรินจิในน้ำเดือดแค่พอสุกและนำไปแช่น้ำเย็นทันที เพื่อให้เห็ดมีรสสัมผัสเหนียวหนึบและเด้ง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ  นำไปคลุกกับน้ำยำ
     3. ใส่พริกขี้หนู ตะไคร้ หอมแดง ผักชี และผักชีฝรั่ง คนให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยด้วยใบสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

16. ยําตะไคร้ใบชะพลู

ยําตะไคร้ใบชะพลู

          กลิ่นหอมแรงแบบนี้น่าลองทำจริงเชียว พบกับยําตะไคร้ใบชะพลู ใส่หมูสับกับกุ้งแห้ง เพิ่มถั่วทอด เคล้ากับน้ำยำจนทั่ว เหมาะกินเป็นอาหารเย็นอิ่มสบายท้อง
 
ส่วนผสม ยําตะไคร้ใบชะพลู
  • ตะไคร้ซอย (ตามชอบ)
  • หมูสับรวนสุก
  • กุ้งแห้งทอด
  • หอมแดงซอย  
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด หรืออบสุก
  • ถั่วลิสงทอด
  • น้ำตาลปี๊บ (ปรุงรส)
  • น้ำปลา (ปรุงรส)
  • น้ำมะนาว (ปรุงรส)
  • พริกขี้หนูสวนซอย (ตามชอบ)
  • ใบสะระแหน่
  • ใบชะพลู
     
วิธีทำยําตะไคร้ใบชะพลู

     1. ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว และพริกในอ่างผสม คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ
     2. ใส่หมูสับรวนสุก กุ้งแห้งทอด และหอมแดงลงไป คนให้เข้ากัน
     3. ใส่ตะไคร้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ถั่วลิสงทอด คลุกพอเข้ากัน โรยสะระแหน่ลงไป เคล้าเบา ๆ พอเข้ากัน ตักใส่จานที่รองด้วยใบชะพลู
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมคลิก

          เมนูสมุนไพรแบบนี้คงถูกใจคนรักสุขภาพแน่นอน ขอลองทำข้าวกล้องผัดสมุนไพรก่อนเพื่อนเลยดีกว่า นั่นแน่ ! ใครท้องร้องเสียงดังสารภาพมา ฮา
 

สนใจให้ Kapook.com แนะนำการทำอาหารด้วยเครื่องปรุง ของใช้ในครัว หรืออื่น ๆ รับทำการตลาดด้วย Social Network, Content Marketing

คลิกเลย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
16 เมนูสมุนไพร ทั้งอาหารจานเดียวและกับข้าวอร่อยได้สุขภาพ อัปเดตล่าสุด 27 มีนาคม 2562 เวลา 11:48:29 143,096 อ่าน
TOP