รวมสูตรเค้กมินิ ชิ้นเล็กสุดน่ารัก ทำกินทำแจกได้ หรือทำเค้กขายออนไลน์ก็กำไรดี มีกิมมิค
1. เค้กเลมอน
ชวนทำเค้กมินิสีเหลืองสวยนั่นคือ เค้กเลมอน สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ใส่น้ำเลมอนและผิวเลมอน แต่งหน้าด้วยไอซิ่งเกลซ
ส่วนผสม เค้กเลมอน
- เนยสดรสเค็ม 100 กรัม
- ครีมชีส 110 กรัม
- น้ำตาลทราย 80-90 กรัม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- แป้งอเนกประสงค์หรือแป้งเค้ก 135 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
- ผิวเลมอน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- สีผสมอาหารสีเหลือง
- เลมอน (สำหรับแต่ง)
- ส่วนผสม ไอซิ่งเกลซมะนาว
- ไอซิ่ง 150 กรัม
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำเค้กเลมอน
2. หยอดใส่พิมพ์ประมาณ 3/4 ของถ้วย อบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 20-25 นาที นำออกมาพักบนตะแกรงจนเย็น
3. ทำไอซิ่งเกลซโดยผสมน้ำมะนาวกับน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน บีบหรือราดบนเค้ก ตกแต่งด้วยเลมอน
2. เค้กช็อกโกแลตฟองดอง
มาต่อกันที่เค้กไส้ทะลักขนาดเล็กกับเค้กช็อกโกแลตฟองดอง สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หล่อตัวเค้กด้วยพิมพ์ทรงกลมแล้วใส่ช็อกโกแลตเคลือบนมหลากสีลงไป คลุมด้วยฟองดองและแต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีม
ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลตฟองดอง
- ช็อกโกแลต
- ช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาล
- ฟองดองไอซิ่ง
- เกล็ดน้ำตาลตามชอบ
วิธีทำเค้กช็อกโกแลตฟองดอง
1. หั่นช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็กเพื่อให้ละลายได้เร็วขึ้น เราจะใช้ไอน้ำในการละลายช็อกโกแลต ใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟจนเดือด จากนั้นก็ลดไฟให้เบาลง วางภาชนะที่ใส่ช็อกโกแลตบนหม้อ คนเบา ๆ จนช็อกโกแลตละลายเป็นเนื้อเนียน เทช็อกโกแลตลงในพิมพ์เค้กสปริงฟอร์ม แล้วค่อย ๆ ตะแคงพิมพ์สปริงฟอร์มเพื่อให้ช็อกโกแลตไหลไปเคลือบให้ทั่วแล้วนำไปแช่เย็น
2. เทช็อกโกแลตลงไปเคลือบซ้ำประมาณ 2-3 รอบ เนื้อเค้กจะได้หนาขึ้น แล้วนำไปแช่เย็น พอช็อกโกแลตเซตตัวก็แกะออกจากพิมพ์สปริงฟอร์มได้เลย
3. เทช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาลหลากสีลงไป ใช้จานปิดด้านบนตัวเค้กแล้วคว่ำไว้บนจาน ตกแต่งหน้าด้วยฟองดอง
4. แต่งหน้าเค้กด้วยบัตเตอร์ครีมและเกล็ดน้ำตาลสีสันตามชอบ
3. ชีสเค้กหน้าไหม้
และแล้วก็ถึงสูตรเค้กมินิที่รอคอยนั่นคือ ชีสเค้กหน้าไหม้ สูตรจาก คุณ Little Pastry Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ส่วนผสมใส่ครีมชีสเน้น ๆ เพิ่มวิปปิ้งครีมและน้ำตาลทราย เอาไปอบจนหน้าไหม้สวย
ส่วนผสม ชีสเค้กหน้าไหม้ (สำหรับ 5 ชิ้นเล็ก)
- ครีมชีส 150 กรัม
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1/4 ช้อนชา
- วิปปิ้งครีม 60 กรัม
- ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 1 ฟอง
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
วิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้
2. นำครีมชีสและน้ำตาลทรายใส่ลงในอ่างผสม คนผสมให้เข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลลาและวิปปิ้งครีมลงในอ่างผสม ตีให้เข้ากัน ตอกไข่ลงไปผสมกับครีมชีส ตีให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพดลงไป ผสมให้เข้ากัน
3. นำส่วนผสมเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปอบที่อุณหภูมิ 225 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 23-25 นาที หลังจากสุกแล้วรอให้เย็น และนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำมาเสิร์ฟ
4. สตรอว์เบอร์รีชอร์ตเค้ก
ส่วนผสม สตรอว์เบอร์รีชอร์ตเค้ก
- เค้กสำเร็จรูป (ในสูตรใช้บัตเตอร์เค้กของ S&P)
- วิปครีมแบบ Non Dairy 200 กรัม
- สตรอว์เบอร์รีสด
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีชอร์ตเค้ก
2. ตีวิปครีมให้ตั้งยอดแข็ง ตักใส่ถุงบีบ เพื่อสะดวกต่อการบีบ ตัดปลายถุงให้กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ประกอบเค้กโดยวางเค้กบนฐานกระดาษ ตัดแผ่นพลาสติกใสให้พอดีกับเค้กของเรา พันพลาสติกใสรอบเค้ก ติดเทปให้เรียบร้อย
3. หั่นสตรอว์เบอร์รี 2 แบบ โดยแบบแรกหั่นตามขวาง 1 ลูกหั่นให้ได้ 4 ชิ้น และแบบที่ 2 หั่นเต๋า
4. ประกอบเค้กโดยบีบครีมบาง ๆ เป็นวงกลมรอบตัวเค้ก วางสตรอว์เบอร์รีที่หั่นขวางให้ชิดแนบกับแผ่นพลาสติก บีบครีมทับลงไปให้ทั่ว วางสตรอว์เบอร์รีแบบเต๋าตรงกลาง บีบครีมทับสตรอว์เบอร์รีแบบเต๋า วางเค้กลงไป กดเบา ๆ บีบครีมทับอีกรอบ ปาดครีมด้านบนให้เรียบ ตกแต่งด้วยผลสตรอว์เบอร์รีสด
5. เค้กลูกส้ม
มาต่อกันที่เค้กมินิยอดนิยมอย่างเมนูเค้กลูกส้ม สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ จับเค้กใส่พิมพ์เค้กทรงกลมคล้ายผลส้ม ราดด้วยแยมส้มหน้านิ่มรสเปรี้ยวหวาน
ส่วนผสม สปันจ์เค้กส้ม (ประมาณ 10-12 ลูก)
- ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 70-80 กรัม
- สารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี (SP) หรือโอวาเล็ต (Ovalet) 10 กรัม
- นมสด หรือนมจืด 40 กรัม
- น้ำส้มคั้น หรือน้ำเปล่า 40 กรัม
- กลิ่นส้ม 1/2 ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีส้ม
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เนยเค็มละลาย 80 กรัม
ส่วนผสม แยมส้มหน้านิ่ม (ซอสส้ม)
- น้ำเปล่า 300 กรัม
- น้ำส้มซันควิก 70 กรัม
- น้ำตาลทราย 110 กรัม
- แป้งข้าวโพด หรือแป้งกวนไส้ 25 กรัม
- เนยสดรสเค็ม 30 กรัม
- สีผสมอาหารสีส้ม
วิธีทำเค้กลูกส้ม
2. เติมนม น้ำส้ม กลิ่นส้ม และสีผสมอาหารสีส้ม ประมาณ 15-20 หยด หรือตามชอบ ลงไปตีต่อจนส่วนผสมทั้งหมดขึ้นฟูเบา สังเกตจากเวลายกหัวตะกร้อขึ้น ส่วนผสมหยดลงโถแล้วไม่จมลงไป จะลอยบนผิวด้านบน
3. หลังจากนั้นใส่แป้งที่ร่อนพร้อมผงฟูลงไป (ให้ร่อนแป้งสัก 2 รอบเพื่อความนุ่มฟู) ตะล่อมเบา ๆ ก่อนเปิดเครื่อง เพราะถ้าเปิดเครื่องเลยแป้งจะฟุ้งค่ะ หลังจากนั้นก็ตีต่อด้วยความเร็วปานกลางสัก 2-3 นาที
4. ลองเช็กก้นโถว่ามีแป้งนอนก้นไหม ถ้าไม่มีก็ค่อย ๆ เติมเนยละลายที่พักจนอุ่นลงไปทีละนิด อย่าเทพรวดเดียว เพราะจะตีผสมกันยาก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เค้กเป็นไตได้ พอใส่เนยละลายหมดแล้วก็ตีต่ออีกสัก 3 นาที
5. ทาเนยขาวให้ทั่วพิมพ์ เตรียมไว้ ตักแป้งเค้กใส่พิมพ์เค้กลูกส้ม ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ หรือเต็มพิมพ์ หลังจากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม ประมาณ 20-25 นาที
6. พออบเสร็จเอาออกมาจากเตาแล้วก็คว่ำลงบนตะแกรง พักทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วค่อยแกะพิมพ์ซิลิโคนออก หลังจากนั้นก็พักให้เย็นสนิทบนตะแกรง
7. ระหว่างรอเค้กให้เย็นก็มาทำซอสส้มกัน โดยผสมน้ำ น้ำส้มซันควิก และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพดลงไปตีผสมให้เข้ากัน ยกขึ้นเตา เปิดไฟอ่อน-กลาง คนเรื่อย ๆ จนซอสสีเริ่มใสและข้นขึ้น
8. ปิดเตา ใส่เนยลงไปคนให้เข้ากัน เติมสีผสมอาหารสีส้ม ประมาณ 10-15 หยด หรือตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็นำมาราดบนเค้กส้ม ราดสัก 2 รอบ แล้วก็ยกถาดเคาะเบา ๆ เพื่อให้ผิวส้มเรียบเสมอกัน จากนั้นพักให้เซตตัวประมาณ 20 นาที พอเซตตัวแล้วก็ตกแต่งด้วยใบแก้วหรือใบมะยม
6. เค้กสตรอว์เบอร์รีหน้ากรอบ
ส่วนผสม เค้กสตรอว์เบอร์รีหน้ากรอบ (ประมาณ 8 ชิ้น)
- เนยจืด อุณหภูมิห้อง 85 กรัม
- น้ำตาลทรายป่น 190 กรัม
- ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 1 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- นมจืด 70 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 185 กรัม
- ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา
- สตรอว์เบอร์รีสด (หั่น 4 ส่วนต่อ 1 ลูก) สำหรับตกแต่ง 8-10 ลูก
- น้ำตาลทรายป่น สำหรับตกแต่ง 10 กรัม
วิธีทำเค้กสตรอว์เบอร์รีหน้ากรอบ
2. ค่อย ๆ เทนมลงไปผสมในแป้งทีละน้อย ตีให้เข้ากัน ใส่แป้งและผงฟูที่ร่อนแล้วลงไปผสม ค่อย ๆ คนให้เข้ากันอย่างเบามือ
3. นำแป้งขนมเค้กมาตักใส่ถ้วยกระดาษที่เตรียมไว้ ตกแต่งเค้กด้วยสตรอว์เบอร์รีที่เตรียมไว้ และโรยน้ำตาลที่หน้าขนมเค้ก
4. นำขนมเค้กไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที พอครบเวลาแล้วปรับอุณหภูมิลงที่ 170 องศาเซลเซียส อบต่อไปอีก 10 นาที แล้วนำออกมาจากเตา จัดเสิร์ฟ
7. เค้กชาเขียว
ส่วนผสม ของแห้ง
- แป้งเค้ก (ที่ร่อนแล้ว) 1/2 ถ้วย
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) 1/4 ถ้วย
ส่วนผสม ไข่แดง
- ไข่แดง 2 ฟอง
- น้ำมันเมล็ดชา 2 ช้อนโต๊ะ (หรือใช้น้ำมันพืชแทนได้)
- น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไข่ขาว
- ไข่ขาว 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 1/3 ถ้วย
- สีผสมอาหารสีเขียว เล็กน้อย (ไม่ใส่ก็ได้)
- ครีมสด (คลิกอ่าน วิธีทำบัตเตอร์ครีม)
วิธีทำเค้กชาเขียว
2. ร่อนแป้งเค้ก (ที่ร่อนแล้ว) กับผงฟู ผงชาเขียว และเกลือป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ลงไป เตรียมไว้
3. ผสมไข่แดง น้ำมัน และน้ำเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
4. ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) เข้าด้วยกันจนตั้งยอดแข็ง
เคล็ดลับ : ภาชนะตีไข่ขาวต้องแห้งและสะอาด เพราะถ้าไม่แห้งไข่ขาวจะตีไม่ขึ้นฟูแน่นอน
5. นำส่วนผสมไข่แดงผสมกับแป้งที่ร่อนไว้ คนผสมให้เข้ากันจนเนียน และชาเขียวไม่เป็นเม็ด ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปผสมกับไข่ขาวที่ตีไว้ คนผสมพอเข้ากัน เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นานประมาณ 30 นาที
เคล็ดลับ : เวลาอบขึ้นอยู่กับไซส์ถาด ถ้าถาดเล็กจิ๋วแบบถ้วยก็ประมาณ 20 นาที ใช้ไม้จิ้มฟันลองจิ้มดู ถ้าเนื้อไม่ติดไม้ก็สุกแล้ว อย่าอบนานไปเพราะเนื้อจะแห้ง
6. นำเค้กที่อบเสร็จแล้วมาผ่าครึ่งแล้วทาด้วยวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ตามชอบ
8. ชิฟฟ่อนเค้กทองหยอด
ชิฟฟอนเค้กทองหยอด (ขนาดพิมพ์ถาด 7x7 นิ้ว)
- ส่วนผสม ไข่แดง
- ไข่แดง (เบอร์ 2) 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 30 กรัม
- น้ำมันรำข้าว 40 กรัม
- น้ำหรือนมจืด 60 กรัม
- แป้งเค้ก 80 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีเหลือง
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- ทองหยอด
ส่วนผสม ไข่ขาว
- ไข่ขาว (เบอร์ 2) 3 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
ส่วนผสม ครีม
- วิปปิ้งครีม 150 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 15 กรัม
วิธีทำชิฟฟ่อนเค้กทองหยอด
1. ทำส่วนผสมไข่แดงโดยตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายพอเข้ากันแล้วใส่น้ำมันรำข้าว น้ำ และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีจนเข้ากันดี ร่อนแป้งกับผงฟูลงไปในชามผสม ตะล่อมจนเข้ากัน แต่อย่านานมากเดี๋ยวเค้กจะเหนียว จากนั้นใส่สีผสมอาหารสีเหลืองลงไป
2. ทำส่วนผสมไข่ขาวโดยตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ตีพอเข้ากัน จากนั้นทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอดอ่อน-กลาง ตักไข่ขาวบางส่วนใส่ชามไข่แดงที่ผสมไว้ ตะล่อมเบา ๆ จนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ เคาะไล่ฟองอากาศ จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 170-180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20-25 นาที เปิดไฟบน-ล่าง พออบเสร็จก็พักจนเย็นสนิท
3. ทำส่วนผสมครีมโดยตีวิปปิ้งครีมกับไอซิ่งจนตั้งยอด พอเค้กเย็นปาดครีมลงไปให้ทั่ว ตัดแต่งด้านข้างให้สวยงาม ตัดขนาดตามชอบ ตกแต่งด้วยทองหยอดด้านบน
9. เค้กฟักทองแมคคาเดเมีย
เอาใจคนรักสุขภาพกับเค้กฟักทองแมคคาเดเมีย สูตรจาก นิตยสาร @Kitchen เนื้อเค้กใส่ฟักทองนึ่งและถั่วกรุบกรอบ เทใส่พิมพ์รูปแบบตามชอบแล้วเอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม เค้กฟักทองแมคคาเดเมีย
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 350 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- เนย (อุณหภูมิห้อง) 320 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 220 กรัม
- ฟักทองนึ่ง (หั่นเต๋าขนาดใหญ่) 400 กรัม
- แมคคาเดเมีย
วิธีทำเค้กฟักทองแมคคาเดเมีย
2. ตีผสมไข่ไก่กับน้ำตาลทรายแดงด้วยเครื่องตีแป้งให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยลงไป ตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน แล้วใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีผสมให้เข้ากัน
3. เมื่อส่วนผสมเค้กเข้ากันดีแล้ว ใส่ฟักทองนึ่งและแมคคาเดเมียลงไปผสม แล้วเทใส่พิมพ์ นำไปอบที่อุณหภูมิ 170-180 องศาเซลเซียสจนสุก
10. เค้กกล้วยหอมแครอต
เค้กกล้วยหอมทำบ่อยก็เบื่อ ลองเพิ่มออปชั่นอย่างผักลงไปหน่อยดีไหม ชวนทำเค้กกล้วยหอมแครอต สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine ใส่นมสดและกลิ่นวานิลลา ตัดเลี่ยนด้วยช็อกโกแลตชิพ
ส่วนผสม เค้กกล้วยหอมแครอต (12-15 ชิ้น)
- กล้วยหอมสุกบดละเอียด 1+1/2 ถ้วย
- แครอตขูดเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ถ้วย
- นมสดรสจืด 1+1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เนยสดเค็มละลาย 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 1+1/2 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วย
- ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
- ช็อกโกแลตชิพ 1/2 ถ้วย
วิธีทำเค้กกล้วยหอมแครอต
1. ผสมกล้วยหอม แครอต นมสด ไข่ไก่ เนย น้ำตาลทราย เกลือ และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ข้าวโอ๊ต และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน ใส่ในส่วนผสมกล้วย คนให้เข้ากัน
3. ตักใส่ถ้วยคัพเค้กหรือถาดอบมัฟฟิน ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ โรยช็อกโกแลตชิพ แล้วอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก ยกออกจากเตา พักไว้พออุ่น ๆ จัดใส่จาน
11. อัพไซด์ดาวน์เค้กสับปะรด
ส่วนผสมเค้กชิฟฟ่อน (ใช้พิมพ์ขันข้าวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร ได้ขนมจำนวน 8 ถ้วย)
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
- นมข้นจืด หรือน้ำ 80 กรัม
- น้ำมันพืช 50 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
- น้ำตาลทราย 160 กรัม
- น้ำ 50 กรัม
- น้ำร้อนจัด 1 ช้อนชา
- ส่วนผสม สำหรับแต่ง
- สับปะรดกระป๋อง 1 กระป๋อง
- เชอร์รีเชื่อม 8 ลูก
วิธีทำอัพไซด์ดาวน์เค้กสับปะรด
2. ทำส่วนผสมไข่แดงโดยตีไข่แดงกับน้ำตาลจนน้ำตาลทรายละลาย พอเข้ากันแล้วใส่นม น้ำมันพืช และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีจนเข้ากันดี ใส่แป้งที่ร่อนพร้อมผงฟู และเกลือป่น (ร่อนสัก 2 รอบ เพื่อความนุ่มฟู) ตะล่อมจนเข้ากัน
3. ทำส่วนผสมไข่ขาวโดยตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ตีพอเข้ากัน ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอด ตักไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามไข่แดงที่ผสมไว้ ตะล่อมเบาจนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน
4. พอคาราเมลเซตตัวแข็งแล้ว นำสับปะรดวางลงไป ตามด้วยเชอรี่เชื่อม บีบเค้กลงไปในพิมพ์ประมาณ 3/4 ถ้วย เคาะไล่ฟองอากาศ นำไปอบที่อุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม เป็นเวลาประมาณ 35-40 นาที
5. พออบเสร็จ นำน้ำร้อนเทลงไปในถาด พักไว้ 5-10 นาที ก่อนนำเค้กออกจากพิมพ์ นำเค้กออกจากพิมพ์
12. เค้กแยม
บอกเลยเค้กมินิสูตรนี้ง่ายมาก มือใหม่ก็ทำได้กับเค้กแยม สูตรจาก นิตยสาร @Kitchen สูตรไมโครเวฟ จับทุกอย่างผสมให้เข้ากัน ตักแยมลงไปตรงกลางแล้วเทใส่พิมพ์เอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม เค้กแยม
- เนยละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 6 ช้อนโต๊ะ
- เนยละลาย
- น้ำตาลทราย
- แยมตามชอบ
วิธีทำเค้กแยม
1. ผสมเนยละลาย ไข่ไก่ นมสด น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลาเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
2. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปผสมกับส่วนผสมเนย คนให้เข้ากัน
3. ทาพิมพ์ด้วยเนยละลาย แล้วโรยน้ำตาลทรายให้ทั่ว
4. ตักส่วนผสมแป้งใส่ลงไป 2/3 ของถ้วย แล้วตักแยมใส่ลงไปตรงกลาง 1-2 ช้อนชา แล้วนำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที ถ้ายังไม่สุกให้ใส่ต่อไปครั้งละ 30 วินาที
13. เค้กแอปเปิลคาราเมล
ส่วนผสม ซอสคาราเมล
- น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1-2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม เค้กแอปเปิล
- แอปเปิลสีเขียว 2 ลูก
- เนยสดสำหรับผัด
- น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
- ผงอบเชย หรือผงซินนามอน
- ขิงผง
- เนยเค็ม 65 กรัม (ตั้งทิ้งไว้จนนิ่ม)
- น้ำตาลทรายแดง 1/3 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/4 ถ้วย
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เนยสด สำหรับทากระดาษฟอยล์
- น้ำร้อนสำหรับนึ่ง
อุปกรณ์
- พิมพ์เค้ก
- กระดาษฟอยล์
- หม้อขนาดใหญ่
วิธีทำเค้กแอปเปิลคาราเมล
2. นำแอปเปิลมาหั่นเต๋า นำไปผัดกับเนยและน้ำตาลทราย ใส่ผงซินนามอนและขิงผงลงไปผสมให้หอม ตักขึ้นพักไว้
3. ผสมเนยเค็มและน้ำตาลทรายแดงคนเข้าด้วยกันจนน้ำตาลละลาย ใส่ไข่ไก่ลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง เตรียมไว้
4. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์และผงฟูเข้าด้วยกัน แล้วเทลงไปผสมกับส่วนผสมเนย คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
5. ตักแอปเปิลผัดใส่ลงในพิมพ์ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยส่วนผสมแป้งให้เต็ม เอากระดาษฟอยล์ทาเนยมาหุ้มด้านบนให้มิด
6. เทน้ำร้อนใส่หม้อขนาดใหญ่กะปริมาณน้ำให้สูงไม่เกินครึ่งพิมพ์ขนม วางพิมพ์ขนมลงไปโดยเว้นระยะไม่ให้ติดกัน ปิดฝาหม้อตั้งไฟปานกลางใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีหรือจนขนมสุก เคาะขนมออกจากพิมพ์ทันที
14. เค้กไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา
ส่วนผสม ไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา
- แป้งเค้ก 30 กรัม
- ไวท์ช็อกโกแลต (หั่นชิ้นเล็ก) 60 กรัม
- สีผสมอาหารสีขาวชนิดผง 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
- เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม
- แยมสตรอว์เบอร์รี 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลไอซิ่ง (สำหรับโรย)
- สตรอว์เบอร์รีสด (สำหรับแต่ง)
วิธีทำไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รีลาวา
2. ใส่ไวท์ช็อกโกแลตกับเนยสดลงในอ่างผสม ยกขึ้นตุ๋นบนน้ำร้อน คนจนละลาย ยกลงพักไว้ให้เย็น ใส่สีผสมอาหารสีขาวลงไป คนให้เข้ากันดี
3. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายด้วยตะกร้อมือพอเข้ากัน ใส่ไวท์ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนให้เข้ากัน
4. ใส่แป้งเค้กที่ร่อนแล้ว คนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน ตักใส่พิมพ์อะลูมิเนียมที่ทาเนยสด โรยน้ำตาลทรายประมาณ 3/4 ของพิมพ์ ใส่แยมสตรอว์เบอร์รีลงไปตรงกลาง กดให้จมลงในเนื้อเค้ก
5. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 12-15 นาที
6. นำออกจากเตาอบ คว่ำออกจากพิมพ์ โรยน้ำตาลไอซิ่ง แต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด
15. เค้กโรลมะม่วง
ส่วนผสม เค้กโรลวานิลลา (สำหรับพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 28x28 เซนติเมตร)
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 65 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- เกลือ 1 หยิบนิ้ว
- แป้งเค้ก 65 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 15 กรัม
- มะม่วงสุก
- ผลไม้แต่งตามชอบ
ส่วนผสม ไซรัป (สำหรับพรมเค้ก)
- น้ำต้มสุก 15 กรัม (เย็นแล้ว)
- น้ำตาลทราย 10 กรัม
- เหล้ามาลิบู (Malibu) 1 ช้อนชา (อยากให้มีรสเหล้าที่แรงขึ้นก็เพิ่มปริมาณ)
ส่วนผสม ครีมสด
- วิปปิ้งครีม 250 กรัม
- น้ำตาลทราย 25 กรัม
วิธีทำเค้กโรลมะม่วง
1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง และแยกไข่แดงกับไข่ขาวให้เรียบร้อย
2. เริ่มตีไข่ขาวให้มีฟองหยาบ ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อย ตีจนตั้งยอดกลาง ไม่อ่อนไปและไม่แข็งจนเกินไป ใส่ไข่แดงทั้งหมดลงไป แล้วตีด้วยสปีดต่ำให้พอเข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลลาและเกลือลงไป ร่อนแป้งกับผงฟูใส่ลงไปแล้วผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ตักส่วนผสมที่ได้ออกมาสัก 2-3 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในถ้วยน้ำมันพืช คนผสมให้เข้ากันดี เทส่วนผสมที่ผสมเข้ากับน้ำมันดีแล้วกลับลงไปในโถผสมใบใหญ่ ใช้ไม้พายตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากันดีอีกครั้ง
3. เทลงใส่ถาดที่เตรียมไว้ รองกระดาษรองอบให้เรียบร้อย ปาดให้เรียบเสมอกัน
4. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส ประมาณ 12 นาที เมื่อขนมสุกแล้วพักให้อุ่น ๆ แล้วแกะคลี่มุมขอบกระดาษออก แล้วม้วนไปทั้งกระดาษ พักไว้จนเย็นค่อยคลี่ขนมออก ใช้กระดาษรองอบอีกแผ่นประกบที่ด้านบนของขนม พลิกขนมแล้วลอกกระดาษรองอบอีกฝั่งออกมา เพราะต้องการให้ด้านที่ไม่มีผิวขนมอยู่ด้านบน แล้วจะปาดครีมด้านที่มีผิวขนม
5. ทำส่วนผสมไซรัปโดยผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ใช้ช้อนคนให้น้ำตาลละลายเข้ากันดี เสร็จแล้วใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อมแล้วทาให้ชุ่มทั่วเค้กทั้งแผ่น
6. ทำส่วนผสมครีมสดโดยตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายจนตั้งยอด รอบนี้แก้มไม่ได้ใส่กลิ่นวานิลลา อยากได้รสและกลิ่นแบบนม ๆ ไปเลย แบ่งครีมออกมา 170 กรัม สำหรับปาดโรลเค้ก และอีก 80 กรัมที่เหลือเตรียมใส่ถุงบีบไว้ สำหรับบีบครีมตกแต่งด้านบนเค้ก
7. หั่นมะม่วงสุกวางลงไปตามชอบ ม้วนเค้กตามอัธยาศัย นำไปแช่เย็นให้เค้กเซตตัวสัก 1 ชั่วโมงค่อยตัด บีบครีมด้านบนและตกแต่งด้วยผลไม้ตามชอบ
แนะนำเมนูเค้กอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ใครอยากทำเมนูไหนคลิกเลยจ้า
◆ เค้กมอคค่า สูตรเค้กหอมละมุนพร้อมวิธีทำบัตเตอร์ครีมกาแฟ
◆ เค้กส้มโยเกิร์ต อร่อยฉ่ำทำง่ายกินแล้วยิ่งฟิน
◆ 9 สูตรเค้กช็อกโกแลตง่าย ๆ อร่อยเข้มหวานนุ่มเหมาะกับมือใหม่